วันอาทิตย์ที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2556

ลิเวอร์พูล 3 - 2 สเปอร์ (พรีเมียร์ลีค)

ตกแล้วเก็บได้
--------------------------------------------------------

ลิเวอร์พูลเล่น 4-2-3-1

---------------------สเตอริดจ์-----------------------
คูตินโย่---------------ซัวเรส------------------ดาวนิ่ง
-------------ลูคัส----------------เจอราร์ด----------
เอนริเก้-----แอกเกอร์------คาราเกอร์-----จอห์นสัน
-----------------------โจนส์-------------------------

               ลิเวอร์พูลเปิดบ้านรับมือสเปอร์ที่ฟอร์มกำลังแรงในเกมพรีเมียร์ลีค(ก็ต้อง พรีเมียร์ลีคละครับ ถ้วยอื่นไม่ได้เล่นแล้ว) นัดนี้ได้สเตอริดจ์กลับมาเป็นหน้าเป้า ทำให้ซัวเรสถอยลงไปเล่นหน้าต่ำเหมือนเดิม รวมไปถึงโจนส์ที่ได้ลงเป็นตัวจริง นอกนั้นยังเป็นผู้เล่นชุดเดิมที่ใช้มาในช่วงหลังๆ
-------------------------------------------------------

               ช่วงต้นเกมยังค่อนข้างสูสี สเปอร์ครองบอลได้มากกว่าเล็กน้อย แต่ขึ้นเกมรุกค่อนข้างช้า เล่นกันระวังตัวทำให้เกมรุกไปไม่ค่อยสุด ส่วนลิเวอร์พูลเล่นจังหวะทำเกมรุกได้เร็ว ครองบอลได้ไม่มากนักแต่มีจังหวะบุกไปป้วนเปี้ยนแถวเขตโทษได้มากกว่า โอกาสจบสกอร์ยังมีไม่มากนักทั้งสองฝ่าย

               ลิเวอร์พูลที่ป้วนเปี้ยนอยู่แถวเขตโทษได้มากกว่า ในที่สุดก็ทำประตูขึ้นนำได้สำเร็จในนาที 21 คูตินโย่จ่ายตัดแนวรับให้เอนริเก้หลุดไปจ่ายให้ซัวเรสยิงจังหวะแรกมุมแคบ ผ่านยอริสเข้าไปได้ 1-0 หลังจากนั้นลิเวอร์พูลก็พลิกกลับมาเป็นฝ่ายทำได้ดีกว่าอยู่ราวๆ 10 นาทีแต่ยังยิงเพิ่มไม่ได้ สกอร์ยังอยู่ที่ 1-0

               เข้า 10 นาทีสุดท้ายของครึ่งแรก สเปอร์เริ่มเน้นเกมรุกมากขึ้นและทำได้ดีขึ้น บอลที่มาไม่ค่อยถึงเขตโทษในช่วงแรกเริ่มพามาถึงได้ต่อเนื่องและ เริ่มกดดันแนวรับได้มากขึ้น จนกระทั่งตีเสมอได้สำเร็จก่อนจบครึ่งแรก นาที 45 เบลโยนจากริมเส้นให้แวนตองเก้นขึ้นโหม่งเข้าไปได้เป็น 1-1 และจบครึ่งแรกด้วยสกอร์ดังกล่าว

               เข้าครึ่งหลัง รูปเกมโดยรวมยังคล้ายครึ่งแรก ที่ต่างไปนิดหน่อยคือยิ่งเล่นสเปอร์ยิ่งดีขึ้นส่วนลิเวอร์พูลยิ่งแย่ลง เรื่อยๆ ครองบอลได้น้อยลงและบุกไปไม่ถึงข้างหน้า ถ้าไม่ถูกตัดได้ที่กลางสนามก็จะพลาดตอนวางบอลไปให้ตัวรุก ทำให้สเปอร์ทำเกมกดดันได้ดีขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งได้ประตูขึ้นนำในที่สุดในนาที 53 เบลโยนฟรีคิกจากเกือบกลางสนาม กองหลังเคลียร์ไม่ขาด บอลเข้าทางแวนตองเก้น(อีกแล้ว) ยิงเข้าไปได้ 2-1

               หลังจากโดนแซงนำ ลิเวอร์พูลยิ่งดูแย่ลงไปอีกเมื่อต้องดันแผงหลังสูงขึ้นแต่เกมรุกยังกดดันแนว รับไม่ค่อยได้ กลายเป็นสเปอร์ที่มีพื้นที่เล่นมากขึ้นได้ลุ้นประตูมากกว่า แต่ก่อนที่จะโดนเพิ่มอีกลูก ร็อดเจอร์ส่งอัลเลนลงมาแทนคูตินโย่ในนาที 59 ซึ่งไม่ได้ช่วยหยุดเกมรุกสเปอร์แล้วก็ไม่ได้ช่วยให้เกมรุกลิเวอร์พูลดุดัน ขึ้น แต่ที่เปลี่ยนไปคือลิเวอร์พูลเริ่มครองบอลได้นานขึ้นและบอลจากหลังไปหน้า เริ่มมีความต่อเนื่องมากขึ้นกว่าในช่วงก่อนหน้า

