วันเสาร์ที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2560

ลิเวอร์พูล 2-3 สวอนซี (พรีเมียร์ลีค)



สติสตังค์ไปไหนกันหมดดด
___________________________

ลิเวอร์พูลเล่นด้วย 4-3-3

-----------------เฟอมิโน่------------------
--------คูตินโย่-----------ลัลลาน่า--------
--------ชาน------------ไวนัลดุม----------
----------------เฮนเดอร์สัน---------------
มิลเนอร์---คลาวาน---ลอฟเรน----ไคลน์
-----------------มินโยเล่-------------------

_______ เกมหงส์เดือด(ตั้งเอง) ลิเวอร์พูลเปิดบ้านรับสวอนซีด้วย 11 ตัวจริงแล้ว 7 ตัวสำรองที่ดูดีสุดในรอบเดือน ขาดไปเพียงแค่มาเน่ที่ไปแอฟริกันคัพออฟเนชั่นคนเดียวแค่นั้น
-------------------------------------------------------

_______ ต้นเกมลิเวอร์พูลตั้งเกมช้าๆ ยังไม่เร่ง ส่วนสวอนซีเน้นรับตรงกลางให้แน่นปล่อยริมเส้นให้ลิเวอร์พูลต่อบอลกันไป แผงหลังดันสูงจนลิเวอร์พูลเปิดบอลเข้าทำไม่ถนัด ได้แต่โยนเข้ามาจากริมเส้นเท่านั้น

_______ ยิ่งเล่น สวอนซียิ่งดีขึ้นเรื่อยๆ จากที่ต้นเกมพาบอลข้ามแดนไม่ได้เลย พ้น 10 นาทีไปเริ่มพามาได้ พ้น 20 นาทีไปเริ่มต่อบอลเก็บบอลได้นานขึ้น แม้จะยังไม่ได้ลุ้นเปิดบอลเข้าทำ (ได้ลุ้นจริงจังหนเดียวคือนาที 19 ที่เปิดแฉลบลอฟเรนไปชนเสา) แต่รูปเกมไม่เป็นรองมากนัก ส่วนลิเวอร์พูลโดนบีบให้ทำได้แค่เปิดจากด้านข้างซึ่งไม่ถนัด บอลไม่เข้าหัว ที่เข้าบ้างก็คุมบอลไม่ได้ จบครึ่งแรกที่ 0-0

_______ เข้าครึ่งหลัง ไม่ทันไรก็งามไส้ไอ้หยา จากลูกเตะมุมเปิดลึกเข้ามาลิเวอร์พูลสกัดไม่ออก บอลตกลงเข้าทางยอเรนเต้ทิ่มหาย 1-0 เท่านั้นยังไม่พอ นาที 52 จากจังหวะสวอนซีเติมกันขึ้นมาทางฝั่งไคลน์จนได้เปิดบอลเข้ากลาง ยอเรนเต้คนเดิมโถมเข้ามาโหม่งแถวกรอบหกหลา ผ่ากลางแนวรับสามคนของลิเวอร์พูลกระเด็นไปตามๆ กัน ส่วนบอลก็หายเข้าตาข่ายไปตามระเบียบ 2-0

_______ พอตามห่าง ลิเวอร์พูลก็เลือดเข้าตา ต่อบอลกันน้อยลง เล่นบอลยาวและเร่งเปิดบอลเข้าทำกันมากขึ้น แล้วก็เหมือนหงส์จับยัด นาที 52 มิลเนอร์ขึ้นไปเปิดบอลจากริมเส้นเข้ากลาง ข้ามหัวกองหลังที่ได้เหลี่ยมแล้วไปเข้าหัวเฟอมิโน่ที่จริงๆ ไม่น่าถึง(น่าจะมีผลักกองหลังด้วย) โหม่งเข้าไปได้ 2-1

