วันเสาร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

อินโดนีเซีย XI 0 - 2 ลิเวอร์พูล (พรีซีซั่น)

คุ้่มค่าตั๋ว (เพราะได้ดูชุดใหญ่ทั้งทีมจริงๆ)
--------------------------------------------------------

ลิเวอร์พูลเริ่มจาก 4-5-1 หรือจะเรียก 4-3-3, 4-3-2-1, 4-1-4-1 อะไรก็ตามใจฝันเถอะครับ เอาเป็นว่าอัสปาสยืนหน้าเดี่ยวแล้วแผงหลังยืนกัน 4 คนก็แล้วกัน

-----------------------อัสปาส-----------------------
คูตินโย่----------------------------------------ดาวนิ่ง
------อัลแบร์โต้--------ลูคัส----------เจอราร์ด------
เอนริเก้-------แอกเกอร์--------ตูเร่--------จอห์นสัน
-----------------------มินโยเล่-----------------------

_______ ลิเวอร์พูลเริ่มออกทัวร์เอเชีย โดยจัดผู้เล่นชุดใหญ่ไปเต็มทีม ขาดแค่ซัวเรสที่ได้พักต่อจากการไปเล่นคอนเฟดฯ และสเตอริดจ์ที่เจ็บ นัดแรกอุ่นเครื่องกับอินโดนีเซีย เริ่มเกมด้วยตัวผู้เล่นตามที่เห็น
-------------------------------------------------------

_______ เริ่มเกมมาทั้งสองฝ่ายเล่นกันค่อนข้างเร็ว, เน้นเกมรุกและไม่คิดอะไรมากตามสไตล์บอลอุ่นเครื่อง อินโดนีเซียได้บอลน้อยกว่าแต่พอได้บอลก็พยายามจะบุก ลิเวอร์พูลครองบอลบุกใส่แต่ส่วนมากก็ตกม้าตายอยู่แถวๆ หน้าเขตโทษ ไม่ค่อยได้จบสกอร์มากนัก

_______ จนกระทั่งนาที 10 คูตินโย่ได้บอลแถวหน้ากรอบเขตโทษฝั่งซ้าย พยายามจะทำชิ่งบอลติดกองหลังแต่ยังเด้งกลับไปเข้าทางให้เจ้าตัวหลุดเดี่ยว เข้าไปในกรอบเขตโทษก่อนจะยิงผ่านผู้รักษาประตูไปได้สำเร็จ 1-0

_______ ลิเวอร์พูลยังครองบอลบุกต่อเนื่องโดยเน้นเกมริมเส้น กลางครึ่งแรกเริ่มมีการสลับตำแหน่งเอาคูตินโย่ยืนกลาง อัลแบร์โต้ไปซ้าย และเจอราร์ดดันขึ้นมาเล่นเกมรุกมากขึ้น แต่ผลลัพธ์ก็ไม่ต่างจากเดิมมากนัก บอลเข้าทำยังทำกันไม่ได้และจบครึ่งแรกที่สกอร์ดังกล่าว

_______ เข้าครึ่งหลัง ลิเวอร์พูลเปลี่ยนแค่ 2 คนคือส่งโรบินสันลงมาเล่นแทนเอนริเก้ อัลเลนแทนเจอราร์ด แต่มีการสลับตำแหน่งกันเป็นระยะๆ โดยดาวนิ่งได้หุบเข้าไปเล่นตรงกลางมากขึ้นและอัลแบร์โต้ถูกถ่างมาเล่นด้าน ขวา เกมในสนามแม้จะเล่นกันเต็มที่และเข้าบอลกันค่อนข้างหนักสำหรับเกมอุ่น เครื่อง แต่รูปเกมก็ออกแนวรีรีข้าวสารสังขยาข้าวเปลือกเป็นส่วนใหญ่ ก่อนที่ลิเวอร์พูลจะมีการปรับทีมขนานใหญ่ในนาที 65 ดังนี้

ลิเวอร์พูลเปลี่ยนมาเล่น 4-2-2-2

-----------------บอรินี่------อัสไซดี้-----------------
สเตอริ่ง-----------------------------------------ไอบี้
-----------เฮนเดอร์สัน---------อัลเลน--------------
โรบินสัน------วิสดอม--------สเคอเทล--------เคลลี่
----------------------มินโยเล่------------------------