               แม้เกมของลิเวอร์พูลจะเริ่มกระเตื้องขึ้น แต่รูปเกมโดยรวมสเปอร์ยังเหนือกว่า จนกระทั่งสเปอร์ดันมาพลาดเอง นาที 66 วอล์คเกอร์จ่ายกลับหลังผิดน้ำหนัก ยอริสต้องออกไปเตะบอลหน้าเขตโทษแล้วเตะวืด ทำให้ดาวนิ่งเก็บบอลไปยิงตีเสมอได้สำเร็จ 2-2

               ถึงตรงนี้เกมกลับมาสูสี สเปอร์ยังครองบอลได้มากกว่าเล็กน้อยแต่พื้นที่เล่นมีน้อยลงทำให้เกมรุกไปถึง เขตโทษและได้ลุ้นจบสกอร์น้อยลงตามไปด้วย ส่วนลิเวอร์พูลยังไม่ค่อยได้ลุ้นประตูแต่บอลเริ่มไปถึงข้างหน้าได้มากขึ้น เรื่อยๆ พอเข้าถึงช่วง 15 นาทีสุดท้ายเกมก็เริ่มเปิดแลกกันมากขึ้น ไม่มีใครถอยลงไปตั้งรับ

                แต่แล้วก็เป็นสเปอร์ที่พลาดอีกครั้ง นาที 82 เดโฟเตะสกัดคืนหลังเข้าไปในเขตโทษตัวเอง บอลไปเข้าเหลี่ยมซัวเรสจะเอาบอลลงยิงแต่โดนเอนกอตโตมาเบียดปะทะเอาไว้และผู้ ตัดสินเป่าให้จุดโทษ เจอราร์ดรับหน้าที่ยิงไม่พลาด ลิเวอร์พูลแซงนำอีกครั้งได้สำเร็จ 3-2

               เวลาที่เหลืออยู่สเปอร์ยังพยายามบุก แต่ลิเวอร์พูลปิดพื้นที่กันได้ดีขึ้น หยุดเกมรุกเอาไว้ได้ตั้งแต่กลางสนามเป็นส่วนใหญ่ รวมไปถึงพอจะครองบอลได้และพาบอลไปครองในแดนหน้าได้เป็นระยะ ทำให้สเปอร์ไม่ได้ลุ้นจบสกอร์มากนัก นาที 88 เฮนเดอร์สันได้ลงมาแทนสเตอริดจ์ ก่อนจะจบเกมไปด้วยชัยชนะของลิเวอร์พูล 3-2
 -----------------------------------------

               เมื่อได้สเตอริดจ์กลับมา 11 ตัวจริงก็กลับมาเป็นชุดเดิมอีกครั้ง อันนี้ถือเป็นจุดหนึ่งที่ผมชอบร็อดเจอร์ เพราะทีมชุดไหนที่เล่นกันค่อนข้างลงตัวแล้ว ร็อดเจอร์จะไม่สลับทีมไปมา เปลี่ยนให้น้อยที่สุด และตำแหน่งไหนที่เิริ่มหลุดฟอร์มถึงจะโดนถอดออก (แม้หลายครั้งจะช้า และทีมต้องเจ็บไปนัดสองนัดถึงจะถอดออก ซึ่งเป็นจุดที่ผมไม่ชอบก็ตาม) ที่แปลกตาไปเล็กน้อยก็เห็นจะมีแค่โจนส์ที่ได้ลงตัวจริง ไม่รู้ว่าเรน่าไปไหน ไม่ทันได้ตามข่าว

               ส่วนรูปเกมในวันนี้เป็นอีกนัดหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่าร็อดเจอร์อยากให้ทีม เล่นเกมรุก มากกว่าจะเน้นความแน่นอน ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นเพราะมั่นใจในทีมมากหรือแค่ความชอบส่วนบุคคล แทคติคเริ่มเกมแม้จะไม่ได้เปิดหน้าแลกสุดลิ่มทิ่มประตู แต่ก็แสดงให้เห็นตั้งใจมาสู้ด้วยเกมรุก ไม่ใช่ปิดพื้นที่แล้วรอโต้ ยันไม่ให้โดนไปเรื่อยๆ แล้วหวังเอาลูกเดียวน๊อค

