วันเสาร์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2554

อาร์เซนอล 0 - 2 ลิเวอร์พูล


แข่งเรือแข่งพายแข่งได้...
--------------------------------------------------------

ลิเวอร์พูลเริ่มด้วย 4-2-3-1

-------------------------คาโรล----------------------
------ดาวนิ่ง------เฮนเดอร์สัน------เค้าท์---------
----------------อดัม------------ลูคัส----------------
เอนริเก้-----แอกเกอร์------คาราเกอร์------เคลลี่
-------------------------เรน่า------------------------

หลังจากทำได้เสมอในบ้านนัดแรก นัดนี้ลิเวอร์พูลต้องออกมาเยือนอาร์เซนลอที่สภาพทีมกำลังย่ำแย่ ขายฟาเบรกัส แซวินโญ่,โรซิคกี้โดนแบน, วิลเชียร์เจ็บ ต้องใช้นักเตะดาวรุ่งถึงสองตำแหน่งคือจิคเคลสันทางแบคขวาและฟริมซงเป็นกลาง รับ ด้านดัลกลิชปรับทีมจากนัดแรกหันมาเล่น 4-2-3-1 โดยเคลลี่ได้ลงในตำแหน่งแบคขวา และเค้าท์ทางฝั่งขวา หุบเฮนเดอร์สันไปเล่นตรงกลาง
-------------------------------------------------------

เริ่มเกมมาทั้งสองฝ่ายก็บุกใส่กันทันที เล่นเกมเร็วใส่กันตลอด ลิเวอร์พูลดูเน้นเล่นบนพื้นมากขึ้นกว่านัดแรก ช่วงต้นเกมยังสูสีกันอยู่จนกระทั่งนาที 14 กอสคีลานี่เกิดเจ็บ เวนเกอร์ต้องส่งมิเคลซึ่งเป็นดาวรุ่งลงมาแทน หลังจากนั้นอาร์เซนอลก็ดูเล่นช้าลง ลิเวอร์พูลได้บอลมาบุกมากขึ้น โดยบุกได้ถึงเขตโทษและมีจังหวะจบสกอร์ได้บ้างแต่ยังไม่เป็นประตู

จนเข้าช่วง 10 นาทีสุดท้าย เกมกลับมาสูสีกันเหมือนเดิม ลิเวอร์พูลพยายามเน้นขึ้นบอลทางจิคเคลสันแต่ยังทำอะไรไม่ได้ และเกมรุกเริ่มตันๆ ส่วนทางอาร์เซนอลเกมรุกริมเ้ส้นทั้งอาชาวินและวัลคอตดับสนิท มีเพียงนาสรี่คนเดียวที่เล่นได้ทำให้เกมรุกลดความน่ากลัวลงไปมาก จนกระทั่งหมดเวลาครึ่งแรกสกอร์ยังอยู่ที่ 0-0

เข้าครึ่งหลัง อาร์เซนอลเน้นครองบอลมากขึ้น หันมาเล่นช้าเน้นความแน่นอนเป็นหลัก รวมทั้งดันแผงกองหลังขึ้นสูงเพื่อดักล้ำหน้าซึ่งได้ผลเป็นอย่างดี ทำให้คาโรลเล่นแทบไม่ได้ แถมกองกลางลิเวอร์พูลยังไม่สามารถจ่ายบอลทะลุกับดักล้ำหน้าได้เลย บอลจึงไปไม่ถึงเขตโทษอาร์เซนอลเหมือนในครึ่งแรก

เกมมาเปลี่ยน อีกครั้งในนาที 70 พริมซงที่เล่นได้เด่นมากในครึ่งแรกมาโดนเหลืองที่ 2 เป็นใบแดงจากจังหวะยกขาใส่ลูคัส ทำให้อาร์เซนอลเหลือแค่ 10 ดัลกลิชไม่รอช้าเปลี่ยนตัวสำรองทันที เอาไมราเลสกับซัวเรสลงมาแทนคาโรลและดาวนิ่ง โดยให้ซัวเรสยืนอยู่ข้างหน้า ไมราเลสยืนกลาง และถ่างเฮนเดอร์สันไปทางขวา ส่วนเวนเกอร์เองก็แก้เกมทันทีเช่นกันเอาแลนบิวรี่ที่เล่นรับลงมาแทนอาชาวิน

