วันจันทร์ที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

คริสตัล พาเลซ 3-3 ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีค)


...แดกจุดแป๊บนะ...
--------------------------------------------------------

ลิเวอร์พูลเริ่มด้วย 5-4-2 ไดมอนด์

----------------ซัวเรส------------สเตอริดจ์-------------
------------------------สเตอลิ่ง-------------------------
--------อัลเลน---------เจอราร์ด--------ลูคัส-----------
ฟลานาแกน---ซาโก้----ชามัค---สเคอเทล----จอห์นสัน
------------------------มินโยเล่-------------------------

_______ ลิเวอร์พูลออกไปเยือนพาเลซที่ฟอร์มกำลังแรงแต่ก็ตัวเบาไปเรียบร้อยเพราะไม่ ต้องลุ้นอะไรแล้ว นัดนี้สเตอริดจ์ได้กลับมาเป็นตัวจริงแต่คูตินโย่เริ่มต้นจากม้านั่งสำรอง แดนกลางเลยตกเป็นหน้าที่ของอัลเลนและลูคัส...ครับ แผงหลังได้ชามัคมาเสริมอีกคนหนึ่งทำให้เริ่มเกมแบบได้เปรียบตัวผู้เล่นถึง 2 คนเลยทีเดียว
-------------------------------------------------------

_______ เริ่มเกมมาลิเวอร์พูลก็ดันสูงครึ่งสนามพยายามเร่งเกมให้เร็ว เปิดเกมรุกเต็มที่ ส่วนพาเลซถ้าตัดบอลได้จะทำเร็วทันที แต่ถ้าตัดไม่ได้ก็วิ่งถอยหลังลงไปรับกันหน้า-ในเขตโทษ ช่วงต้นๆ พาเลซยังตัดบอลกลางสนามได้อยู่บ้างทำให้เกมเร็ว แต่ยิ่งเล่นพาเลซก็ยิ่งตัดบอลกลางสนามได้น้อยลง ถอยลงไปมากขึ้นๆ ส่วนลิเวอร์พูลที่ได้ครองบอลมากขึ้นวันนี้ทำได้ดีกับการหาช่องเข้าทำ แม้จะโดนอุดแน่นก็ยังพอจะหาช่องได้บ้างเล็กน้อย

_______ ร่วม 15 นาทีของเกมผ่านไป ผู้เล่น 21 คนในสนาม (คือทุกคนยกเว้นมินโยเล่) แทบจะยืนกันอยู่ในแดนพาเลซหมดแล้ว พาเลซอุดชนิดที่เรียกว่าฉาบอิฐก่อปูนปิดประตูได้ก็คงทำไปแล้ว ส่วนลิเวอร์พูลมาแปลกด้วยการยังคงหาช่องได้เรื่อยๆ แม้จะทำเกมได้ช้าลงกว่าช่วงต้นเกมก็ตาม ซึ่งในที่สุดแม้เกมเปิดจะทำไม่ได้ก็มาทำสำเร็จจากลูกเตะมุม นาที 18 เจอราร์ดเปิดลึกไปเสาสอง อัลเลนวิ่งสลัดตัวประกบได้ไปยืนโหม่งโล่งๆ คนเดียวเข้าไป 1-0

_______ พอเสียประตูแล้วพาเลซก็ไล่บอลแดนกลางมากขึ้น...เกือบถึงวงกลมกลางสนามเชียว นะ เกมโดยรวมเป็นลิเวอร์พูลที่คุมเอาไว้ได้หมด ครองบอลมากกว่า โอกาสลุ้นประตูไม่ถึงกับได้ลุ้นจะแจ้งนักแต่ก็มีโอกาสบ้างนิดหน่อยเป็นระยะ เกมเล่นกันไปในทรงนี้อยู่พักใหญ่ๆ พอเข้าครึ่งชั่วโมงของเกมไปแล้วพาเลซเริ่มหันมาตั้งเกมรุกมากขึ้นและยิงไกล ได้ลุ้นมากขึ้น ในขณะที่ลิเวอร์พูลเกมรุกเริ่มเพลาลงไปแล้วแต่ยังคุมเกมได้ ก่อนจะจบครึ่งแรกที่ 1-0