_______ ลิเวอร์พูลเร่งความเร็วของเกมมากขึ้น และเน้นการเลี้ยงจี้ในเกมรุกเป็นส่วนใหญ่ รูปเกมดูดีขึ้นและไปถึงเขตโทษบ่อยขึ้น อัสไซดี้นั้นคอยวิ่งไปรับบอลริมเส้นอยู่ตลอด ส่วนสเตอริ่งกับไอบี้มีอิสระในการเล่นค่อนข้างมาก ไม่ได้โดนตรึงไว้ให้เล่นแค่เฉพาะริมเส้น มีจังหวะได้ลุ้นมากขึ้นแต่ส่วนใหญ่ก็หนักไปทางได้ลุ้นเท่านั้น

_______ อินโดนีเซียเองก็เล่นกันได้ค่อนข้างดี ไม่ได้ผ่อนเกมหรือปล่อยให้ลิเวอร์พูลเล่นโชว์ตามใจฝัน ทั้งยังได้ลุ้นอยู่เป็นระยะจากการได้เปิดบอลเข้าเขตโทษพอสมควร แต่บอลไม่ถึงกองหน้า รวมไปถึงลูกเตะมุมที่โยนเข้ามาได้ลุ้นตลอด แต่ก็ได้แค่ลุ้นตลอดเช่นกัน เกมทำท่าจะจบด้วยผล 1-0 แล้วแต่ท้ายเกมนาที 87 จากจังหวะที่ผู้เล่นอินโดนีเซียเติมขึ้นไปเล่นลูกเตะมุมกันเยอะ ลิเวอร์พูลสกัดได้และไอบี้เก็บบอลได้ก่อนจะกระชากบอลใช้ความเร็วฉีกหนีผู้ เล่นอินโดนีเซีย ลากยาวไปกว่าครึ่งสนามก่อนจะผ่านบอลให้ัอัสไซดี้ที่ไม่ยอมยิงเอง แต่จ่ายต่อไปให้สเตอริ่งแปโล่งๆ เข้าไปเป็น 2-0 ก่อนจะจบเกมด้วยสกอร์ดังกล่าว
 -----------------------------------------

_______ ก่อนอื่นเลยก็ต้องย้ำไว้ก่อนว่านี่คือเกมอุ่นเครื่อง (อุ่นเครื่องผู้เขียนด้วย ไม่ได้เขียนมาตั้งสองสามเดือน) อย่าไปอะไรกับมันมากนัก และสิ่งที่จะพูดถึงต่อไปนี้ก็คือสิ่งที่เกิดขึ้นเฉพาะนัดนี้เท่านั้น ใครที่เล่นไม่ค่อยดีไม่ค่อยออกก็หวังว่าเิปิดฤดูแล้วจะกลับมาเข้าที่เข้าทาง ได้ครับ

_______ โดยรวมแล้ว นัดนี้ลิเวอร์พูลผ่านบอลกันน้อยลง บอลที่ไปตันอยู่แถวหน้าเขตโทษไม่ค่อยโดนส่งย้อนกลับมามากนัก คือจะจ่ายจะยิงจะเลี้ยงลุยก็ว่ากันไปเลย ทำให้เกมดูไม่ค่อยลื่นไหลเท่าไหร่ ที่น่าแปลกใจคือผู้เล่นลิเวอร์พูลเล่นกันได้กระตือรือร้นมากกว่าที่คิด ขยันเคลื่อนที่กันพอสมควร และหลายครั้งเข้าบอลกันไม่เหมือนเกมอุ่นเครื่องสักเท่าไหร่

