วันจันทร์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2556

สวอนซี 2 - 2 ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีค)


...ก็มันเหนื่อยอ้ะ...
--------------------------------------------------------

ลิเวอร์พูลเล่น 4-3-3

-----------------------สเตอริดจ์------------------------
โมเสส-----------------คูตินโย่-------------เฮนเดอร์สัน
-----------------ลูคัส----------เจอราร์ด----------------
เอนริเก้--------ซาโก้---------สเคอเทล---------วิสดอม
-----------------------มินโยเล่-------------------------

_______ หลังพักเบรคไปจากเกมทีมชาติ ลิเวอร์พูลลงเล่นในเกมพรีเมียร์ลีคอีกครั้งโดนออกไปเยือนสวอนซี นัดนี้ร็อดเจอร์ปรับทีมเยอะพอสมควร โดยซาโก้กับโมเสสได้ลงเป็นตัวจริงทั้งคู่(เข้าใจว่าแอกเกอร์เจ็บ) คูตินโย่ขยับมาเล่นตรงกลางเต็มตัว และวิสดอมได้ลงเป็นตัวจริงแทนจอห์นสันตามคาด
-------------------------------------------------------

_______ เริ่มเกมมาผู้เล่น 21 คนในสนามก็ต้องมองตากันปริบๆ เมื่อเชลวี่ย์โชว์เดี่ยวเรียกแสงสปอร์ตไลท์ไว้คนเดียว เริ่มจากนาที 2 จะยิงไกลแต่แป็กกลายเป็นดีบอลทะลักไปข้างหน้า เจ้าตัวตามเข้าไปยิงเข้าได้สำเร็จ 1-0 แต่หลังจากนั้นแค่ 2 นาที ก็จัดการส่งกลับหลังไม่ดูตาม้าตาเรือโดนสเตอริดจ์แอบวิ่งโฉบมายิงก่อนบอลถึง ผู้รักษาประตูได้ 1-1

_______ เกมกลับมาเริ่มต้นกันใหม่อีกครั้ง ลิเวอร์พูลเน้นการครอบครองบอลเป็นหลัก แบ็คเติมขึ้นมาช่วยต่อบอลและคูตินโย่ก็ถอยลงมาช่วยเชื่อมตลอด ทำให้ครองบอลได้มากกว่าขึ้นเรื่อยๆ แต่กลายเป็นด้านหน้าไม่ค่อยมีคนทำทาง ถึงอย่างนั้นก็ยังพอหาช่องเจาะได้บ้าง ส่วนทางสวอนซีได้ครองบอลไม่มาก แต่พอได้บอลก็เน้นทำเกมเร็วพอได้ลุ้นนิดหน่อย

_______ ผ่านครึ่งชั่วโมงของเกมไป สวอนซีเริ่มเล่นช้าลงและหันมาครองบอลมากขึ้น แต่แล้วพระเอกคนเดิมก็แผลงฤทธิ์อีกครั้ง นาที 36 เชลวี่ย์จ่ายบอลกลางสนามพลาดไปเข้าเท้าโมเสส แล้วก็เป็นโมเสสที่พาบอลมาเองจนถึงหน้าเขตโทษแล้วยิงหักข้อเสียบเสาแรกเข้า ไปได้เป็น 2-1 หลังจากนั้นสวอนซีหันมาเล่นเกมรุกเต็มตัวและเริ่มทำได้ดีขึ้นแต่สกอร์ยังไม่ขยับจนกระทั่งจบครึ่งแรกที่ 2-1

_______ เข้าครึ่งหลัง สวอนซีกลับลงมาเปิดเดินหน้าเปิดเกมรุกต่อ ทางด้านลิเวอร์พูลเริ่มหันมาเล่นเกมรับเน้นคุมพื้นที่ในแดนตัวเองมากขึ้น รูปเกมดูสูสีเพราะสวอนซีแม้จะเล่นเกมรุกแต่ก็ไม่ได้ดาหน้าเติมกันขึ้นมาพร่ำ เพรื่อ ลิเวอร์พูลเองก็ยังเกมบอลได้และพอทำเกมขึ้นไปได้เป็นระยะ รวมไปถึงลุ้นได้บ้างอีกด้วย

_______ แต่แล้วนาที 54 คูตินโย่ก็เจ็บจนเล่นต่อไม่ได้(น่าจะที่ไหล่) อัสปาสได้ลงมาแทนและเล่นในตำแหน่งของคูตินโย่เลย ซึ่งทำให้ลิเวอร์พูลเริ่มครองบอลได้น้อยลง และต้องหันไปพึ่งลูกวางยาวมากขึ้นซึ่งไม่ค่อยได้ผลนัก ส่วนสวอนซีขยับเกมรุกของตัวเองดีขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งทำสำเร็จในนาที 64 จากบอลโด่งกลางสนามมาหน้าเขตโทษ แล้วก็เป็นเชลวี่ย์(อีกแล้ว)โหม่งชงไปให้มิชูวิ่งเข้ายิงเข้าไปได้สำเร็จ 2-2

