วันพฤหัสบดีที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2559

ลิเวอร์พูล 2-0 แมนฯ ยูไนเต็ด (ยูโรป้าลีค)


...ไม่มีใครไร้ข้อผิดพลาด เดเคอาก็เช่นกัน….
___________________________

ลิเวอร์พูลเล่นด้วย 4-2-3-1
---------------------สเตอริดจ์---------------------
----คูตินโย่---------เฟอมิโน่--------ลัลลาน่า----
-------------ชาน---------เฮนเดอร์สัน------------
โมเรโน่-----ซาโก้-------ลอฟเรน---------ไคลน์
----------------------มินโยเล่---------------------

_______ แดงเดือดเวอร์ชั่นยูโรป้าลีค นัดนี้เลคแรกเล่นที่แอนฟิลด์ก่อน คล็อปส่งสเตอริดจ์ที่พักมาดีเป็นตัวจริงอีกครั้ง รวมไปถึงไคลน์ที่ได้พักในนัดก่อนด้วย ส่วนทางแมนฯยูเจอสถานการณ์ผู้เล่นบาดเจ็บเยอะ มีดาวรุ่งหลายตำแหน่ง มีมาต้าเป็นจอมทัพ มีกองหน้าดาวรุ่งฟอร์มสดอย่างแรชฟอร์ดลงสนามด้วย
-------------------------------------------------------

________ เริ่มเกมมานาทีแรกเกือบได้กริบกันทั้งแอนฟิลด์ แมนฯยูได้โยนจากทางฝั่งไคลน์ข้ามไปเสาสอง โมเรโน่หุบเข้ามายืนดักถูกตำแหน่งแล้วแต่ดันโชว์โหม่งวืด แรชฟอร์ดกระโดดตีเข่าดีว่าบอลไม่เข้ากรอบ

________ หลังจากจังหวะสยองขวัญนาทีแรกแล้ว เกมเป็นลิเวอร์พูลที่ทำได้ดีกว่า วิ่งไล่บอลเร็ว ไล่บอลสูง แผงกลางและหลังดันขึ้นไปคุมพื้นที่สูง แต่ยังครองบอลไม่ต่อเนื่องและเสียฟาล์วบ่อย ทางแมนฯยูเกมดูเป็นรองแต่ยังเรียกฟาล์วได้ดี เปลี่ยนรับเป็นรุกยังพอได้แม้จะไปไม่ถึงเขตโทษ และในเกมรับก็ยังวิ่งไล่ทำลายจังหวะไม่ให้ลิเวอร์พูลที่ได้บอลมากกว่าขึ้นบอลได้ง่ายนัก

_______ เกมเล่นกันมาในทรงนั้นจนกระทั่งนาที 19 จังหวะขึ้นเกมทางขวา ไคลน์วิ่งทำทางเข้าเขตโทษแล้วโดนเดปายที่วิ่งตามไปสะกิดขาทำฟาล์วบนเส้นเขตโทษ กรรมการเป่าให้จุดโทษ สเตอริดจ์รับหน้าที่ยิง เดเคอาพุ่งเซฟโดนปลายนิ้วแต่บอลเข้ามุมและแรงพอที่จะฝ่าเข้าไปได้ 1-0

_______ พอสกอร์ขยับเกมเปลี่ยนทันที เกมของลิเวอร์พูลจากที่ดูดีกว่าเล็กน้อยกลายเป็นดีกว่าแบบเห็นได้ชัด เก็บบอลเล่นได้ต่อเนื่อง เกมทางซ้ายไหลลื่น ตรงกลางคูตินโย่กับเฟอมิโน่พลิกบอลกันสนุก กลางแมนฯยูไล่ไม่จน ลิเวอร์พูลเปิดบอลเข้าทำได้จากทุกทิศทางทั้งซ้ายขวาและเจาะกลาง แต่เดเคอาก็เซฟแม่งอยู่นั่น เซฟจนเซ็ง เซฟจนเบื่อ สองหลาคูตินโย่ก็เซฟ สเตอริดจ์ได้หวดไม่มีคนประกบในเขตโทษก็เซฟ สี่หลาลัลลาน่าก็เซฟ