_______ เข้าครึ่งหลัง พาเลซลงมาทำเกมรุกต่อเนื่องจากท้ายครึ่ง เน้นการเลี้ยงจี้เข้าทำมากขึ้นและได้ผลพอสมควร หันมาไล่สูงจังหวะลิเวอร์พูลตั้งบอลมากขึ้นแล้ว ไม่ได้ไล่ตลอด แต่ก็ถือว่าเยอะกว่าครึ่งแรกที่ไม่วิ่งเข้าไปกวนใจเลย ส่วนลิเวอร์พูลยังเล่นในจังหวะคล้ายเดิม ไม่ชัวร์ไม่จ่าย ไม่เร่งเกมเท่าไหร่ คอยหาจังหวะฉาบฉวยเล่นงานเอา ซึ่งก็ได้ผลซะด้วย

_______ นาที 53 เจอราร์ดวางยาวให้สเตอริดจ์ ก่อนที่สเตอริดจ์ที่เอาลงบอลได้ดีจะกระชากเข้ากลางหาที่ว่างแล้วยิงหักข้อ บอลแฉบลกองหลังแต่ก็ยังเข้าประตูไปได้ ลิเวอร์พูลนำห่าง 2-0 เท่านั้นยังไม่พอ แค่ 2 นาทีถัดมา ซัวเรสรับบอลแถวกลางสนาม พลิกบอลแล้วโดนปั้มแต่บอลยังเข้าทางให้พาขึ้นไปถึงหน้าเขตโทษ ก่อนจะทำชิ่งกับสเตอลิ่งจนตัวเองได้หลุดเข้าไปยิงในเขตโทษไม่พลาด 3-0

_______ เท่านั้นยังไม่พอ หลังจากเสียประตูที่สองเป็นต้นมา แนวรับของพาเลซเริ่มออกอาการเสียสมาธิและเปิดพื้นที่ให้เล่นค่อนข้างมาก นอกจากจะทำให้เสียลูกที่สามอย่างที่ว่าไปแล้ว ยังทำให้ลิเวอร์พูลมีโอกาสได้ลูกที่สี่อีกหลายครั้งแต่ทำไม่สำเร็จ ส่วนเกมรุกของพาเลซเองก็ไม่ปะติดปะต่อ บุกขึ้นไปได้บ้างก็จริงแต่ไม่ค่อยต่อเนื่อง ทุกอย่างดูเข้าทางลิเวอร์พูลหมดแล้ว

_______ นาที 78 คูตินโย่ได้ลงแทนสเตอลิ่ง จากนั้นไม่นานเกมที่ไม่น่าจะมีอะไรก็มีอะไรขึ้นมาจนได้ นาที 79 จากลูกฟรีคิกของพาเลซ ผู้เล่นลิเวอร์พูลดูเสียสมาธิและปล่อยให้คู่ต่อสู้เล่นง่ายเกินไป เดอลานี่ได้ตั้งป้อมยิงไกลแถวหน้าเขตโทษโดยผู้เล่นลิเวอร์พูลเข้าไปบังทาง ช้า บอลแฉลบจอห์นสันเข้าประตูไปให้พาเลซไล่มาห่างๆ 3-1 เท่านั้นยังไม่พอ 2 นาทีถัดมาลิเวอร์พูลยังมาโดนอีกลูกจากจังหวะได้ลูกเตะมุมแต่โดนพาเลซโต้เร็ว กลับมาแล้วลงมารับไม่ทัน จังหวะสุดท้ายเป็นเกลที่ได้สับไกยิงในเขตโทษไม่พลาดไล่มาเป็น 3-2

_______ ถึงตรงนี้ผู้เล่นลิเวอร์พูลออกอาการเครียดและกดดันอย่างเห็นได้ชัด เล่นพลาดต่อเนื่องและหยุดเกมของพาเลซแทบไม่ได้แล้ว นาที 86 โมเสสได้ลงมาแทนสเตอริดจ์ แต่ก็ไม่ได้ทำให้เกมเปลี่ยน ซ้ำร้ายแนวรับยังมาพลาดอีกครั้งในนาที 88 จากบอลโด่งที่เปิดเข้ามาหน้าเขตโทษ มีตัวพาเลซวิ่งเข้ามากระโดดพักบอลข้ามตัวสเคอเทลเข้าไปให้เกลได้บอลหลุดเข้า ไปเดี่ยวๆ ในเขตโทษซึ่งเจ้าตัวก็ไม่พลาด ยิงเข้าไปได้ พาให้พาเลซตีเสมอได้สำเร็จ 3-3 จากที่ตามอยู่ 3-0 อย่างเหลือเชื่อ

