...นิ่งๆ หน่อยนะน้องนะ...
--------------------------------------------------------
ลิเวอร์พูลเล่น 4-3-3 (ตามตำแหน่งยืน)
------------------------อัสปาส------------------------
คูตินโย่-----------------------------------------ดาวนิ่ง
-------อัลเลน---------เจอราร์ด----------ลูคัส--------
เอนริเก้--------วิสดอม--------ตูเร่่-----------จอห์นสัน
-----------------------มินโยเล่------------------------
_______
ลิเวอร์พูลลงเล่นเกมอุ่นเครื่องนัดสุดท้ายกับกลาสโกว์
เซลติคก่อนฤดูกาลจะเริ่มต้นขึ้น ร็อดเจอร์จัดชุดใหญ่ลงสนาม
มีเพียงวิสดอมคนเดียวที่หลุดรอดมาลงตัวจริงยืนคู่กับตูเร่
-------------------------------------------------------
_______
เริ่มเกมมาทั้งสองฝ่ายก็สู้กันกลางสนามอย่างดุเดือด
เข้าบีบบอลเร็วจนผ่านบอลหนีกันไม่ทัน เกมไม่ค่อยคืนหน้าไปไหนทั้งคู่
บอลเด้งไปเด้งมาอยู่แค่แถวๆ วงกลมกลางสนาม
ทางฝั่งลิเวอร์พูลได้บอลมากกว่าเล็กน้อยแต่เกมก็ไม่ได้เปรียบอะไร
ตัวริมเส้น(ตามตำแหน่งยืน)
ทั้งสองฝั่งอย่างคูตินโย่กับดาวนิ่งขยับมาเล่นตรงกลางแทบจะตลอดเวลาในเกมรุก
_______
ลิเวอร์พูลมาพลาดก่อนในนาที 12
จากจังหวะที่วิสดอมเข้าบอลผิดจังหวะโดนกองหน้าเซลติคแตะหลบหลุดเข้าไปยิงใน
เขตโทษ
มินโยเล่ทำได้ดีที่สุดแค่บล็อคโดนบอลแต่บอลยังแรงพอที่จะกระดอนเข้าประตูไป
เป็น 1-0 หลังจากเสียประตู ลิเวอร์พูลเร่งเกมรุกมากขึ้น และทำได้ดีกว่าช่วงก่อนเสียประตู
_______
เกมรุกของลิเวอร์พูลส่วนใหญ่กระจุกอยู่ตรงหน้าเขตโทษ เกมริมเส้นมีน้อยมากๆ
เพราะริมเส้นสองคนหุบเข้าไปอยู่หลายจังหวะ แผงหลัีงยังยืนไม่สูงนัก
แต่บอลทะลุช่องยังทำงานได้ดีพอสมควร
หาโอกาสได้ลุ้นยิงและจ่ายเข้าทำเป็นระยะๆ แต่ยังจบสกอร์ได้ไม่เด็ดขาด
รวมไปถึงแผงหลังและผู้รักษาประตูของเซลติคก็ไม่ได้พลาดให้เลย
สุดท้ายจบครึ่งแรกยังตามอยู่ 1-0
_______
เข้าครึ่งหลัง สเตอริดจ์ได้ลงแทนอัสปาส ลิเวอร์พูลดันแผงหลังสูงขึ้น
ดันแบ็คเติมเกมเต็มที่ทั้งสองฝั่ง ส่วนเซลติคก็หาช่องโต้ได้พอสมควร
ทำให้เกมต้นครึ่งหลังเปิดแลกกันและเป็นลิเวอร์พูลที่ดูดีกว่าเล็กน้อย นาที
55 เจอราร์ดเปิดฟรีคิกให้ตูเร่โฉบโหม่งเข้าไปได้แต่โดนจับล้ำหน้าไปเสียก่อน
_______
นาที 58 เฮนเดอร์สันได้ลงแทนอัลเลน
