วันอาทิตย์ที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2556

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2 - 1 ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีค)


เฉือนกันที่ประสบการณ์
--------------------------------------------------------

ลิเวอร์พูลเล่น 4-2-3-1

----------------------ซัวเรส------------------------
สเตอริ่ง-------------อัลเลน-----------------ดาวนิ่ง
-------------ลูคัส-------------เจอราร์ด-------------
จอห์นสัน----แอกเกอร์-----สเคอเทล-----วิสดอม
-----------------------เรน่า--------------------------

               ลิเวอร์พูลออกไปเยือนแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดในเกมพรีเมียร์ลีคด้วยสภาพทีมที่ ค่อนข้างพร้อม ขาดตัีวหลักไปแค่ีเอนริเก้คนเดียวเท่านั้น โดยร็อดเจอร์ใช้วิสดอมในตำแหน่งแบ็คขวาแล้วโยกจอห์นสันไปซ้ายเหมือนเดิม แดนกลางเฮนเดอร์สันต้องนั่งก่อน เป็นอัลเลนที่ได้ลงตัวจริงพร้อมด้วยลูคัสและเจอราร์ด ส่วนริมเส้นยังคงเป็นสเตอริ่งและดาวนิ่งแต่วันนี้ดาวนิ่งไปเล่นทางขวา หน้าเป้าเป็นซัวเรส โดยม้านั่งสำรองมีทั้งสเตอริดจ์และบอรินี่รออยู่
-------------------------------------------------------

               เปิดเกมมาลิเวอร์พูลพยายามครองบอลเน้นความแน่นอนไม่เร่งเกมเร็ว แต่แมนฯยูไม่รอเล่นช้าด้วย ไล่บอลสูงและเล่นเร็วอยู่ตลอด โดยเน้นขึ้นเกมทางริมเส้นฝั่งซ้าย(ขวาวิสดอม)เป็นส่วนใหญ่ เกมโดยรวมเป็นแมนฯยูที่ทำได้ดีกว่า ครองบอลและบุกได้มากกว่าแต่ยังหาโอกาสจบสกอร์ไม่ได้ ส่วนลิเวอร์พูลพาบอลไปไม่ถึงเขตโทษ ได้แค่ลุ้นนิดหน่อยจากลูกฟรีคิกที่เปิดโด่งเข้าไปในเขตโทษซึ่งยังกดดันอะไร ไม่ได้

               ลิเวอร์พูลพยายามเน้นคุมพื้นที่แดนตัวเองแน่น แต่การขึ้นบอลทำได้ไม่ดีพอทำให้เสียบอลในแดนกลางในแมนฯยูค่อนข้างบ่อย และในที่สุดก็เปิดช่องในแนวรับ นาที 19 เอฟร่าเติมขึ้นไปรับบอลทางริมเส้นก่อนจะเปิดเรียดเข้ากลางให้ฟาน เพอร์ซี่เปิดหน้าเท้ายิงจังหวะแรกผ่านเรน่าเข้าไปได้เป็น 1-0 หลังเสียประตูไปลิเวอร์พูลพยายามเน้นเกมรุกโดยดันกันขึ้นมาสูงมากขึ้น ได้ครองบอลบุกมากขึ้นแต่ยังหาจังหวะเข้าทำไม่ได้ และทำให้พื้นที่แดนกลางเปิดให้แมนฯยูได้เล่นง่ายขึ้นด้วย

               เล่นไปเล่นมาแม้ลิเวอร์พูลจะบุกได้มากขึ้นแต่แทบไม่ได้ลุ้นประตู กลายเป็นแมนฯยูที่ตัดบอลแดนกลางและทำเร็วได้ลุ้นประตูอยู่ตลอด จวนเจียนจะได้ประตูอยู่ 2-3 ครั้งแต่ยังทำไม่สำเร็จ และจบครึ่งแรกที่สกอร์ 1-0

               เข้าครึ่งหลัง ร็อดเจอร์ถอดเอาลูคัสที่โดนใบเหลืองในท้ายครึ่งแรกออกส่งสเตอริดจ์ลงมาแทน โดยวางสเตอริดจ์เป็นหน้าเป้าถอยซัวเรสมาเล่นหน้าต่ำ เกมรุกของลิเวอร์พูลในจังหวะเข้าทำดูดีขึ้น ไปได้ใกล้เขตโทษมากขึ้น สวนทางกับเกมรับแดนกลางที่ดูแย่ลง ไม่สามารถหยุดเกมของแมนฯยูได้เลย จนกระทั่งนาที 54 แมนฯยูได้ฟรีคิกโยนเข้าเขตโทษลึกไปถึงเสาสอง เอฟร่าขึ้นโหม่งเข้าไปได้เป็น 2-0

