วันอังคารที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

Liverpool Best XI Season 2012-2013

_______ ผู้จัดการทีมใหม่...ผู้เล่นใหม่...แทคติคใหม่...ฤดูกาลแห่งการเปลี่ยนแปลง(อีกครั้ง) แม้ว่าจะจบแบบไม่สวยนักด้วยการวืดหมดทุกถ้วย พลาดโควต้าบอลยุโรป และปิดฤดูกาลไปก่อนชาวบ้าน (หมดลุ้นใดๆ ทั้งสิ้นตั้งแต่ก่อนฤดูกาลจบเป็นเดือน) แต่ก็ถือว่าเป็นฤดูกาลที่มีสีสรรน่าสนใจไม่น้อย โดยเฉพาะฟอร์มการเล่นในสนามของผู้เล่นหลายคนที่สลับหน้ากันขึ้นมาเด่นเป็นระยะ จนไม่มีใครที่ยึดสปอตไลท์ไว้ที่ตัวได้คนเดียวแบบหลายฤดูกาลที่ผ่านมาเลย

_______ โดยสังเขป แบรนดอน ร็อดเจอร์ ทำทีมแบบลองผิดลองถูกไปเรื่อยๆ มาตลอดฤดูกาล อันไหนทำท่าจะดีก็ใช้ต่อเนื่องไปสัก 4-5 นัดก่อนที่จะเริ่มปรับเปลี่ยนตัวผู้เล่นและรายละเอียดการเล่นเล็กๆ น้อยๆ ลิเวอร์พูลทำได้ดีมากในเรื่องการทำประตูที่ยิงได้เป็นกอบเป็นกำมากขึ้นกว่าฤดูก่อนร่วม 30 ลูก(นับเฉพาะในลีค), การเอาชนะทีมเล็กที่ทำได้ในแน่นอนมากขึ้น, เก็บแต้มได้มากขึ้น ส่วนสิ่งที่ทำได้ไม่ดีนักคือการรับมือกับทีมที่อันดับดีกว่าที่ลิเวอร์พูลเอาชนะแทบไม่ได้เลย, เกมรับที่เสียประตูจากความผิดพลาดของตัวเองง่ายๆ บ่อยครั้ง และการรับมือกับสถานการณ์กดดันได้ไม่ดี เมื่อทีมตามหรือต้องการชัยชนะในเวลาที่เหลือในเกมไม่มากนัก มักพลิกผลลัพธ์ให้ได้ตามต้องการไม่สำเร็จ

_______  ร็อดเจอร์นั้นมีแทคติคหลักอยู่ที่การเล่นแบบ 4-2-3-1 ดันแผงหลังสูง ใช้แบ็คเล่นเกมรุกมาก เน้นบอลสั้นตามช่องและครองบอลไว้กับตัว เข้าทำตรงกลางเป็นหลัก แม้รายละเอีดการเล่นจะปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ แต่หลักๆ ก็เล่นกันแบบนี้ ดังนั้นขอเลือก 11 ผู้เล่นตามแทคติคนี้เป็นหลักนะครับ

