วันเสาร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2558

แมนฯยู 3-1 ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีค)


...วันแดงอุ่น...
___________________________

ลิเวอร์พูลเล่น 4-3-2-1

------------------------เบนเทเก้------------------------
-------อิ้งค์------------------------------เฟอมิโน่-------
-------------ชาน-------------------มิลเนอร์------------
---------------------------ลูคัส--------------------------
โกเมส-------ลอฟเรน---------สเคอเทล-------ไคลน์
-------------------------มินโยเล่------------------------

_______ ลิเวอร์พูลออกไปเยือนโอลด์แทรฟฟอร์ดแบบไม่มีคูตินโย่เพราะติดโทษแบน ร็อดเจอร์ส่งอิ้งค์เป็นตัวจริงแต่ยังคงเล่นในทรงหน้า 3 อยู่ ตัวผู้เล่นก็ชุดเดิมๆ ลอฟเรนกับโกเมสยังคงได้รับโอกาสต่อไป
-------------------------------------------------------

_______ เริ่มเกมมาแมนฯยูไล่สูงจนทำให้ลิเวอร์พูลต้องตักบอลโด่งหนีตัวไล่ เก็บบอลเล่นไม่ได้ บุกไม่ได้ รวมไปถึงลิเวอร์พูลเองก็เน้นมารับอยู่แล้วเพราะยืนต่ำเหลือเกิน กลายเป็นแมนฯยูได้ครองบอลอยู่แทบฝ่ายเดียวตั้งแต่ต้นเกม เน้นเกมริมเส้นฝั่งซ้ายใช้เดปายเป็นตัวรุกหลักเจาะใส่ไคลน์

________ แมนฯยูครองบอลได้ต่อเนื่องแต่เล่นช้าเน้นแน่นอน ได้เปิดบอลเข้าทำไม่มากเท่าที่ควรถ้าดูจากเปอร์เซ็นต์การครองบอล ส่วนลิเวอร์พูลสวมวิญญาณทีมกลางตารางมาเยือนทีมใหญ่ คืออุดอย่างเดียว ไม่ใช่บุกไม่ขึ้นแต่ไม่คิดจะบุกเลย ไม่ได้วางตัวไว้เปลี่ยนรับเป็นรุก แค่วางเบนเทเก้เอาไว้รับลูกสาดอย่างเดียว

_______ เกมโดยรวมทั้งช้าทั้งอืด เดปายเพียรเจาะไคลน์ตลอดแต่ยังกดดันได้น้อย ลิเวอร์พูลเองก็พอใจแล้วกับการไม่เสียประตู จบครึ่งแรกแบบกองเชียร์ทั้งสองทีมส่ายหน้า กุมขมับ ถอนหายใจในรูปเกม 0-0

_______ เริ่มต้นครึ่งหลัง แมนฯยูส่งยังลงมาแทนเดปายที่เจาะไคลน์ไม่ได้ออก วิธิเล่นเกมรุกยังคงเดิมแค่เปลี่ยนจากใช้ยังมาเป็นเดปาย รวมไปถึงเร่งเกมให้เร็วขึ้นมากว่าช่วงปลายครึ่งแรก ส่วนทางลิเวอร์พูลยังเล่นชิลๆ กันอยู่อย่างต่อเนื่อง

_______ กว่าลิเวอร์พูลจะรู้ว่าแมนฯยูไม่ชิลด้วยแล้วก็สายไป ยังกดดันไคลน์ได้ต่อเนื่องและ นาที 49 เรียกฟาล์วได้แถวๆ เส้นข้างเขตโทษ มาต้าหลอกจะยิงแต่แปกลับไปหน้าเขตโทษให้บลินด์วิ่งเติมขึ้นมายิงแบบไม่มีใครประกบ 1-0

