วันอาทิตย์ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

ฟูแล่ม 1 - 3 ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีค)


ขาดเธอไป ไม่ตายๆ หรอกเธอ...แต่แทบชัก
--------------------------------------------------------

ลิเวอร์พูลเล่น 3-6-1 (หรือ 3-5-2, 3-4-1-1 อยากเรียกอะไรตามใจฝันเลย)

----------------------สเตอริดจ์----------------------
-----------------------คูตินโย่-----------------------
------เฮนเดอร์สัน------ลูคัส------------เชลวี่ย์------
ดาวนิ่ง--------------------------------------จอห์นสัน
-------คาราเกอร์------โคอาเตส-----วิสดอม--------
------------------------เรน่า-------------------------

_______ ลิเวอร์พูลออกไปเยือนฟูแล่ม ทีมที่ไม่ยินดียินร้ายไม่ได้ไม่เสียอะไรกับอันดับในตารางแล้ว(เหมือนกัน) จัดทีมลองแทคติคต่อไปอีกหนึ่งนัด เลือกใช้เซนเตอร์แบ็ค 3 คน เป็นโอกาสของโคอาเตสกับวิสดอมที่ได้ลงเป็นตัวจริง แดนกลางใช้เฮนเดอร์สันกับเชลวี่ย์คุมเกม ห้อยคูตินโย่ไว้หลังสเตอริดจ์
-------------------------------------------------------

_______ เริ่มเกมมาทั้งสองฝ่ายก็เล่นไปตามเกม ไม่ได้เน้นไม่ได้เร่งอะไรกันมากนัก ลิเวอร์พูลบุกทางซ้ายด้วยดาวนิ่งสลับกับเจาะตรงกลางได้ผลพอสมควร ในเกมรับยืนกันค่อนข้างลึก และแดนกลางหยุดเกมฟูแล่มไว้ได้ค่อนข้างดี ส่วนฟูแล่มก็พยายามถ่ายบอลออกปีกเพื่อโยนเข้ากลาง ได้โยนค่อนข้างบ่อยแต่ก็ขึ้นไม่ค่อยถึงบอล

_______ จนกระทั่งนาที 33 ฟูแล่มได้เปิดบอลจากริมเส้นอีกครั้ง แนวรับลิเวอร์พูลประกบตัวไม่ดีปล่อยให้เบอร์บาตอฟขึ้นโหม่งคนเดียวโล่งๆ ไม่พลาด 1-0 ก่อนที่ลิเวอร์พูลจะกลับมาตีเสมอได้อย่างรวดเร็วจากการวางบอลยาวโต้เร็วของ วิสดอมรวดเดียวถึงสเอตริดจ์ จับบอลลงแล้วพลิกหาพื้นที่ยิงเสยเพดานตาข่าย 1-1

_______ เวลาทีเ่หลืออยู่เป็นฟูแล่มที่ทำได้ดีกว่า ครองบอลมากกว่าอย่างเห็นได้ชัดและบอลริมเส้นยังได้โยนเข้าไปเป็นระยะ แต่ยังคงเข้ากันไม่ถึงบอลไม่ว่าจะชาร์จหรือโหม่ง ลิเวอร์พูลเก็บบอลได้น้อย ตั้งเกมรุกไม่ได้ อาศัยวางยาวโต้เร็วเป็นหลักก็หนักไปทางเปลี่ยนรุกเป็นรับ ถ้าไม่นับลูกที่ตีเสมอได้แทบจะไม่มีบอลยาวดีๆ เป็นชิ้นเป็นอันเลย ในที่สุดก็จบครึ่งแรกไปที่สกอร์ 1-1

_______ เข้าครึ่งหลัง ร็อดเจอร์คงทนดูความสับสนว่ากูต้องอยู่ตรงไหนของลูกทีมต่อไปไม่ไหว ส่งเอนริเก้ลงมาแทนวิสดอมปรับกลับมายืนหลัง 4 คนเหมือนเดิม โยกเอาดาวนิ่งไปทางขวา เชลวี่ย์ยืนซ้าย และคูตินโย่ยังอยู่ที่หน้าต่ำ ทำให้ลิเวอร์พูลเล่นกันได้เป็นธรรมชาติมากขึ้น ครองบอลกันได้มากขึ้น แต่ฟูแล่มเองก็ไล่ได้ดีจนลิเวอร์พูลเอาบอลขึ้นหน้าไม่ค่อยได้