Liverpool best XI season 2012-2013


-----------------------ซัวเรส-------------------------

คูตินโย่-------------เฮนเดอร์สัน---------------ดาวนิ่ง

-------------ลูคัส----------------เจอราร์ด-----------

เอนริเก้------แอกเกอร์-------สเคอเทล-----จอห์นสัน

------------------------เรน่า-------------------------

ไล่ตามตำแหน่งจากหลังขึ้นหน้า เริ่มที่

ผู้รักษาประตู : โฆเซ่ เรน่า

_______ แม้ว่าฤดูการนี้ฟอร์มของเรน่าจะลุ่มๆ ดอนๆ ดรอปลงมาจากฤดูกาลก่อนๆ อย่างน่าใจหาย แต่ในภาพรวมแล้ว เรน่ายังทำได้ดีกว่าแบรด โจนส์ การเล่นบอลด้วยเท้่าและการออกมาจากเส้นประตูเป็นสิ่งที่เรน่ายังทำได้ดีอยู่เสมอ การออกบอลเร็วแม้จะดีบ้างไม่ดีบ้างแต่ยังดีกว่าโจนส์อยู่หลายเท่า โดยสิ่งที่ทำได้ไม่ดีนักและเป็นปัญหาอยู่เรื่อยๆ คือการยืนตำแหน่งที่เปิดเสาแรกเอาไว้มากอยู่บ่อยครั้ง และการพุ่งเซฟที่ดูเหมือนปฏิกิริยาจะช้าลงกว่าแต่ก่อน อย่างไรก็ตาม เรน่ายังถือว่าดีกว่าตัวเลือกทุกคนที่มีอยู่ในทีม และถ้าเรน่าต้องออกจากทีมไปจริง จะหาผู้รักษาประตูที่ทำผลงานได้ดีกว่าหรืออย่างน้อยไม่ด้อยกว่าคงไม่ง่ายนัก ...อย่าลืมว่าผู้รักษาประตูบางคนอาจจะเซฟดีจริง แต่ไม่ชอบออกจากเส้นและตื่นเต้นเวลาได้บอลคืนหลัง ในขณะที่ทีมต้องส่งคืนหลังบ่อยๆ เพราะต้องการครองบอลไว้กับตัว ผู้รักษาประตูที่ออกจากเส้นช้าอาจส่งผลให้กองหลังทำแอสซิสให้คู่แข่งเป็นกอบเป็นกำได้

แบ็คซ้าย : โฆเซ่ เอนริเก้

_______ ช่วงต้นฤดูกาลเอนริเก้ออกทริปทั่วดำน้ำทั่วเกาะอังกฤษแบบไม่มีวี่แววว่าจะกลับฝั่ง นอกจากจะได้รับโอกาสน้อยแล้วเมื่อได้ลงสนามยังเล่นได้น่าสยดสยอง แต่ด้วยความที่ตัวเลือกไม่มีเพราะคนที่ลงมาแทนอย่างวิสดอมก็เล่นได้สยองพอกัน, เคลลี่คิดถึงพยาบาลไปก่อน, ดาวนิ่งทำได้แค่ขัดตาทัพ เอนริเก้เลยค่อยๆ ได้ลงสนามต่อเนื่องมากขึ้นเรื่อยๆ และสามารถเรียกฟอร์มของตัวเองกลับมาได้ เกมรับเหนียวแน่นขึ้นจนช่วงปลายฤดูกาลกลายเป็นแนวรับที่เล่นได้สม่ำเสมอและน่าไว้ใจที่สุดของทีมเลยด้วย แม้เกมรุกจะไม่ได้เฉียบคมระดับจ่ายใส่พาน หรือยิงตูมเดียวหาย แต่ก็ทำตามหน้าที่ฐานะแบ็คได้ดีแล้วเพราะอย่างน้อยที่สุดก็เสียบอลกลางทางน้อยและยังจ่ายเข้าไปในเขตโทษได้ สิ่งเดียวที่ดูจะเป็นปัญหาสำหรับเอนริเก้และคาดว่าคงแก้ไม่ได้แล้วคือความดื้อดึงและเชื่อมั่นในตัวเองมากไปสักหน่อย หลายครั้งที่มุ่งมั่นจะไปทางแคบมากเกินไปและเก็บบอลไว้กับตัวค่อนข้างนานเกินความจำเป็น โดยสรุปแล้วถ้าทีมจะหาแบ็คซ้ายใหม่ คงจะเป็นตัวสำรองมากกว่าที่จะเอามาแทนเอนริเก้

