วันอาทิตย์ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

ลิเวอร์พูล 2-1 นิวคาสเซิล (พรีเมียร์ลีค)


...ปีหน้าว่ากันใหม่...
--------------------------------------------------------

ลิเวอร์พูลเริ่มด้วย 4-4-2 ไดมอนด์

----------------ซัวเรส------------สเตอริดจ์-------------
------------------------สเตอลิ่ง-------------------------
--------อัลเลน---------เจอราร์ด------เฮนเดอร์สัน------
ฟลานาแกน---แอกเกอร์------สเคอเทล-------จอห์นสัน
------------------------มินโยเล่-------------------------

_______ นัดสุดท้ายของฤดูกาล ลิเวอร์พูลเปิดบ้านรับมือนิวคาสเซิล นัดนี้เฮนเดอร์สันพ้นโทษแบนกลับมาเป็นตัวจริงได้คราวซวยเลยไปตกที่ลูคัสต้อง เปิดทางให้ ส่วนตำแหน่งอื่นๆ ยังใช้ชุดเดิมเหมือนที่ผ่านมา
-------------------------------------------------------

_______ ช่วงต้นเกมเป็น ลิเวอร์พูลที่ครองเกมได้หมด ไม่ได้เร่งเกมรุกมากนัก ค่อยๆ ต่อบอลกันขึ้นหน้า เน้นขึ้นเกมทางฝั่งขวา ครองบอลอยู่แทบจะฝ่ายเดียวแต่เจาะพื้นที่สุดท้ายไม่ได้ ส่วนนิวคาสเซิลลงไปรับต่ำ คุมพื้นที่ในแดนตัวเอง กว่าจะเริ่มครองบอลได้เป็นชิ้นเป็นอันบ้างก็ต้องผ่าน 10 นาทีแรกของเกมไปแล้ว แต่บอลก็ไปไม่ถึงเขตโทษเลย

_______ ลิเวอร์พูลดันแผงหลังลอยสูงขึ้นมาถึงครึ่งสนามซึ่งทำให้ครองบอลได้ต่อเนื่อง แต่ก็ทำให้มีพื้นที่ด้านหลังไว้เยอะ แถมมาพลาดเองก่อนอีกต่างหาก นาที 20 จากการทำเกมเร็วของนิวคาสเซิลที่พาบอลออกไปถึงเกือบสุดเส้น(ด้านจอห์นสัน) เปิดเรียดเข้ากลางมาบอลสูงระดับหัวเข่า สเคอเทลถึงบอลก่อนแต่สกัดผิดเหลี่ยมบอลพุ่งเข้าเสาสองให้ทีมเยือนขึ้นนำก่อน 1-0 แบบงงๆ

_______ พอเสียประตูแล้วนิวคาสเซิลที่มารับอยู่แล้วยิ่งรับต่ำหนักเข้าไปอีก อาศัยโต้ด้วยการวางบอลทะลุช่องเร็วเป็นหลัก ส่วนลิเวอร์พูลแนวรับเริ่มออกอาการ เปิดช่องให้คู่ต่อสู้วางบอลทะลุช่องง่ายๆ โดนโต้จนเกือบโดนเพิ่มแต่จังหวะสุดท้ายยังเอาตัวรอดกันมาได้ เวลาที่เหลืออยู่ ลิเวอร์พูลยังครองบอลได้เป็นส่วนใหญ่แต่เจาะพื้นที่สุดท้ายไม่ได้ โดยเฉพาะการสนับสนุน/ทำเกมจากแถวสองครึ่งแรกแทบไม่มีให้เห็นเลย ทำให้จบครึ่งแรกยังตามหลังอยู่ 1-0

_______ เข้าครึ่งหลัง ลิเวอร์พูลปรับเกมพอสมควร เปลี่ยนซิสโซโก้แทนฟลานาแกน โยก เอาสเตอลิ่งไปเล่นริมขวาเต็มตัว สลับเอาเฮนเดอร์สันเข้ากลาง ดันแผงหลังสูงขึ้น(จากที่สูงอยู่แล้ว) และเร่งออกบอลไปข้างหน้าเร็วขึ้น แต่ผลลัพธ์ออกมารูปเกมยังคล้ายครึ่งแรกคือครองบอลได้ เจาะไม่ค่อยเข้า