คูตินโย่ขยับเข้ามาเล่นตรงกลางแบบเต็มตัว
ปล่อยให้เฮนเดอร์สันรับหน้าที่ทางซ้ายไป
ลิเวอร์พูลบุกกดดันได้อย่างต่อเนื่อง และได้ลุ้นประตูอยู่เป็นระยะ
เซลติคโดนกดดันให้ต้องถอยไปอยู่ในแดนตัวเองมากขึ้นและตั้งเกมได้น้อยลงๆ
แต่การคุมพื้นที่สุดท้ายยังทำได้ยอดเยี่ยม
ทำให้ลิเวอร์พูลยังทำได้แค่ลุ้นต่อไป
_______ นาที
72 ไอบ์ได้ลงแทนดาวนิ่ง เกมริมเส้นฝั่งขวาดูวูบวาบมากขึ้น
แต่ยังไม่ดีพอจะเป็นประตู เวลาที่เหลืออยู่ลิเวอร์พูลยังเพียรจะบุกต่อไป
แต่เวลายิ่งเหลือน้อย จังหวะเข้าทำก็ดูลนลานมากขึ้นด้วย
หลายครั้งเร่งเกินไปและฝืนเกินไป
ประกอบกับทางเซลติคแม้จะทยอยเปลี่ยนตัวเรื่อยๆ แต่คุณภาพเกมรับไม่ได้ลดลง
โดยเฉพาะการคุมพื้นที่ทำได้เนี้ยบมาก ไม่มีหลงตำแหน่ง
และแทบไม่มีจังหวะที่ผู้เล่นลิเวอร์พูลได้ยิงโดยไม่ถูกเร่งหรือบังทางบอล
สุดท้ายลิเวอร์พูลเลยพลาดท่าพ่ายเป็นนัดแรกของช่วงพรีซีซั่นในนัดสุดท้าย
ก่อนเปิดฤดูกาลนี่เอง
-----------------------------------------
_______
นัดนี้เป็นนัดสุดท้ายของพรีซีซั่นแล้ว
แม้หลายนัดที่ผ่านมาร็อดเจอร์ดูจะเน้นผลเอามากๆ อยู่แล้ว
แต่นัดนี้ยิ่งเน้นหนักเข้าไปอีก การเข้าปะทะ การวิ่งไล่เพรซซิ่ง การเร่งเกม
หรือแม้กระทั่งการปรับแทคติคและเปลี่ยนตัวสำรอง
ดูไม่ต่างไปจากเกมอย่างเป็นทางการเลย
อันที่จริงดูจริงจังกว่าเกมเป็นทางการบางนัดในช่วงท้ายฤดูก่อนด้วยซ้ำ
_______
2-3 นัดที่ผ่านมา รวมถึงนัดนี้ด้วย
ร็อดเจอร์เหมือนต้องการให้ทีมปรับวิธีการเล่นเกมรุก
โดยให้ตัวริมเส้นหุบเข้ามาเล่นตรงกลางมากขึ้น
เน้นการเจาะด้วยบอลชิ่งและบอลตามช่องตรงกลางเต็มที่
ผลที่ออกมาดูแล้วทำให้ตัวรุกอัดแน่นกันเป็นหงส์กระป๋องอยู่แถวๆ หน้าเขตโทษ
แม้แต่ตัวที่วิ่งทำทางไปด้านข้างยังยืนอยู่แค่แถวๆ มุมเขตโทษเท่านั้น
แต่ในเมื่อในทีมมีตัวที่จ่ายบอลทะลุดีๆ
แบบคูตินโย่(รวมอัลแบร์โต้ด้วยก็ได้) มีตัววิ่งทำทางดีๆ อยู่เป็นกะบิ
รวมไปถึงคนที่ชอบเล่นบอลชิ่งเป็นชีวิตจิตใจอย่างอัลเลนและเจอราร์ด
จะเลือกเล่นแบบนี้ก็อาจจะมองได้ว่าเหมาะกับตัวที่มีอยู่แล้วก็ได้
อย่าว่าแต่ถ้าทีมต้องการเกมริมเส้นเมื่อไหร่
ดาวรุ่งรอโอกาสอย่างสเตอริ่งกับไอบ์(ไม่ถนัดมือเลยจริงๆ เรียกแบบนี้เนี่ย)
ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าพอจะทำอะไรได้บ้างในหลายๆ เกม