แบ็คขวา : เกล็น จอห์นสัน

_______ ได้เล่นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นฤดูกาล ถ้าไม่เจ็บเป็นได้ลง ถูกโยกไปเล่นทางซ้ายบ่อยครั้งในช่วงที่เอนริเก้ยังโดนดองเค็มอยู่ อันที่จริงแล้วฤดูกาลนี้เป็นฤดูที่จอห์นสันเล่นได้ไม่ดีนัก เกมรับรั่วสลับพอใช้ เกมรุกดีสลับพอใช้ ไม่มีช่วงไหนของฤดูกาลเลยที่จอห์นสันเล่นได้ดีแบบต่อเนื่องหลายนัด (แต่หลายนัดก็ดีมากนะ ไม่ได้แย่ซะทุกนัด) สิ่งที่ทำได้โดดเด่นอยู่ที่การเชื่อมเกมที่ขยับหาพื้นที่ได้ดีและเล่นกับเพื่อนร่วมที่มอยู่ตลอด ในขณะที่สิ่งที่ด้อยเอามากๆ คือการปิดทางเปิดบอลจากริมเส้นที่จอห์นสันเล่นเหมือนบอกคู่ต่อสู้ว่า "เชิญเปิดเลยครับพี่" แม้ว่าเมื่อเทียบกับสารพัดทางเลือกที่ลงมาไม่ว่าจะวิสดอม(การตัดสินใจมีปัญหา), เคลลี่(ความฟิตมีปัญหา), โรบินสัน(ได้ลองนิดหน่อยช่วงต้นฤดู), ดาวนิ่งหรือเฮนเดอร์สัน(ขัดตาทัพ) จอห์นสันยังเล่นได้เป็นสัปปะรดกว่ามาก และถือว่าดีที่สุดของทีมแล้ว แต่บางทีฤดูกาลหน้าอาจจะต้องหาทางเลือกใหม่สำหรับตำแหน่งนี้ดูบ้าง อาจไม่ต้องถึงขึ้นซื้อผู้เล่นใหม่(เพราะเงินไม่มี เอาไปซื้อตำแหน่งอื่นดีกว่า) แต่ดาวรุ่งบางคนน่าจะพัฒนาฟอร์มขึ้นมากดดันจอห์นสันได้...โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเคลลี่ไม่เจ็บ

เซ็นเตอร์แบ็ค : เดเนี่ยล แอกเกอร์

_______ ตำแหน่งอื่นอาจจะเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาจนทั้งคนเล่นคนดูมึนไปตามๆ กัน แต่สำหรับตำแหน่งนี้แอกเกอร์จับจองไว้อย่างเหนียวแน่น สเคอเทลนั้นเริ่มฟอร์มแผ่วตั้งแต่ช่วงกลางฤดู ส่วนคาราเกอร์ก็พึ่งมาดีจนไว้ใจได้เอาช่วงปลายฤดูกาล ไม่ต้องนับถึงเซ็นเตอร์ตัวประกอบอย่างโคอาเตสที่เล่นได้แบบผู้จัดการทีมไม่ต้องคิดมากที่จับให้นั่งเป็นตัวสำรอง อย่างไรก็ตาม แอกเกอร์เองก็ใช่ว่าจะเล่นได้เหนียวแน่นสุดยอดเหมือนโอกาสที่ได้รับ จุดเด่นของเขาอยู่ที่การเก็บและผ่านบอลจากแดนหลัง รวมไปถึงการเข้าสกัดที่ไม่มั่ว แต่บางเกมเขามีปัญหาเอามากๆ กับการประกบคู่ต่อสู้ และโดยภาพรวมแล้วเขาดูจะมีปัญหากับการรับมือลูกตั้งเตะโดยเฉพาะลูกเตะมุม ถึงอย่างนั้นด้วยความสม่ำเสมอที่ำทำได้ ทำให้เขาน่าจะเป็นตัวหลักต่อไปในฤดูกาลหน้า ปล่อยให้เก้าอี้ดนตรีที่ว่างอีกที่อีกเป็นความเครียดของสเคอเทล, โคอาเตส หรือใครก็ตามที่จะเข้ามาใหม่

เซ็นเตอร์แบ็ค : มาร์ติน สเคอเทล

_______ ถัดจากแอกเกอร์มา วัดเฉพาะเซ็นเตอร์สามคนที่เหลืออยู่ สเคอเทลยังถือว่าเล่นได้คงเส้นคงวาที่สุด ช่วงต้นถึงกลางฤดูเขายังเล่นได้ดีอยู่ และตั้งแต่ช่วงกลางฤดูเป็นต้นมาแม้จะเริ่มฟอร์มแผ่วลงแต่ก็ไม่ได้แย่มากนัก โคอาเตสนั้นไม่ต้องพูดถึง ส่วนคาราเกอร์มาดีเอาตอนที่ตัดสินใจเลิกเล่นแล้ว จุดเด่นของสเคอเทลอยู่ที่ความหนักแน่นในการเล่น เข้าสกัดไม่ว่าจะเสียบ, เบียดหรือโหม่งทำได้เด็ดขาด ซึ่งเป็นสิ่งที่แอกเกอร์ดูด้อยกว่าด้วยซ้ำ แต่ปัญหาคือบางทีสเคอเทลก็หนักแต่ไม่แม่น เสียฟาลว์ง่ายอยู่บ่อยครั้ง การอ่านเกมดูจะเป็นรองทั้งแอกเกอร์และคาราเกอร์ ฤดูกาลหน้าคงต้องลุ้นหนักกับตำแหน่งตัวจริง และอันที่จริงหวังว่าเขาจะไม่โชคร้ายจนเกินไปถึงขั้นถูกปล่อยออกจากทีม เพราะแม้ฟอร์มจะไม่ได้สุดยอดมากนักแต่ก็ดูดีกว่าเซ็นเตอร์ของทีมอื่นอีกหลายคน

