วันอาทิตย์ที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2556

แอสตัน วิลล่า 1 - 2 ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีค)


สู้กันที่แผงหลัง
--------------------------------------------------------

ลิเวอร์พูลเล่น 4-2-3-1

-----------------------ซัวเรส------------------------
คูตินโย่-------------เฮนเดอร์สัน--------------ดาวนิ่ง
-------------ลูคัส----------------เจอราร์ด----------
เอนริเก้-----แอกเกอร์------คาราเกอร์-----จอห์นสัน
------------------------เรน่า-------------------------

               ลิเวอร์พูลออกไปเยือนทีมหนีตกชั้น(อีกแล้ว) อย่างวิลล่าที่โดนยิงมาทุกนัดในช่วงหลัง ร็อดเจอร์เลือกใช้ซัวเรสเป็นหน้าเป้า แดนกลางใช้เฮนเดอร์สันและผู้รักษาประตูได้เรน่ากลับมา นอกนั้นก็ขาเก่าเจ้าประจำลงตามตำแหน่ง
-------------------------------------------------------

               ช่วงต้นเกมทั้งสองฝ่ายขยันไล่และสู้กันในแดนกลางเป็นส่วนใหญ่ ลิเวอร์พูลครองบอลได้มากกว่าเล็กน้อย ใช้คูตินโย่คอยสลับตำแหน่งกับซัวเรสเป็นระยะ ขึ้นบอลบุกได้ค่อนข้างช้า และดูจะเน้นการคุมพื้นที่ในแดนตัวเองให้ได้มากกว่าจะเปิดเกมรุก ส่วนวิลล่าทำได้ดีจากลูกตั้งเตะรวมไปถึงจังหวะต่อเนื่อง เกมออกมาสูสีไม่มีใครได้เปรียบ

               ผ่านไปเกือบ 20 นาที วิลล่าเริ่มครองบอลได้มากขึ้น ทำเกมได้ต่อเนื่อง จัีงหวะเกมเปิดเริ่มทำได้ีขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะเกมริมเส้นและลูกกลางอากาศ ส่วนลิเวอร์พูลเก็บบอลจังหวะสกัดไม่ค่อยได้ทำให้ครองบอลน้อยลงและทำเกมรุก ได้น้อยลงตามไปด้วย ยังได้ลุ้นบ้างจากลูกโต้เร็ว แต่เกมโดยรวมวิลล่าทำได้ดีกว่าแล้ว

               ในที่สุดวิลล่าก็ทำสำเร็จ นาที 31 จากลูกวางยาวกว่าครึ่งสนามข้ามแนวรับ กองหลังลิเวอร์พูลไปไม่ถึงบอล เป็นอักบาลาฮอล์ที่เอาบอลลงให้เบนเทเก้กดยิงจังหวะแรกเข้าไปได้สำเร็จ 1-0 ซึ่งทำให้ลิเวอร์พูลหันมาโหมเกมรุกมากขึ้น เจอราร์ดที่ช่วงครึ่งชั่วโมงแรกยังเงียบๆ อยู่เริ่มดันสูงบ้างและมีส่วนร่วมกับเกมรุกมากขึ้น ช่วงท้ายครึ่งแรกลิเวอร์พูลเลยยกระดับเกมขึ้นมาจนกลับมาสูสีแต่ยังไม่ถึงขั้นดีกว่า จบครึี่งแรกที่สกอร์ 1-0

                เข้าครึ่งหลัง เพียงแค่นาที 47 ลิเวอร์พูลก็ตีเสมอได้อย่างรวดเร็ว ในจังหวะที่วิลล่ายังขึ้นไปไล่สูงกันอยู่ดีๆ แต่บอลมาถึงเท้าเจอราร์ดพลิกบอลวางยาวที่เดียวครึ่งสนามถึงคูตินโย่ ก่อนที่เจ้าตัวจะจ่ายบอลตัดแนวรับให้เฮนเดอร์สันได้ลุ้นเดี่ยวและจบสกอร์ได้ ไม่พลาด 1-1