_______ หลังจากสกอร์ขยับ ลิเวอร์พูลยังงงๆ อยู่ว่ารุกกันยังไง วิ่งดันๆ กันขึ้นไป แม้บอลจะไปถึงเขตโทษคู่ต่อสู้บ้างแต่ยังเล่นไม่ค่อยมีทิศทาง ส่วนแมนฯยูยังคงวิ่งไล่บี้ได้ดีอย่างต่อเนื่อง เกมเริ่มสนุก เล่นกันเร็วและเปิดแลกเกมรุกกันมากขึ้น

_______ นาที 65 ทั้งสองทีมเปลี่ยนตัวพร้อมกัน มาชิอัลได้ลงแทนมาต้า ไอบ์ได้ลงแทนเฟอมิโน่ ลิเวอร์พูลเล่นเกมรุกได้เป็นชิ้นเป็นอันขึ้นโดยเฉพาะเกมริมเส้นที่ฝั่งขวามีไคลน์เติมขึ้นไปและฝั่งซ้ายอิ้งค์ช่วยวิ่งทำทางรับบอลได้ดี ในขณะที่แมนฯยูครองบอลได้น้อยลงแต่เกมยังไม่เสีย ได้บอลเมื่อไหร่ก็พาไปถึงหน้าเขตโทษได้ตลอด

_______ นาที 70 แนวรับลิเวอร์พูลพลาดอีกครั้ง เออเรร่าได้บอลหลุดเข้าไปในเขตโทษ โกเมสเข้าบอลไม่ระวังเสียบผิดจังหวะเสียจุดโทษ เออเรร่าลุกขึ้นมายิงเสยเพดานไม่พลาด 2-0 แต่ถึงเสียเพิ่มลิเวอร์พูลก็ยังพอจะเล่นเกมรุกกันต่อไปได้ เกมไม่ได้สะดุดอะไรนัก

_______ นาที 74 โอริกิได้ลงแทนอิ้งค์ ลิเวอรพูลพอหาโอกาสได้ลุ้นประตูบ้างจากจังหวะฉาบฉวยและลูกเตะมุม แต่รวมๆ แล้วก็ยังกดดันแนวรับได้ไม่ต่อเนื่องนัก

_______ ทางแมนฯยูเองก็ผ่อนเกมลงไปบ้าง ส่วนลิเวอร์พูลเกมรุกเริ่มตัน แต่แล้วนาที 84 จากจังหวะต่อเนื่องจากเตะมุม ไอบ์เปิดบอลเข้าไปแฉลบกองหลัง บอลโด่งย้อยข้ามไปเสาสองเข้าทางเบนเทเก้ได้กระโดดวอลเล่ย์เต็มข้ออยากสวยช่วยให้ทีมไล่มาเป็น 2-1

_______ ขณะที่กำลังคิดว่าทีมจะมีลุ้น มาชิอัล “นิวอองรี” ก็จัดการปิดกล่องให้สิ้นเรื่องสิ้นราวไม่ต้องมโนเยอะ นาที 86 จังหวะโต้กลับ มาชิอัลได้บอลทางมุมเขตโทษฝั่งซ้าย เลี้ยงจี้เข้าใส่สเคอเทลและมีไคลน์วิ่งตามหลังมา มาชิอัลลากบอลติดเท้าจนเข้ามาเกือบถึงกรอบหกหลาก่อนจะล็อคหาจังหวะยิงไปเสาสองได้อย่างสวย 3-1

_______ จบปิ้ง ถึงจะทดอีกสี่นาทีแต่เวลาที่เหลือไม่มีอะไรแล้วครับ รวมไปถึงโมเรโน่ที่ได้ลงแทนลูคัสตั้งแต่นาที 88 ด้วย จบเกมด้วยสกอร์ 3-1
-----------------------------------------