หลังจากได้เปรียบตัวผู้เล่น ลิเวอร์พูลเร่งเกมเข้าใส่ทันทีและกดดันได้อย่างต่อเนื่อง อาเซนอลได้แต่ตั้งรับอยู่ในแดนตัวเอง จนกระทั่งนาที 78 ไมราเลสจ่ายบอลตัดกองหลังให้ซัวเรส มิเกลเข้ามาสกัดแต่บอลไปโดนแรมซี่เด้งข้ามหัวเชสนี่เข้าประตูไปให้ลิเวอร์พู ลนำ 1-0

นาที 80 เวนเกอร์ส่งเบนเนอร์มาแทนวัลคอตเพื่อหวังลุ้นตีเสมอ แต่นาที 84 อาเซนอลยังมาซวยซ้ำเข้าไปอีก เมื่อเจคคินสันเกิดอาการบาดเจ็บแต่เปลี่ยนออกไม่ได้แล้วเพราะเปลี่ยนครบสาม คนไปเรียบร้้อย ทำให้อาเซนอลแทบจะหมดลุ้นและพาบอลไปกดดันลิเวอร์พูลหน้าเขตโทษไม่ได้เลย

เข้า 5 นาทีสุดท้ายลิเวอร์พูลเริ่มปิดเกม แต่นาที 90 ลูคัสที่ตัดบอลมาได้ จ่ายบอลให้ไมราเลสเคาะกลับเข้ากลางให้ซัวเรสแปง่ายๆ เข้าไปเป็น 2-0 ก่อนจะจบเกมส์ไปด้วยสกอร์ดังกล่าว
------------------------------------------

นัดนี้ดัลกลิชปรับแทคติคมาเล่น 4-2-3-1 จนได้ ทั้งยังเปลี่ยนนักเตะจากนัดก่อน 2 ตำแหน่ง คือเคลลี่และเค้าท์ ทำให้นักเตะแต่ละคนได้เล่นในตำแหน่งและบทบาทที่ตัวเองถนัด ในแดนหลัง เคลลี่ลงมาแทนฟลานาแกนและปิดเกมรุกริมเส้นของอาเซนอลได้อยู่หมัด ในแดนกลาง ลูคัสดูดีมีความสุขขึ้นมากเมื่อมีเพื่อนมาเล่นใกล้ๆ ทั้งอดัมและเฮนเดอร์สัน ไม่เหมือนเวลาเล่น 4-4-2 ที่ลูคัสจะลังเลในการออกบอลมากกว่านี้ ในแดนหน้าเค้าท์ได้วิ่งอย่างเป็นอิสระอีกครั้งและดูจะเหมาะกว่าการเล่นเป็น หน้าเป้าอย่างเห็นได้ชัด

สิ่งที่ทำให้ลิเวอร์พูลชนะในวันนี้ คงหนีไม่พ้นเหตุผลสำคัญ 2 ข้อ อันดับแรกคือความซวยของอาเซนอล นอกจากจะขาย,แบน,เจ็บ ไปหลายตัว ยังมาโดนไล่ออก จังหวะที่เสียลูกแรก ซัวเรสก็น่าจะล้ำหน้าไปก่อนด้วย เท่านั้นยังไม่พอ พอเปลี่ยนเบนเนอร์ลงมาหวังลุ้นประตู เจคคินสันดันมาเจ็บอีก เหมือนต้องเล่นกันแค่ 9 คนในช่วงท้ายเกม

ประการต่อมาคือการ เปลี่ยนตัวดัลกลิช นอกจากจะเปลี่ยนตัวเร็วแล้ว ยังไ่ม่ทำอะไรเหนือธรรมชาติด้วย คาโรลเล่นไม่ออกก็เปลี่ยนออก และรูปเกมที่อาเซนอลต้องลงไปรับ ทำให้การวิ่งของเค้าท์ไม่จำเป็นของเปลี่ยนออก และสองประตูที่ได้มา ก็ได้มาจากการเล่นของทั้งไมราเลสและซัวเรสทั้งสองลูก...แฮปปี้เอนดิ้งกันไป
-----------------------------------