_______ นาที 59 คูตินโย่ได้ลงมาแทนอัลเลน และทำให้เกมรุกทางขวาของลิเวอร์พูลดีขึ้น โดยเฉพาะการพาบอลไปเองของทั้งคูตินโย่และสเตอลิ่ง ในที่สุดก็ตีเสมอได้สำเร็จ นาที 63 สเตอลิ่งเรียกฟาล์วได้ใกล้ๆ มุมเขตโทษฝั่งขวา เจอราร์ดรับหน้าที่เปิดบอลลึกไปเสาสอง แอกเกอร์เหยียดขาหวดบอลเข้ามุมแคบไปได้สำเร็จ 1-1 และหลังจากนั้นแค่ 2 นาที เหตุการณ์แทบจะเหมือนเดิมเป๊ะ แต่คราวนี้เป็นคูตินโย่ที่เรียกฟาล์วได้ห่างจากจุดเดิมแค่ประมาณ 5 หลา เจอราร์ดเปิดไปเสาสองเหมือนเดิม คราวนี้เป็นสเตอริดจ์ที่เข้าถึงบอลชาร์จได้สำเร็จ ลิเวอร์พูลพลิกขึ้นนำ 2-1


_______ หลังได้ประตูแล้วช่วงที่นิวคาสเซิลกำลังเอาบอลมาเขี่ยเริ่มเกม อเมโอบี้ศูนย์หน้านิวคาสเซิลหันไปด่าผู้ตัดสินอีท่าไหนไม่รู้ โดนใบแดงไล่ออกสนามไปทำให้นิวคาสเซิลเหลือแค่ 10 คน เกมต่อจากนั้นลิเวอร์พูลก็เคาะครองบอลทันที ไม่เร่งเกมและไม่เสี่ยงจ่ายบอลขึ้นหน้าแล้ว แค่เล่นไปตามจังหวะ...เช่นดียวกับนิวคาสเซิล

_______ นาที 80 ลูคัสได้ลงแทนสเตอริดจ์ ถึงตรงนี้นิวคาสเซิลก็ไม่ได้ฮึดฮัดอะไรมากนัก ยังคงเล่น ไปเรื่อยๆ เช่นกัน ลิเวอร์พูลหาโอกาสได้ลุ้นบ้างจากการเปิดบอลเรียดเข้ากลางจากทางริมเส้นทั้ง สองฝั่ง แต่บอลมาไม่ค่อยถึงตัวจบสกอร์ ส่วนนิวคาสเซิลนานๆ ทีก็เอาบอลมาใกล้ๆ เขตโทษได้บ้าง แต่ไม่มีโอกาสจ่ายบอลเข้าทำ ดีสุดคือลุ้นเล็กๆ น้อยๆ จากลูกตั้งเตะ

_______ นาที 87 จากจังหวะโต้กลับเร็วของลิเวอร์พูล เฮนเดอร์สันจ่ายให้ซัวเรสพลิกบอลไปแล้วแต่โดนดัมเมตดักเข่าจนหมุนติ้ว 1 รอบก่อนลงไปกองกับพื้นหญ้า ซึ่งทำให้ดัมเมตโดนใบแดงไล่ออกไปอีกคน ทั้งๆ ที่พึ่งลงมาเล่นได้แค่ 5 นาที เวลาที่เหลืออยู่ก็ไม่มีอะไรเหลือให้พูดถึงแล้ว ลิเวอร์พูลปิดเกมไปได้สำเร็จ 2-1
-----------------------------------------

_______ นิวคาสเซิลไม่ค่อยได้สร้างปัญหาเท่าไหร่ครับ เป็นลิเวอร์พูลเองที่ทำได้ไม่ค่อยดีนัก

_______ 11 ตัวจริงของลิเวอร์พูลวันนี้ คูตินโย่ยังคงเป็นสำรอง ก็ไม่รู้ว่าไม่ฟิตหรืออย่างไรเพราะดูยังไงคูตินโย่น่าจะดีกว่าอัลเลนในเกมที่ต้องการเกมรุกแบบนี้ สำหรับวิธีการเล่น ครึ่งแรกดูจะขึ้นบอลกันช้าไป กว่าบอลจะไปถึงข้างหน้าได้นิวคาสเซิลไปกองกันเต็มเขตโทษแล้ว ปัญหาใหญ่ของครึ่งแรกน่าจะอยู่ที่กองกลางทำเกมรุกไม่ได้เลย ซ้ำร้ายยังสนับสนุนเกมรุกไม่ได้ด้วย ทำให้บางครั้งซัวเรสได้บอลพลิกไปได้แล้ว แต่เงยหน้าไปไม่มีใครให้เล่นด้วยสักคน...เจาะไม่เข้าสิครับ