_______ ครึ่งแรกน่าเกลียดมากครับ ครึ่งหลังดูดีขึ้นหน่อย

_______ 11 ตัวจริงผมยังคงเซ็งไม่หายกับการเห็นชื่อลอฟเรนกับโกเมส อิ้งค์ได้ลงตัวจริงก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่เพราะทั้งคูตินโย่แบน เฮนโด้เจ็บมันก็ต้องเป็นเขานี่แหล่ะ ถึงแม้ว่าจะอยากให้เล่นหน้าคู่ไปเลยมากกว่า แต่กับการเลือกเล่นในทรงหน้า 3 ผมก็ยังโอเคนะ ในแง่ที่ว่าทีมจะได้ยังไม่ต้องปรับวิธีการเล่นมากนักเพราะเล่นทรงนี้มาตั้งแต่เปิดฤดู

_______ ...แต่พอเล่นจริง...

_______ แทคติคที่เล่นด้วยการวางเบนเทเก้ไว้บนคนเดียว ที่เหลือลงไปรับต่ำหมด จังหวะโต้ไม่วางตัวไว้เปลี่ยนรับเป็นรุก ไม่มีคนขึ้นไปช่วยเบนเทเก้ จังหวะตัดบอลได้ไม่คิดเก็บบอล ไม่คิดทำเกมรุกเอาแต่วางสาดออกไปให้ไกลประตู นี่เป็นวิธีเล่นและทัศนคติที่รับไม่ได้จริงๆ ครับ

_______ ใช่ นี่คือเกมใหญ่บุกไปโอลแทรฟฟอร์ด ผมไม่ได้หวังให้เดินหน้าหน้าฆ่ามันดันแบ็ควิ่งเติมเข้าเขตโทษทีละ 4 ตัว แค่ขอให้ทีมพยายามจะรุกหน่อย ถ้าเลือกจะรับ-โต้ก็ให้มันเห็นหน่อยว่าจะทำยังไง จะมีตัวเร็วไปคอยรับบอลทางพื้นที่ว่างริมเส้นมั้ย หรือจะเอาใครมารอรับบอลแถววงกลมเพื่อเล่น-เปิดต่อให้เบนเทเก้มั้ย
_______ ...ไม่มี...

_______ เรียกว่าแปลงร่างเป็นทีมกลางตารางเต็มตัวเลยครับ เอาไม่เสียประตูไว้ก่อน รับแบบไม่มีทรงเลย คือถ้ายิงนำแล้วก็ยังพอจะรับได้บ้าง แต่นี่ไม่ใช่ อุดตั้งแต่นาทีแรกเลย แล้วนี่ไม่ใช่สิ่งที่นักเตะเลือกครับ แต่เป็นสิ่งที่ผู้จัดการทีมเลือกให้เล่นแบบนี้ ทีมแพ้ ทีมเล่นไม่ดีผมยังรับได้ แต่ทัศนคติแบบทีมกลางตารางแบบนี้รับไม่ได้จริงๆ

______ แมนฯยูก็ใช่ว่าจะดีกว่าครับ พวกเขาได้บอลเยอะแต่ก็เงื้อง่าราคาแพง ไม่ค่อยจะยอมเปิดบอลเข้าทำ ไม่ค่อยจะยอมเติมกันขึ้นมาบี้ให้ถึงที่สุด นี่ถ้าเฟอร์กี้มาเห็นเข้าคงกุมขมับไม่แพ้กัน แต่พวกเขายังดีที่กลับตัวได้ก่อนในต้นครึ่งหลังที่หันมาเร่งเกมจริงจังจนได้ประตูนำในที่สุด

______ เกมของลิเวอร์พูลหลังจากเสียประตูแรกไปแล้วเป็นต้นไป ไม่ใช่ว่าจะดีอะไรนักครับ แต่พวกเขาแสดงให้เห็นว่าถ้าจะบุกก็บุกได้ -ไม่ดีแต่ยังได้ลุ้น- รวมไปถึงเกมรับแมนฯยูก็ไม่ได้เหนียวแน่นอะไรนัก ก็แล้วทำไมไม่พยายามบุกซะบ้างตั้งแต่ต้นล่ะ?