_______ เกมของสวอนซียังดีต่อเนื่อง ตรงกันข้ามกับลิเวอร์พูลที่เิริ่มออกอาการเป๋ไปเป๋มา นาที 69 ร็อดเจอร์ต้องส่งตูเร่ลงมาแทนวิสดอมที่เล่นไม่ค่อยดีนักและรับใบเหลืองไป แล้ว ถึงตรงนี้สวอนซีเริ่มไล่ในแดนหน้ามากขึ้นและครองบอลเอาไว้ได้ตลอด ลิเวอร์พูลโต้แทบไม่ขึ้นแล้ว อีกทั้งผู้เล่นหลายคนยังออกอาการล้าและหมดแรงวิ่งไปหลายคน

_______ นาที 80 สเตอริ่งได้ลงมาแทนโมเสส ลิเวอร์พูลถอยไปรับเต็มที่ตัดได้วางยาวไปข้างหน้าทันที ซึ่งบอลส่วนใหญ่ไม่ผ่านแนวรับสวอนซี ส่วนสวอนซีก็บดเข้าใส่อย่างหนัก ได้ลุ้นอย่างต่อเนื่อง แต่แนวรับและผู้รักษาประตูยังประคับประคองเอาตัวรอดไปได้แบบสะบักสะบอมจน กระทั่งหมดเวลา ยันสกอร์เอาไว้ได้ที่ 2-2 อย่างน้อยก็เก็บ 1 แต้มออกไปได้สำเร็จ
-----------------------------------------

_______ ให้สรุปสั้นๆ เลยคือวันนี้ไม่มีแรงวิ่งครับ

_______ 11 ตัวจริงในวันนี้แม้จะเปลี่ยนไปพอสมควรแต่ก็ไม่ถึงขั้นน่าแปลกใจอะไรนัก วิสดอมยังดูดีกว่าเคลลี่ที่พึ่งฟิต, อิยอริที่พึ่งมา(แถมตำแหน่งหลักของเจ้าตัวยังเป็นเซนเตอร์ด้วย) ซาโก้ได้ลงแทนแอกเกอร์ค่อนข้างมั่นใจว่าเป็นเพราะอาการบาดเจ็บ เพราะไม่มีเหตุผลอะไรให้ต้องดรอปแอกเกอร์ ในรายของโมเสส อัสปาสที่ได้ลงตัวจริงติดต่อกันก่อนหน้านี้ก็ผลงานไม่ค่อยดีนัก โมเสสจะได้ลงก่อนก็เหมาะแล้ว

_______ แทคติคตอนเริ่มเกมที่เน้นการครองบอลแล้วค่อยๆ หาช่องเจาะดูเหมาะสมรัดกุมดีแล้ว ส่วนครึ่งหลังหากดูจากสภาพผู้เล่นหลายคนแล้ว คงทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าที่เห็น เพราะคูตินโย่เจ็บ เจอราร์ดดูหมดแรง เกมรับกลางสนามที่เคยวิ่งไล่บีบเร็วก็วิ่งกันไม่ค่อยไหว ลงท้ายเลยได้แค่ประคองเกมไปเรื่อยๆ เท่านั้น

_______ เกมนี้เป็นเกมของเชลวี่ย์อย่างไม่ต้องสงสัย เมื่อเจ้าตัวมีส่วนร่วมกับทุกประตูที่เกิดขึ้น แต่สิ่งที่ทำให้รูปเกมมันออกมาเป็นอย่างที่เห็น ผมมองว่าเป็นเพราะเกมแดนกลางของลิเวอร์พูลเองมากกว่า วันนี้เกมแดนกลางทำได้ไม่ดีนัก ลูคัสกับเจอราร์ดปิดพื้นที่หน้าเขตโทษได้ไม่ดีพอ รวมไปถึงช่วงเวลาหลังจากไม่มีคูตินโย่แล้ว แดนกลางลิเวอร์พูลเก็บบอลและเปลี่ยนรับเป็นรุกแทบไม่ได้เลย