_______ นาที 56 สเตอริดจ์ได้ลงแทนคูตินโย่ น่า่จะเป็นเพราะคูตี้ยังฟิตไม่เต็มร้อย

_______ ลิเวอร์พูลเปิดหน้าแลก ดันขึ้นมาสูงทิ้งเฮนโด้ไว้แนวเดียวกับคู่เซ็นเตอร์ยืนเป็นแผงกันแถววงกลม นอกนั้นดันขึ้นหน้าหมด เกมตรงกลางต่อไม่ได้ชิ่งไม่ออก แต่ก็ใช้พื้นที่ริมเส้นเข้าโจมตีสลับกับการเก็บบอลสองเปิดย้อนเข้าไป กดดันสวอนซีที่เริ่มเสียสมาธิหลังเสียประตูแรกได้พอสมควร

_______ นาที 69 จังหวะเปิดบอลยาวขึ้นไปทางซ้าย ไวนัลดุมเอาบอลลงอย่างสวยหนีตัวที่เข้ามาไล่ได้ด้วย ก่อนเปิดโด่งย้อยๆ เข้ากลางให้เฟอมิโน่กระโดดพักอกแล้วยิงเร็ว ตีเสมอให้ทีมได้ 2-2 และโอริกิได้ลงแทนเมสซี่ที่เล่นไม่ค่อยออกทันที

_______ หลังจากตีเสมอได้ ลิเวอร์พูลออกบอลช้าลงเริ่มหันมาต่อบอลมากขึ้น ส่วนสวอนซียังดูช็อคๆ อยู่ครองเกมได้ไม่ดีเท่าเดิม แต่แล้วจากการบุกขึ้นได้เพียงชุดแรก กองหลังลิเวอร์พูลก็ยืนหลังบอลกันหมดแล้ว แต่จังหวะไม่มีใครเข้าบอลทำให้สวอนซีพาบอลหลุดเข้ามาถึงหน้ากรอบ คลาวานทิ้งตัวสกัดบอลทะลัก แต่บอลเจ้ากรรมดันเด้งไปเข้าทางซิกูสันได้ยิงซ้ำ 3-2 น้ำตานองละทีนี้

_______ เวลาที่เหลืออยู่ ลิเวอร์พูลคุมสมาธิให้ใจเย็นไม่ได้ ออกบอลยาวเร่งบอลเร็วอย่างบ้าคลั่ง ไม่มีคนขวางเมื่อไหร่เป็นโยนเข้ากรอบ บอลสั้นบอลชิ่งไม่ค่อยเล่นและเล่นได้ลำบากด้วยเพราะแนวรับสวอนซียืนกันแน่นหน้ากรอบ โอกาสได้ลุ้นส่วนใหญ่คือการเปิดบอลเข้ามาแล้วกองหลังสกัดไม่ขาด ลิเวอร์พูลมีโอกาสดีสุดจากลัลลาน่าที่ได้โหม่งซ้ำระยะแค่ 7-8 หลาแต่หลุดข้ามคาน

_______ ลูกฟุตบอลยังโบยบินเป็นนกอยู่ตลอด หญ้าเญ่อไม่ค่อยได้สัมผัส ลิเวอร์พูลบุกแบบลุ้นเอาดาบหน้า ไม่ได้เน้นไม่ได้ดีไซน์วิธีบุกเท่าไหร่แล้ว แถมเข้าบอลไม่ระวังเสียฟาล์วอยู่บ่อย นาที 94 มาติปได้ลงมาแทนไวนัลดุมยืนอยู่ข้างหน้าอีกคน แต่สุดท้ายความพยายามแทบทั้งหมดของลิเวอร์พูลก็ลอยไปเข้ามือฟาเบียงสกี้หมด จบเกมสวอนซีบุกมาชนะได้ที่แอนฟิลด์ 3-2

