วันอาทิตย์ที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2556

ลิเวอร์พูล 2 - 2 เชลซี (พรีเมียร์ลีค)


...อีวี่...อร่อย...
--------------------------------------------------------

ลิเวอร์พูลเล่น 4-2-3-1 (ถ้าฤดูหน้าร็อดเจอร์ยังคุม ว่าจะไม่พิมพ์ตรงแผนการเล่นแล้ว)

-----------------------ซัวเรส------------------------
คูตินโย่-------------เฮนเดอร์สัน--------------ดาวนิ่ง
-------------ลูคัส----------------เจอราร์ด----------
เอนริเก้-----แอกเกอร์------คาราเกอร์-----จอห์นสัน
------------------------เรน่า-------------------------

               ลิเวอร์พูลเปิดบ้านรับเชลซีที่มีคนเคยรักอย่างเบนิเตสคุมทีมอยู่ นำแสดงด้วย man in the rubber mask เป็นศูนย์หน้าตัวเป้า มีตัวประกอบที่ไม่เด่นเท่าไหร่อย่างมาต้า ออสการ์ ฮาซาร์ด ติดสอยห้อยตามมาด้วย ส่วนทางด้านร็อดเจอร์ก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรมากนัก มีเพียงสเตอริดจ์ที่ต้องรออยู่ข้างสนามก่อน
-------------------------------------------------------

               เริ่มเกมมาทั้งสองฝ่ายก็วิ่งไล่ถึงบอลกันเร็ว ไม่เปิดโอกาสให้คู่ต่อสู้มีเวลาคิดทำอะไรมากนัก ลิเวอร์พูลทำได้ดีกว่าพอสมควรเมื่อเก็บบอลเล่นได้มากกว่าและหาโอกาสจบสกอร์ ในเขตโทษได้บ้างแต่ยังไม่เป็นประตู โดยใช้ซัวเรสคอยลงมาทำเกม สลับตำแหน่งกับตัวรุกคนอื่นได้ผลเป็นอย่างดี

               แต่เล่นไปไม่นาน สัก 10 นาทีเท่านั้น ด้วยความที่ผู้เล่นเชลซีครองบอลกันได้เหนียวแน่น แม้จะโดนไล่เร็วแต่ก็แซะบอลให้หลุดออกมายากทำให้เชลซีของบอลได้ดีขึ้นและบุก ใส่ได้มากขึ้น ทำให้เกมรุกของลิเวอร์พูลเริ่มไปไม่ถึงเขตโทษ ทั้งสองฝ่ายยังปิดพื้นที่ในเขตโทษได้ดีทำให้ช่วงนี้หาโอกาสลุ้นประตูได้ไม่ มากนัก

               ในเกมเปิดเชลซีอาจจะหาโอกาสได้ไม่มากนักแต่มาทำได้ในลูกตั้งเตะ นาที 26 จากลูกเตะมุม ออสการ์หนีตัวประกบขึ้นโหม่งยัดเข้าเสาแรกได้สำเร็จ 1-0 หลังจากนั้นลิเวอร์พูลก็บุกแทบไม่ขึ้นอีกเลย บอลขึ้นหน้าไม่ค่อยได้ จนกระทั่งจบครึ่งแรกด้วยสกอร์ 1-0

               เข้าครึ่งหลัง ลิเวอร์พูลเปลี่ยนสเตอริดจ์ลงมาแทนคูตินโย่ กลับลงสนามมาด้วยความคลั่ง โหมเกมรุกดันเกมสูงเข้าใส่ตั้งแต่เริ่มและได้ลุ้นประตูติดๆ กันทั้งจากเจอราร์ดและสเตอริดจ์แต่ยังไม่ได้ประตู ลิเวอร์พูลทำเกมเร็วขึ้น บอลขวางสนามมีน้อยลง เปิดหน้าแลกใส่ ส่วนเชลซีคุมพื้นที่แน่นแล้วรอโต้ตามสไตล์ผู้จัดการทีม ทำให้เกมเปิดแลกกัน ลิเวอร์พูลแม้จะไม่ได้เหนือกว่าแต่ได้ลุ้นประตูมากขึ้นแล้ว