กองกลางตัวรับ : ลูคัส เลว่า

_______ ลูคัสดีที่สุดเพราะไม่มีตัวเลือก พูดแบบนี้ก็คงไม่ผิดแต่อาจจะดูใจร้ายกับเจ้าตัวไปหน่อย กวาดตาดูทั้งทีมชุดใหญ่ไม่มีกลางรับแท้ๆ อยู่เลยสักคนตั้งแต่ทีมปล่อยสเปียริ่งไปเมื่อต้นฤดู ในรายของคนอื่นๆ เมื่้อเล่นเกมรับ เชลวี่ย์หนักไปทางกลางรับใบเหลือง เฮนเดอร์สันหนักไปทางกลางรับบอล และเจอราร์ดยามที่ต้องเล่นเกมรับมากๆ ช่วงท้ายเกมก็จะเห็นอาการ "ดูอายุพี่บ้างเถอะน้อง" ให้เห็นกันอยู่บ่อยๆ ทำให้ลูคัสดูดีที่สุดในตำแหน่งนี้แบบไม่ต้องสงสัย ช่วงต้นฤดูที่พึ่งกลับมาจากอาการบาดเจ็บลูคัสดูแย่เอามากๆ ความเด็ดขาดที่เคยมีหายหมด ก่อนจะค่อยๆ ดีขึ้นเรื่อยๆ การอ่านเกมกลับมาแล้วในช่วงปลายฤดู ความฟิตที่จะวิ่งไปช่วยเพื่อนทั่วสนามทำได้ดีมากขึ้น ที่ยังขาดอยู่ความเด็ดขา่ดในการเข้าสกัดที่เล่นจนจบฤดูกาลทำได้แค่พอใช้ ไม่ถึงขั้นดีมากเหมือนที่เคยทำได้ในช่วงก่อนเจ็บยาวไป ฤดูกาลหน้าตัวจริงก็คงเป็นเขานี่หล่ะ คนที่จะเข้ามาใหม่ทำได้ดีที่สุดคงอยู่บนม้านั่งสำรอง

กองกลางคุมจังหวะเกม : สตีเว่น เจอราร์ด

_______ ในตำแหน่งกองกลางที่ยืนกลางสนาม ไม่ได้ดันไปถึงเขตโทษมากนักและไม่ต้องลงไปต่ำถึงขั้นหน้าแผงหลังซะทุกครั้งเวลาเล่นเกมรับ หน้าที่คือการรับบอลจากหลังผ่านไปข้างหน้า ไม่มีใครทำได้ดีเท่าลูกพี่คนนี้อีกแล้ว ในสถานการณ์ที่ต้องลงไปช่วยเกมรับ เขาทำได้ดีกว่าคนอื่นแบบไม่ต้องมาเทียบกัน การผ่านบอลขึ้นหน้าเขาทำได้ดีกว่าเทพเคาะอย่างเฮนเดอร์สันหรืออัลเลนเพราะสามารถวางบอลยาวไปที่ว่างได้ดีด้วย สามารถเก็บบอลไว้กับตัวได้ดียามโดนไล่ถึงตัว (แม้จะไม่ดีเท่า 3-4 ปีก่อนก็ตาม) ลูกจ่ายทะลุก็ทำได้เป็นสัปปะรดกว่าเชลวี่ย์ ไม่ต้องพูดถึงการเปลี่ยนรับเป็นรุกที่อย่าไปเทียบกับคนอื่นในตำแหน่งนี้ให้เสียเวลา ข้อด้อยอย่างเดียวของเจ้าตัวคงอยู่สภาพร่างกายที่ไม่เหมือนก่อน จากที่เคยทำได้สุดยอดตอนนี้เหลือแค่ทำได้ดีสลับกับพอใช้ในบางเกม เห็นได้ชัดจากช่วงท้ายเกมในหลายเกมที่เจอราร์ดแทบจะหายจากเกมไปเลย และการพาบอลวิ่งทะลุทะลวงขึ้นมาสลายหายไปเรียบร้อยทั้งจากตำแหน่งและสภาพร่างกายที่ไม่เอื้อให้ทำแบบนั้น อย่างไรก็ตาม ยังมองไม่เห็นว่าใครจะเข้ามายืนตำแหน่งนี้ไปได้ดีกว่าหรืออย่างน้อยดีพอๆ กัน และฤดูกาลหน้าคงต้องภาวนาให้เจอราร์ดเล่นได้ยาวๆ ทั้งฤดูกาลแบบนี้ต่อไป