_______ เวลาที่เหลืออยู่ลิเวอร์พูลพยายามจะเร่งเกมรุกมากขึ้นและมีโอกาสดีที่สุดจาก ลูกเตะมุมที่แนวรับสกัดไม่ขาด แต่โมเสสเข้าไม่ถึงบอล ชวดได้ประตูชัยอย่างน่าเสียดาย และจบเกมที่สกอร์ 3-3
-----------------------------------------

_______ ตอนนาที 55 ใครคิดว่าเกมนี้ลิเวอร์พูลจะไม่ชนะนี่ไม่เพี้ยนน้อยก็เพี้ยนมากละครับ

_______ 11 ตัวจริงของลิเวอร์พูลวันนี้ถ้าจะมีอะไรแปลกไปหน่อยก็คงเป็นคูตินโย่ที่เป็น ตัวสำรอง ซึ่งก็คงจะมีปัญหาความฟิตละมั้ง เพราะถ้าฟิตเต็มร้อยก็ยังมองไม่เห็นว่าทำไมถึงไม่ได้เป็นตัวจริงแทนลูคัส หรืออัลเลนคนใดคนหนึ่ง ในเกมที่ไม่ต้องเล่นเกมรับมากมายอะไรนักแบบนี้ แทคติคเริ่มเกมก็คงเลือกอะไรไม่ได้มากไปกว่าที่เล่นอยู่ เพราะพาเลซก็ถอยไปรับกันต่ำ ดังนั้นทั้งสองอย่างนี้ไม่ใช่เรื่องที่สร้างปัญหาครับ (มองว่าคูตินโย่ไม่ฟิตไว้ก่อนนะ)

_______ นอกจากจะไม่สร้างปัญหาแล้ว จะว่าไปวันนี้เป็นวันที่ลิเวอร์พูลเล่นได้ดีกว่าอีกหลายนัดที่เจอคู่ต่อสู้ มาอุดแบบนี้ด้วยซ้ำ ตลอด 55 นาทีแรกของเกม มีช่วงที่ได้ลุ้นมาได้ลุ้นน้อยแต่ที่เหมือนกันอยู่ตลอดคือลิเวอร์พูล เจาะแนวรับได้ ครับ ทั้งจากลูกฉาบฉวยก็ดี บอลชิ่งก็ดี บอลเลี้ยงจี้ก็ดี เจาะได้เรื่อยๆ ไม่เหมือนบางนัดที่เจออุดแบบนี้แล้วหาโอกาสแทบไม่ได้เลย และนอกจากจะเจาะได้แล้ว ลิเวอร์พูลยังจบสกอร์ได้ดีด้วยเมื่อทำได้มาถึง 3 ลูก

_______ แต่ปัญหาของลิเวอร์พูลในเกมนี้คือการมีสมาธิกับเกมและการผ่อนเกมมากเกินไป ช่วง 10 นาทีท้ายของครึ่งแรกพาเลซก็เตือนแล้วว่าพวกเขายิงไกลได้เป็นสัปปะรดนะ เมื่อมินโยเล่ต้องออกแรงอยู่ถึงสองครั้ง แต่พอนำห่าง 3 ลูกผู้เล่นลิเวอร์พูลก็ยังไปผ่อนเกมและเสียสมาธิอีกจนได้ ลูกแรกก็ยืนดูจนบอลมันไปถึงหน้าเขตโทษ ลูกที่สองก็ทะเล่อทะล่าดันกันขึึ้นไปเล่นลูกเตะมุมกันหมดแล้วลงไม่ทัน ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากสภาพความฟิตที่หลายคนดูมีปัญหา ซึ่งก็ไม่ได้น่าแปลกใจอะไรนักเพราะเล่นกันมาตลอดทั้งฤดูแบบแทบไม่ได้พักกัน นึกภาพว่าขนาดซัวเรสยังมีจังหวะที่ลงไปนั่งหอบบนป้ายโฆษณาอยู่พักใหญ่กว่าจะ ลุกขึ้นน่ะ