_______ ทางด้านแทคติค เกมนี้เริ่มจากแทคติคดั้งเดิมที่ใช้มาตลอดจากฤดูกาลที่แล้วคือ 4-5-1 (4-3-3) ผู้เล่นก็ได้เล่นตามตำแหน่งที่ได้เล่นมาก่อนทุกคน ช่วงนี้เกมค่อนข้างไหลลื่น โดยเฉพาะจากแบ็คสองข้างที่เติมขึ้นมาช่วยเล่นได้ดีทั้งสองฝั่ง แต่บอลจังหวะเข้าทำไม่ดี อัสปาสที่เป็นตัวเป้า วิ่งไปคนละทางกับบอลบ้าง วิ่งผิดจังหวะบ้าง เจอราร์ดก็จ่ายบอลพลาดอยู่เกือบตลอด และอัลแบร์โต้ดูจะช้าจนทำเพื่อนเสียจังหวะกันไปตามๆ กัน บอลเกมรุกส่วนใหญ่ต้องหวังพึ่งคูตินโย่กับแบ็คสองข้างที่เติมถึงสุดเส้น พอเข้าช่วงกลางถึงท้ายครึ่งแรก คูตินโย่อยู่ตรงกลางมากขึ้นยิ่งทำให้บอลไปกระจุกอยู่กลางสนาม เพราะอัลแบร์โต้(ซ้าย) กับดาวนิ่ง (ขวา) เล่นไม่ได้ ยิ่งเจาะไม่เข้าไปกันใหญ่

_______ ต้นครึ่งหลัง การเปลี่ยนโรบินสันแทนเอนริเก้ ยิ่งทำให้เกมรุกปีกหันไปข้างเพราะขาดการเติมเกมที่ดีของเอนริเก้ ส่วนอัลแบร์โต้ที่ไปเล่นฝั่งขวายิ่งดับสนิทยิ่งกว่าครึ่งแรก เลยทำให้เกมช่วงนี้ยิ่งตื้อตันหนักเข้าอีก จนกระทั่งมีการเปลี่ยนเกือบยกทีมในนาที 65 นั่นแหล่ะเกมของลิเวอร์พูลถึงได้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง โดยหันมาพึ่งความเร็วและความสามารถเฉพาะตัวของ 2 ดาวรุ่งอย่างสเตอริ่งและไอบี้ในการเลี้ยงจี้เป็นหลัก ซึ่งทั้งสองคนก็เล่นได้ดีจนดาวนิ่งกับอัลแบร์โต้(รวมคูตินโย่ตอนเล่นริมเส้น ด้วยก็ยังได้)ต้องรีบเรียกฟอร์มตัวเองให้มากๆ เลยถ้าหวังจะได้ลงตัวจริงในตำแหน่งริมเส้น

_______ สำหรับ 4-2-2-2 ในนาที 65 นี้ น่าจะเป็นเกมรุกขั้นกว่าของ 4-5-1 เดิมที่ร็อดเจอร์ใช้อยู่ โดยพื้นฐานก็คือตัดกลางรับที่ห้อยอยู่หน้าเขตโทษออกไปแล้วเพิ่มกองหน้าลงไป อีกตัว ทำให้กองกลางสองตัวมีหน้าที่รับผิดชอบกว้างขึ้นและไม่ได้ยุ่งอะไรกับเกมรุก มากนัก หนักไปทางปิดพื้นที่และเชื่อมเกม ปล่อยให้เกมรุกเป็นเรื่องของตัวรุก 4 คนที่จะวิ่งหาพื้นที่เล่นกันไปเอง โดยมีแบ็คเติมขึ้นมาช่วยเด้งบอลคืนไปให้เวลาไปไม่เป็น ดูแล้วก็น่าสนใจดีในกรณีที่สามารถเก็บซัวเรสไว้ได้และสเตอริดจ์ฟิตสมบูรณ์ เพราะลิเวอร์พูลมีผู้เล่นที่เร็วและไปกับบอลได้ดีอยู่เป็นเข่ง เวลาเจอคู่ต่อสู้ที่เล่นเน้นตั้งโซนรัดกุมน่าจะช่วยได้ไม่น้อย เพราะจะเรียกฟาลว์และดึงให้ผู้เ่ล่นแนวรับหลุดโซนได้ดีกว่าสไตล์พินบอลหน้า เขตโทษในฤดูกาลก่อน แต่ถ้าต้องเล่นโดยที่ใช้ตัวรุกที่มีอยู่ในวันนี้ เก็บแผนนี้ใส่ไห เติมน้ำเกลือลงไปเยอะๆ แล้วขุดหลุมฝังไว้ใต้ถุนบ้านไปก่อนได้เลยครับ

