วันพฤหัสบดีที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2559

แมนฯยู 1-1 ลิเวอร์พูล (ยูโรป้าลีค) (รวมสองนัด 3-1)


...ดอกเดียว หายเสียวเลย….
___________________________

ลิเวอร์พูลเล่นด้วย 4-2-3-1
---------------------สเตอริดจ์---------------------
----คูตินโย่---------เฟอมิโน่------ลัลลาน่า----
-------------ชาน---------เฮนเดอร์สัน-----------
มิลเนอร์-----ซาโก้-------ลอฟเรน------ไคลน์
----------------------มินโยเล่---------------------

_______ แดงเดือดเวอร์ชั่นยูโรป้าลีค นัดที่สองเล่นที่โอลด์แทรฟฟอร์ด ลิเวอร์พูลไม่มีเกมสุดสัปดาห์ก่อนเลยได้พักมากกว่า คล็อปใช้ทีมชุดเดิมแต่โมเรโน่เจ็บตอนวอร์ม(ผู้บรรยายเค้าว่างั้น)  มิลเนอร์เลยมีชื่อเป็นตัวจริงแทน
-------------------------------------------------------

________ เริ่มเกมมาแมนฯยูก็ผีเข้าทันที ผิดกับนัดก่อนเป็นคนละทีม เน้นเกมรุกเร่งเกมเร็วและวิ่งถึงบอลตลอด เกมรุกเน้นริมเส้นทั้งสองฝั่งโดยเป็นทางมาชิอัลที่กดดันไคลน์ได้ดีพอควร ส่วนลิเวอร์พูลเน้นการไล่บอลทำลายจังหวะแถวกลางสนามเป็นหลัก เกมไม่ต่อเนื่องทั้งคู่แต่เป็นแมนฯยูที่เอาบอลมาใกล้เขตโทษได้มากกว่า

________ เกมรุกกดดันฝั่งไคลน์ยิ่งเล่นยิ่งเห็นผลจนถึงขั้นได้ประตูในที่สุด นาที 19 มาชิอัลกระชากบอลในเขตโทษ ไคลน์ทิ่มบอลผิดจังหวะเสียจุดโทษ มาชิอัลยิงไม่พลาด 1-0

_______ สกอร์ขยับ แมนฯยูเริ่มเห็นความหวังรำไร เร่งเกมได้ดีขึ้น ตัดบอลได้มากขึ้น เกมรุกต่อเนื่องขึ้น แดนกลางทำได้ดีกว่าทั้งรับและรุก ได้ลุ้นประตูเพิ่มด้วย ในขณะที่ลิเวอร์พูลเริ่มบุกได้น้อยลง แต่ยังมีจังหวะเข้าทำที่ได้ลุ้นอยู่บ้างไม่ถึงกับโดนกดแบนในแดนตัวเอง ทั้งฟรีคิกของสเตอริดจ์ในนาที 34 ที่ยิงไปชนคาน และเฮนเดอร์สันทำชิ่งกับคูตินโย่จนตัวเองได้หลุดไปยิงเสยท้องนกตายอย่างอำมหิตในนาที 41

_______ แมนฯยูกำลังบุกเพลินๆ ชีวิตเริ่มมีความหวัง แต่ก็มาพังทลายลงเอาตอนนาทีสุดท้ายของครึ่งแรก จากการโต้เร็ว ชานจ่ายให้คูตินโย่รับบอลทางริมเส้นซ้าย มีบาเรล่าวิ่งมาประคอง แต่คูตินโย่กระชากเข้าในไปสุดเส้นหลัง ก่อนชิพบอลข้ามตัวเดเคอาเข้ามุมแคบเสาแรกได้สำเร็จ 1-1 ว๊า~ เสมอตั้งแต่พักครึ่งเลย

_______ เข้าครึ่งหลัง แมนฯยูกลับลงมาดันสูงทั้งแผงขึ้นไปถึงวงกลม กดดันได้ดุเดือดดีมาก เปิดบอลเข้าทำได้ตลอดและเก็บบอลสองได้ต่อเนื่อง ส่วนลิเวอร์พูลเก็บบอลเล่นลำบากแล้วเพราะไม่มีพื้นที่และคู่ต่อสู้เข้าเร็วตลอด จะโต้ก็ทำได้ไม่ดีพอ ทั้งๆ ที่มีช่องให้เพียบแค่ลำเลียงบอลพลาดกันไปเอง