_______ นอกจากนั้นความกดดันยังมาช่วยทำให้อะไรมันแย่ลงไปอีก หลังจากเสียลูกที่สองไปแล้ว ผู้เล่นลิเวอร์พูลทุกคน ย้ำว่าทุกคน เล่นหลุดกันไปหมด ช่วงเวลาจาก 81-88 เป็นช่วงที่ลิเวอร์พูลทำอะไรไม่ได้ ไม่ได้ที่ว่าไม่ได้หมายถึงเกมรุกอย่างเดียว แต่หมายถึงเกมรับด้วย สุดท้ายก็เอาตัวรอดจากความกดดันไม่ได้

_______ เรื่องการเปลี่ยนตัว การเปลี่ยนคูตินโย่ลงไม่ได้น่าแปลกใจนัก เอาแค่เปลี่ยนความสดลงมาก็เป็นเหตุผลที่ดีพอแล้วแต่ประเด็นคือเลือกเปลี่ยน สเตอลิ่งออกแทนที่จะเป็นลูคัสหรืออัลเลนคนใดคนหนึ่งที่ช่วยทีมได้ไม่มากนัก ทั้งคู่ อย่างไรก็ตามการเปลี่ยนครั้งนี้อาจเป็นเพราะนำ 3 ลูกแล้วเลยเปลี่ยนแบบนี้ก็เป็นได้ ก็ยังเข้าใจได้ แต่การเปลี่ยนโมเสสลงมาแทนสเตอริดจ์ในนาที 86 นี่....แดกจุดครับ

_______ มองทางฝั่งพาเลซ ผมคิดว่าสิ่งที่พวกเขาทำได้ดีที่สุดในนัดนี้คือการเปลี่ยนตัวแถมอย่างชามัค ออก เอาจริงๆ นัดนี้ชามัคก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรมาก (แค่เลวร้ายระดับธรรมดา) แต่ทีเด็ดทีขาด โดยเฉพาะการจ่ายบอลให้เพื่อนในจังหวะที่ต้องคิดเร็วทำเร็ว ชามัคทำพลาดเสียโอกาสไปหลายครั้ง พอถูกเปลี่ยนออกปุ๊ป การเชื่อมเกมในแดนหน้าของพาเลซมันไม่สะดุด ทำให้พวกเขาเล่นในพื้นที่สุดท้ายได้ดูดีขึ้นมาทีเดียว...ดีไปหน่อยด้วย ล่อซะ 3 ลูก

_______ ...จบเกมนี้ ซัวเรสเอาเสื้อปิดหน้าแล้วร้องไห้ครับ ... นั่นคงช่วยอธิบายความรู้สึกของใครหลายคนได้ดีเลยล่ะ...
-------------------------------

นัดนี้เล่นกันได้ดีมาก ...อยู่ 55 นาที

มินโยเล่ - เซฟลูกยิง ไกลได้ดีสองครั้งในช่วงท้ายครึ่งแรก ครึ่งหลังก็ยังเซฟลูกที่ไม่ยากนักได้หมด ออกมาตัดบอลโด่งได้ดีถึงบอลตลอด 3 ลูกที่เสียไปคงทำอะไรดีกว่านั้นไม่ได้แล้ว

จอห์นสัน - ครึ่งแรกแทบไม่ได้เล่นเกมรับสักเท่าไหร่ เชื่อมเกมได้สบายเพราะคู่ต่อสู้ก็ไม่ได้กดดัน แต่พอเข้าครึ่งหลัง โดยเฉพาะหลังจากโดนลูกแรกไปแล้ว จอห์นสันนี่กัปตันเรือชัดๆ โดนเผาไหม้เกรียม หยุดคู่ต่อสู้ไม่ได้เลยโดยกระชากไปเปิดได้ตลอด หลายครั้งก็ยืนขาตายให้เขาพาบอลไปได้ง่ายๆ มีส่วนกับทั้ง 3 ประตูที่ทีมเสียไปเลยทีเดียว