               ลิเวอร์พูลมาทำได้สำเร็จในนาที 52 จากการวางยาวของคาราเกอร์(ถ้าดูไม่ผิด) ดาวนิ่งเอาบอลลงแบบไม่รู้ตั้งใจหรือปล่าวแต่บอลเด้งข้ามหัวกลับไปเข้าทางซัวเรสได้เปิดข้ามหัวกองหลังตัวเตี้ยๆ อย่างหลุยส์ให้สเตอริดจ์ได้ชาร์จจ่อๆ ด้วยขาขวาแต่บอลไปโดนขาซ้ายเข้าประตูไป 1-1

               หลังตีเสมอได้ เกมของลิเวอร์พูลดีขึ้นทันตาเห็น โมเมนตันของเกมเริ่มเทกลับมาอย่างเห็นได้ชัด และก็เป็นไปตามคาด จากจังหวะลูกเตะมุม(อีกแล้ว) นาที 55 ซัวเรสโดดขึ้นไปเซฟลูกกลางอากาศในเขตโทษตัวเองอย่างสวยงามแต่โดนกรรมการจับแฮนบอลอย่างไม่น่าเชื่อ ฮาซาร์รับหน้าที่ยิงไม่พลาด 2-1

               ลิเวอร์พูลพยายามโหมเกมรุกเต็มที่แต่ฝ่าด่านแนวรับ 3 แถวของเชลซีเข้าไปได้ลำบาก แม้จะกดดันได้แต่จังหวะจบหาได้ยากยิ่ง ส่วนทางเชลซียังโต้ได้น่ากลัว พาบอลมาถึงหน้าเขตโทษได้ตลอดแต่ยังหาช่องจบสกอร์ไม่ค่อยได้เช่นกัน นาที 80 เชลวี่ได้ลงมาแทนดาวนิ่ง และหลังจากนั้นไม่นานก็ได้โอกาสยิงโล่งๆ ในเขตโทษจากการจ่ายของเฮนเดอร์สัน ซึ่งเชลวี่ย์ยิงเข้าข้างตาข่ายได้อย่างแม่นยำ

               เวลาที่เหลืออยู่ลิเวอร์พูลเร่งจนผิดพลาดเป็นระยะ หนักไปทางได้ลุ้นแต่ไม่ค่อยได้ยิง หรือถ้าได้ยิงก็เป็นมุมแคบๆ หรือยิงไกล ส่วนทางเชลซีน่าจะเข้าใจผิดว่าตัวเองนำอยู่ 7-1 เลยไม่ค่อยเน้นเกมรุกมากนัก จังหวะโต้ก็ให้เล่นกันแค่ 2-3 คนทำให้ไม่สามารถปิดเกมได้สนิท แต่จากรูปก็ไม่น่าจะมีอะไรผิดพลาดสำหรับ 3 แต้มแล้ว แต่แล้ว...

               ผู้ตัดสินทดเวลาเจ็บให้ 6 นาที แบบไม่มีปี่มีขลุ่ย คาดว่าทดเผื่อนัดหน้าด้วย ลิเวอร์พูลใช้เวลา 6 นาทีอย่างคุ้มค่าด้วยการทำอะไรไม่ได้ จนกระทั่งเวลาทดหมดแล้วกว่าครึ่งนาทีแต่กรรมการยังไม่เป่าจบเกม สเตอริดจ์เลยจัดการเปิดบอลจากริมเส้นให้ซัวเรสโหม่งเช็ดอัดมือปีเตอร์ เชคเข้าประตู ตีเสมอได้แบบไม่น่าเชื่อ 2-2 และจบเกมด้วยสกอร์ดังกล่าว
 -----------------------------------------

               ด้วยแทคติคของผู้จัดการทีมทั้งสองฝ่ายที่คาดว่าทุกคนบนโลกคงจะรู้กันหมดแล้วทำให้เกมออกมาในรูปนี้ เบนิเตสยังถนัดและทำได้ดีกับสไตล์ตีหัวเข้าบ้าน กลางรับ 2 คน เน้นเล่นฉาบฉวยซึ่งทำให้รูปเกมเป็นต่อได้ตลอดเกมและขึ้นนำถึง 2 ครั้ง (แต่ดันไม่บุกใส่ให้คู่ต่อสู้ตายสนิททั้งๆ ที่คุณภาพผู้เล่นดีกว่า) ส่วนร็อดเจอร์ยังคงเน้นการครองบอลอยู่(และดูจะมากไปนิดด้วย) แต่เกมรุกยังพอทำอะไรได้บ้าง นอกจากการตีเสมอ 2 ครั้งแล้ว โอกาสในการยิง(เข้ากรอบมั่งไม่เข้ากรอบมั่ง อันตรายมั่งไม่อันตรายมั่ง) ถือว่าเยอะมากในการเจอกับทีมระดับหัวตารางแบบนี้

