วันอาทิตย์ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2556

โอลด์แดม 3 - 2 ลิเวอร์พูล (เอฟเอ คัพ)


หมดแล้วบอลถ้วย
--------------------------------------------------------

ลิเวอร์พูลเล่น 4-2-3-1

----------------------สเตอริดจ์----------------------
บอรินี่-----------------ซัวเรส----------------สเตอริ่ง
----------เฮนเดอร์สัน----------อัลเลน--------------
โรบินสัน-----โคอาเตส------สเคอเทล-------วิสดอม
-----------------------โจนส์-------------------------

               ลิเวอร์พูลเล่นเอฟอัพคัพนอกบ้าน ไปเยือนทีมท้ายตารางลีควันอย่างโอลด์แดม ร็อดเจอร์ใช้ชุดสำรองแต่ก็มีตัวจริงลงมาเยอะกว่าที่ผ่านมาพอสมควร แผงหลังมีสเคอเทลลงตัวจริง แดนกลางเลือกเฮนเดอร์สันกับอัลเลนยืนคู่กัน ริมเส้นส่งบอรินี่ลงตัวจริงพร้อมกันสเตอริ่ง ซัวเรสเป็นหน้าต่ำ สเตอริดจ์เป็นหน้าเป้า
-------------------------------------------------------

               เปิดเกมกระพริบตาได้ไม่กี่ครั้ง นาที 2 โอลด์แดมก็ได้ประตูนำก่อนจากจังหวะที่แนวรับลิเวอร์พูลสกัดบอลโด่งไม่ขาดโดน โอลด์แดมซ้ำ สเคอเทลพยายามจะโหม่งงัดจากเส้นแต่ไม่สำเร็จ 1-0 หลังจากนั้นก็เป็นโอลด์แดมที่ทำได้ดีกว่า วิ่งไล่อัดใช้เกมหนักและเร็วเข้าสู้เต็มที่ ลิเวอร์พูลอย่าว่าแต่จะทำเกมรุก แค่ครองบอลยังไม่ได้ ตกเป็นฝ่ายรับอย่างเดียว

               ลิเวอร์พูลที่เกมเป็นรองเยอะมาได้ประตูตีเสมอแบบโชคดีนิดๆ นาที 17 จากจังหวะที่ซัวเรสได้บอลลากยาวมาตั้งแต่แดนตัวเอง เลี้ยงชลอรอเพื่อนไปเรื่อยๆ จนถึงหน้าเขตโทษ บอรินี่วิ่งดึงกองหลังไปให้ซัวเรสได้ตัดเข้ากลาง พยายามจะจ่ายให้สเตอริดจ์ บอลติดกองหลังแต่เด้งกลับมาเข้าทางซัวเรสได้ยิง 1-1

               เกมกลับมาเสมอ แต่โอลด์แดมก็ยังเล่นอยู่ในเกมของตัวเองได้ดี แม้ลิเวอร์พูลจะไม่ถึงกับหลังพิงฝาเหมือนต้นเกมแต่ก็ไม่ได้เปรียบ ผ่านครึ่งชั่วโมงของเกมไป โอลด์แดมเริ่มเล่นช้าลงบ้างทำให้ลิเวอร์พูลถูกกดดันน้อยลงแต่ยังตั้งเกมรุก กดดันได้ไม่มากนัก ช่วงทดเจ็บนาทีสุดท้ายของครึ่งแรกยังมาพลาดซ้ำอีก เมื่อโอลด์แดมได้ครอสบอลเรียดเข้ากลาง โจนส์รับเข้าซองแต่บอลกระฉอก และเป็นนักเตะโอลด์แดมที่ถึงบอลก่อน จ่ายให้เพื่อนยิงเข้าไปได้ 2-1

               เข้าครึ่งหลัง ลิเวอร์พูลมีโอกาสได้ลุ้นก่อนจากโอกาสของบอรินี่แต่ยิงข้ามคาน นอกจากไม่ได้แล้วยังมาเสียอีก นาที 48 ลิเวอร์พูลพลาดจากลูกโด่งอีกครั้ง โอลด์แดมครอสจากฝั่งขวาข้ามไปเสาสองก่อนจะโหม่งย้อยข้ามหัวโจนส์เข้าไปได้ 3-1 ถึงตรงนี้ร็อดเจอร์รอไม่ได้แล้ว หลังจากให้มาวอร์มได้สักพัก นาที 55 เจอราร์ดกับดาวนิ่งก็ได้ลงมาแทนบอรินี่กับวิสดอม ใช้เจอราร์ดทำเกมตรงกลาง ถอยเฮนเดอร์สันไปเล่นแบ็คขวาร่วมกับดาวนิ่งที่ลงมาเล่นปีกขวา โยกสเตอริ่งไปทางซ้าย