หลายคนทำผลงานได้ีดี

เรน่า - ไม่มีบอลยากๆ ให้ต้องเซฟ ไม่มีงานให้ทำเท่าไหร่ ออกบอลเร็วไปด้านข้างได้ดี

เอนริเก้ - มีจังหวะคืนหลังเสี่ยงๆ อยู่ 2 หนแต่ไม่ทำให้ทีมเสียประตู นอกนั้นเล่นดีมาก โดยเฉพาะการปิดเกมของวัลคอตได้อย่างยอดเยี่ยม

แอกเกอร์ - เข้าบอลไม่แน่นเท่าไหร่ แต่ไม่ถึงกับเสียหายอะไรมาก

คาราเกอร์ - ประกบฟาน เพอร์ซี่ตายสนิท ต้องบอกว่าโชคดีด้วยที่กลางอาเซนอลเปิดบอลมาให้ฟาน เพอซี่ไม่ค่อยได้

เคลลี่ - ไม่ต้องเทียบกับฟลานาแกน เอาไปเทียบกับจอห์นสันได้เลย ถ้านับเฉพาะเกมรับที่ถือเป็นงานหลักของกองหลัง เคลลี่ทำได้ดีกว่าจอห์นสันอีก

ลูคัส - กลาง 3 ทำให้ลูคัสเล่นง่ายขึ้น มีส่วนร่วมกับเกมมากกว่านัดก่อน มีจังหวะพลาด 2 ครั้งที่เกือบถึงเสียประตู แต่นอกนั้นก็ถือว่าทำได้ดีมากๆ

อดัม - เล่นค่อนข้างต่ำ ทำได้ดีทั้งรุกและรับ เป็นตัวเชื่อมเกมที่ดี ทำให้เกมลิเวอร์พูลของข้างลื่นกว่านัดก่อน

เฮนเดอร์สัน - เป็นอีกนัดที่เล่นได้ไม่ดีเท่าไหร่ แต่เมื่อได้เล่นตรงกลางแล้วดูดีกว่านัดก่อนแบบเทียบกันไม่ได้

เค้าท์ - วิ่ง การวิ่งไล่บอลและทำทางของเค้าท์มีส่วนช่วยเกมของลิเวอร์พูลไม่น้อย ส่วนการจ่ายบอลและการครอสบอลมีประโยชน์กับทีมไม่มาก

คาโรล - วันนี้เพื่อนจ่ายบอลมาค่อนข้างดีกว่านัดที่แล้ว ทั้งการครอสที่มาจากด้านข้างมากกว่าด้านหลัง และบอลจ่ายตามช่อง แต่เป็นคาโรลเองที่ยืนตำแหน่งไม่ดี ทำชิ่งก็ไม่ได้ เป็นวันที่เล่นจัดว่าแย่

ดาวนิ่ง - เป็นตัวทำเกมของทีมไปเรียบร้อย ไปกับบอลได้ดี แต่คนที่จะมาเล่นด้วยยังไม่มี ทั้งคนวิ่งทำทาง คนทำชิ่ง ยังหาคนเล่นเขาขากับดาวนิ่งไม่ได้ ค่อนข้างโดดเดี่ยวและต้องไปคนเดียวบ่อยเกินไป

ไมราเลส - ดูมุ่งมั่นมากและทำได้ดีกับการแอสสิสถึง 2 ลูก

ซัวเรส - ด้วยความฟิตที่มีจำกัด เอามาเล่นแค่ 20 นาทีแบบนี้ดูเหมาะกว่า และซัวเรสก็ไม่ทำให้ผิดหวังกับการกดดันจนได้ 1 และยิงเองอีก 1 ประตู

แมน ออฟ เดอะ แมทช์ : ชาลี อดัม แม้ไมราเลสกับ ซัวเรสจะเป็นคนตัดสินเกม, เอนริเก้กับลูคัส จะเล่นได้ดี แต่ชาลี อดัมคือคนที่ทำให้เกมของลิเวอร์พูลไหลลื่น ไม่สะดุดเหมือนนัดแรก ทั้งยังคอยช่วยอัดช่วยตั้นในแดงกลางอยู่ตลอดด้วย
----------------------------------------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น