               แม้จะโดนลูกที่สองไปแล้วแต่เกมรุกของลิเวอร์พูลที่เริ่มดูดีขึ้นยังไม่สะดุด และทวงคืนได้เร็วด้วย ในนาที 57 เจอราร์ดไปแซะเอาบอลได้แถวหน้าเขตโทษก่อนจะยิงไกลไปติดเซฟเด เกอาแต่บอลไม่พ้นกรอบ สเตอริดจ์วิ่งเข้าไปชาร์จได้ทันเป็น 2-1 ลิเวอร์พูลยังเดินหน้าบุกต่อไปในขณะที่แมนฯยูเริ่มตั้งเกมของตัวเองได้น้อย ลงแล้ว นาที 62 บอรินี่ได้ลงมาแทนสเตอริ่งอีกคน และถึงตรงนี้ลิเวอร์พูลเริ่มครองบอลทำเกมได้ต่อเนื่องมากขึ้น

               ผ่านนาที 70 ไปแล้วแมนฯยูที่นอกจากจะตั้งเกมของตัวเองได้น้อยลงแล้วยังเริ่มเล่นกันผิด พลาดมากขึ้น สวนทางกับลิเวอร์พูลที่ดันกันขึ้นมาเล่นเกมรุกกันเต็มที่ สามารถพาบอลไปถึงหน้าเขตโทษได้ตลอดและพอได้ลุ้นประตูบ้าง เข้า 10 นาทีสุดท้าย เฮนเดอร์สันได้ลงแทนอัลเลนมาอีกคน ทางฝั่งแมนฯยูทยอยเปลี่ยนตัวรับลงมาเพิ่มทีละคนและไม่สามารถตั้งเกมหรือโต้ เร็วได้อีก แต่ยังปิดพื้นที่ในเขตโทษกันได้ค่อนข้างดี แม้ลิเวอร์พูลจะบุกได้ต่อเนื่องแต่โอกาสจบสกอร์มีไม่มากนัก

               ลิเวอร์พูลได้ลุ้นตีเสมอที่สุดจากจังหวะที่ซัวเรสพาบอลมุดเข้าไปในเขตโทษ จังหวะคลุกคลิกหน้าประตูบอลไหลไปเข้าทางสเตอริดจ์ได้ยืนยิ่งโล่งๆ ไม่กี่หลาแต่บอลโด่งข้ามคาน ก่อนที่ช่วงทดเจ็บแมนฯยูจะสามารถครองบอลปิดเกมเอาตัวรอดไปได้ จบเกมที่สกอร์ 2-1
 -----------------------------------------

               ดูจากสกอร์ 2-1 อย่างเดียวเกมดูจะสูสี แต่ถ้าดูรูปเกมแล้วต้องบอกว่าเกมนี้ร็อดเจอร์สู้ประสบการณ์ของเซอร์อเล็ก ซ์ไม่ได้ (ซึ่งเป็นสิ่งที่ตัดสินเกมนัดนี้ด้วย) ทางฝั่งแมนฯยูนั้นฤดูนี้มีัปัญหาในแดนกลางที่โดนไล่แล้วเล่นไม่ออก รวมกับเกมรับที่มีข้อผิดพลาดเยอะ แต่เซอร์อเล็กซ์ปรับเกมมาเน้นเร็วตั้งแต่ต้น ใช้พละกำลังนักเตะวิ่งไล่เอาตั้งแต่ครึ่งแรก เป็นฝ่ายรุกใส่แทนที่จะรอเป็นฝ่ายโดยไล่ นอกจากจะปิดจุดอ่อนตัวเองได้แล้วยังเล่นงานจุดอ่อนลิเวอร์พูลได้ด้วย ในขณะเดียวกัน ร็อดเจอร์ยังคงเล่นด้วยแทคติคเดิม ไม่ได้ใส่อะไรมาช่วยแก้ปัญหาในเกมรับแดนกลางและริมเส้นที่ต้องใช้ดาวรุ่ง รวมไปถึงถึงไม่สามารถเล่นงานจุดอ่อนของแมนฯยูได้เลยด้วยเพราะไปเลือกเล่นรับต่ำและเล่นเกมช้า

