วันเสาร์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2556

นิวคาสเซิล 0 - 6 ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีค)


ก็อยู่กันได้...ไม่ตายนี่หว่า
--------------------------------------------------------

ลิเวอร์พูลเล่น 4-2-3-1

----------------------สเตอริดจ์----------------------
คูตินโย่-------------เฮนเดอร์สัน--------------ดาวนิ่ง
-------------ลูคัส----------------เจอราร์ด----------
เอนริเก้-----แอกเกอร์------คาราเกอร์-----จอห์นสัน
------------------------เรน่า-------------------------

               ลิเวอร์พูลออกไปเยือนนิวคาสเซิลโดยไร้หลุยส์ ซัวเรสที่โดนไปแล้วเรียบร้อยยันฤดูกาลหน้า ร็อดเจอร์ปรับทีมแค่ตำแหน่งเดียวโดยเลือกใช้สเตอริดจ์เป็นหน้าเป้าแทน นอกนั้นยังเป็นชุดเดิม
-------------------------------------------------------

               เริ่มเกมมาลิเวอร์พูลก็เปิดเกมรุกกดดันทันที ได้ลุ้นติดๆ กันหลายครั้งจนทำได้สำเร็จในนาที 3 จากจังหวะต่อเนื่องจากเตะมุม เจอราร์ด(ถ้าดูไม่ผิด) เปิดบอลย้อนกลับเข้าไปในเขตโทษให้แอกเกอร์ที่หลุดล้ำหน้าขึ้นไปอย่างโล่ง โหม่งผ่านตัวผู้รักษาประตูเข้าไปได้ง่ายๆ 1-0 และหลังจากนั้นก็ยังเป็นลิเวอร์พูลที่บุกต่อเนื่องโดยที่นิวคาสเซิลแทบไม่ ได้ทำอะไรเลย

               หลังจากผ่านไปได้ราว 10 นาที นิวคาสเซิลเริ่มไล่ถึงบอลได้เร็วขึ้นและทำให้เกมของลิเวอร์พูลเริ่มช้าลง แต่เกมรุกของตัวเองนิวคาสเซิลก็ยังเปิดบอลเข้าทำไม่ผ่าน แทบไม่ได้ลุ้น และแม้รูปเกมจะดีขึ้นแล้วแต่นิวคาสเซิลก็มาพลาดเสียประตูซ้ำอีกในนาที 17 จากการทำเกมเร็วของลิเวอร์พูล คูตินโย่ได้จังหวะจ่ายทะลุให้สเตอริดจ์ได้ผ่านบอลให้เฮนเดอร์สันจบสกอร์ โล่งๆ เป็น 2-0

               นิวคาสเซิลเริ่มครองบอลได้มากขึ้น ส่วนลิเวอร์พูลเริ่มเน้นเกมโต้เร็ว - บอลยาวมากกว่าจะเปิดเกมขึ้นไปเอง โอกาสของลิเวอร์พูลยังพอมีบ้างแต่น้อยลงเรื่อยๆ ส่วนนิวคาสเซิลก็เริ่มบุกเข้ามากดดันใกล้เขตโทษมากขึ้นแต่ยังได้ลุ้นประตู น้อยมาก จนกระทั่งจบครึ่งแรกที่ 2-0

               เข้าครึ่งหลัง นิวคาสเซิลเปลี่ยนตัวลงมาทีเดียว 2 คน โหมเกมรุกเต็มที่และทำได้ดีด้วย บอลริมเส้นไปได้ถึงสุดเส้นและเปิดเข้ากลางได้ต่อเนื่อง มีโอกาสลุ้นประตูเป็นชิ้นเป็นอันแล้ว ในขณะที่ลิเวอร์พูลเข้าถึงบอลกันช้าลงและครองบอลแทบไม่อยู่ เสียบอลกลับคืนให้คู่ต่อสู้เร็วมาก ทำให้ช่วงต้นครึ่งแรกนิวคาสเซิลทำได้ดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด

               อย่างไรก็ตาม ลิเวอร์พูลยังมีความเด็ดขาดในการจบสกอร์มากกว่า นาที 54 เฮนเดอร์สันกับคูตินโย่ช่วยกันเข้าไปแซะบอลจากอาร์กฟาได้แถวกลางสนาม ก่อนจะเป็นคูตินโย่ที่ลากจี้เข้าไปถึงหน้าเขตโทษก่อนจะจ่ายทะลุให้สเตอริดจ์ได้ หลุดโล่งๆๆ ยิงเข้าไปได้อีกเป็น 3-0 ถึงตรงนี้ลิเวอร์พูลเริ่มถอยหลังไปรับเน้นคุมพื้นที่ตัวเองให้แน่นมากขึ้น เข้าไปอีก รอโต้ด้วยบอลยาวอย่างเดียว

               หลังจากเสียลูกที่สาม จังหวะการเล่นของนิวคาสเซิลก็ดูจะสะเปะสะปะไป เกมรุกที่ทำได้ดีช่วงต้นครึ่งหลังมลายหายสนิท กลายเป็นลิเวอร์พูลที่หาโอกาสโต้ยาวได้ลุ้นต่อเนื่อง นาที 60 เจอราร์ดโยนบอลให้เฮนเดอร์สันทะลุขึ้นไปรับบอลได้แถวเส้นข้างเขตโทษก่อนที่ เฮนเดอร์สันจะจ่ายกลับมาให้สเตอริดจ์ที่รออยู่กลางโล่งๆๆๆ ยิงเข้าไปให้นิวคาสเซิลเละหนักเข้าไปอีก 4-0

               ถึงตรงนี้ รูปเกมไม่มีอะไรเปลี่ยนแล้ว นิวคาสเซิลดูไม่ค่อยมีสติปัญญาสมาธิอะไร จะเล่นสักเท่าไหร่แล้ว ส่วนลิเวอร์พูลแค่เล่นตามจังหวะ เห็นช่องก็จ่ายทะลุไปข้างหน้า นาที 71 บอรินี่ได้ลงมาแทนเจอราร์ด(โดนเปลี่ยนตัวออกครั้งแรกในฤดูกาล) ลงมาปุ๊ปแค่จังหวะบุกครั้งแรกก็ได้เรื่องเลย ดาวนิ่งได้บอลทางริมเส้นหักเข้ากลางมาให้บอรินี่(ลูกนี้โล่งน้อยหน่อย)ได้ จับก่อนยิงเป็น 5-0

               นิวคาสเซิลยังบรรลัยไม่พอ นาที 75 เดบูชี่เสียบคูตินโย่เหมือนอยากกลับเข้าห้องแต่งตัวก่อน โดนใบเหลือง-แดงไปสมใจ และจากฟรีคิกจังหวะดังกล่าว เฮนเดอร์สันปั่นเข้ากลางไปไม่มีใครขึ้นโดนบอลแต่บอลพุ่งไปเสียบเข้าเสาสอง 6-0 เล่นเอากองเชียร์นิวคาสเซิลเดินกลับกันไปเกือบครึ่งสนาม

               นาที 84 เชลวี่กับซูโซ่ได้ลงมาแทนคูตินโย่กับสเตอริดจ์ เวลาที่เหลืออยู่ปิดทีวีประหยัดค่าไฟไปเลยก็ได้ จบเกมที่สกอร์ถล่มถลาย 6-0
 -----------------------------------------

               นัดนี้อนาถนิวคาสเซิลจนไม่ค่อยมีอะไรให้พูดถึงเท่าไหร่

               ทางลิเวอร์พูลนั้นยังเล่นคล้ายกันกับนัดก่อนๆ ไม่ได้เปลี่ยนแปลงวิธีการเล่นหรือตั้งใจบุกมากขึ้นกว่าที่เสมอมา 3 นัดรวดสักเท่าไหร่ (อันที่จริงตั้งเกมบุกน้อยลงด้วยซ้ำ) ส่วนฝั่งนิวคาสเซิลเสียประตูเร็วทำให้ไม่มีทางเลือกต้องบุกใส่ รูปเกมเลยเป็นอย่างที่เห็น โดยสิ่งที่ตัดสินผลลัพธ์ในเกมนี้มาจากฟอร์มของผู้เล่นทั้งสองฝั่งอย่างเห็น ได้ชัด นิวคาสเซิลนั้นฟอร์มหลุดกระจาย โดยเฉพาะกองหลังที่ตั้งรับกันแบบเซน...ตั้งรับโดยไม่ตั้งรับ ประกบโดยไม่ประกบ แต่ดูเหมือนแนวรุกลิเวอร์พูลจะไม่ได้ซึ้งรสพระธรรมด้วยเลยพากันเล่นท๊อปฟอร์ มฉีกแนวรับหลุดเป็นชิ้นๆ ตั้งแต่ต้นยังจบเกม