_______ แมนฯยูรูปเกมดีกว่าชัดเจนแต่แนวรับลิเวอร์พูลไม่ค่อยกดดันเท่าไหร่เพราะได้เปรียบเรื่องสกอร์ ยังเล่นเอาตัวรอดกันไปได้เรื่อย นาที 67 โอริกิได้ลงแทนสเตอริดจ์ที่วันนี้ไม่ค่อยวิ่งตามบอล นาที 71 อัลเลนได้ลงแทนเฮนเดอร์สันที่คาดว่าเจ็บ เพราะเปลี่ยนออกแล้วเดินเข้าห้องพักไปเลย

_______ หลังจากเปลี่ยนตัวสองคนนี้แล้ว ลิเวอร์พูลปรับมาเน้นการวิ่งไล่ในแดนหน้ามากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดจากที่เน้นคุมแค่ครึ่งสนามเป็นหลักในช่วงก่อนหน้า  ทำลายจังหวะขึ้นเกมได้บ้างแต่แมนฯยูวันนี้มาดีจริง ยังหาโอกาสเอาบอลขึ้นหน้าได้ค่อนข้างดี โดยเฉพาะเฟอไลนี่กับลินการ์ดที่คนนึงพักบอลโด่ง อีกคนนึงพลิกบอลขึ้นหน้าได้ดีตลอด แต่กับจังหวะเข้าทำ พวกเขายังจ่ายบอลฝ่าแนวรับไม่ค่อยได้ ที่ผ่านไปได้บ้างก็ดันยิงกันไม่คมอีก

_______ นาที 84 เบนเทเก้ลงแทนเฟอมิโน่ เกมยังไม่เปลี่ยนเท่าไหร่ แมนฯยูบุกเต็มที่แบบไม่ต้องเข้ารอบก็ได้แต่ขออีกสักลูกได้ดี กดอยู่แถวรอบๆ เขตโทษได้ตลอด ส่วนลิเวอร์พูลที่เก็บบอลได้บ้างก็โต้ได้ไม่เฉียบขาดเลย หาโอกาสได้บ้างก็เอาไปโยนทิ้งหมด จบเกมเลยทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ เสมอ 1-1 สกอร์รวม 3-1 ลิเวอร์พูลผ่านเข้ารอบต่อไป
-----------------------------------------

_______ เกมนี้ต่างจัดนัดก่อนเยอะเลย แมนฯยูเล่นดีกว่าจริง อันที่จริงพวกเขาน่าชนะนัดนี้ด้วย

_______ คล็อปเองเริ่มเกมนี้แบบระวังตัว ไม่ได้เน้นไล่สูงเดินหน้าฆ่ามันแบบนัดก่อน รวมไปถึงแบ็คสองฝั่งแทบไม่ขึ้นเลย ยังดีว่าไม่ได้สั่งให้ทีมถอยไปตั้งรับไม่งั้นจะแย่กว่านี้ ที่คล็อปทำได้ไม่ดีเท่าไหร่เห็นจะเป็นการเปลี่ยนตัวช้า คือเกมเป็นรองอยู่นานแล้วตั้งแต่ครึ่งแรก แต่กว่าจะเปลี่ยนล่อไปนาที 67

_______ แต่ก็นั่นแหล่ะ เกมยังยันอยู่ 1-1 ไม่ต้องซีเรียสมากก็ได้

_______ ที่เป็นปัญหาจริงๆ อยู่ที่ฟอร์มผู้เล่นมากกว่า ลิเวอร์พูลวันนี้หงอยกว่านัดก่อนเยอะ ไม่รู้เจอบรรยากาศในโอลด์แทรฟฟอร์ดหรือยังไง ความมุ่งมั่นสู้คู่ต่อสู้ไม่ได้ วิ่งหาบอลน้อยกว่า วิ่งทำทางน้อยลง จังหวะให้บอลไม่เด็ดขาด ดูเฉพาะนัดนี้นัดเดียว พวกเขาสู้ไม่ได้และเล่นได้น่าแพ้