_______ ปัญหาที่เห็นได้ชัดในนัดนี้คือทีมเวิร์คยังดูไม่ได้ ช่วงต้นเกมที่มีแค่อัสปาสกับอัลแบร์โต้ที่เป็นตัวใหม่เล่นอยู่ ยังสามารถเล่นกันได้อย่างลื่นไหล ถ่ายบอลกันได้ต่อเนื่องจนถึงหน้าเขตโทษ แต่พอถึงครึ่งหลังโดยเฉพาะช่วงที่ปรับทีมใหม่นาที 65 การประสานงานในทีมแทบไม่มีเลย หนักไปทางความสามารถเฉพาะตัวและเล่นกันไปตามช่อง ก็หวังว่าลิเวอร์พูลจะใช้เวลาช่วงพรีซีซั่นปรับตรงนี้ให้ได้โดยเร็ว ถ้าเปิดฤดูกาลแล้วยังต้องปรับอยู่ ฤดูนี้ก็เหนื่อยละครับ
 -------------------------------

นัดนี้เล่นกันแบบอุ่นเครื่อง (อย่าซีเรียสนะ ย้ำอีกครั้งว่าพูดถึงเฉพาะนัดนี้)

มินโยเล่ - เล่นบอลกับเท้าได้ไม่เนียนเท่าไหร่ บอลไม่นิ่งพี่ก็ชิ่งซะแล้ว แต่การออกมาปิดมุม ออกมาตัดบอลไกลเส้นประตูทำได้ดี

จอห์นสัน/เอนริเก้ - ขยันเติม ไปได้ยันสุดเส้น เกมรับไม่มีอะไรให้ห่วงเท่าไหร่

แอกเกอร์ - ย้ำอีกครั้งว่าเป็นเซนเตอร์ที่ผ่านบอลและเชื่อเกมได้ดี ในเกมรับแทบไม่ต้องทำอะไร

ตูเร่ - เป็นคนที่ต้องดวลตัวต่อตัวกับกองหน้าเยอะที่สุดของทีม ทางบอลดีเข้าบอลแม่น

ลูคัส - เคลื่อนที่น้อย เล่นยั้งๆ ผ่อนๆ ปิดพื้นที่และหยุดเกมรุกได้ดีแต่นัดนี้ไม่ค่อยวิ่งตามบอล

เจอราร์ด - จังหวะการเล่นยังไม่เข้าที่ จ่ายบอลพลาดเยอะ วิ่งเติมก็ไม่ถึงบอล

อัลแบร์โต้ - คิดนาน เล่นช้า ลุ้นกันต่อไป

ดาวนิ่ง - ได้เล่นอยู่ราวๆ 5 นาทีแรก ที่ได้บอลตลอด หลังจากนั้นก็....นิ่ง นิ่ง นิ่ง นิ่ง

คูตินโย่ - ขยันและสมาธิจนยิงลูกแรกได้ แตะบอลดึงหลบคู่ต่อสู้ได้ดี จ่ายบอลทีเด็ดทีขาดวันนี้น้ำหนักไม่ค่อยได้

อัสปาส - หาที่ว่างได้เด็ดขาดมาก คือเจอแต่ที่ว่างไม่เจอบอล

โรบินสัน - ขึ้นมาเชื่อมเกมช้า เกมรับลูก 50/50 ดันรอกรรมการป่าวนกหวีดไม่ยอมเล่นต่อ

เฮนเดอร์สัน - เคลื่อนที่ได้ดีทั้งการปิดพื้นที่และหาที่ว่างรับบอล

อัลเลน - เชื่อมเกมได้ดีกว่าเจอราร์ด

บอรินี่ - คาดว่าหนีไปตั้งวงกับดาวนิ่ง

อัสไซดี้ - ไปกับบอลได้ดี แต่จังหวะเปิดบอลเหมือนไม่ได้มองเพื่อน ยกเว้นจังหวะจ่ายสเตอริ่งยิงลูกที่สอง

สเตอริ่ง/ไอบี้ - เร็วและครองบอลได้ดี แต่ทีเด็ดทีขาดดูยังต้องปรับปรุง โดยเฉพาะจังหวะสุดท้ายไม่ว่ายิงหรือจ่าย

แมน ออฟ เดอะ แมทช์ : ...ซิมง มินโยเล่... เพราะอยากพิมพ์ชื่อเต็มๆ ของเค้าครับ เหตุผลแค่นั้นแหล่ะ
------------------------------------------------------------
Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น