               หลังจากเปลี่ยนตัว เกมของลิเวอร์พูลดีขึ้นทันตาเห็น การขึ้นบอลจากหลังไปหน้าเน้นขึ้นทางฝั่งขวาซึ่งทำได้ดีขึ้นกว่าช่วงก่อนหน้า รวมไปถึงเจอราร์ดที่ช่วยเปิดเกมได้ดีทำให้มีโอกาสลุ้นมากขึ้น แต่จนแล้วจนรอดก็ยังทำประตูไล่ตามไม่สำเร็จ นาที 72 เชลวี่ย์ได้ลงมาแทนสเตอริ่งอีกคน ถึงตรงนี้ลิเวอร์พูลเปลี่ยนมาเล่น 4-4-2 เต็มตัว(จากก่อนหน้าที่ซัวเรสก็ดันขึ้นหาช่องข้างบนเป็นระยะอยู่แล้ว) โหมเกมรุกเต็มที่และดันกันขึ้นมาหมด กดดันโอลด์แดมจนเริ่มผิดพลาดให้เห็นเป็นระยะ

               ลิเวอร์พูลไล่ตามมาได้สำเร็จในนาที 79 จากลูกเตะมุมแล้วบอลสกัดไม่ขาด อัลเลนได้หวดวอลเล่ย์สวนกลับเข้าไปแฉลบกองหลังเข้าประตูไปเป็น 3-2 หลังจากนั้นลิเวอร์พูลก็ยังได้ลุ้นอีกอย่างต่อเนื่องแต่กว่าจะได้ยิงแต่ละ ลูกก็ยากมาก ลูกที่ได้ยิงก็ติดบล็อคกองหลังเป็นส่วนใหญ่ ช่วง 10 นาทีสุดท้ายของเกม ต่อด้วยทดเจ็บอีก 6 นาที ลิเวอร์พูลยังเดินหน้าบุกต่อไป แต่โอลด์แดมยังมีแรงวิ่งไล่กันตั้งแต่แดนหน้าทำให้ลิเวอร์พูลขึ้นบอลได้ อย่างยากลำบาก และนักเตะโอลด์แดมทุกคนวิ่งกันแบบลืมตาย เข้าถึงบอลได้เร็วและบีบจนทำให้บอลไปถึงเขตโทษของพวกเขาช้ามาก หลายครั้งก็ไม่ถึงด้วย ลิเวอร์พูลยังทำเกมรุกได้ดีเมื่อยังคงสามารถหาจังหวะยิงกันจนได้(บ้าง)แต่ก็ ไม่ดีพอจะเป็นประตู สุดท้ายจบเกมเลยตกรอบไปด้วยสกอร์ 3-2
 -----------------------------------------

               ถ้านับกันที่ ใจ ลิเวอร์พูลก็เล่นได้ไม่เลวครับ แต่สังขารมันไม่ค่อยเอื้อเท่าไหร่ ตัวเล็กไม่ต้องนับ แต่ผู้เล่นตัวใหญ่ของลิเวอร์พูลเองก็เล่นเกมที่ต้องปะทะหนักๆ แบบนี้ไม่ค่อยได้อีกต่างหาก

               จาก 11 ตัวจริง ร็อดเจอร์ดูจะระวังมากขึ้นเลยส่งตัวหลักลงอยู่หลายตำแหน่ง แต่ที่ยังเหมือนเดิม(จากบอลถ้วยนัดก่อนๆ) คือยังคงส่งเด็กลงไปตายเหมือนเดิม ทั้งๆ ที่น่าจะรู้ว่าโอลด์แดมจะเล่นยังไงเพราะแมนฟิลด์ก็ทำให้เห็นแล้วว่าควรเล่น กับลิเวอร์พูลยังไง ร็อดเจอร์กลับลอยแพแบ็คดาวรุ่ง 2 คนเหมือนเดิม ตัวริมเส้น 2 ฝั่งไม่ใช่คนที่เล่นเกมรับได้ดีนัก และแผงกลางก็ไม่มีกลางรับแท้ๆ เลยสักคน 11 ตัวจริงวันนี้คนที่เล่นเกมรับได้, มีแรงปะทะ, มีประสบการณ์ มีแค่สเคอเทลคนเดียวเท่านั้น สุดท้ายก็เลยโดนโอลด์แดมทุบเอาด้วยพละกำลังล้วนๆ ม้วนเสื่อกลับบ้านไปในที่สุด