กองกลางตัวรุก :
จอร์แดน เฮนเดอร์สัน

_______ เอ่อ...สารภาพตรงๆ ว่าเลือกตำแหน่งนี้ยากมาก เพราะตลอดฤดูกาลกว่า 8 เดือน ร่วม 60 นัด ร็อดเจอร์ลองตำแหน่งนี้จนทั้งคนดูคนเล่นงงไปตามๆ กัน เจอราร์ด, อันเลน, ซาฮิน(เอ่อ...เค้าเคยมาอยู่กับทีมจริงๆ นะครับ ไม่ได้มโนไปเอง), บอรินี่, ซัวเรส, สเตอริ่ง, ซูโซ่, เชลวี่ย์ และอื่นๆ อีกประปรายในบางช่วงของบางเกมได้ลองกันมาแล้วทั้งนั้น แต่เมื่อมองจากภาพรวมแล้ว เฮนเดอร์สันดูจะเป็นผู้เป็นคนและสม่ำเสมอกว่าคนอื่น...ไม่นับเจอราร์ดที่ดูยังไงก็อยากให้พี่แกลงไปเล่นต่ำกว่านั้นหน่อยซึ่งเป็นประโยชน์กับทีมมากกว่า เฮนเดอร์สันช่วงต้นฤดูกาลก็ไม่ค่อยได้ลงเช่นกัน แต่ด้วยความที่คนที่ได้ลงไปก็ไม่ได้เล่นให้ชวนไว้ใจสักเท่าไหร่ รวมไปถึงบางคนที่ทำได้ค่อนข้างดีอย่างซัวเรสหรือเจอราร์ดหรือกระทั่งคูตินโย่ดูจะเป็นประโยชน์กับทีมมากกว่าถ้าไปเล่นในที่ชอบที่ชอบของตัวเอง (ไม่ได้ไล่ให้ตายนะครับ หมายถึงกองหน้า, กองกลางและปีกตามลำดับ) เฮนเดอร์สันนั้นผ่านบอลได้ดีในความหมายที่ว่าเก็บบอลไว้กับทีม เกมรับในฐานะคนไล่บอลคนแรกก็ทำได้ดีกว่าคนอื่น และการเล่นเกมรุึกก็ดูดีขึ้นเรื่อยๆ ตามโอกาสที่ได้รับ จากที่ได้บอลเป็นแปะอย่างเดียวในช่วงต้น ช่วงท้ายฤดูกาลมานี่มีการออกบอลทะลุช่อง วิ่งทำทางไปรอยิงให้เห็นบ่อยมากขึ้น ในฤดูกาลหน้า ถ้าได้เล่นต่อเนื่อง เฮนเดอร์สันน่าจะพัฒนาฟอร์มตัวเองขึ้นมาได้อีกมาก แต่ความเสี่ยงอย่างเดียวของเฮนเดอร์สันคือทีมอาจหาปีกตัวใหม่เข้ามาได้ และนั่นหมายถึงโอกาสที่คูตินโย่จะถูกหุบเข้ามาเล่นตรงกลางก็เป็นไปได้มากขึ้น ซึ่งถ้าดูจากผลงานของคูตินโย่แล้ว ...เฮนเดอร์สันคงต้องกลับไปที่ม้านั่งสำรองครับ