_______ ... เพียงแต่ว่า...
_______
ความนิ่งในพื้นที่สุดท้ายยังคงเป็นปัญหาอยู่
ซึ่งเป็นปัญหาที่เห็นกันมาตลอดช่วงฤดูกาลที่แล้ว นัดไหนที่ยิงได้ก่อน
หรืออย่างน้อยยังยันอยู่ที่ 0-0 ไม่มีปัญหา
แต่เมื่อไหร่ที่โดนบีบด้วยสกอร์ตามหลัง หรือเวลาใกล้หมด
ผู้เล่นหลายคนเล่นแบบลนลานในพื้นที่สุดท้าย
ทำให้โอกาสที่สร้างมาได้หลุดลอยไปบ่อยครั้ง
เรื่องแบบนี้คงต้องหวังพึ่งเวลาที่จะช่วยเพิ่มพูนประสบการณ์ให้
เพียงไม่รู้ว่าจะมาถึงเมื่อไหร่เท่านั้นเอง
_______
ปัญหาอีกอย่างที่จะว่าไปอาจไม่ใช่ปัญหาใหญ่นัก นั่นคือสภาพความฟิต
คงไม่ใช่เรื่องจะพูดว่าเป็นช่วงพรีซีซั่นเลยยังไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์
เพราะอาทิตย์หน้าก็เปิดฤดูแล้ว
แต่ปัญหาเรื่องนี้น่าจะอยู่ที่แทคติคการเล่นมากกว่า
การไล่เพรซซิ่งเร็วตั้งแต่แดนคู่ต่อสู้เป็นเวลานานให้อึดแค่ไหนก็หมดได้
อย่าว่าแต่ในจังหวะรุก
ลิเวอร์พูลยังใช้ตัวผู้เล่นค่อนข้างมากตามวิธีการเข้าทำที่เน้นบอลชิ่งกับ
บอลทะลุช่อง เวลาโดนตัดบอลได้ทีเลยต้องวิ่งสปีดกลับมาเล่นเกมรับอีก
พอถึงช่วงท้ายๆ เกมเริ่มเห็นผู้เล่นหลายคนหมดแรงกันให้เห็น
พอไปบวกกับสถานการณ์ที่บีบให้ต้องเร่งเกมเลยยิ่งไปกันใหญ่
_______ ...ฤดูนี้อย่าได้โดนขึ้นนำเป็นดีที่สุดครับ แค่ลูกเดียวก็ไม่ได้
ผู้เล่นชุดนี้สภาพจิตใจดูยังไม่แข็งแกร่งนัก ตอนขึ้นนำเล่นแบบทีมลุ้นแชมป์
พอโดนนำกลายเป็นทีมลุ้นไปเล่นบอลยุโรป(แบบเสียวว่าจะไม่ได้ไป)มันซะงั้น...
-------------------------------
นัดนี้เล่นกันได้ค่อนข้างดี
มินโยเล่ - ยืนตำแหน่งดี ทำได้ดีมากกับการตัดบอลโด่งและบอลเปิดเข้ากลาง
ลูกที่เสียไปทำได้ถึงขั้นบล็อคบอลได้ก็เยี่ยมแล้ว ส่วนเรื่องการเปิดบอล
เลือกให้ตัวว่างได้ดีทีเดียว
จอห์นสัน -
เกมรับทำได้น่าพอใจ เชื่อมเกมได้ดี
เกมรุกเจาะแนวรับได้มากกว่าตัวริมเส้นคนอื่น
(ไม่นับคูตินโย่ที่ไม่ได้เล่นริมเส้นเท่าไหร่) จังหวะสุดท้ายทำได้ไม่ดีเลย
แต่เอาแค่เรื่องสร้างโอกาสได้บ่อยและจะแจ้งขนาดนี้ถือว่าใช้ได้แล้ว
วิสดอม - แรงปะทะกับการเข้าสกัดไม่ใช่ปัญหา
แต่การอ่านเกมนี่ดูจะต้องพัฒนาอีกมาก
เข้าบอลผิดจังหวะและหลงเหลี่ยมคู่ต่อสู้อยู่เป็นระยะๆ
ตูเร่ - เล่นได้ดีมาก การอ่านเกมและเข้าสกัดทำได้เด็ดขาด แม้แต่เรื่องที่น่าจะเป็นปัญหาอย่างการกลับตัวและสปีดต้นก็ทำได้น่าพอใจเลยทีเดียว ที่เดากันว่าจะมาเป็นแบ็คอัพ ไปๆ มาๆ จะมากลายเป็นตัวหลักแทนเสียมากกว่า
เอนริเก้ -
เกมรับทำได้พอใช้ มีบางจังหวะที่ไม่ได้เติมขึ้นสูงเ่ท่าไหร่แต่ดันลงมาช่วยวิสดอมไม่ทันซะอย่างนั้น การเชื่อมเกมทำได้ดีระดับนึง ส่วนเกมรุกไม่ได้สร้างประโยชน์อันใดเลยในเกมนี้ แม้แต่สร้างโอกาสก็แทบไม่มีให้เห็น
เจอราร์ด -