               สำหรับลิเวอร์พูลนั้น ถ้าจะมีอะไรต่างออกไปก็คงเป็นเรื่องของทีมเิวิร์ค พอไม่มีซัวเรส บอลไปถึงแนวรุกคนอื่นมากขึ้น ที่เห็นได้ชัดเลยคือคูตินโย่กับเฮนเดอร์สัน ในรายคูตินโย่นั้นพอได้บอลมากขึ้นบอลทะลุช่องรัวๆ ของเขากดดันแนวรับได้อย่างสุดยอด ไม่ใช่ทั้งเกมได้โอกาสจ่ายบอลไม่กี่ครั้งอย่างที่ผ่านมา ส่วนเฮนเดอร์สันไม่ต้องตีตั๋วเปล่า วิ่งไปแล้วไม่ได้บอลเ้หมือนที่เคย ถ้าเขาวิ่งไปได้ดีพอ(ซึ่งนัดนี้่วิ่งทำทางได้ดีทีเดียว) เขาก็ได้บอลและมีส่วนช่วยถ่างแนวรับนิวคาสเซิลที่ไม่ค่อยสบประกอบอยู่แล้ว ให้วิปลาสเข้าไปอีก ...

               นัดนี้ดูคล้ายว่าลิเวอร์พูลจะไม่จำเป็นต้องมีซัวเรสอยู่ในทีมก็ได้ แต่ความเห็นส่วนตัวผมคิดว่าซัวเรสยังจำเป็นอยู่ และจำเป็นมากๆ ด้วย ถ้าเจอกองหลังที่เล่นได้เหนียวแน่นกว่านี้ บอลทะลุทะลวงของคูตินโย่คงไม่ได้กินง่ายๆ และเฮนเดอร์สันคงไม่หลุดโล่งโปร่งสบายไปรับบอลขนาดนั้น แล้วตอนนั้นถ้าไม่มีซัวเรสจะเจาะกันเข้าไปยังไงล่ะ?

               แต่ที่แน่ๆ ลิเวอร์พูลตอนนี้ขาดซัวเรส...ไม่ถึงกับตายครับ

 -------------------------------

นัดนี้เล่นกันได้ดี(เกือบ)ทุกคน

เรน่า - ยืนตำแหน่งพอใช้ได้ เปิดบอลเร็วค่อนข้างดี แต่อันที่จริงก็ไม่ค่อยมีงานให้ทำเท่าไหร่

จอห์นสัน - เล่นในฟอร์มที่สูสีกับกองหลังนิวคาสเซิล เล่นได้เอาอ่าวมากคือออกไปกลางอ่าวเลย เล่นพลาดมันหมดเกือบทุกจังหวะ หวุดหวิดจะโดนเหลือง-แดงตอนปลายครึ่งแรกด้วย

แอกเกอร์ - ประกบคู่ต่อสู้จังหวะที่โดนโยนบอลเข้ามาจากริมเส้นได้ไม่ค่อยดีนัก แต่นอกนั้นก็ไม่ได้ผิดพลาดอะไร ขึ้นไปโหม่งทำประตูได้ด้วย

คาราเกอร์ - ตัดบอลจังหวะสำคัญได้หลายครั้ง อ่านเกมได้ดีมาก ยังอยู่ในฟอร์มที่ดี

เอนริเก้ - ครองบอลนานจนเสียบอลอยู่ 2-3 ครั้ง แต่จุดเด่นอย่างการวิ่งเบียดเอาบอลนัดนี้ยังทำได้ดีไม่มีที่ติ เชื่อมเกมพอใช้ได้ ดีกว่าจอห์นสันแต่ชอบไปทางแคบมากไปนิด โดยรวมก็ยังเล่นได้ดี