               พอสกอร์กลับมาเสมอ ลิเวอร์พูลดูมีกำลังใจและกระตือรือร้นมากขึ้น ไล่สูงบีบเร็วได้ดี ส่วนทางวิลล่าโดนแล้วแต่ก็ไม่ถอยไปอุดยังพยายามเปิดเกมรุกแลก ทำให้เกมเปิดมากกว่าครึ่งแรกและเป็นลิเวอร์พูลที่ยังทำเกมของตัวเองได้ดีต่อ เนื่องนับจากตีเสมอได้ นาที 59 แนวรับวิลล่ายังมาพลาดอีกครั้งเมื่อเบเกอร์เข้าพรวดรวบซัวเรสในเขตโทษแบบ จะ จะ ไม่ต้องแอคติ้งช่วย ลี เมสันเป่าให้ทันที และเจอราร์ดรับหน้าที่ยิงไม่พลาด ลิเวอร์พูลพลิกแซง 2-1

               วิลล่ารีบเปลี่ยนตัวสำรองลงมาทีเดียวสองคนและดาหน้าบุกใส่ เน้นเกมริมเส้นและลูกโด่งเข้ากลางเต็มที่และกดดันลิเวอร์พูลจนแทบแบนแต๋ดแต๋ ในเขตโทษ แม้จะสกัดได้อยู่แต่สกัดไม่ขาดและเก็บบอลไว้ไม่ได้ วิลล่ากดดันได้เป็นชุดๆ ต่อเนื่อง นาที 65 เจอราร์ดต้องช่วยโหม่งเคลียร์ให้จากเส้นประตู รอดจากการโดนตีเสมอไปหวุดหวิด

               ลิเวอร์พูลโต้ขึ้นไปได้ลุ้นบ้างแต่น้อยครั้ง ผ่านบอลกันได้ไม่ดีนักทำให้ครองบอลน้อยและกดดันมากกว่าที่ควรจะเป็น แต่ที่ำทำได้ดีคือการคุมพื้นที่ที่ทำให้เกมรุกของวิลล่าที่โหมได้น่ากลัว ค่อยๆ แผ่วไปเอง บอลริมเส้นเริ่มเปิดได้ลำบากมากขึ้นและลูกกลางอากาศเริ่มกดดันได้น้อยลงๆ ทำให้ยิ่งเล่นไปลิเวอร์พูลยิ่งดูปลอดภัยมากขึ้นเรื่อยๆ

               นาที 77 สเตอริ่งได้ลงแทนคูตินโย่ คล้อยหลังจากที่วิลล่าเปลี่ยนตัวสำรองคนสุดท้ายไม่นาน ถึงตรงนี้ลิเวอร์พูลเน้นเกมรับแล้วโต้เต็มที่ แดนหน้าแทบจะเหลือซัวเรสคนเดียวและเพื่อนๆ ก็ไม่ค่อยจะตามขึ้นไปช่วย แต่วิลล่าเองก็เจาะไม่เข้าแล้ว แม้จะได้ลุ้นบ้างเป็นระยะจากลูกเก็บตกที่ลิเวอร์พูลสกัดไม่ขาดหรือผ่าน บอลพลาดบ้างแต่ก็ยิงได้ไม่ถนัดนัก

               ช่วงทดเจ็บนาทีสุดท้าย ลิเวอร์พูลสกัดบอลไม่ขาด บอลทะลักมาถึงเบนเทเก้ยิงเร็วเข้าไปได้แต่โดนจับล้ำหน้าไปเสียก่อน(ซึ่งล้ำ ไปเยอะจริงๆ) ลิเวอร์พูลเลยสามารถเก็บสามแต้มเต็มกลับมาได้ แบบที่เรียกว่าไม่ง่ายนัก 2-1
 -----------------------------------------

               ร็อดเจอร์จัดทีมมาวันนี้ค่อนข้างระวังตัว ด้วยตัวผู้เล่นอาจจะไม่เท่าไหร่เพราะก็ชุดเดิมๆ แต่แทคติคที่เล่นนั้นเน้นผลเอามากๆ เพราะครึ่งแรกแบคขึ้นน้อย แผงกลางก็อยู่แค่ครึ่งสนามเป็นส่วนใหญ่ ไม่ได้ดันเกมสูงมากนัก แต่ยังอุตส่าห์โดนยิงไปก่อนจากความผิดพลาด(ของสภาพร่างกาย)ของกองหลังทำเอา เกือบแย่

               แต่ฝ่ายวิลล่าเองก็พิสูจน์ตัวเองเป็นที่เรียบร้อยว่าการลงไปป้วนเปี้ยนอยู่ ท้ายตารางไม่ได้ได้มาเพราะโชคช่วย เกมรับพลาดกันง่ายและเกมรุกก็ไม่ได้มีอะไรพลิกแพลงมากนัก ทั้งตัวสำรองก็ขาดคุณภาพ ลงท้ายก็เลยโดนแซงนำพลิกกลับมาแพ้ไปซะอย่างนั้น