               แต่ปัญหาใหญ่ในเกมนี้คือการรับมือลูกตั้งเตะ 2 ประตูที่เสียไปมาจากลูกเตะมุมล้วนๆ และนอกจาก 2 จังหวะนั้นที่ปล่อยให้บอลตกพื้น, สกัดไม่ขาด ถือเป็นการป้องกันที่ไม่ดีเอามากๆ และถ้าเชลซีมีตัวเล่นลูกตั้งเตะดีๆ อย่างเทอรี่เพิ่มเข้ามาอีกสักคนอาจจะตายสนิทไปตั้งแต่ก่อนทดเวลาแล้วก็เป็น ได้

               อย่างไรก็ตาม นัดนี้แสดงให้เห็นว่าคุณภาพผู้เล่นของลิเวอร์พูลยังค่อนข้างห่างกับทีมหัวตารางพอสมควร ตัวรุกเชลซีแต่ละคน (ไม่นับตอเรส) เอาตัวรอดจากการโดนไล่และครองบอลได้ดีเอามากๆ กว่าลิเวอร์พูลจะแย่งบอลกลับมาแต่ละครั้งนั้นลำบากลำบนเหลือเกิน ในขณะที่ผู้เล่นลิเวอร์พูลถ้าซื้อปืนเก็บไว้คงตายกันหมดบ้าน เพราะจับบอลเป็นลั่น โดนแซะเป็นหลุด ไม่ต้องนับลูกชิ่ง 1 - 2 พื้นฐานที่พอโดนไล่แล้วความแม่นยำลดลงฮวบฮาบ ทำให้เกมไม่ค่อยต่อเนื่องนัก

               นอกเรื่องสักเล็กน้อย เกมนี้ซัวเรสแสดงอภินิหารครบถ้วนนะครับ ใครไม่ได้ดูก็หาแมทช์ย้อนหลังดูซะ ทั้งแฮนบอลด์, กัดแขน, ทำแอสซิสต์, ยิงประตูสำคัญ
 -------------------------------

นัดนี้เล่นกันพอใช้ได้ ค่อนไปทางไม่ดี

เรน่า - ซองแตกไปทีดีว่าพลิกตัวไปเก็บได้ ออกมาตัดลูกกลางอากาศน้อยกว่าที่ผ่านมา และเตะเปิดเกมได้ไม่ค่อยดีนัก ส่วนการยืนตำแหน่งยังพอใช้ได้ และวิ่งออกมาเล่นไกลเส้นประตูได้ดี

จอห์นสัน - เชลซีไม่ค่อยขึ้นเกมด้านนี้(เน้นขึ้นตรงกลางสลับกับทางเอนริเก้) เกมรับเลยมีงานไม่มากนัก เชื่อมเกมได้ค่อนข้างดี ไม่มีข้อผิดพลาดอะไรมากมายนัก

แอกเกอร์ - วิ่งตามออกมาประกบคู่ต่อสู้นอกเขตโทษได้ค่อนข้างดี แต่จังหวะเล่นลูกกลางอากาศขึ้นไม่ค่อยจะถึงบอล

คาราเกอร์ - ประกบตอเรสได้ดีมาก เบียดปะทะและมีลูกตุกติก...เอ่อลูกแทคติคมาช่วยอยู่ตลอด วิ่งไม่ทันมีดึง อยู่ในฟอร์มที่ดีเป็นที่พึ่งได้ มีจับจังหวะบอลพลาดให้ 2-3 หนแต่ไม่เลวร้ายมากนัก