-----------------------------------------

_______ รูปเกมดูไม่ดีนัก คือบุกอย่างลนลานจนไม่ได้ใช้จุดเด่นในเรื่องการประสานงานเท่าไหร่เลย

_______ จริงๆ แล้วเกมรับลิเวอร์พูลโดยรวมไม่ได้เล่นแย่ แต่จังหวะที่เสียประตูทั้งสามลูกมันเกิดจากการเสียสมาธิมากกว่า โดยเฉพาะลูกสองลูกสามนี่ชัด ถ้าใจอยู่กับเกมรับน่าจะปิดช่องได้ดีกว่านี้ แต่นี่เหมือนชะงักและไม่ได้อ่านเกมรับอย่างที่ควร แล้วสวอนซีดันจบได้พอดี

_______ สิ่งที่สวอนซีทำได้ดีมากๆ ในเกมนี้คือการปิดเกมของลิเวอร์พูล ไม่ใช่แค่รับเหนียวแน่น แต่วิธีรับของพวกเขาทำให้ลิเวอร์พูลเจาะตรงกลางไม่ได้ ต้องไปโยนจากด้านข้างเอา ในขณะที่สวอนซียังกล้าต่อบอลเก็บบอลจนลิเวอร์พูลบุกไม่ค่อยต่อเนื่องด้วย

_______ ลิเวอร์พูลทำได้ดีในเรื่องของความพยายามที่โดน 2-0 ไปแล้วยังบุกจนตีเสมอได้ และกับการเข้าทำที่ไม่ถนัดนัก พวกเขายังอุตส่าห์ทำได้ถึงสองลูก อันนี้ต้องชมจากใจ

_______ แต่ที่ไม่ดีเลยในเกมนี้คือลิเวอร์พูลไม่สามารถเล่นในเกมของตัวเองได้เลย ไม่ได้เลย เกมชิ่งวิ่งช่องเจาะแนวรับหายไปหมด และเวลาส่วนใหญ่ลนจนเปิดบอลพลาดไปเอง ยิ่งช่วงบอมบ์ท้ายเกมนนี่ดูไม่จืด การทิ้งแนวทางการเล่นของตัวเองดูเลวร้ายยิ่งกว่าความพ่ายแพ้เสียอีก

_______ ได้แต่หวังว่าพวกเขาจะกลับไปตั้งสติ เรียกเกมของตัวเองกลับมาให้ได้โดยไว เพราะถึงที่สุดแล้วถ้าต้องไปแย่งที่สี่กับอาเซนอลจริงๆ นี่มันนรกชัดๆ แย่งแชมป์ลีคยังง่ายกว่าแย่งที่สี่จากอาเซนอลนะผมว่า

-----------------------------------------

นัดนี้เล่นเกือบดี

มินโยเล่ -  ไม่มีซูเปอร์เซฟแต่ฟอร์มส่วนตัวใช้ได้ สามลูกที่โดนนี่มันยากเกินจริงๆ

มิลเนอร์ - ขึ้นมาช่วยต่อบอลได้ดี เปิดบอลเข้ากลางกดดันได้ประมาณนึง หนึ่งในนั้นเป็นแอสซิสด้วย แต่วันนี้มิลเนอร์ลอยสูงมากและลงไปปิดพื้นที่ไม่ค่อยทัน งานเข้าคลาวานหลายครั้ง

คลาวาน - ชิงเหลี่ยมกับยอเรนเต้แล้วเสียเปรียบหลายครั้ง โชคดีมากๆ ที่ไม่โดนใบเหลืองที่สอง อันที่จริงผมคิดว่าเขาเล่นไม่ได้แย่ แต่การที่ต้องเป็นตัวสุดท้ายดวลกับคู่ต่อสู้จังหวะจะโต้อยู่แถวกลางสนาม  มันเป็นโจทย์ยากเกินไปสำหรับเซ็นเตอร์ที่ไม่ได้เด่นเรื่องความเร็วอยู่แล้ว