               การเปลี่ยนตัวของร็อดเจอร์เล่นเอาใจหายเหมือนกัน เมื่อตัดสินใจส่งอัลเลนแทนที่จะเป็นเฮนเดอร์สัน คือสถานการณ์ขณะนั้นลิเวอร์พูลมีปัญหาทั้งหยุดเกมรุกไม่อยู่และตั้งเกมรุก ไม่ได้ ถ้าส่งเฮนเดอร์สันลงมาน่าจะทำให้เกมสมดุลย์มากขึ้นเพราะเฮนเดอร์สันเล่นเกม รับได้ดีกว่า ไม่ว่าจะปะทะหรือวิ่งไล่ปิดพื้นที่ แต่ร็อดเจอร์เลือกส่งอัลเลนลงมา เลือกที่จะแก้เรื่องการขึ้นตั้งเกมรุกมากกว่า เพราะอัลเลนถ้าพูดถึงเรื่องเคาะเชื่อมเกมประคับประคองบอลจากกลางขึ้นไปหน้า เจ้าตัวก็ไม่เป็นรองใครในทีมเหมือนกัน แม้สุดท้ายผลลัพธ์สองประตูหลังจะได้มาจากความผิดพลาดของสเปอร์เอง แต่ปฏิเสธไม่ได้เช่นกันว่าอัลเลนลงมาแล้วทำให้บอลมันไปถึงข้างหน้าได้มาก ขึ้นจริงๆ สรุปแล้วแม้จะค่อนข้างขัดใจกับการเปลี่ยนตัวครั้งนี้แต่ก็ถือว่าร็อดเจอร์ทำได้ดีละครับ

               ดูโดยรวมทั้งเกมแล้ว อันที่จริงนัดนี้เกมแดนกลางลิเวอร์พูลสู้สเปอร์ไม่ได้ ครองบอลได้น้อยกว่าและการเก็บบอลจังหวะสองในเกมรุกมีน้อยมากๆ ทำให้ไม่ค่อยมีจังหวะกดดันต่อเนื่องในแดนสเปอร์สักเท่าไหร่ กลายเป็นฝั่งที่แพ้อย่างสเปอร์ที่ทำได้ดีกว่า แม้จะไม่ได้เหนือกว่ามากนักแต่อย่างน้อยก็น่าจะมีสักแต้มติดมือกลับไปได้ ถ้ากองหลังไม่พลาดให้ ลิเวอร์พูลไม่น่ารอด

               อย่างไรก็ตาม ประเด็นสำคัญมันอยู่ตรงนั้น ที่ผ่านมาไม่ใช่ว่าคู่ต่อสู้จะไม่เคยพลาดให้ แต่ลิเวอร์พูลดันเก็บของตกไม่ได้แบบนัดนี้ทำให้อันดับในตารางยังไม่สามารถ เบียดเข้าไปในพื้นที่ UCL พอมานัดนี้ลิเวอร์พูลทำได้ ทั้งจากเกมเปิดซึ่งทำเกมเจาะเข้าไปด้วยตัวเอง และเก็บตกความผิดพลาดได้ทั้งสองครั้ง ก็ถือว่าเป็นแนวโน้มที่ดีขึ้นโดยเฉพาะเกมรุกครับ

               ส่วนเกมรับ...คงต้องแก้กันอีกสักพัก

-------------------------------

นัดนี้เล่นกันพอใช้ได้ และเล่นได้ดีมากในช่วงต้นเกมกับท้ายเกม

โจนส์ - เซฟได้ดีหลายครั้ง แม้จะปัดไม่ค่อยพ้นกรอบแต่อย่างน้อยก็ปัดได้และไม่โดนซ้ำ ผลงานค่อนข้างดีทีเดียว

จอห์นสัน - เล่นได้ไม่ดีนัก พลาดในเกมรับเยอะทีเดียว เกมรุกยังเชื่อมเกมได้ดีอยู่แต่ก็ขึ้นไปได้ไม่สุด

แอกเกอร์ - สกัดลูกกลางอากาศไม่ค่อยขาด แต่ตามประกบตัวรุกได้ดี กัดไม่ปล่อยทำเอาคู่ต่อสู้พลิกบอลไม่ค่อยได้

คาราเกอร์ - อ่านเกมใช้ได้แต่ตัวไปไม่ค่อยทัน เข้าสกัดถึงบอลน้อยไปหน่อยแต่ดักบอลได้ค่อนข้างดี เล่นพอใช้ได้

เอนริเก้ - เล่นเกมรับได้ดีทีเดียว จังหวะตัวต่อตัวเอาอยู่และบังทางเปิดบอลได้ดี ส่วนเกมรุกขึ้นไปเติมเกมได้ดีมากในช่วงต้นเกม หลังจากนั้นก็เติมเกมน้อยลงแต่ยังช่วยเชื่อมเกมได้ดี