ปีกซ้าย : ฟิลิปเป้ คูตินโย่

_______ พึ่งมาเมื่อเปิดตลาดตอนปีใหม่ แต่ผลงานเบียดแซงหน้าเก่าที่เคยลองใช้อยู่ก่อนแบบไม่ต้องคิดมาก สเตอริ่งทำท่าว่าจะดีแต่ก็พัฒนาตัวเองไปอีกขั้นไม่ได้ คนอื่นนอกจากนั้นที่วนเวียนมาเล่นในตำแหน่งนี้ทำได้แค่พอใช้ แต่คูตินโย่มาแล้วทำได้ดีกว่านั้น จุดเด่นอยู่การผ่านบอลเข้าทำที่เฉียบขาด ทำแอสซิสได้รัวๆ ซึ่งนับเฉพาะเรื่องนี้เขาทำได้ดีที่สุดในทีม และมีเกมการเล่นที่กดดันคู่ต่อสู้ได้ ส่วนจุดด้อยอยู่ที่สภาพร่างกาย ที่ในช่วงแรกดูจะมีปัญหากับเกมหนักอยู่ และสภาพความฟิตยังไม่ดีนัก แต่ค่อยๆ ปรับสภาพร่างกายของตัวเองขึ้นมาได้ดี แต่ยังไม่ถึงขั้นที่น่าไว้ใจนักสำหรับการเล่นในพรีเมียร์ลีคอังกฤษ อย่างไรก็ตาม ฤดูกาลหน้าคูตินโย่จะได้เป็นตัวจริงแน่นอน(อย่างน้อยในช่วงต้นฤดูกาล) ลุ้นแค่ว่าจะเป็นตัวริมเส้นหรือตัวกลางเท่านั้นเอง

ปีกขวา : สจ๊วต ดาวนิ่ง

_______ เป็นอีกตำแหน่งที่เปลี่ยนบ่อยในช่วงครึ่งฤดูกาลแรก และแม้แต่ตัวดาวนิ่งเองก็ถูกโยกไปนู่นมานี่อยู่บ่อยครั้ง ซ้ายบ้างขวาบ้างแบ็คบ้าง สุดท้ายมาลงตัวตรงนี้ แม้ดาวนิ่งจะทำเกมรุกได้ไม่ดีนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าดูจากตำแหน่งที่เขาเล่น ซึ่งเป็นจุดด้อยถึงตายที่ส่งผลต่ออนาคตของเขากับทีมด้วย แต่จุดเด่นของเขาซึ่งปีกตัวอื่นในทีมไม่มีใครทำได้แม้่แต่คนเดียว คือการช่วยเชื่อมเกมและเล่นเกมรับ ดาวนิ่งเป็นตัวรุกที่ขยันลงไปรับบอลจากแดนหลัง และฉลาดพอที่จะวิ่งทำทางไปข้างหน้าถ้าเห็นเพื่อนพร้อมที่วางบอลยาว เขาไม่ฝืนเล่นอะไรที่เรียกร้องความสามารถมากไปกว่าที่เขามี จังหวะที่ต้องดวลกับคู่ต่อสู้ ถ้ามีทางเลือกพี่แกแปะก่อนเลย ซึ่งถ้ามองในเกมรุกนี่คือหายนะของทีมเพราะในเมื่อเจ้าตัวเล่นตำแหน่งนั้นไม่ทำเกม แล้วใครจะทำ? แต่ในแง่การครองเกมนี่คือสวรรค์โดยแท้ เพราะบอลยังอยู่กับทีม โอกาสรุกยังอยู่ในมือและทำให้แนวรับได้พักหายใจบ้าง ซึ่งถ้าเทียบกับคนอื่น เกมรับไม่ต้องพูด ไม่มีใครทำได้ดีเท่า และอันที่จริงแล้วดาวนิ่งเล่นเกมรับได้ดีกว่าแบ็คแท้ๆ อย่างจอห์นสันในหลายๆ เกมด้วย ส่วนการเชื่อมเกม สเตอริ่งก็มุ่งมั่นจะไปเองแล้วติด สเตอริดจ์,ซัวเรสที่เล่นตำแหน่งนี้ก็เหมือนสเตอริ่งในเวอร์ชั่นที่ดีกว่า ส่วนซูโซ่ก็เคลื่อนที่น้อยกว่าและยืนตำแหน่งรับบอลได้ไม่ดีเท่าด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตาม ย้ำอีกครั้งว่าด้วยตำแหน่งที่เล่นอยู่ ถ้ามีการซื้อผู้เล่นใหม่เกิดขึ้น ดาวนิ่งน่าจะเป็นคนแรกที่หลุดจาก 11 ตัวจริงชุดนี้ไปก่อนเพื่อน