______ สำหรับการเสียจุดโทษ ผมไม่โทษโกเมสเท่าไหร่ คือใครมันก็พลาดได้ แถมประสบการณ์เด็กมันมีแค่นี้ ประเด็นคือทำไมไม่หาใครที่มีประสบการณ์มากกว่านี้มาแทนตั้งแต่ต้น โมเรโน่อายุยังไม่ได้เยอะแต่ประสบการณ์ในฟุตบอลระดับสูงมีมากกว่าโกเมสที่ฤดูก่อนยังเล่นแชมเปี้ยนชิพแน่ หรือถ้าโมเรโน่ไม่เวิร์คจริงก็ต้องหาแบ็คซ้ายตัวจริงมาให้ได้ก่อนปิดตลาดมั้ย

______ ..ไม่มี...

______ สำหรับการเปลี่ยนตัว มองจากคนที่ฟิตเล่นได้ตอนนี้คนที่ส่งลงได้ก็คงประมาณนี้แหล่ะ แต่ประเด็นคือไอบ์+โอริกิ นี่คือคนที่ทีมจะฝากผีฝากไข้ในยามคับขันในเกมใหญ่หรือ อิ้งค์กับเฟอมิโน่อาจจะวิ่งได้น้อยลงแล้วแต่พวกเขายังนิ่งกว่ามั้ย ในขณะที่ความเสี่ยงที่ควรเสี่ยงอย่างการเปลี่ยนกลางออกแล้วใส่ตัวรุกเพิ่ม ดันมาทำเป็นทางเลือกสุดท้ายอีก

______ หวังว่าจะต้องอยู่กับร็อดเจอร์ถึงแค่ธันวานะครับ ...อย่านานกว่านั้นเลย
-------------------------------

นัดนี้เล่นกันไม่ค่อยดีนัก

มินโยเล่ - ต้นเกมขว้างบอลพลาดจนเกือบทำทีมพัง ออกมาตัดบอลกลางอากาศได้ดีตลอด ตำแหน่งยืนทำได้ดีเป็นส่วนใหญ่

โกเมส - ไม่ค่อยโดนกดดันมากนักเพราะบอลไปขึ้นอีกฝั่งมากกว่า ความผิดพลาดมีน้อยลงแต่ที่พลาดก็คือทำเสียจุดโทษเลย เชื่อมเกมไม่ได้เหมือนเดิม

ลอฟเรน  - โดยรวมแล้วประกบเฟอไลนี่ได้ดี ซ้อนแบ็คก็พอไปวัดไปวาได้ โชคดีด้วยส่วนหนึ่งที่คู่ต่อสู้ขึ้นอีกฝั่งมากกว่า แต่กับจังหวะโดนโต้กลับที่คู่ต่อสู้พลิกหนีแผงกลางได้แล้ว ลอฟเรนหาบอลไม่เจอ ตามใครไม่ทันเลย

สเคอเทล - สกัดบอลเปิดเข้ากลางได้ดีในครึ่งแรก เล่นลูกกลางอากาศได้ดี แต่พอครึ่งหลังเริ่มรวน ช่วยไคลน์ในจังหวะที่พลาดไม่ได้เลย มีหลายจังหวะควรวิ่งออกไปอัดก็ไม่ทำ ถอยหลังเข้าเขตโทษตลอด ยิ่งลูกสามนี่เสียคนเลย

ไคลน์ - ปิดเกมของเดปายได้ดี แต่ไม่ได้มีโอกาสเล่นเกมรุกสักเท่าไหร่ พอเข้าครึ่งหลังโดนยังเล่นงานไม่นานก็พลาด หลังจากพลาดจนทีมเสียประตูแรกก็ไม่โดนยังเผาอีก ขึ้นไปช่วยเชื่อมเกมข้างบนได้ดีในช่วงกลางๆ ครึ่งหลัง