               ไม่ใช่ว่าแทคติคที่เซอร์อเล็กซ์เลือกมามันจะยอดเยี่ยมไร้จุดอ่อน ในเกมครึ่งหลังก็แสดงให้เห็นแล้วว่าการเลือกที่จะวิ่งไล่เกือบเต็มสนามใน ครึ่งแรกทำให้พละกำลังผู้เล่นแมนฯยูทดถอยอย่างเห็นได้ชัด หมดแรงวิ่งและทำเกมรุกแทบไม่ได้เลย แต่นั่นคือแมนฯยูได้ประตูนำที่ต้องการแล้ว แม้จะบุกอีกไม่ได้แต่ก็อยู่ในสถานะเป็นต่อ ส่วนร็อดเจอร์ทำได้แค่ปรับเกมตามปัญหาที่เห็นในครึ่งแรก ซึ่งอันที่จริงก็ปรับได้ดีเมื่อถอยซัวเรสลงมาต่ำทำให้เกมรุกจังหวะเข้าทำดู ดีขึ้นด้วย (ครึ่งแรกไม่มีคนปั้นเกมจังหวะเข้าทำ) แต่ก็ไม่สามารถทำให้ทีมกลับมาเป็นฝ่ายได้เปรียบ เพราะแมนฯยูสามารถเล่นรับอย่างเดียวได้แล้ว ร็อดเจอร์ตามหลังเซอร์อเล็กซ์อยู่ก้าวนึงจริงๆ ในวันนี้

               อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ว่าร็อดเจอร์จะผิดไปซะหมด อย่างที่บอกไปแล้วว่าอย่างน้อยร็อดเจอร์ก็ปรับแทคติคตามสถานการณ์ได้ดี แต่ที่สุดท้ายแล้วลิเวอร์พูลเอาตัวรอดกลับจากโอลด์ แทรฟฟอร์ดไม่ได้ก็มาจากตัวผู้เล่นเองด้วย ผู้เล่นดาวรุ่งของลิเวอร์พูลพอเจอเกมใหญ่แล้วมีปัญหาในเรื่องความนิ่งมาก จริงๆ ไม่ว่าจะวิสดอม, อัลเลน(คงไม่มีใครคิดว่าหมอนี่เป็นนักเตะซีเนียร์นะ) สเตอริ่ง หรือแม้กระทั่งสเตอริดจ์ที่ลงมาทีหลังด้วย ถ้าดาวรุ่งเล่นได้นิ่งกว่านี้ ไม่แน่ลิเวอร์พูลอาจจะควัก 1 แต้มกลับบ้านได้เป็นอย่างน้อย...

               อ้อ...ดูฮาเวิร์ด เวปป์เป่านัดนี้สงสัยเจ้าตัวจะย้ายทีมในช่วงมกรานี้แล้วนะครับ หลายจังหวะที่ 50/50 แล้วเป่าให้ลิเวอร์พูลเยอะเหลือเกิน ไม่ว่าจะลูคัสที่ครึ่งแรกโดนใบเหลืองช้ามาก, อัลเลนที่ไม่โดนซะงั้น และสเคอเทลที่โดนแค่เหลืองซึ่งจังหวะนั้นถ้าเป็นช่วงเวปป์ท๊อปฟอร์มสเคอเท ลได้กลับเข้าห้องแต่งตัวแน่ ไม่นับจังหวะแซะนิดแซะหน่อยแล้วไม่เป่าอีกหลายจังหวะ...

               นัดนี้ แพ้ ครับ นัดหน้าว่ากันใหม่
-------------------------------

นัดนี้เล่นกันได้พอใช้ได้

เรน่า - ยืนตำแหน่งได้ดีและเซฟลูกสำคัญได้ไม่น้อย 2 ลูกที่เสียก็ไม่น่าจะทำอะไรได้ดีกว่านั้น ฟอร์มส่วนตัวถือว่าน่าพอใจ

วิสดอม - เกมรับหลุดตำแหน่งบ่อยครั้ง หลายจังหวะที่หุบเข้าไปในเขตโทษแบบไม่จำเป็น ช่วยเชื่อมเกมได้ไม่ดีนัก บอลต้องวนกลับหลังบ่อยครั้ง

แอกเกอร์ - ช้าไปครึ่งก้าวกับจังหวะที่เสียลูกแรกซึ่งดูแล้วน่าจะชมฟาน เพอร์ซี่มากกว่า นอกนั้นเล่นได้ดีไม่ว่าจะดักตัดบอลยาวและการเข้าสกัด ผ่านบอลได้ค่อนข้างดีด้วย