               สิ่งที่ตัดสินเกมในวันนี้ แน่นอนว่าเป็นการเล่นแบบใช้พละกำลังของโอลด์แดม ดูทางฝั่งโอลด์แดมก่อน พวกเขามีผู้เล่นตัวใหญ่อยู่หลายคน ที่พร้อมจะเล่นเกมหนักและวิ่งใส่อยู่ตลอดเวลา ทุกคนช่วยกันวิ่งไล่ได้ดีและวิ่งได้ทั้งเกม จังหวะ 50/50 พร้อมจะอัด ปะทะ กระแทก เบียด เสียบ โขก ศอก เหนี่ยว ดึง รั้ง แล้วก็ทำได้ดีด้วยเมื่อหลายครั้งจวนเจียนจะเป็นการฟาลว์แต่มันไม่ชัดพอจะเรียกฟาลว์ได้ ทำให้หยุดเกมของลิเวอร์พูลได้ดีเอามากๆ เมื่อเบสิคสู้ไม่ได้ จะให้ไปต่อบอลสู้ก็ตายสิครับ พวกเขาก็ต้องเล่นแบบนี้นี่แหล่ะ

               ทางฝั่งลิเวอร์พูลเอง การจัดแนวรุกตัวเท่าเมี่ยง 4 คนลงสนามพร้อมกันในเกมที่ต้องเจอแผงหลังตัวเท่ากอริลล่าโด๊ปสเตอรอยด์แบบนี้ ทำให้พวกเขาทำอะไรไม่ถนัด โดนเบียดกระเด็นกระดอนไปทีละคนสองคน แทคติคการเล่นก็ไม่เอื้อด้วยเมื่อลิเวอร์พูลจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องอาศัย การขึ้นมาเชื่อมเกมของแบ็คทั้งสองฝั่งเพื่อจะหาช่องทำเกมรุกต่อไป แต่แบ็คทั้งสองข้างอ่อนประสบการณ์เกินไปช่วยเชื่อมเกมไม่ได้ ทำให้ภาระตกหนักไปอยู่กับเฮนเดอร์สันและอัลเลนเต็ม ไหนจะต้องเล่นเกมรับ ได้บอลก็โดนเร่ง จะเคาะออกข้างให้แบ็คก็ไม่ได้เพราะเอาไปทำพลาด(เกือบ)หมด ข้างหน้าก็โดนบีบโดนประกบ ส่งไปก็โดนแซะทิ้งบ่อยๆ สุดท้้ายเกมรุกก็เลยไปไม่ถึงไหน

               อย่างไรก็ตาม การแก้เกมของร็อดเจอร์ยังทำได้ดีทีเดียว เมื่อเปลี่ยนเอาวิสดอมออก ใช้เฮนเดอร์สันเป็นแบ็คแล้วเล่นฝั่งเดียวกับดาวนิ่ง ซึ่งผมมองว่ามันทำให้การขึ้นเกมจากหลังไปหน้าทำได้ดีขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีเจอราร์ดที่เอาตัวรอดจากการโดนเร่งได้ดีกว่าเฮนเดอร์ สัน,อัลเลน มาช่วยรับบอลตรงกลางด้วยทำให้เกมในช่วง นาที 60 - 70 ดีขึ้นเอามากๆ และหลังจากนั้นแม้ว่าโอลด์แดมจะแก้เกมด้วยการบีบพื้นที่ฝั่งขวาให้แคบลงและ ชลอเกมได้ แต่เกมของลิเวอร์พูลก็ยังพอบุกขึ้นไปได้ ไม่เหมือนก่อนหน้านั้นที่บุกแบบที่เรียกว่ากดดันแนวรับแทบไม่ได้เลย

               สรุปเกมนี้ถ้าจะโทษใครก็คงต้องโทษร็อดเจอร์ที่สรรหาผู้เล่นเข้าทีมมาแต่ละคน ตัวเล็กๆ บางๆ ทั้งนั้น แต่ในเมื่อร็อดเจอร์ต้องการความคล่องตัวและเน้นเกมผ่านบอลสั้นก็คงเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องเน้นผู้เล่นประเภทนี้ ก็ได้แต่หวังว่า "อนาคต" ผู้เล่นเหล่านี้จะอาศัยความเล็กความคล่องผ่านบอลหรือพลิกบอลไปได้เร็วพอที่ จะเอาชนะการโดนวิ่งไล่และอัดเอาด้วยกำลังแบบนี้