ลูคัส - จ่ายบอลขึ้นหน้าเมื่อไหร่บรรลัยเมื่อนั้น พลาดเยอะมาก แต่ถ้าเอาแค่เคาะหนีตัวไล่เชื่อมเกมไปก็ยังพอทำได้อยู่ ในส่วนเกมรับทำได้ค่อนข้างดี เข้าสกัดถึงบอลและหยุดเกมรุกหน้าเขตโทษได้

เจอราร์ด - ช่วยเกมรับได้เยอะ กลายเป็นตัววิ่งไล่บอลในแดนกลางมันซะอย่างนั้นและทำได้ค่อนข้างดีด้วย เกมรุกจังหวะสุดท้ายไม่ได้มีส่วนร่วมเลยตลอดเกม แต่ผ่านบอลไปพื้นที่ว่างได้ดี

ซัวเรส - ซัวเรสตัวจริงกลับมาแล้ว(วิ่งไม่หยุดและหงุดหงิดเป็นระยะ) จบสกอร์ลูกแรกได้เยี่ยมมาก และมีส่วนร่วมกับเกมรุกเยอะมาก คุมอารมณ์ไม่ค่อยอยู่กับลูกตอดลูกแถมของผู้เล่นสเปอร์ แต่ทีทำได้ดีมากคือไม่หยุดวิ่ง ไม่ว่าจะทำทางหรือวิ่งไล่ ไม่ว่าจะนำหรือตามอยู่ ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าประทับเอามากๆ นอกจากจำนวนประตูที่ทำให้ทีมได้

คูตินโย่ - เป็นสาย int early game เต็มตัว(คิดคำนี้ขึ้นมาแล้วนึกถึงอดีตเมื่อ 10 กว่าปีก่อน 555+) ออกบอลได้อย่างฉลาด คิดเร็วทำเร็วทำได้ดีด้วย จ่ายบอลในเกมรุกได้สุดยอด แต่พอเข้ากลางเกมก็ค่อยๆ หายไป ได้บอลก็เริ่มโดนเบียดแซะไปบ่อยขึ้น จนกระทั่งหายไปจากเกมในที่สุด

ดาวนิ่ง - เล่นไปตามจังหวะจืดๆ นิ่งๆ มาเกือบทั้งเกม สิ่งที่ทำได้ดีคือลงมาช่วยจอห์นสันที่จ่ออยู่ที่ท่าเรือตลอดเกมได้อยู่ตลอด ลงมาบังทางและชลอเกมได้น่าประทับใจมาก (ซึ่งคูตินโย่ทำแบบนี้ไม่ได้) ดาวนิ่งมาเด่นจริงๆ เอาหลังจากที่ทีมพลิกนำได้แล้ว เกมรับช่วยได้มากทั้งสกัด, บังทางบอลและตัดฟาลว์ เกมรุกเลือกช็อตเล่นได้สุดยอด ครองบอลไว้กับตัวดี มีจังหวะกระชากเพื่อให้บอลมันไปตายในแดนหน้าได้ดี ถ้ามีเพื่อนเติมมาช่วยก็ตาดีพอที่จะจ่ายให้ กว่าสเปอร์จะเอาบอลกลับมารุกได้ก็นานพอสมควร นับเฉพาะ 8 นาทีสุดท้ายนั้นดาวนิ่งเป็นแมนออฟเดอะแมทช์ได้เลย

สเตอริดจ์ - เคลื่อนที่น้อย เก็บบอลไม่ได้มากนักและต่อเกมทำเกมได้แค่พอใช้ไม่ถึงขั้นดี มาทำได้ดีขึ้นเอาตอนที่ทีมตีเสมอ 2-2 ได้แล้วที่เคลื่อนที่มากขึ้นและทำเกมรุกได้ดีขึ้น ความฟิตดูจะยังไม่เต็มที่นัก

ตัวสำรอง

อัลเลน - ทำให้บอลอยู่กับทีมนานขึ้นและเชื่อมเกมไปข้างหน้าได้ดีมาก

เฮนเดอร์สัน - อย่างน้อยก็ได้ลงละฟระ

แมน ออฟ เดอะ แมทช์ : ...สตีเว่น เจอราร์ด... เกมรุกแทบไม่ได้ไปยุ่งกะเค้าเลย แต่ถ้าไม่มีคนนี้นัดนี้เน่าแน่ ช่วยประคับประคองเกมกลางสนามที่ตกเป็นรองตลอดเกมได้ดีไม่ว่าจะในเกมรับหรือ การตั้งเกมรุก ในวัยสามสิบกว่ายังวิ่งไล่เข้าปะทะได้ดี รวมไปถึงยิงจุดโทษให้ทีมเฉือนชนะได้ด้วย
------------------------------------------------------------

Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น