_______ นอกจากนั้นก็เป็นเรื่องของความฟอร์มการเล่นรายบุคคล วิสดอมหลุดตำแหน่งบ่อยครั้งมาก และซาโก้เองก็ดูจะพรวดพราดเข้าบอลอยู่ตลอด ส่วนหนึ่งมาจากการต้องเล่นคู่กับสเคอเทลที่ดูจะต้องจูนกันอีกหลายตลบเพราะ ทั้งคู่ถนัดเป็นตัวชนมากกว่าจะเป็นตัวซ้อน สเคอเทลก่อนหน้านี้ไม่ว่าจะเล่นกับแอกเกอร์,คาราเกอร์,โคอาเตส เขารับบทเป็นตัวชนมาตลอด มาเจอซาโก้ที่พุ่งเข้าไปก่อนเสมอทำให้สเคอเทลต้องเป็นตัวซ้อนทำเอาดูเก้ๆ กังๆ ยังไงชอบกล

_______ ถึงรูปเกมจะดูไม่ดีนัก และผลลัพธ์อาจจะไม่ใช่ผลเลิศ แต่เกมนี้ลิเวอร์พูลยังมีอะไรดีๆ ให้ดูอีกหลายอย่าง ช่วงครึ่งชั่วโมงแรก ผู้เล่นลิเวอร์พูลทุกคนเล่นฟุตบอลจังหวะเดียวได้ดีมาก และการจับบอลทำได้สุดยอด ไม่มีลั่น ไม่ค่อยพลาด การจบสกอร์ในจังหวะที่มีไม่มากนักก็ทำได้ถึง 2 ประตู และในวันที่รูปเกม "ไม่น่ารอด" แบบนี้ยังเก็บได้ 1 แต้ก็ทำให้ยังรักษาตำแหน่งจ่าฝูงต่อไปได้อีก 1 อา่ทิตย์ (แม้จะขาสั่นๆ สักเล็กน้อยก็ตาม)

_______ ไอ้เรื่องที่บ่นก็บ่นกันไป แต่ยังไงๆ ผลงานโดยรวมก็ยังดูดีนะเนี่ย
 -------------------------------

นัดนี้เล่นพอใช้ได้ ค่อนไปทางไม่ค่อยดีนัก

ร็อดเจอร์ - วางแทคติคเริ่มเกมได้ดี ตอนครึ่งหลังน่าจะมีอะไรมาช่วยลูกทีมดีกว่านี้สักหน่อยเพราะท้ายครึ่งแรกก็ เริ่มเห็นช่องโหว่แล้ว (อุดเลยมั้ย หรือขยับเฮนเดอร์สันเข้ากลางมาช่วยไล่ ฯลฯ) ตอนเปลี่ยนอัสปาสลงมาน่าจะลงมาสลับตำแหน่งกับเฮนเดอร์สัน (แต่อาจจะเป็นเพราะหวังให้เฮนเดอร์สันลงไปช่วยวิสดอมก็เป็นได้) การเปลี่ยนตูเร่ลงมาแทนวิสดอมก็โอเคดีในแง่ที่ไม่ดันทุรังใช้วิสดอมต่อใน สถานการณ์ที่เจ้าตัวเริ่มพลาดเยอะและได้ใบเหลืองแล้ว ส่วนการส่งสเตอริ่งก็ดีกว่าไม่ได้ทำอะไร อย่างน้อยก็ได้ลุ้นกับลูกโต้ยาวๆ

มินโยเล่ - เซฟได้ดี (เอาจริงๆ แค่นี้ก็แฮปปี้แล้ว) ตัดบอลกลางอากาศได้ตลอด เล่นบอลกับพื้นโดยเฉพาะลูกส่งคืนหลังได้ดีขึ้นมาก ออกบอลพอใช้ได้ ดูมีทิศทางขึ้น

เอนริเก้ - หลังจาก 10 นาทีแรกก็แทบไม่ได้ขึ้นมาช่วยเกมรุกอีกเลย เกมรับคุมพื้นที่ของตัวเองได้ดี เก็บบอลและผ่านบอลขึ้นหน้าได้ เป็นแนวรับที่ดูดีที่สุดในวันนี้

ซาโก้ - พรวดพราดได้ถึงอกถึงใจมาก เห็นบอลเมื่อไหร่พุ่งเข้าใส่ทันที ส่วนใหญ่ก็แม่น แต่ส่วนน้อยที่วืดนี่พาเอาทีมแย่ไปหลายครั้งเหมือนกัน ที่ดูดีคือเร็ว,หนา กลางอากาศไว้ใจได้

สเคอเทล - ซ้อนเพื่อนได้ไม่ดีนัก รวมไปถึงการวิ่งตามคู่ต่อสู้ที่วิ่งทำทางก็ดูจะมีปัญหา แต่การเข้าสกัดและโหม่งทำได้ดี