_______ แต่ก็นั่นแหล่ะ(อีกรอบ) ก็นี่มันบอลไปกลับนี่หว่า สกอร์รวมได้เปรียบสุดกู่ ก็เล่นประคองตัวไปก็พอ แล้วก็ประคองจนรอดได้จริงๆ
_______ เกมโต้กลับไปสิ่งที่ทีมทำได้โคตรแย่ในวันนี้ ขนาดลูกตีเสมอของคูตินโย่ที่มากจากการโต้กลับก็จริงก็ต้องบอกว่าเพื่อนไม่เติม ไม่มีคนเล่นด้วย คูตินโย่ถึงเล่นแบบนั้นด้วยนะ จังหวะแบบนั้นจริงๆ แล้วควรมีคนตีคู่มาได้เร็วกว่านั้น ทั้งเกมนี้โดยเฉพาะครึ่งหลัง แมนฯยูเปิดช่องกว้างบานตะไทใหญ่เป็นปากแม่น้ำแยงซีเกียงแต่ลิเวอร์พูลลำเลียงบอลจังหวะโต้พลาดกันเอง แค่ให้ตามช่องกันไปอย่างที่เคยทำได้น่าจะได้หลุดไปยิงในเขตโทษอย่างน้อยๆ ก็อีก 2-3 ครั้งแล้ว เดเคอาคงเซฟได้ไม่หมดหรอก แต่นี่พลิกบอลพลาดบ้าง เก็บบอลนานจนช่องปิดบ้าง น่าเสียดาย

_______ สำหรับยูโรป้าลีค ตราบใดที่เซบีย่ายังไม่ตกรอบโอกาสที่ใครจะได้แชมป์ก็น้อยครับ 555+ แต่เอาเถอะ เข้ารอบไว้ก่อนเป็นดี

_______ ส่วนทางด้านแมนฯยู เอ้อ ผู้เล่นเค้าก็ยังเล่นเพื่อผู้จัดการทีมอยู่นะ เรื่องนี้ดีใจด้วยจริงๆ ขนาด 20 นาทีท้ายที่ไม่รอดแน่แล้วก็ยังเล่นเต็มที่อยู่ และอย่างน้อยที่สุดพวกเขาก็ได้ลุ้นอยู่รวมครึ่งชั่วโมง ลุ้นที่จะทำได้อย่างที่ฟานกัลพูดคือชนะ 2-0 ในเวลา

_______ ...ถ้าไม่มีคูตินโย่ละก็นะ...
-----------------------------------------

นัดนี้เล่นได้แค่พอใช้

มินโยเล่ - เปิดบอลใกล้ไกลได้ดีทีเดียว มีจังหวะออกบอลเร็วเท่านั้นที่ทำได้แย่ การยืนตำแหน่ง การเล่นลูกกลางอากาศก็ทำได้ดี เห็นมีพลาดครั้งเดียวที่ออกไปกั๊กกับมิลเนอร์ในครึ่งแรกแต่ก็แก้ตัวด้วยการถอยไปปัดบอลทิ้งได้ทัน

มิลเนอร์ - รับมือแรชฟอร์ดและบาเรล่าได้ดีกว่าที่คิด เอาบอลกลับมาได้ไม่มากก็จริงแต่บังทางเปิดบอลและหยุดไม่ให้ไปต่อได้ ยิ่งพอไคลน์เริ่มเป๋ คู่ต่อสู้เฮละโลกันไปฝั่งนู๊นหมดมิลเนอร์ยิ่งเล่นง่าย

ลอฟเรน - ครึ่งแรกซ้อนไคลน์ห่างไปหน่อยแต่ครึ่งหลังดีขึ้น ดักบอลได้เยอะ ทั้งลูกโด่งลูกเรียด จ่ายบอลพาเสียวอยู่หลายรอบแต่ก็ไม่พลาดนะ