               ส่วน "ปัจจุบัน" ก็โดนกอริลล่าไล่อัดกันไปพลางๆ ก่อนแล้วกัน (โอลด์แดมจะไม่ใช่ทีมสุดท้ายที่เล่นแบบนี้ครับ)
-------------------------------

นัดนี้เล่นกันไม่ค่อยดีนัก

โจนส์ - โดนกดดันหนักจากทั้งคู่ต่อสู้และเพื่อนร่วมทีม โจนส์นั้นไม่ถนัดการเล่นบอลด้วยเท้่าอยู่แล้ว ยังโดนบอลส่งคืนหลังแบบมีกองหน้าวิ่งตามมาบีบอีกหลายครั้ง ลูกโด่งที่บอมบ์เข้ามาในเขตโทษกองหลังก็ช่วยได้ค่อนข้างน้อย สุดท้ายก็ถูกความกดดันเล่นงาน ทั้งรับพลาดซองแตก เปิดบอลเข้าเท้าคู่ต่อสู้ และยืนตำแหน่งไม่ค่อยดีนัก

โรบินสัน - ไหม้

โคอาเตส - มีปัญหากับการเบียดปะทะไม่ว่าจะแย่งโหม่งหรือบังทางบอล ต้นเกมดูสะเปสะปะมากแต่เล่นไปเรื่อยๆ ก็ค่อยๆ ดีขึ้น ช่วยลูกกลางอากาศได้บ้าง แต่โดยรวมก็ไม่ใช่วันที่ดีนัก

สเคอเทล - ลูกกลางอากาศสู้ไม่ค่อยได้แต่ก็ไม่ถึงกับแย่มากนัก บอลที่อยู่ในระยะจะทำอะไรได้ก็สกัดได้อยู่

วิสดอม - เกรียม

เฮนเดอร์สัน - เป็นแดนกลางที่เล่นเกมรับดีที่สุดในทีมในนัดนี้แล้ว วิ่งมากและเข้าได้ถึงบอลแม้จะอ่านทางบอลไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ส่วนเกมรุกจ่ายขึ้นหน้าแทบไม่ได้ ช่วงที่ถอยไปเล่นแบ็คเชื่อมเกมได้ค่อนข้างดี

อัลเลน - หยุดคู่ต่อสู้ไม่อยู่ จุดเด่นเรื่องการออกบอลวันนี้ก็งัดมาใช้ไม่ได้เมื่อออกบอลพลาดให้เห็นเยอะพอสมควรและขยับไปรองบอลได้ไม่ดีนัก

ซัวเรส - ได้บอลน้อยมากถ้าเทียบกับนัดอื่นๆ ต้องฝ่าดงสตั๊ดและโดนประกบแน่นอยู่ตลอด แต่ยังยิงได้ดีเมื่อมีโอกาสและเสียบอลน้อยกว่าแนวรุกคนอื่น

บอรินี่ - ไม่ใช่คนที่ทำเกมด้วยตัวเองได้ แต่ยังวิ่งทำทางและหาตำแหน่งได้ดี เสียดายที่จบสกอร์ไม่เด็ดขาดนัก

สเตอริ่ง - ดับ

สเตอริดจ์ - บอลที่มาถึงบ้างก็ยังพอทำได้ดีอยู่ ไม่ว่าจะแต่งบอลหาจังหวะยิงหรือหาช่องว่างในแนวรับ แต่โดยรวมก็หาช่องเล่นแทบไม่ได้ มีส่วนร่วมกับเกมน้อยไปหน่อย

ตัวสำรอง

เจอราร์ด - ลงมาช่วยทีมได้เยอะ เอาตัวรอดจากการโดนไล่ได้ดี ผ่านบอลขึ้นหน้าเปิดเกมรุกให้ทีมได้ดีกว่าทุกคน พาตัวเองไปอยู่ในตำแหน่งยิงได้ถึง 3-4 ครั้ง แต่ยิงติดบล็อคและชนคานอย่างน่าเสียดาย

ดาวนิ่ง - ทำเกมรุกให้ทีมได้เมื่อสามารถเลี้ยงจี้กดดันกองหลังได้ตลอด ไม่โดนเบียดเสียบอลง่ายๆ เหมือนสเตอริ่งหรือบอรินี่ ลูกเตะมุมและลูกเปิดเข้ากลางก็ทำได้ดีพอสมควร

เชลวี่ย์ - ไม่ได้มีส่วนกับเกมเท่าไหร่ แต่เสียบอลน้อยกว่าและเปิดบอลไปข้างหน้าได้มากกว่าคนที่โดนเปลี่ยนออก
------------------------------------------------------------

Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น