_______ การปรับเกมในช่วงพักครึ่ง กรณีเปลี่ยนซิสโซโก้ลงมาแทนฟลานาแกนคงเป็นอาการบาดเจ็บเสียมากกว่า เพราะฟลานาแกนไม่ได้เล่นพลาดและซิสโซโก้ก็ไม่ได้ลงมาเล่นอะไรที่ต่างไปจาก ฟลานาแกน(หมายถึงวิธีการ ไม่ใช่ประสิทธิภาพ) แต่ที่น่าประทับใจจริงๆ คงอยู่ที่การสลับตำแหน่งเฮนเดอร์สันกับสเตอลิ่งที่ทำให้เกมรุกฝั่งขวากดดัน คู่ต่อสู้ได้มากขึ้น ยิ่งพอส่งคูตินโย่ลงมาอีกคนแล้วหันมาใช้การเลี้ยงจี้เข้าทำเต็มตัว ผ่านบอลน้อยลง ไปเองมากขึ้น กดดันแนวรับได้ดีขึ้น

_______ โดยรวมผมชอบการแก้เกมของร็อดเจอร์ในนัดนี้ครับ

_______ มีอะไรที่อยากเขียนถึงอีกมาก แต่ส่วนใหญ่ไม่เกี่ยวกับเกมในสนามนัดนี้แล้ว เพราะฉะนั้นจะขอยกยอดไว้เขียนอะไรประมาณว่า "เก่งหลังฤดูกาล" หรืออะไรทำนองนั้นจะดีกว่า

_______ ...ส่วนบทความหลังเกมของฤดูนี้คงต้องขอลาไปก่อน พบกันใหม่ฤดูกาลหน้า...ถ้าทำได้
-------------------------------

นัดนี้เล่นกันพอใช้ได้

มินโยเล่ - ลูกที่เสียไปก็เกินความสามารถ นอกจากนั้นก็แทบไม่มีอะไรให้ทำเลยไม่ว่าจะเซฟหรือตัดบอล

จอห์นสัน - เกมรับมีให้เล่นไม่มากนัก คู่ต่อสู้ขึ้นอีกฝั่งมากกว่า วันนี้จอห์นสันเชื่อมเกมได้ธรรมดามาก เขาเคยทำดีกว่านี้ เกมรุกดับสนิท

แอกเกอร์ - ตั้งแต่เสียประตูแรกจนกระทั่งจบครึ่งแรก แอกเกอร์ทำได้ไม่ดีนักโดยเฉพาะการอ่านเกม แต่ช่วงต้นเกมรวมไปถึงครึ่งหลังเขาเล่นได้ดีโดยเฉพาะการดักตัดบอลก่อนถึงคู่ ต่อสู้

สเคอเทล - ทำเข้าประตูตัวเองอีกแล้ว จะว่าโชคร้ายก็ใช่แต่ไม่ได้วิ่งเบียดไปกับใครและบอลไม่ได้สุดเหยียดน่าจะทำ ได้ดีกว่านี้ ซึ่งหลังจากนั้นทำใหสเคอเทลขวัญเสียพอสมควร โดนบอลทะลุช่องง่ายๆ เล่นงานอีกสองสามครั้ง แต่เข้าครึ่งหลังก็ดูจะได้สติมากขึ้น

ฟลานาแกน - เกมรับพอใช้ได้ ไม่ถึงกับอัดกลิ้งตัดบอลกลับมาได้แต่ปิดพื้นที่ได้ ส่วนเกมรุกบอลไปไม่ค่อยถึงไม่ค่อยมีส่วนร่วมกับเกมนักไม่ว่าจะแค่เชื่อมเกมหรือรุกในพื้นที่สุดท้าย