ซาโก้ - ประกบมาชิอัลได้ดี หยุดทั้งคนทั้งบอลที่เข้ามาในเขตโทษได้เยอะมาก เป็นแนวรับที่เล่นได้ดีที่สุดในวันนี้ แข็งแกร่งในทุกจังหวะ แต่ท้ายเกมเริ่มมั่นใจมากจนทำอะไรไม่เข้าท่าหลายครั้ง ยังดีว่าไม่ทำเสียประตูหรือพาตัวเองโดนใบเหลือง

ไคลน์ - นัดก่อนเรียกจุดโทษ นัดนี้ทำเสียจุดโทษ รับมือกับมาชิอัลได้ไม่ดีพอ เสียฟาล์วติดกันหลายครั้ง หลังจากเสียจุดโทษเริ่มเสียความมั่นใจด้วย ยังดีว่าประคองตัวรอดไปได้ไม่โดนเผา ไม่เสียใบเหลืองเพิ่ม แต่โดยรวมก็เป็นวันที่ไคลน์เล่นได้ไม่ดีนัก

ชาน - เข้าไปแย่งบอลได้ดี บังบอลได้อร่อยเหาะมาก ขวางปุ๊บจบไม่ต้องแย่งเลย จังหวะวิ่งเข้าไปเบียดบังเอาเหลี่ยมได้เปรียบก็ทำได้ดีทั้งเกม เสียแค่ว่าวิ่งน้อยไปหน่อย ทั้งวิ่งไล่บอล ทั้งวิ่งทำทางนั่นแหล่ะ

เฮนเดอร์สัน - ครึ่งแรกมีส่วนร่วมกับเกมเยอะ เอาบอลขึ้นหน้าได้บ้างแต่น้อย เชื่อมเกมไม่ค่อยดีเพื่อนไม่ได้เปรียบ ทำหมูหกในนาที 41 ที่อุตส่าห์หลุดเข้าไปได้ยิงในเขตโทษ ครึ่งหลังไม่ค่อยมีส่วนร่วมกับเกมและโดนเปลี่ยนออก

ลัลลาน่า - แทบไม่มีส่วนกับเกมรุกเลย ยังดีว่าช่วยไล่บอลเกมรับได้เยอะ โดยเฉพาะครึ่งหลังนี่แทบจะถอยลงมาเป็นแบ็คอีกคน

เฟอมิโน่ - ขยันวิ่งก็จริงอยู่แต่โดนไล่ติดจนพลิกบอลได้น้อยมาก ทำเสียบอลไม่มากเท่าไหร่แต่บอลออกไปเพื่อนก็ไม่ได้เปรียบเช่นกัน เป็นตัวรุกที่ดับสุดในทีม

คูตินโย่ - เชื่อมเกมดีที่สุดในทีมแล้วแต่หาเพื่อนเล่นด้วยไม่ค่อยได้ หลายครั้งเลยทำได้แค่หมุนไปหมุนมา ทำได้สุดยอดกับการตีเสมอที่ได้มาเพราะความสามารถเฉพาะตัวล้วนๆ

สเตอริดจ์ - วิ่งหาที่รับบอลได้ดี หาโอกาสยิงในเขตโทษได้ด้วยแต่พลาด อย่างไรก็ตาม วันนี้สเตอริดจ์ไม่ค่อยตามบอล เลี่ยงการปะทะมากไปหน่อย

ตัวสำรอง

โอริกิ&อัลเลน  - ขยันวิ่งไล่วิ่งทำทางดีตลอด แต่ก็ไม่ได้มีอะไรน่าจดจำมากนัก

เบนเทเก้ - ลงมาช่วยเคาะบอลให้เพื่อนได้บ้าง

แมน ออฟ เดอะ แมทช์ : ...มามาดู ซาโก้…คูตินโย่พาทีมเข้ารอบไม่ต้องสงสัย แต่นับเฉพาะนัดนี้คู่เซ็นเตอร์นี่ล่ะพาทีมยันเสมอมาได้ และซาโก้ดูดีกว่าลอฟเรนแบบไม่ต้องสืบ ทั้งๆ ที่ลอฟเรนก็เล่นไม่พลาดเลยนะ
------------------------------------------------------------
เครดิตภาพจากเวปทางการ

Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น