_______ ผ่าน 10 นาทีของครึ่งหลังไป ฟูแล่มเริ่มครองบอลได้มากขึ้นและตั้งเกมรุกของตัวเองมากขึ้น ในขณะที่เกมรับเริ่มไล่บอลในแดนกลางกันน้อยลง รวมไปถึงโชคร้ายนิดหน่อยที่ไม่ได้ทั้งจุดโทษและฟรีคิกติดๆ กัน 2 หน ทำให้ลิเวอร์พูลหาช่องเจาะได้สำเร็จ นาที 62 จากจังหวะทำเร็ว คูตินโย่หาพื้นที่ยิงไปแฉลบขากองหลังแล้วไปเข้าทางสเตอริดจ์ยิงไม่พลาด 2-1

_______ เกมดูจะเริ่มเดือดขึ้นมาเล็กน้อย ฟูแล่มดูจะคุมพื้นที่กันหลวมมากขึ้น นาที 76 บอรินี่ได้ลงมาแทนเชลวี่ย์ ถึงช่วงนี้ฟูแล่มเริ่มเล่นกันไม่ค่อยมีสมาธิ แม้เกมรุกจะบุกขึ้นมาได้ลุ้นบ่อยขึ้น แต่ในเกมรับก็ปล่อยพื้นที่ให้ลิเวอร์พูลได้เล่นกันง่ายมากกว่าในครึ่งแรกแบบ ผิดหูผิดตา ทำให้ลิเวอร์พูลได้ล่อเป้าอีกหลายครั้งแต่ยิงติดเซฟเป็นส่วนใหญ่

_______ ลิเวอร์พูลมาทำประตูปิดกล่องได้สำเร็จเอาในนาที 86 คูตินโย่วางบอลยาวกว่าครึ่งสนามให้สเตอริดจ์วิ่งไปถึงบอลก่อนผู้รักษาประตู แล้วชิพข้ามไปเป็นแฮททริคของเจ้าตัวได้สำเร็จ 3-1 ก่อนที่นาที 89 โคดี้จะได้ลงมาแทนคูตินโย่ และไม่มีอะไรน่าพูดถึงอีก จบเกมที่สกอร์ 3-1
 -----------------------------------------

_______ ลิเวอร์พูลเข้าสู่ช่วงพรีซีซั่นเร็วกว่ากำหนด ร็อดเจอร์เลยถือโอกาสลองทีมต่อไป ทั้งดาวรุ่ง ตัวสำรองดองเค็ม ได้โอกาสเล่นกันบ้าง นัดนี้แทคติคกองกลางจุฑาเทพสร้างความปวดเศียรเวียนเกล้าให้กับทีมตัวเอง มากกว่าคู่ต่อสู้ แบ็คสองฝั่งดูจะงงๆ กับชีวิตว่าตอนไหนจะขึ้นจะลง ดาวนิ่งที่เคยช่วยเกมรับได้ดี วันนี้ลงมาช่วยเซ็นเตอร์แบ็คน้อยกว่าที่เคย จอห์นสันหายต๋อมไปเลยไม่ว่าจะรุกหรือรับ ลูคัส,เฮนเดอร์สัน,เชลวี่ย์ ทางทฤษฏีเรียกเท่ๆ ว่าสลับตำแหน่งช่วยกันทั้งรุกและรับ แต่ในทางปฏิบัติหนักไปทางโบกมือไปมาเป็นตำรวจจราจร ดูงุนงงว่าใครจะเข้าบอล ใครจะวิ่งทำทาง ใครจะวิ่งไปรอบอล ลงท้ายรูปเกมเลยแสดงออกมาในท้ายครึ่งแรกด้วยการลงไปกองกันอยู่ในแดนตัวเอง แล้วโยนไปยาวๆ หวังให้สเตอริดจ์เก็บได้แค่นั้นเอง