               เกมนี้แทบไม่ได้สู้กันที่แทคติคเลย ลิเวอร์พูลถ้าไม่นับช่วงท้ายครึ่งแรกประมาณ 10 นาที พวกเขาก็ไม่ได้เร่งเกมเน้นรุกอะไรมากนัก แค่คุมพื้นที่และรอจังหวะ การกลับมาเสมอและแซงนำก็ไม่ได้เปลี่ยนวิธีเล่นอะไรมากมาย เพียงแต่วิลล่าเปิดช่องให้ ในขณะเดียวกันวิลล่ามีแต่ช่วงบุกมากกับบุกน้อยซึ่งบุกอยู่รูปแบบเดียวด้วย คือพาบอลไปริมเส้น ถึงก็ช่างไม่ถึงก็ช่าง พอเจอทางตันปุ๊ปก็จบที่การเปิดโด่งเข้ากลางมา ไม่ว่าจะช่วงเวลาไหนของเกมก็ตาม ทำให้เกมนี้วัดกันที่แนวรับเพียวๆ ซึ่งลิเวอร์พูลยังคงมีปัญหากับกองหน้าสไตล์เบนเทเก้อยู่ร่ำไป รวมไปถึงการปิดบอลเปิดจากริมเส้นที่ทำได้ไม่ดีนัก

               สุดท้ายแนวรับลิเวอร์พูลยังแย่น้อยกว่าวิลล่า เลยเอาชนะมาได้ครับ
 -------------------------------

นัดนี้ส่วนใหญ่เล่นกันพอใช้ได้ บางคนเล่นได้ดี

เรน่า - ออกมาตัดบอลกลางอากาศได้ดี แต่ออกมาเล่นน้อยลงกว่าที่เคย หลายครั้งน่าจะออกมาช่วยกองหลังได้ดีกว่านี้ จังหวะเซฟไ่ม่ค่อยมี ทำดีมากตอนต้นเกมที่บล๊อคลูกยิงจ่้อๆ ของอักบาลาฮอล์ได้ (ซึ่งก็ยิงตรงตัวด้วยส่วนหนึ่ง) ลูกที่เสียไปเกินความสามารถจริงๆ

จอห์นสัน - ครึ่งแรกเล่นได้น่าอนาถมาก หลุดตำแหน่งตลอดเวลา ประกบห่างและปล่อยให้คู่ต่อสู้เปิดเข้ากลางง่าย แต่ครึ่งหลังก็เล่นได้ดีขึ้น และช่วงครึ่งหลังนี้ช่วยเชื่อมเกมได้ดีมากด้วย

แอกเกอร์ - สกัดบอลไม่ค่อยขาดและเก็บบอลเล่นไม่ค่อยได้ั จังหวะประกบคู่ต่อสู้มีพลาดให้เห็นบ้างแต่ฟอร์มโดยรวมก็ไม่แย่นัก โดยเฉพาะถ้าดูจากการที่เป็นคนเคลียร์บอลในเขตโทษน่าจะบ่อยที่สุดแล้วใน วันนี้

คาราเกอร์ - แรงปะทะและความเร็วสู้กองหน้าไม่ได้ แต่งัดลูกเก๋ามาใช้ได้ดี เป็นกองหลังที่ใช้มือเล่นได้ดีสุดๆ เดี๋ยวดึงเดี๋ยวขวาง มือไม้เปะปะไปหมดแต่ไม่แรงพอจะโดนจับฟาลว์ คำว่า เอาตัวรอด สะท้อนฟอร์มในวันนี้ได้ตรงสุดๆ แล้ว (ไม่เหนือชั้นแต่ไม่บรรลัยนะจ๊ะ)

เอนริเก้ - ไม่ได้เติมเกมมากนัก แม้แต่ช่วงที่ทีมตามหลังหรือพึ่ง 1-1 ก็ยังนานๆ ขึ้นไปทีและขึ้นไม่ค่อยสุดด้วย เกมรับเปิดให้คู่ต่อสู้เปิดบอลเข้ากลางง่ายเหลือเกิน หลายครั้งที่ยืนห่างเป็นโยชน์ทั้งๆ ที่ไม่มีใครวิ่งอ้อมหลัง แต่โดยรวมก็เล่นเกมรับได้ดูมีสติสตังค์ดีกว่าจอห์นสัน(เวอร์ชั่้นครึ่งแรก) และเป็นแนวรับที่เก็บบอลเล่นได้เยอะกว่าคนอื่น