ลอฟเรน - ผมคิดว่าเขาพลาดในจังหวะเสียประตูทั้งลูก 2-3 ไม่ใช่พลาดที่สกัดไม่ได้ แต่ตำแหน่งที่เขายืนมันผิดไม่รู้ไปดักอะไรตรงนั้น แต่วันนี้การผ่า่นบอลของเขาทำได้ดี ดันขึ้นมาช่วยต่อบอลในแดนหน้าได้มากด้วย ไม่ต้องพึ่งเฮนโด้คนเดียว

ไคลน์ - คู่ต่อสู้เปิดพื้นที่ด้านข้างไว้ให้และไคลน์เติมขึ้นไปรับบอลได้ดีตลอด แต่จังหวะหลังจากครองบอลแล้วเขาช่วยอะไรเกมรุกไม่ได้เลย โอเคเราไม่ได้หวังให้เขาโซโล่เดี่ยวเข้าไปซัดแบบอัลเวส หรือโยนเข้าหัวแบบเบห์น แต่อย่างน้อยก็ควรทำอะไรได้มากกว่าเคาะบอลคืนหลัง

ชาน - ช่วยทำเกมรุกได้น้อยเกินไปทั้งๆ ที่พอมีเวลาตอนได้บอล แต่กับการเชื่อมเกมและดักบอลไม่ให้คู่ต่อสู้เปิดเขาทำได้ดี

ไวนัลดุม - นี่ก็หายไปเลยจากเกม ครั้งเดียวที่เขาโผล่มามีส่วนร่วมกับเกมรุกเป็นชิ้นเป็นอันคือจังหวะเปิดให้เฟอมิโน่โหม่งได้ประตู นึกภาพดูว่าคู่กองกลางด้านใน (ชาน-ดุม) สร้างเกมรุกไม่ออกเลยมันจะเป็นยังไง...ก็ยังนี้นี่แหล่ะ

เฮนเดอร์สัน -  เชื่อมเกมกระท่อนกระแท่น คือมีลูกวางยาวไปที่ว่างที่ดีสุดในทีม บอลสั้นก็ยังลื่นอยู่ แต่วันนี้ออกบอลพลาดเยอะกว่าที่ควร ด้วยความที่อยากจะเร่งเกม

คูตินโย่ -  สภาพความฟิตยังมีปัญหาเล่นได้แค่ชั่วโมงนึง ไม่ค่อยพาบอลไปเองแต่ยังมีบอลเกมรุกที่ดูดีกว่าชาน-ดุม พอคูตี้ออกไปทีมเหลือแต่ลูกโยนสาดจากข้าง

ลัลลาน่า - วิ่งไล่วิ่งรับบอลได้ดีอยู่ แต่บอลมาไม่ค่อยถึง เพราะส่วนใหญ่บอลไปเล่นด้านข้างด้วยแบ็คหมด ขาดคนประสานงานตรงกลางและตัวเขาเองก็ไม่สามารถเจาะพื้นที่แคบๆ แถวหน้าเขตโทษได้ด้วย

เฟอมิโน่ - ได้เล่นในตำแหน่งถนัดผลงานส่วนตัวจัดว่าดี แม้จะเปิดบอลเข้าทำหรือพาบอลเลี้ยงเอาชนะแนวรับไม่ได้ แต่วิ่งไปรับบอลด้านข้างได้ตลอด รวมถึงวิ่งสอดรับบอลเปิดเข้าเขตโทษก็ถือว่าถึงบอลหลายครั้ง ยิงได้สองลูกอีกต่างหาก

ตัวสำรอง

สเตอริดจ์ - ให้ตายเถอะริดจ์ พี่คิดว่าเล่นสิบคน

โอริกิ - โอ้แม่เจ้า พี่นึกว่าเล่นเก้าคน

มาติป - ลงมายืนข้างหน้า มองบอลลอยข้ามหัวไปข้ามหัวมา

แมน ออฟ เดอะ แมทช์ : ...โรแบร์โต้ เฟอมิโน่… ทำได้สองลูก ดูดีกว่าเพื่อนแล้ว
------------------------------------------------------------

เครดิตภาพจากเวปทางการ

Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น