เอนริเก้ - โดนเจาะจังหวะโต้กลับบ่อย เกมรับยังใช้ได้แต่เคยเหนียวแน่นกว่านี้ จังหวะวิ่งเบียดที่ว่าแน่ๆ วันนี้เบียดชนะน้อยลง เชื่อมเกมพลาดอยู่พอสมควรและการเติมขึ้นไปเล่นข้างหน้าทำได้ไม่ดีนัก

ลูคัส - เข้าถึงบอลแต่แย่งบอลได้ค่อนข้างน้อย ทำลายเกมคู่ต่อสู้ได้น้อยมากสำหรับการเล่นกลางรับ แต่เคลื่อนที่ได้ดีขึ้น พัวพันบังทางปิดพื้่นที่หน้าเขตโทษตัวเองเอาไว้ได้น่าพอใจ

เจอราร์ด - ออกบอลพลาดพอสมควร เล่นติดๆ ขัดๆ พลาดพอๆ กับดี ดันขึ้นไปเล่นเกมรุกค่อนข้างมากตามสถานการณ์ของเกมแต่ทีเด็ดทีขาดไม่ค่อยมี ให้เห็นเท่าไหร่ แต่ก็เป็นคนออกบอลขึ้นหน้าได้เป็นสัปปะรดที่สุดในทีมแล้ว

คูตินโย่ - เล่นไม่ออก บอลเร็วคมๆ ที่เคยทำได้วันนี้พลาดเกือบหมด จังหวะพลิกหรือแตะหลบแทบไม่ผ่าน เป็นเกมที่เล่นได้ไม่ดีเลย

ดาวนิ่ง - ขยันวิ่ง เคลื่อนที่เยอะ หาตำแหน่งว่างได้ดีไม่ว่าจะทำทางข้างหน้าหรือลงไปล้วงบอลในแดนตัวเอง ช่วยเชื่อมเกมได้ดีแต่เกมรุกไม่ค่อยจะมีอะไรมาโชว์เท่าไหร่ จังหวะตัวต่อตัวแทบไม่ผ่านและเปิดบอลไม่ได้ลุ้น ทำได้ดีมากในจังหวะที่ทำให้ทีมได้ลูกแรก

เฮนเดอร์สัน - ครึ่งแรกเล่นได้สูสีกับคูตินโย่เลย เล่นในตำแหน่งสำคัญต่อจังหวะการทำประตูสุดๆ แต่ดันหาบอลไม่ค่อยเจอ จ่ายพลาดก็เยอะ ครึ่งหลังดูดีขึ้นมาบ้างแต่ก็ไม่ถึงขั้นน่าพอใจ แต่อย่างน้อยก็มีส่วนร่วมกับจังหวะสำคัญที่ได้ลุ้นประตูอยู่บ้าง ไม่ใช่หายต๋อมไปเลย

ซัวเรส - เลี้ยงบอลมากไปนิด หลายครั้งที่มีเพื่อนรอจะชิ่งให้ก็ไม่ส่ง ที่ทำได้ดีคือยังหาโอกาสหาพื้นที่จบสกอร์ได้ดีเอามากๆ และอย่างที่บอก นัดนี้แสดงอภินิหารครบ จ่าย 1 ยิง 1 เลยทีเดียว

ตัวสำรอง

สเตอริดจ์ - หาพื้นที่จบสกอร์ได้ยอดเยี่ยมมาก นอกจากลูกที่ยิงได้แล้วยังมีอีกหลายครั้งที่ยืนรอในตำแหน่งที่ดีแต่บอลมาไม่ ถึงเพราะเพื่อนไม่จ่าย,จ่ายพลาด เล่นบอลจังหวะเดียวได้ดี ยิง 1 จ่าย 1 เช่นกัน

เชลวี่ย์ - ยิงคมนะ...แค่ไม่แสดงออก

แมน ออฟ เดอะ แมทช์ : ...หลุยส์ ซัวเรส... ว่ากันตามเหตุผลด้านฟุตบอล ยิง 1 จ่าย 1 พึ่งได้เวลาคิดอะไรไม่ออกก็ถือว่าพอแล้ว แต่เหตุผลสำคัญที่ยกตำแหน่งนี้ให้เป็นเพราะการตีศอก, หัวโขก, โดดถีบ, ย่ำหน้าแข้งมันดูธรรมดาเกินไป...
------------------------------------------------------------
Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น