_______ ทางฝั่งแมนฯยูเองเก็บบอลเล่นได้น้อย โต้ไม่ขึ้น นานๆ จะได้โผล่มาเยือนเขตโทษสักที ใกล้เคียงสุดเห็นจะเป็นจังหวะที่ซาโก้โชว์หวดวืดจนมาต้าเก็บบอลได้ในเขตโทษนาที 29 แต่ก็ยังไม่ได้ยิงอยู่ดี จบครึ่งแรกที่สกอร์ 1-0 ในรูปเกมที่น่าจะได้สักสามลูก

_______ เข้าครึ่งหลัง ฟานกัลแก้เกมมาดี ถอดแรชฟอร์ดออกส่งคาริคลงสนาม ปรับมาเล่นหลัง 3 ดันบลินด์ไปเล่นวิงซ้าย หันมาเล่นเกมรุกมากขึ้น เกมรุกริมเส้นโดยเฉพาะฝั่งบลินด์กดดันลิเวอร์พูลได้ดีมาก ได้เปิดบอลเข้าไปลุ้นบ่อย แม้จะยังไม่ค่อยได้จบสกอร์แต่ถือว่ากดดันได้มากแล้ว

_______ ส่วนทางลิเวอร์พูลแม้จะมีปัญหากับการหยุดเกมรุกริมเส้นของคู่ต่อสู้ รูปเกมเป็นรองชัดแล้ว แต่กับการโต้หรือการพาบอลขึ้นหน้าทำเกมรุกยังใช้ได้อยู่ ไม่ได้โดนขึงหงิกคาเขตโทษตัวเองอยู่ฝ่ายเดียว ได้ลุ้นยิงลุ้นเปิดอยู่บ้าง

_______ นาที 64 คล็อปแก้เกมบ้าง ส่งอัลเลนลงมาแทนสเตอริดจ์ เริ่มถอยลงไปรับในแดนมากขึ้น เน้นการวิ่งทำลายเกมกลางสนามมากขึ้นกว่าครึ่งแรกที่เน้นการวิ่งไล่จี้แดนหน้า เกมรับของลิเวอร์พูลค่อยๆ ดีขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่อัลเลนลงมา แมนฯยูเริ่มบุกได้น้อยลง ได้เปิดน้อยลง

_______ เกมรุกของแมนฯยูทำได้ดีแค่พาบอลขึ้นหน้าแต่ยิ่งเล่นยิ่งตัน แถมเก็บบอลจังหวะสองเป็นรองมากขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้ลิเวอร์พูลเริ่มขยับโต้ได้บ่อยขึ้น ได้บอลมากขึ้น เปลี่ยนจากรับในแดนกลายเป็นไล่ในแดนหน้าได้มากขึ้น

_______ นาที 73 ยังมาได้ประตูเพิ่มจากจังหวะโต้เร็ว เกมทางขวาลัลลาน่าพลิกบอลได้สวย จ่ายให้เฮนเดอร์สัน(ที่น่าจะล้ำหน้า)ได้หลุดขึ้นไปทางสุดเส้นขวา เฮนเดอร์สันเปิดเข้ากลางไม่ค่อยดีแต่คาริคที่ดักบอลได้ไม่เคลียร์ทิ้ง เจตนาจะแปะบอลให้เพื่อนเล่นต่อ กลายเป็นลัลลาน่าที่วิ่งตามเข้าไปเอาบอลได้ จ่ายหักให้เฟอมิโน่ตามมาชาร์จ คราวนี้เดเคอาช่วยไม่ไหวแล้ว 2-0

_______ สกอร์ขยับห่าง เล่นได้สักพักฟานกัลก็เปลี่ยนตัวอีกครั้ง ส่งเออเรร่ากับชไวน์สไตเกอร์ลงแทนมาต้าที่เล่นไม่ออกและชไนเดอร์ลิน เกมยังไม่กระเตื้องมากนัก ส่วนคล็อปส่งโอริกิลงแทนเฟอมิโน่นาที 83 แล้วส่งผลกับเกมมากกว่า เพราะบอลสาดทิ้งขึ้นหน้าโอริกิวิ่งจี้ตามบอลไปกดดันคาริคได้ตลอด ทำให้แมนฯยูเร่งเกมไม่ได้ แถมเสียการครองบอลบ่อยขึ้นจากการที่คาริคต้องเตะทิ้งหนีโอริกิ