เคลื่อนที่น้อยไปหน่อย หลายครั้งเติมขึ้นไม่ทันลงไม่ทัน
และจังหวะบังบอลก็ดูจะหละหลวมไปสักนิด
การผ่านบอลไปที่ว่างและการเชื่อมเกมจากหลังไปหน้ายังทำได้ดีอยู่
ลูคัส -
เข้าถึงบอลช้าไปในบางจังหวะ แต่โดยรวมก็ยังตัดเกมได้ดี ผ่านบอลช้าไปนิด
บางทีเปิดแถมเฝือกให้เพื่อนอีกต่างหาก
ที่ทำได้น่าพอใจอีกอย่างคือการเก็บบอลและวิ่งไปรับบอลจากแนวรับที่โดนเร่ง
อัลเลน - เคลื่อนที่เยอะ
ยังคงทำได้ดีกับการอ่านเกมที่ช่วยให้เขาเล่นได้ดีทั้งเกมรุก(โดยเฉพาะครึ่ง
ชั่วโมงแรกที่เล่นดีเอามากๆ)และการดักตัดบอลในเกมรับ
ในขณะเดียวกันการเบียดปะทะก็ยังสร้างปัญหาให้เจ้าตัวต่อไป
คูตินโย่ - การออกบอลทะลุช่องขั้นเทพยังไม่ได้หายไปไหน จะสั้นแค่ไม่กี่หลาหรือห่างเกือบครึ่งสนามทำได้ทั้งนั้น
ขนาดเสียหลักจะล้มยังอุตส่าห์จ่ายให้เพื่อนหลุดได้
(ขนาดเพื่อนยังไม่คิดว่าจะจ่ายได้เลยไม่ได้วิ่งนำไป)
จบสกอร์ไม่ดีเท่าไหร่ในนัดนี้ รวมไปถึงเล่นฝืนไปหลายจังหวะ
แต่ผลงานโดยรวมถือว่าดีแบบไม่ต้องคิดมาก
อัสปาส -
ยังคงตั้งหน้าตั้งตาวิ่งทำทางตลอดเวลา ดูไปดูมาเริ่มเห็นเงาเดิร์ค
เค้าท์ลางๆ ยังไงชอบกล (แต่ไล่บอลในเกมรับยังไม่คลั่งเท่าเค้าท์)
แต่นัดนี้หาโอกาสและสร้างโอกาสได้ไม่มากนัก
ดาวนิ่ง -
หาตำแหน่งว่างรับบอลได้ดีมาก เอาเป็นว่าแดนกลางพลิกบอลได้เมื่อไหร่
เงยหน้าต้องเห็นดาวนิ่งว่าง เชื่อมเกมได้ดี แต่ปัญหาคือทำเกมรุกไม่ได้
เจาะไม่เข้า บอลเปิดดีๆ ก็มีน้อย มีเลี้ยงตัดเข้ากลางแล้วยิงได้สวยๆ
หนนึงก็โดนเซฟ
ตัวสำรอง
สเตอริดจ์ - ดีกว่าอัสปาสในเรื่องการพาบอลไปกับตัว เลี้ยงจี้กดดันคู่ต่อสู้ได้
ประสานงานกับคูตินโย่ได้เยี่ยมมาก แต่กับคนอื่นหนักไปทางประสานงา จบสกอร์ไม่ดีนัก ได้ลุ้นแต่ไม่ได้ประตู เล่นได้พอใช้ไม่ถึงกับดี แต่ถ้านี่คือฟอร์มของคนที่พึ่งหายเจ็บกลับมา ก็ลุ้นกับเขาได้ยาวๆ ในฤดูกาลนี้ล่ะ
เฮนเดอร์สัน - ถ้าจะเอาดีทางริมเส้นคงต้องปรับอีกเยอะ
วิ่งไปในตำแหน่งว่างทางริมเขตโทษอยู่ตลอดก็จริงแต่มันเป็นไปแทบไม่ได้เลยที่
เพื่อนจะจ่ายบอลมาให้ได้เพราะคนได้บอลโดนล้อมกรอบอยู่ การเปิดเข้ากลางก็ทำได้ไม่ดีนัก ที่ยังดูดีอยู่ก็คงเป็นเรื่องความขยันวิ่งไล่บอลและคุมพื้นที่ได้ดี ทำบอลเสียน้อย
ไอบ์ - ทำเกมด้วยการพาบอลไปกับตัวได้ดีกว่าดาวนิ่ง (แหงล่ะ)
จังหวะสุดท้ายกดดันคู่ต่อสู้ได้แต่ก็ไม่ดีพอจะเป็นประตูหรือสร้างโอกาสในการ
ทำประตู
แมน ออฟ เดอะ แมทช์ : ...ฟิลิปเป้
คูตินโย่... เจอจังหวะสะดุดแทบล้มหัวคะมำแต่จ่ายทะลุให้อัสปาสได้
กับจังหวะจ่ายครึ่งสนามทีเดียวให้สเตอริดจ์ได้ชิพหลุดกรอบก็ไม่ต้องคิดแล้ว
ครับ
------------------------------------------------------------
Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น