กองหน้า : หลุยส์ ซัวเรส

_______ จะมีใครอีกเหรอครับ ถามจริงๆ สเตอริดจ์เหรอ? ไม่นะผมว่า ซัวเรสแม้ในวันที่เล่นได้แย่ที่สุดก็ยังมีส่วนร่วมกับเกมพอๆ กับวันที่ดีที่สุดของสเตอริดจ์(ส่วนร่วมนะครับไม่ใช่ประตู) ซัวเรสช่วยทำเกมให้กับทีมได้ อยู่คนเดียวได้(ตามสภาพ) ในวันหรือเวลาที่ไม่มีใครคิดอะไรออกอีกแล้ว ซัวเรสตอบโจทย์ตรงนี้ได้ด้วยการเล่นลูกยากๆ แล้วเรียกฟรีคิกหรือพลิกเข้าไปยิงได้สำเร็จ แม้จะหนักไปทางยิงทิ้งยิงขว้าง แต่อย่าลืมว่าโอกาสไม่น้อยที่เจ้าตัวต้องสร้างขึ้นมาได้ตัวเอง ไม่ได้มีใครจ่ายให้แบบกองหน้าทีมอื่น ถ้าเปลี่ยนเป็นสเตอริดจ์อย่างที่ได้เห็นในช่วงท้ายๆ ก็เห็นได้ชัดว่าถ้ากองกลางทำเกมไม่ได้ สเตอริดจ์ก็หายไปจากเกมและช่วยอะไรไม่ได้มากนัก อย่างไรก็ตาม จุดด้อยของซัวเรสก็อย่างที่รู้ๆ กัน ชอบฝืนเล่นอยาก จ่ายบอลให้เพื่อนน้อย รวมไปถึงความประพฤติที่ย้อนมาทำร้ายทั้งตัวเขาและทีมเป็นระยะ ทั้งใบเหลืองที่เก็บได้เป็นกอบเป็นกำและโทษแบนที่โดนอีกแล้ว ถ้าจะมองว่า FA แบนมากเกินไปและจ้องจับผิดก็อาจมองได้ แต่ถ้าจะมองว่าถ้าพี่แกไม่ปากไว, ไล่กัด, พุ่งล้ม(หลังๆ เลิกแล้ว), บ่นและประชดผู้ตัดสิน แล้วใครจะมาแบนพี่แกได้ ก็คงจะไม่ผิดใช่ไหม? แต่โดยสรุปแล้ว ฤดูกาหน้าทีมก็ต้องหวังพึ่งซัวเรสต่อไป ถ้าเก็บไว้กับทีมไม่ได้ ลิเวอร์พูลคงได้กลายเป็นทีมกลางตารางที่เล่นสวยๆ ถล่มคู่ต่อสู้เป็นบางนัด สุดท้ายจบอยู่ราวๆ ที่ 5 - 8 แบบนี้ต่อไปอีกหนึ่งฤดูกาลเป็นอย่างน้อย

แถมด้วยผู้เล่นรางวัลสุดยอดผู้เล่นในด้านต่างๆ อีกนิดหน่อย

ผู้เล่นยอดเยี่ยม : สตีเว่น เจอราร์ด

ดาวรุ่งยอดเยี่ยม(นับเฉพาะที่ขึ้นมาจากอเคเดมี่) : ราฮีม สเตอริ่ง

หน้าใหม่ยอดเยี่ยม : ฟิลิปเป้ คูตินโย่

เกมรับยอดเยี่ยม :
โฆเซ่ เอนริเก้

เกมรุกยอดเยี่ยม : หลุยส์ ซัวเรส

ท้ายสุด...จบฤดูกาลแล้วอย่าลืมเขาเหล่านี้ที่เคยเป็น "ความหวัง" อยู่ในบางช่วงของฤดูกาลล่ะ

สเตอริ่ง...ตัวความหวังสูงสุดในเกมรุกช่วงต้นฤดูกาล

ซาฮิน...เขาย้ายมาจริงๆ นะครับ ไม่ได้ฝัน

อัสไซดี้...
ยังอยู่กับทีมนะครับ

ซูโซ่...ดูคูตินโย่แล้วอย่าลืมคุณน้องเขาล่ะ

โจนส์...เหม่งไม่อยู่ คงได้เห็นเขาอีก

หวังว่าฤดูกาลหน้าจะได้พบกันอีกครับ

Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น