_______ ช่วงเวลาที่เหลือ ลิเวอร์พูลยังหยุดเกมรุกแมนฯยูได้ดี ส่วนเกมรุกตัวเองไม่ได้เร่งมากแต่ก็ยังพอได้ลุ้นนิดๆ หน่อยๆ อยู่ตลอด จนจบเกมทีสกอร์ 2-0 กุมความได้เปรียบก่อนไปเยือนโอลด์แทรฟฟอร์ดในนัดหน้า

-----------------------------------------

_______ ไม่บ่อยนักที่เกมแดงเดือดแล้วลิเวอร์พูลจะมีเกมที่ดีกว่าแมนฯยูแบบสิ้นเชิง แต่นัดนี้เป็นหนึ่งในนั้น

_______ ในส่วนของคล็อป ต้องให้เครดิตที่เขาพักสเตอริดจ์ไว้สมบูรณ์พร้อมในนัดนี้ ถึงจะไม่ได้เล่นเต็ม 90 นาทีแต่ครึ่งแรกสเตอริดจ์วิ่งได้เต็มที่ดีมาก, เกเก้นเพรสซิ่งทำงานได้เต็มสูบดี และการเปลี่ยนตัวทั้งสองครั้งส่งผลดีกับเกมแบบเห็นได้ชัด

_______ ในส่วนของผู้เล่น นอกจากฟอร์มที่กำลังขาขึ้นของหลายคน ต้องบอกว่านัดนี้ความมุ่งมั่นเต็มร้อยกันดีมากด้วย ต่อให้แทคติคดีกว่านี้ ถ้าขาดความมุ่งมั่นก็เล่นออกมาดีไม่ได้หรอก

_______ การวิ่งไล่ช่วยทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้นก็จริง แต่สำหรับเกมรุกแล้วต้องบอกว่าการประสานงานกันของคูตินโย่กับเฟอมิโน่ช่วยทีมได้เยอะมาก แต่ก่อนเราจะเห็นกันชินตาว่าถ้าคูตินโย่โดนประกบก็จบข่าว แต่ตอนนี้ประกบคูตินโย่ เฟอมิโน่ก็ช่วยพลิกบอลได้ และโมเรโน่ที่ดูมีปัญหากับเกมรับอยู่บ้างก็วิ่งทำทางได้ดีตลอด รวมถึงสเตอริดจ์ที่วิ่งฉีกออกมารับบอลได้ดี ทำให้เกมฝั่งซ้ายและกลางลื่นไหลตลอดครึ่งแรก และครึ่งหลังก็ยังช่วยทำให้ทีมเปลี่ยนรับเป็นรุกได้ดีอยู่

_______ เกมนี้ขอแวะพูดถึงกรรมการนิดนึง นกหวีดหวานมากนะครัชชช เดี๋ยวอมเดี๋ยวเป่าเดี๋ยวควักเหลือง ใกล้เคียงกับปาฏิหารย์มากที่ทั้งสองทีมเหลือครบ 11 คนได้จนจบเกมเนี่ย

_______ และสุดท้าย สำหรับแมนฯยู ครึ่งแรกเป็นการวางแผนผิดพลาดจริงๆ พวกเขาเอาตัวรอดจากการวิ่งไล่ได้ไม่ดีพอ แถมยังไปเน้นเล่นรับเข้าให้อีก ครึ่งหลังพอเปลี่ยนมาเน้นรุกทำได้ดีขึ้น แต่การทำได้ดีของพวกเขาก็ชวนให้สงสัยว่า ฟานกัลจะเอาบลินด์ไปเล่นเซ็นเตอร์ทำไม(วะ) เขาเล่นวิงแบ็คหรือถ้าหลังสี่เล่นฟูลแบ็คน่าจะเป็นประโยชน์กับทีมมากกว่าเพราะหาที่รับบอล หาจังหวะเปิดบอลได้ลุ้นทีเดียว