ซาโก้ - ครึ่งแรกงานไม่เยอะไม่มีปัญหา ผ่านบอลได้ค่อนข้างดีแม้จะหนักไปทางขวางสนามบ่อยไปหน่อย ไม่ค่อยจะให้ขึ้นหน้า ครึ่งหลังงานเยอะขึ้นแต่ก็เล่นพอใช้ได้ โดยเฉพาะลูกกลางอากาศที่เบียดชนะได้เป็นส่วนใหญ่

สเคอเทล - เล่นได้ดีอยู่ราว 1 ชั่วโมง พอโดนใบเหลืองในนาที 63 ฝันร้ายก็มาเยือนทั้งเจ้าตัวทั้งทีมเลยทีเดียว เข้าบอลได้ไม่ถนัดและหลายครั้งเห็นชัดว่าชะงักเพราะกลัวจะโดนใบเหลืองใบที่ สอง พอไปรวมเข้ากับจอห์นสันที่หลุดกระจายเข้าให้อีกยิ่งทำให้สเคอเทลต้อง เข้าไปซ้อนให้อยู่ตลอด เล่นยากนักเข้าไปอีก เริ่มพลาดให้เห็นเป็นระยะ หนักข้อสุดคงหนีไม่พ้นลูกที่สามที่เจ้าตัวประกบคู่ต่อสู้ห่างไป(ถ้าคิดจะ ประกบ) ไม่ก็วิ่งถลำไปจนเปิดพื้นที่ด้านหลัง(ถ้าคิดจะคุมพื้นที่)

ฟลานาแกน - เกมรับพอใช้ได้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะพาเลซไปเน้นขึ้นอีกฝั่งมากกว่าด้วย ช่วงครึ่งชั่วโมงท้ายหยุดคู่ต่อสู้ไม่ค่อยได้เหมือนกันแต่อาการยังไม่โคม่า เท่าจอห์นสัน

เจอราร์ด - ไม่ค่อยโดนไล่สักเท่าไหร่และมีโอกาสได้วางบอลยาวไปข้างหน้าได้สวยๆ หลายครั้ง เชื่อมเกมจากหลังไปหน้าได้ดี แต่นัดนี้เกมรับของเจอราร์ดดูไม่ดีเท่าไหร่ โดยเฉพาะการคุมพื้นที่หน้าเขตโทษ หลวมมากๆ

ลูคัส - เล่นได้สูสีกับชามัคเลยครับ

อัลเลน - ช่วง 30 นาทีแรกของเกมมีส่วนร่วมกับเกมรุกพอสมควร ทำประตูได้ด้วย ออกบอลเกมรุกได้บ้าง แต่หลังจากนั้นก็เล่นได้สูสีกับลูคัสเลยครับ

สเตอลิ่ง - เป็นตัวหลักในการเปลี่ยนรับเป็นรุก หาพื้นที่รับบอลดี เก็บบอลได้ แต่ออกบอลต่อไปไม่ถึงกับดีเท่าไหร่นัก หนักไปทางต้องจ่ายบอลกลับไปให้กองกลางมากกว่าจะจ่ายบอลทำเกมรุกขึ้นไปข้าง หน้า ถ้าไม่มีจังหวะทำชิ่งให้ซัวเรสได้ยิงลูกที่สามนี่แทบจะลืมสเตอลิ่งไปเลย

สเตอริดจ์ - หาพื้นที่และวิ่งทำทางได้ดี เก็บบอลได้ครองบอลเหนียวแน่น จังหวะสุดท้ายทำได้ดีกว่าอีกหลายๆ นัดเลยทีเดียว มีเล่นฝืนบ้างแต่ไม่เยอะเท่าไหร่

ซัวเรส - เป็นตัวทำเกมหลักของทีม โดยเฉพาะการเลี้ยงจี้, ให้แล้วไป ที่ทำให้คู่ต่อสู้ต้องเข้ามารุมกันครั้งละหลายๆ คน แต่ช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้ายเล่นเหมือนหมดแรงวิ่งแล้ว กระชากไม่ออก สปีดไม่ค่อยขึ้น

ตัวสำรอง 

คูตินโย่  - เกือบลืมว่าได้ลงมา

โมเสส
- ถามกันแบบจริงๆ ซีเรียสๆ เลยนะ ...ลงมาทำไม

แมน ออฟ เดอะ แมทช์ :
...หลุย ซัวเรส...
------------------------------------------------------------
Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น