เจอราร์ด - เกมรับไม่ค่อยมีให้เล่น ตั้งเกมได้ตามเนื้อผ้า บอลยาววันนี้มีพื้นที่ให้วางน้อยมาก ทำได้พอใช้ คือบอลไม่ถึงกับเป๊ะตรงเพื่อนแต่กดดันแนวรับได้ ช่วงต้นครึ่งหลังที่ดันขึ้นมาจะช่วยเกมรุกในบางจังหวะ ทำอะไรไม่ได้เลย แต่มีทีเด็ดในการเปิดฟรีคิกที่ทำได้ถึงสองแอสซิส

อัลเลน - ในเกมรับอ่านเกมดี วิ่งไปถึงบอลตลอดแต่ดันหยุดคู่ต่อสู้ไม่ค่อยได้ เชื่อมเกมไม่ดีเท่าไหร่บอลมันไม่ไปข้างหน้า เล่นบอลจังหวะเดียวก็ไม่ค่อยเข้าใจกันกับเพื่อน ที่ไม่ดีเลยคือจังหวะการวิ่งเติมเข้าไปในเขตโทษหรือวิ่งไปรองบอลแถวสองจากอง หน้าที่เคยทำได้บ้าง วันนี้อัลเลนทำไม่ได้เลย

เฮนเดอร์สัน - เกมรับไม่ค่อยมีให้เล่นนัก(บอลไปขึ้นอีกฝั่งมากกว่า) ก็ไล่ๆ ตามพื้นที่ที่ดูแลได้ดี การเชื่อมเกมไม่ต่างจากอัลเลนนัก ดีกว่านิดหน่อยตรงที่แตะบอลจังหวะแรกหรือพลิกบอลไปเองได้ดีกว่าอัลเลน มีบอลเกมรุกบ้างนิดหน่อยแต่ก็ไม่กดดันคู่ต่อสู้นัก

สเตอลิ่ง - ครึ่งแรกแทบหายไปจากเกม มีส่วนร่วมน้อยมากและทำเกมไม่ได้ ครึ่งหลังพอย้ายไปเล่นริมเส้น รวมไปถึง(น่าจะถูกสั่ง)ให้เลี้ยงบอลจี้มากขึ้นแล้วทำได้ดีกว่าเดิม กดดันคู่ต่อสู้ได้

สเตอริดจ์ - แทบไม่มีพื้นที่ให้เล่นเมื่อเจอแผงหลังถึง 5 คน หาพื้นที่ว่างไม่ค่อยได้ ทำให้สเตอริดจ์สร้างโอกาสให้กับทีมและตัวเองแทบไม่ได้เลย ดีว่ามาทำประตูสำคัญได้ในลูกตั้งเตะ

ซัวเรส - ยังคงเป็นตัวความหวังของทีม จังหวะจบสกอร์แทบหาไม่ได้แต่ยังช่วยทำเกมได้ ในพื้นที่แคบๆ พลิกบอลเล่นได้บ้าง เลี้ยงจี้กดดันคู่ต่อสู้ได้

ตัวสำรอง 

ซิสโซโก้  - เกมรับแย่กว่าฟลานาแกนอีก โดยเฉพาะจังหวะประกบที่ปล่อยให้คู่ต่อสู้เล่นง่ายเหลือเกิน ไม่ค่อยเบียดสักเท่าไหร่ เกมรุกก็ไม่ได้มีอะไรให้เห็น

คูตินโย่ - ออกบอลเกมรุกแทบไม่ได้ หาพื้นที่วางบอลไม่เจอ ครองบอลไว้กับตัวได้ดี โดยรวมกดดันคู่ต่อสู้ได้ดีกว่าอัลเลน...แต่ไม่มากนัก

ลูคัส - ลงมาในช่วงที่ทีมต้องการปิดเกม ก็เล่นได้ตามนั้น

แมน ออฟ เดอะ แมทช์ :
...หลุย ซัวเรส... แทบจะเป็นคนเดียวในทีมที่เล่นในจังหวะโอเพ่นเพลย์ที่มีพื้นที่น้อยๆ แบบนี้แล้วสร้างเกมรุกให้กับทีมได้
------------------------------------------------------------

Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น