สเคอเทล -เล่นได้หนักและแม่นยำดี ตำแหน่งค่อนข้างดี ผ่านบอลขึ้นหน้าพาเพื่อนเครียดอยู่นิดหน่อยแต่ไม่มาก ครึ่งหลังประกบกองหน้าได้ดีมาก กองหน้าเก็บบอลเล่นต่อได้น้อย

จอห์นสัน - ทำเกมรุกไม่ถนัดนักได้แค่ช่วยเชื่อมเกม เกมรับโดยรวมทำได้ดีแต่พลาดเล็กน้อยในจังหวะเสียลูกที่สองที่ไม่ได้ตามเอฟร่าไปให้สุด

ลูคัส - หยุดเกมรุกคู่ต่อสู้ได้ดีที่สุดในบรรดาผู้เล่นแดนกลาง แต่เสียฟาลว์ง่ายไปนิด และออกบอลช้าไปหน่อย

อัลเลน - ครึ่งแรกเล่นได้เลวร้ายมาก ยืนสูงกว่าเพื่อนแต่ทำเกมรุกไม่ได้ โดนไล่จนพลาดก็บ่อยครั้ง และเกมรับที่ลงมาช่วย(ไม่ว่าครึ่งแรกครึ่งหลัง)ก็ยืนตำแหน่งได้ไม่ดีและหยุด คู่ต่อสู้ไม่อยู่ เป็นวันที่ไม่น่าประทับใจเท่าไหร่

เจอราร์ด - ครึ่งแรกรับภาระหนักมาก ถ้าเจ้าตัวไม่ดันขึ้นมาเล่นเกมรุก ทีมรุกไม่ขึ้นโดยสิ้นเชิง แต่พอจะรุกก็กลายเป็นเปิดพื้นที่ข้างหลัง และในเกมรับก็ตามสปีดบอลของแมนฯยูไม่ค่อยทัน ออกบอลพลาดเยอะทีเดียว แต่ครึ่งหลังพอปรับแทคติคแล้วเจอราร์ดเล่นได้ง่ายขึ้น และออกบอลได้ดีขึ้น ตั้งเกมจากหลัง(แถวๆ ครึ่งสนาม) ไปข้างหน้าได้ดี

ดาวนิ่ง - มีส่วนร่วมกับเกมไม่มากนัก และช่วยอะไรไม่ค่อยได้ เกมรุกแทบไม่ได้สร้างประโยชน์อะไรเลยและเกมรับในครึ่งแรกก็ช่วยวิสดอมได้ น้อยกว่าที่ควรจะเป็น ครึ่งหลังเล่นได้ดีขึ้นทั้งรุกและรับแต่ก็ไม่เตะตาอะไรเท่าไหร่

สเตอริ่ง - ...

ซัวเรส - ครึ่งแรกโดนตัดจากเกม บอลที่ได้บ้างก็ต้องเล่นคนเดียวไม่มีคนช่วย ครึ่งหลังถอยลงมาเล่นต่ำลงแล้วช่วยสร้างเกมรุกจังหวะเข้าทำได้วูบวาบดี

ตัวสำรอง

สเตอริดจ์ - ลงมาทำได้ดีในจังหวะที่ทำประตูได้ ตามเข้าไปซ้ำได้เร็ว วิ่งทำทางและมีส่วนร่วมกับเกมรุกเยอะและทำได้ค่อนข้างน่าพอใจ เล่นกับเพื่อนได้ดีด้วยแต่จังหวะยิงหลังจากนั้นอัดตาข่ายข้างไป 2-3 รอบ รวมไปถึงยิงจ่อๆ นกตายมันซะงั้น

บอรินี่ - ลงมาช่วยต่อเกมในแดนหน้าได้ดี เก็บบอลได้และเคาะต่อให้เพื่อนไม่ค่อยเสีย แต่ไม่มีจังหวะวูบวาบอะไรให้เห็นไม่ว่าจะกระชากเอง วิ่งทำทางสวยๆ หรือจ่ายบอลคมๆ

เฮนเดอร์สัน - ลงมาในช่วงที่แมนฯยูเลิกไล่สูงแล้วเลยเล่นง่าย ลงมาช่วยตั้งเกมจากแดนหลังขึ้นไปพอใช้ได้
------------------------------------------------------------
Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น