_______ เกมนัดนี้ ยิงได้ 3 ประตู จากแฮททริคของสเตอริดจ์ ด้วยโอกาสทำประตูที่มากพอๆ ฟุตซอล ตรงนี้คงแสดงให้เห็นว่าลิเวอร์พูลไม่ได้มีปัญหาอะไรกับการทำประตูแม้จะขาด ซัวเรส (ตอนมีซัวเรสก็มีโอกาสมากยิงได้ประมาณนี้อยู่แล้ว) แต่ที่เห็นผลชัดๆ แบบแทบชักกันไปตามๆ กันคือการขาดเจอราร์ด ลิเวอร์พูลใช่ว่าจะไม่เคยเล่นเซ็นเตอร์แบ็ค 3 คน แต่วันนี้การเปลี่ยนรับเป็นรุก (ในช่วงที่ยังไม่ได้ประตูที่ 2 ที่ฟูแล่มยังดูเน้นอยู่) ทำได้ไม่ดีเอามากๆ (แม้แต่ตอนเล่นหลัง 4 คนแล้วก็เถอะ) คูตินโย่ด้วยตำแหน่งก็ยืนสูงเกินไป, เคลื่อนที่น้อยกว่า และมุ่งแต่พื้นที่ทำประตูอย่างเดียว ไม่เหมือนเจอราร์ดที่สามารถถ่ายบอลออกริมเส้นให้เกมทะลุทะลวงขึ้นไปได้ ส่วนในรายเฮนเดอร์สันกับเชลวี่ย์แม้จะอยู่ในตำแหน่งที่ต้องเปลี่ยนรับเป็น รุก แต่ทั้งคู่ก็ออกบอลเกมรุกค่อนข้างช้าและไม่ค่อยจะแม่น

_______ เฉพาะเกมนี้มีโชคไม่น้อยครับ ลูคัสทำแฮนบอลแบบน่าเป่าให้จุดโทษ และโคอาเตสก็ปะทะกับกองหน้าจังหวะจะหลุดเดี่ยวเสียวจะโดนเป่าฟาลว์ซึ่งเป็น จังหวะต่อเนื่องที่ลิเวอร์พูลโต้กลับไปเป็นประตู 2-1 ด้วย นอกจากนั้น 15 นาทีท้ายฟูแล่มดูจะเล่นหลุดๆ ไม่ค่อยมีสมาธิอีกต่างหาก เลยรอดมาได้แบบเท่ๆ 3-1 อย่างไรก็ตาม ผมมั่นใจว่า...

_______ ฤดูหน้าขาดซัวเรสไม่เท่าไหร่ แต่ขาดเจอราร์ดมีสิทธิบรรลัยครับ

 -------------------------------

นัดนี้เล่นกันพอใช้ได้

เรน่า - เซฟลูกยากสำคัญๆ ได้ 2-3 ครั้ง ออกมาตัดบอลกลางอากาศได้น้อยไปนิด ยังเล่นบอลกับเท้าได้ดี เป็นวันที่อยู่ในฟอร์มที่ดี

จอห์นสัน - ครึ่งแรกหาย เกมรับปล่อยวิสดอมรับเละ เกมรุกก็หายหัว ครึ่งหลังลงมาเล่นเป็นธรรมชาติมากขึ้น เชื่อมเกมได้ดีและทำเกมรุกค่อนข้างดีทีเดียว เกมรับที่ไม่โดนกดดันมากนักก็เล่นพอใช้ได้

โคอาเตส - เรื่องฝีเท้าไม่ค่อยน่าห่วง แต่ความมั่นใจเหลือแค่ไหนนั่นคือปัญหา เล่นยั้งๆ กล้าๆ กลัวๆ ยังไงบอกไม่ถูก บางจังหวะน่าเข้าสกัดก็ไม่เข้า

คาราเกอร์ - ผลงานพอใช้ได้ เด่นตรงการบังทางยิงที่วันนี้ทำได้ค่อนข้างดี มีประกบหลวมๆ ให้เห็นเป็นระยะ แต่ก็ไม่ได้รั่วอะไร

วิสดอม - ยืนตำแหน่งไม่ดีเท่าไหร่ อ่านเกมไม่ค่อยดีไปไม่ค่อยถึงบอล จังหวะตัดได้แล้วก็รีบร้อนเปิดขึ้นหน้าเสียบ่อยๆ แต่ก็เพราะรีบร้อนเปิดนี่แหล่ะถึงได้ประตูตีเสมอ 1-1 ซึ่งดูแล้วไม่ได้มั่ว เพราะวิสดอมเพียรจะเปิดยาวให้สเตอริดจ์อยู่ตลอดเวลาที่อยู่ในสนาม