_______ ยังไม่นับว่าพวกเขาเลือกที่จะเข้าทำด้วยบอลโยนแล้ว แต่ไม่เอาเฟอไลนี่เข้าไปรอในเขตโทษ กลับเอามาเคาะบอลกลางสนาม? เพื่อ? แต่สำหรับการส่งคาริคลงมาผมว่าฟานกัลไม่พลาดนะ จังหวะนั้นมันต้องเล่นรุก(ไม่งั้นโดนบี้ตายแบบครึ่งแรก) แล้วบลินด์ก็ขึ้นไปกดดันได้จริง แค่ต้องหาคนมาเล่นเซ็นเตอร์แทน ซึ่งคาริคก็ยังดูดีกว่าเด็กละมั้งนะ และเออเรร่าลงแทนมาต้าที่เล่นไม่ออกก็ดีกว่าไม่ได้ลองอะไร

_______ ชนะ 2-0 สำหรับเกมไปกลับแบบนี้ต้องบอกว่าสมบูรณ์แบบแล้ว แต่กับรูปเกมแบบนี้ก็ชวนให้เสียดายเล็กๆ เหมือนกันที่ไม่ทุบให้ตายกันไปเลยตั้งแต่นัดนี้ แต่ก็นั่นแหล่ะ การเจอกับผู้รักษาประตูอย่างเดเคอาในวันท็อปฟอร์มแบบนี้ได้สองประตูก็เก่งแล้ว

_______ สำหรับเดเคอา ข้อผิดพลาดอย่างเดียวของเขาในวันนี้คือ...อยู่ผิดทีม...ไปมาดริดสักทีได้มั้ย อยู่แถวนี้มันเกะกะจริงเชียว
-----------------------------------------

นัดนี้เล่นดีทุกคนทั้งเกม

มินโยเล่ - ไม่ได้เซฟเลย มีกระโดดชกบอลก่อนหน้ามาชิอัลได้โหม่งทีนึงที่พอจะเรียกได้ว่าเป็นการป้องกันประตู นอกนั้นเพื่อนเก็บให้หมด

โมเรโน่ - ครึ่งแรกพรวดพราดมาก ดีว่าไม่โดนใบเหลืองเลยยังพรวดพราดได้ต่อไป จัดการกับแรซฟอร์ดได้ดีเพียงแต่เสียฟาล์วง่ายและบ่อยไป ส่วนเกมรุกและเชื่อมเกมวันนี้เล่นได้ดีมากโดยเฉพาะครึ่งแรก ทำทางรับบอลได้ดีตลอด

ลอฟเรน - เก็บกินบอลเปิดขึ้นหน้าได้ดี ลูกที่กองหน้าเอาลงได้ก็ยังประกบได้ติดไม่มียืนห่างให้เห็น การจ่ายบอลก็ไม่มีพลาด เป็นเกมที่เล่นได้ดี

ซาโก้ - ประกบมาชิอัลได้ดี ไม่นับลูกเตะวืดระดับ “อายมั้ยนั่น” ในนาที 29 เกมนี้ต้องบอกว่าซาโก้เป็นแนวรับที่เล่นได้ดีที่สุดของทีมเลย สกัดได้เก็บบอลได้จ่ายบอลหนีตัวไล่ได้

ไคลน์ - เรียกจุดโทษให้ทีมได้ ครึ่งแรกแทบไม่มีเกมรับให้เล่นเพราะบอลไปขึ้นอีกฝากบ่อยกว่า กับเกมรุกก็เชื่อมเกมได้ดีเพียงแต่บอลไม่ค่อยมาและไม่ค่อยเน้นเล่นพื้นที่มุมธงแบบอีกฝั่ง ครึ่งหลังเจองานในเกมรับที่หนักขึ้นเพราะมีคู่ต่อสู้สองคนขึ้นมาตลอด ทำได้ดีในแง่ที่ปิดพื้นที่ีมุมธงไม่ให้รั่ว แต่ยังมีปัญหากับการปล่อยให้คู่ต่อสู้เก็บบอลหรือโยนบอลเข้ากลางง่ายไปหน่อย