ลูคัส - จ่ายบอลพลาดเยอะมาก ถ้าแมนฯยูมีเกมรุกที่เด็ดขาดกว่านี้ หรืออย่างน้อยเล่นดุกว่านี้ลิเวอร์พูลอาจเละตั้งแต่ครึ่งแรกแล้ว ช่วยปิดพื้นที่หน้าเขตโทษได้ดีแต่ไกลกว่านั้นก็ทำอะไรไม่ได้ ยิ่งตอนโดนโต้กลับยิ่งช่วยอะไรไม่ได้เลย

มิลเนอร์ - มีส่วนร่วมกับเกมน้อย หนักไปทางวิ่งไล่ไปเรื่อย เกมรุกแทบไม่ได้เล่นพอได้เล่นก็เล่นไม่ออก ไม่ว่าจะวิ่งสอดหรือจ่ายบอลวันนี้ทำได้ไม่ดีนัก

ชาน - หนักไปทางวิ่งไล่เช่นกัน ทำได้ดีกับจังหวะพาบอลไปเองแต่พอจ่ายบอลเมื่อไหร่นี่ดูไม่จืด ครึ่งหลังแทบไม่เห็นหน้าเลย

อิ้งค์ - กลายเป็นคนที่ต้องมาทำเกมและเปลี่ยนรับเป็นรุกซึ่งดูจะไม่เหมาะกับเจ้าตัวเลย ขยันดีและช่วยทีมได้เยอะกว่าแดนกลางคนอื่น แต่เขาดูจะถนัดและอันตรายกว่านี้ถ้าได้เล่นใกล้/ในเขตโทษ

เฟอมิโน่ - ยังคงเล่นไม่ค่อยออก มีส่วนร่วมกับเกมไม่มากนัก ก็ยังดีที่ทำเสียบอลน้อย แต่กับการทำเกมรุกนีตื้อตันพอๆ กับชานหรือมิลเนอร์เลย

เบนเทเก้ - โดดเดี่ยวมาก เล่นได้ดีตามสภาพ เก็บบอลได้พอควร ช่วงที่ทีมหันมาบุกจริงจังเบนเทเก้มีส่วนร่วมกับเกมมากขึ้นและกดดันแนวรับได้ดีกว่าเพื่อนร่วมทีมคนอื่น ยิงประตูสุดสวยได้ด้วย

ตัวสำรอง

ไอบ์ - เลี้ยงจี้ไม่ได้เลย ตัวต่อตัวไม่ผ่าน แต่ได้เปิดบอลพอควร ทำได้พอใช้ด้วยบอลผ่านเข้าไปในเขตโทษได้ลุ้น  ดูแปลกตาไปบ้างกับความพยายามหักกลับเข้าในบ้าง ไม่ใช่ตะบึงไปสุดเส้นแล้วเปิดติดรัวๆ แบบที่ผ่านมา

โอริกิ - ลงมาเก็บบอลเล่นได้น้อย แต่ก็เร็วและหาพื้นที่ว่างได้ไม่เลว ทำเสียบอลน้อยด้วย

โมเรโน่ - แทบไม่ได้บอล

แมน ออฟ เดอะ แมทช์ : ...แดนนี่ อิ้งค์…จะเลือกร็อดเจอร์แล้วครับแต่รู้สึกว่าจะประชดประชันกันมากไปแล้ว ท่ามกลางซากปรักหักพังของทีมวันนี้ ผมคิดว่าอิ้งค์เล่นได้ดีสุดในภาพรวม คือเกมรับก็ช่วยได้ เชื่อมเกมก็ช่วยได้ เกมรุกก็ทำได้บ้างตามสภาพทั้งๆ ที่ดูไม่ถนัดอย่างแรง
------------------------------------------------------------

เครดิตภาพจากเวปทางการ

Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น