ลูคัส - ครึ่งแรกฟอร์มเละเทะเช่นกัน อ่านจังหวะบอลผิด จ่ายพลาดบ้าง เก็บบอลไว้กับตัวไม่อยู่บ้าง จังหวะสกัดก็ขาดๆ เกินๆ เข้าช้าไปบ้าง เสียฟาลว์ก็บ่อย แต่ครึ่งหลังเริ่มกลับมาเล่นเข้าที่เข้าทางมากขึ้น

เจอราร์ด - ช่วยเเกมแดนกลางได้มาก เกมรับดูจะช่วยไล่น้อยลงกว่าที่ผ่านมา แต่การเชื่อมเกมทำได้ดีอยู่และการวางบอลไปที่ว่างทำได้สุดยอด คือจ่ายไปแล้วมันว่างจริงๆ ไม่ใช่จ่ายไปแล้วเพื่อนต้องไปยืนงงอยู่ในดงสตั๊ด

คูตินโย่ - การจ่ายบอลตัดแนวรับยังคมอยู่ นอกจากลูกที่จ่ายให้เฮนเดอร์สันตีเสมอแล้วยังมีอีกหลายครั้งที่ออกบอลสวยๆ ได้ จับและแต่งบอลเล่นได้ดี ความฟิตดูดีขึ้นเมื่อดูจะวิ่งได้มากขึ้นแล้ว (แต่ยังครบ 90 นาทีไม่ไหว) เกมรับพยายามจะช่วยวิ่งไล่มากขึ้นแต่เห็นแล้วอยากบอกว่า "ยืนเฉยๆ เห๊อะ" เพราะพรวดพราดโดนพลิกหลบไปได้ทุกครั้ง แต่อย่างน้อยก็เห็นความพยายามละนะ

ดาวนิ่ง - ต้นเกมช่วยทำเกมรุกด้วยบอลจากริมเส้นได้ดีหลายครั้ง กดดันได้ดีทีเดียว หลังจากนั้นบอลเกมรุกก็ค่อยๆ หายไป เหลือแต่การเชื่อมเกมที่ยังทำได้ดีอยู่ ช่วยไปรับบอลจากกองหลังที่ตั้งท่าสาดทิ้งได้มากพอสมควรเลยทีเดียว

เฮนเดอร์สัน - ช่วยไล่แดนกลางได้พอสมควร แรงปะทะพอใช้ได้ อย่างน้อยเข้าไปประกบใครคู่ต่อสู้ก็ยังต้องพยายามเต็มที่กว่าจะพาบอลผ่านไป ได้และหลายครั้งที่ชลอเกมคู่ต่อสู้ให้ช้าลงได้ บอลเกมรุกแทบไม่มี เชื่อมเกมพอใช้ได้แม้จะช้าไปหน่อยและต้องมองค่อนข้างนาน โดยรวมแล้วช่วยลดภาระของทั้งลูคัสและเจอราร์ดค่อนข้างดีทีเดียว จบสกอร์ได้ดีด้วย

ซัวเรส - เคลื่อนที่เยอะมากจนไม่น่าเชื่อว่าพึ่งบินข้ามโลกไปเตะเกมทีมชาติมา ช่วยทำเกมรุกได้เยอะแม้ทีเด็ดทีขาดนัดนี้จะน้อยไปหน่อย ได้ยิงก็พลาดและทำบอลเสียก็เยอะพอสมควร ครึ่งแรกและหลังจากที่ทีมนำแล้วเล่นฝืนมากไปหน่อย แต่ช่วงต้นครึ่งหลังจนกระทั่งทีมนำมีส่วนมากๆ กับการเจาะแนวรับคู่ต่อสู้

ตัวสำรอง

สเตอริ่ง - ลงมานั่งผูกเชือกรองเท้า สงสัยมากว่าจะผูกอะไรบ่อยขนาดนั้น ความเร็วมีแต่กระชากบอลไปไม่ค่อยดีนัก
 
แมน ออฟ เดอะ แมทช์ : ...สตีเว่น เจอราร์ด... ลูกแรกก็เป็นคนเปลี่ยนจากรับเป็นรุก ลูกที่สองก็ยิงจุดโทษให้ โหม่งเคลียร์บนเส้นประตูอีกต่างหาก ตั้งเกมรุกก็เริ่มจากเจอราร์ด คุมจังหวะเกมก็เจอราร์ด เป็นหัวใจของทีมเลยทีเดียว
------------------------------------------------------------

Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น