ดาวนิ่ง - ครึ่งแรกเล่นเกมรุกได้สม่ำเสมอกว่าคนอื่นๆ กระชากหาพื้นที่ได้ดีและหาโอกาสเปิดบอลเข้าไปได้ลุ้นอยู่หลายครั้ง ครึ่งหลังหายสนิท มีหน้าที่เหลือแค่เชื่อมเกมซึ่งทำได้ไม่เลวอยู่หรอก ปัญหาคือพี่แกเป็นปีก ตำแหน่งที่ควรจะมีส่วนร่วมกับเกมรุกมากกว่านั้น

ลูคัส - ครึ่งแรกเล่นตำแหน่งตำรวจจราจร ยังสกัดได้ดีอยู่แต่ไม่ค่อยเข้าบอลเพราะมัวแต่กั๊กกับเพื่อน ครึ่งหลังเล่นได้ดีเป็นธรรมชาติมากขึ้น เก็บบอลได้มากกว่าครึ่งแรกด้วย

เชลวี่ย์ - เล่นเกมรับได้ดีขึ้น เคลื่อนที่ปิดพื้นที่คู่ต่อสู้ได้ดีขึ้นและไม่เข้าพรวดพราด เกมรุกวิ่งไปรอได้ดีแต่ไม่ได้บอลที่ควรจะได้อยู่ 2-3 หน ส่วนหนที่ได้ดันขาอ่อนยิงไม่ได้ซะงั้น ทำเกมรุกไม่ได้ไม่ว่าจะลากไปเองหรือจ่ายบอล

เฮนเดอร์สัน - ครึ่งแรกก็เล่นเหมือนลูคัสเป๊ะ ไม่ค่อยออกบอลในเกมรุก เปลี่ยนรุกเป็นรับช้า ครึ่งหลังพอแบ่งหน้าที่กันชัดเจนขึ้นก็เล่นตามหน้าที่ตัวเองได้ดีมากขึ้น แต่ยังคงเปลี่ยนรับเป็นรุกไม่ดีเหมือนเดิม

คูตินโย่ - มีส่วนร่วมกับเกมได้มากขึ้นกว่าแต่ก่อนที่ผลุบๆ โผล่ๆ ครึ่งแรกทำเกมได้พอสมควร ครึ่งหลังยังอยู่กับเกมโดยเน้นหาพื้นที่ยิงเองมากขึ้นและทำได้พอใช้ รวมไปถึงยังคงจ่ายบอลทะลุช่องให้สเตอริดจ์ยิงลูกที่สามได้สุดยอด ที่ดูดีขึ้นมากๆ สำหรับนัดนี้คือเกมรับที่วิ่งเข้าไปแซะบอลและเร่งคู่ต่อสู้ได้บ่อย

สเตอริดจ์ - หาพื้นที่และรักษาตำแหน่งไม่ให้ล้ำหน้าได้ดีเหมือนเดิม ยิงได้ 3 จากโอกาสที่น่าจะได้สัก 6 ลูก อย่างไรก็ตามสเตอริดจ์ยิงเข้ากรอบได้ดีมาก ไม่ค่อยยิงทิ้งไปไหนไม่รู้ จังหวะจ่ายมีฝืนๆ ให้เห็นบ้าง แต่ก็ไม่ใช่ทุกครั้ง มีความเร็วความคล่องที่เอามาใช้ประโยชน์ได้ดีกว่าพวกที่วิ่งเร็วๆ อีกหลายคนในทีม

ตัวสำรอง

เอนริเก้ - เล่นได้ดีทีเดียว เกมรับไม่พลาด เชื่อมเกมได้ดี เกมรุกก็หาโอกาสเปิดเข้าไปลุ้นได้ ไม่ใช่เลี้ยงไปเสียหรือโดนตัด

บอรินี่ - เลี้ยงบอลหาพื้นที่จบสกอร์ได้ดี ยิงได้ไม่เลวด้วย โชคร้ายที่ไม่เป็นประตู

โคดี้ - ได้ลงมาเล่นด้วย เฮ้!

แมน ออฟ เดอะ แมทช์ : ...แดเนี่ยล สเตอริดจ์... ก็เล่นยิงคนเดียวนี่หว่า
------------------------------------------------------------

Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น