ลูคัส - ทำลายเกมคู่ต่อสู้ได้ดีและวันนี้แย่งบอลได้เยอะทีเดียว เสียฟาลว์ก็น้อยและเก็บบอลจังหวะสองในเกมรับเอาไว้ได้มาก

เจอราร์ด - เป็นเกมที่ได้เล่นง่าย เกมรับไม่ต้องหัวหมุนวิ่งไล่คู่ต่อสู้มากนัก ในเกมรุกก็ไม่ต้องวิ่งเติมขึ้นไปสักเท่าไหร่ แค่หาที่ว่างและคอยเปลี่ยนฝั่ง ทำได้ดีด้วยให้บอลไม่ค่อยพลาด

คูตินโย่ - แทบไม่ทำอะไรอย่างอื่นเลยนอกจากจ่ายบอลทะลุช่องรัวๆ และทำได้สุดยอดเอามากๆ จ่ายเป็นหลุดๆ ชนิดที่เพื่อนได้ดวลเดี่ยวกับผู้รักษาประตูทั้งนั้น ความแข็งแกร่งยังน้อยอยู่ ถ้าโดนเบียดถึงตัวไปไม่ค่อยรอด และเกมรับเล่นได้ระดับที่เรียกว่า พอเถอะ แต่เอาแค่บอลทะลุช่องนี้ก็ดีมากพอที่จะจัีบใส่หลังรถกระบะแล้วแห่รอบหมู่ บ้านแล้ว

ดาวนิ่ง - ฟอร์มไม่ได้แย่ แค่ดีไม่เท่าคนอื่น เกมรุกถือว่าทำได้ดีขึ้นบ้าง(ซึ่งแปลว่ายังไม่ดีนัก) พอมีจังหวะที่หลุดไปถึงสุดเส้นหรือเปิดให้เพื่อนจบได้ เกมรับช่วยปิดช่องที่แบ็คขวาออกไปหาปลาได้ดีทีเดียว

เฮนเดอร์สัน - ผลงานนัดนี้เล่นได้ใกล้เคียงใบหน้าแล้ว หาพื้่นที่ว่างและวิ่งทำทางได้ดี จ่ายบอลในเกมรุกถึงจะไม่ทะลุระดับคูตินโย่แต่ก็ทำได้น่าพอใจมาก (มี 1 แอสซิสต์ด้วย) และยิงได้อีกตั้ง 2 ลูก

สเตอริดจ์ - ยิง 2 จ่าย 1 หาตำแหน่งได้ดี รักษาตัวอยู่ในไลน์กองหลังได้เยี่ยมมาก (เฉพาะเรื่องนี้ทำได้ดีกว่าซัวเรสเยอะ) จบสกอร์ได้เด็ดขาด ไม่ยึกยักนาน เรียกฟาลว์ได้ดีและไม่หวงบอล พร้อมจ่ายให้เพื่อนที่ตำแหน่งดีกว่า...ที่พูดมาทั้งหมดนี้คือก่อน 4-0 เพราะพอหลังจากนั้นดูจะดีไซน์ท่ายิงและคิดนานเหลือเกินกว่าจะเล่นแต่ละ จังหวะ

ตัวสำรอง

บอรินี่ - ลงมา ยิงได้ หายไป...ตามจัีงหวะเกมที่ไม่มีใครเน้นแล้ว

เชลวี่ย์,ซูโซ่ - ได้ลงมาเล่นด้วย เฮ้!

แมน ออฟ เดอะ แมทช์ : ...ฟิลิปเป้ คูตินโย่... ที่จริงสเตอริดจ์กับเฮนเดอร์สันก็เล่นได้ดีมากระดับที่ว่าถ้าเป็นนัดอื่นก็ คงได้ MOM ทั้งคู่นั่นแหล่ะ แต่นัดนี้การจ่ายบอลของคูตินโย่ทำเอาลืมไปเลยว่ากองหลังนิวคาสเซิลลงมาเล่น ด้วย
------------------------------------------------------------

Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น