วิสดอม - ช่วงครึ่งชั่วโมงทำได้ดี แต่ท้ายครึ่งแรกต่อต้นครึ่งหลังที่โดนกดดันหนักขึ้นๆ เริ่มออกอาการสะเปสะปะให้เห็น อ่านเกมไม่ดีและยืนหลุดตำแหน่งหลายครั้งทั้งๆ ที่ไม่ได้เติมขึ้นไปข้างหน้า

ลูคัส - ครึ่งแรกเล่นใช้ได้ เด่นในการเชื่อมเกมและผ่านบอลไปข้างหน้า แต่ปิดพื้นที่หน้าเขตโทษได้ไม่ดีนัก ส่วนครึ่งหลังนี่วิ่งแทบไม่เจอบอลและเก็บบอลแทบไม่ได้เลย

เจอราร์ด - ความฟิตดูมีปัญหา เคลื่อนที่น้อย (ก็เล่นไปฟัดเกมทีมชาติ 90 นาทีเต็มมาสองนัดนี่) เกมรับช่วยทีมได้น้อยกว่าที่ควร และการเปลี่ยนรับเป็นรุกเคยทำได้ดีกว่านี้

เฮนเดอร์สัน - วิ่งเยอะมากตั้งแต่ต้นเกม ทั้งทำทางแถวริมเส้น, วิ่งไล่แดนกลาง แถมต้องลงไปช่วยถึงมุมธง ซึ่งทั้งหมดนี้ช่วยทีมได้มาก เล่นกับบอลได้ดีด้วย วันนี้จังหวะจับบอลทำได้สุดยอด อย่างไรก็ตาม พอผ่าน 1 ชั่วโมงไปก็ดูหมดแรงวิ่ง ซึ่งทำให้ช่วยทีมได้น้อยลงตามไปด้วย

คูตินโย่ - ไม่มีบอลทะลุช่องให้เห็นสักเท่าไหร่ ลงมาช่วยเชื่อมเกมแดนกลางเยอะกว่าที่ผ่านมาและทำได้ดีเอามากๆ ช่วงเวลาที่มีกับไม่มีคูตินโย่ รูปเกมของลิเวอร์พูลต่างกันไปคนละเรื่องเลย โดยเฉพาะการครอบครองบอล

โมเสส - พาบอลไปกับตัวได้ดี ปัญหาคือคุณน้องเธอเล่นจะพาไปเองอยู่ตลอด จังหวะจบและจ่ายในพื้นที่สุดท้ายทำได้น่าพอใจ

สเตอริดจ์ - เป็นอีกคนที่ดูหมดแรง วิ่งเต็มที่ได้แค่ครึ่งแรก ตอนที่ยังมีแรงอยู่วิ่งทำทาง, จับบอลและเก็บบอลได้ยอดเยี่ยม ฉวยโอกาสยิงลูกแรกได้ดีด้วย พอเริ่มหมดแรงประกอบกับแดนกลางทำเกมไม่ได้ก็หายละลายไปกับพื้นหญ้าในที่สุด

ตัวสำรอง 

อัสปาส -  เล่นคนละสไตล์กับคูตินโย่ ไม่ถนัดในการเก็บบอล ชอบให้แล้วไปมากกว่า ซึ่งพอไม่มีคนวิ่งทำทางดีๆ (สเตอริดจ์หมดแรง, คนอื่นๆ เติมไม่ทันเพราะรับอยู่) เลยกลายเป็นทำให้ทีมเสียบอลเร็ว เล่นไม่ได้แย่(อันที่จริงดูดีด้วยซ้ำ) แต่วิธีเล่นมันไม่เหมาะกับตำแหน่งและสถานการณ์ นาทีสุดท้ายเกือบเป็นฮีโร่แล้วแต่ดันโดนสกัดเสียก่อน

ตูเร่ - ลงมาเล่นได้ดูดีกว่าวิสดอม...แม้จะใช้งานเฮนเดอร์สันหนักไปนิด(ให้เด็กเข้า ก่อนตลอด) แต่รักษาตำแหน่งและเก็บบอลเล่นได้ดีกว่าวิสดอมมาก

สเตอริ่ง - ลงมาลุ้นตามแทคติค แต่ก็ไม่ได้ลุ้นอะไรมาก

แมน ออฟ เดอะ แมทช์ : ...จอนโจ้ เชลวี่ย์... ลอร์ดโวลเดอร์มอร์เวอร์ชั่นมีจมูกคนนี้ ยิง 1 จ่าย 3 ให้กับทั้งสองทีม เล่นเอาสเตอริดจ์ที่ยิง 4 นัดรวด, เอนริเก้ที่เล่นดีสุดในแผงหลังหงอยไปเลย
------------------------------------------------------------

Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments. 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น