ชาน - วันนี้เน้นยืนต่ำ เล่นเกมรับพอใช้ได้ ปิดพื้นที่หน้าเขตโทษได้ดี แต่เด่นมากจริงๆ กับการช่วยเอาบอลจากหลังไปกลาง พลิกหนีตัวไล่ได้ จ่ายขึ้นหน้าก็ได้ ไม่ต้องแปะกลับหลังบ่อยนัก เขาทำหน้าที่นี้ได้ดีกว่าเฮนเดอร์สันเวลาถอยลงต่ำ

เฮนเดอร์สัน - ช่วยเชื่อมเกมแดนกลางได้โอเค ยังต้องพึ่งดูโอ้บราซิลอยู่เยอะในการพลิกบอล และการเติมขึ้นหน้ายังทำอะไรไม่เป็นสัปปะรดทั้งๆ ที่มีจังหวะและโอกาส แต่เฮนโด้มีดีตรงบอลเปลี่ยนฝั่งที่ทำได้ดีที่สุดในทีม ช่วยให้เกมลื่นและมีเกมรุกที่ต่อเนื่อง

ลัลลาน่า - ครึ่งแรกยังไม่เด่น ก็เน้นแค่วิ่งไล่วิ่งทำทาง แต่ครึ่งหลังเริ่มมีบทบาทมากขึ้น บอลแรกจับหรือแตะได้ดีหลายครั้ง ช่วยพลิกบอลได้ดีหลายจังหวะ มีส่วนร่วมกับประตูอีกด้วย

เฟอมิโน่ - ช่วยพลิกบอลได้ดี จ่ายบอลพลาดน้อยทั้งๆ ที่หลายครั้งก็โดนไล่ติด ช่วยวิ่งไล่ได้ดีตลอดเวลาที่อยู่ในสนาม ยิงประตูสำคัญได้ด้วย

คูตินโย่ - เก็บบอลไว้กับตัวได้ดี พลิกบอลขึ้นหน้าดีที่สุดในทีมแล้วไม่ว่าจะพลิกขึ้นไปเองหรือชิ่งไปให้เพื่อนที่ทำทางขึ้นหน้า(โดยเฉพาะโมเรโน่กับเฟอมิโน่) เด่นในเรื่องเชื่อมเกมและออกบอลให้เพื่อนไปรุกต่อ แต่ตัวเองไม่ค่อยมีส่วนร่วมกับบอลเข้าทำสุดท้ายเท่าไหร่

สเตอริดจ์ - วิ่งหาที่รับบอลได้ดี ดีไปหรือเปล่าไม่แน่ใจเพราะไม่ค่อยได้อยู่ในเขตโทษ แต่ก็ทำให้ได้บอลเยอะและประสานงานกับเพื่อนได้ลื่น ยิงจุดโทษเด็ดขาด วิ่งไล่ได้ตลอด

ตัวสำรอง

อัลเลน - ช่วยวิ่งไล่กดดันคู่ต่อสู้ได้ดี มีส่วนช่วยเป็นอย่างมากกับการเก็บบอลจังหวะสองของทีม ทั้งในเกมรับ และการวิ่งตามบอลจังหวะบอลพึ่งตายในเกมรุก แต่กับเกมรุกจริงๆ ก็อย่าไปอะไรกับปีย์โล่มากนักเลย

โอริกิ - ไม่แน่ใจว่าจะลงมาเป็นกองหน้าหรือลงมาวิ่งไล่คาริคอย่างเดียว คือทำทางไม่ค่อยดี เพื่อนจ่ายยาก แต่ทำดีมากกับการไล่จี้คาริด ได้ทุ่มมาแบบง่ายๆ หลายครั้ง ชะลอไม่ให้คาริคเอาบอลขึ้นหน้าได้ก็หลายครั้ง

แมน ออฟ เดอะ แมทช์ : ...ดาบิด เดเคอา…ไม่ใช่ว่าคนในทีมเล่นไม่ดีครับ แต่ลามะเด่นสุดในสนามแล้วจริงๆ เปลี่ยนเป็นโกลคนอื่นรับรองนัดหน้าไม่เหลืออะไรให้ต้องลุ้นกันละ
------------------------------------------------------------
เครดิตภาพจากเวปทางการ

Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น