วันอาทิตย์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2555

ลิเวอร์พูล 2 - 2 แมนเชสเตอร์ ซิตี้(พรีเมียร์ลีค)



...เอาน่ะ ดีกว่าแพ้...
--------------------------------------------------------

ลิเวอร์พูลเล่น 4-2-3-1

---------------------ซัวเรส---------------------

-------สเตอริ่ง------เจอราร์ด-----บอรินี่-------

----------------อัลเลน--------ลูคัส-------------

จอห์นสัน----สเคอเทล----โคอาเตส-----เคลลี่

----------------------เรน่า-----------------------

               ลิเวอร์พูลเล่นนัดเหย้าในเกมลีคเป็นนัดแรกในฤดูนี้เจอกับของหนักอย่างแมนฯ ซิตี้ ร็อดเจอร์สต้องปรับนักเตะบางตำแหน่งตามสถานการณ์ที่มีตัวเจ็บ-แบน โดยจอห์นสันยังต้องลงเล่นแบคซ้ายต่อไป ขวาเป็นเคลลี่ โคอาเตสได้โอกาสลงแทนแอกเกอร์ที่ติดโทษแบน นอกนั้นยังเป็นผู้เล่นตัวหลักชุดเดิม
-------------------------------------------------------

               เกมเริ่มมาแค่ 5 นาทีลูคัสก็เจ็บจนต้องเปลี่ยนเชลวี่ย์ลงมาแทน ลิเวอร์พูลยืนกันค่อนข้างต่ำกว่านัดที่ผ่านๆ มา เน้นคุมพื้นที่แล้วอาศัยการทำเร็วจังหวะตัดบอลได้ ส่วนซิตี้เคาะบอลตามช่องกันไปเรื่อย ไม่ถึงกับเร่งมาก แต่ก็สามารถพาบอลมาป้วนเปี้ยนแถวหน้าเขตโทษได้บ่อย แนวรับจังหวะ 1-1 เอาตัวรุกซิตี้ไม่อยู่จนทำให้ลิเวอร์พูลต้องถอยลงไปลึกขึ้นเรื่อยๆ ซิตี้บีบเกมได้ดีจนลิเวอร์พูลครองบอลตั้งเกมของตัวเองได้น้อยลง แต่จังหวะสุดท้ายในการเข้าทำยังฝ่าแนวรับได้น้อยมาก ทำให้ไม่ค่อยมีโอกาสจบสกอร์

               20 นาทีแรกเป็นของซิตี้เกือบหมด แต่เมื่อเล่นแล้วเจาะพื้นที่สุดท้ายไม่เข้า หลังจากผ่าน 20 นาทีไปเกมเริ่มกลับมาเป็นของลิเวอร์พูลบ้าง ตัวรุกอย่างสเตอริ่ง เจอราร์ด ซัวเรสเริ่มได้บอลและทำเกมได้ต่อเนื่อง หาโอกาสจบสกอร์ได้บ้างเป็นระยะ สุดท้ายหลังจากบดได้สักพักใหญ่ๆ ลิเวอร์พูลก็ทำได้สำเร็จจากลูกเตะมุมในนาที 34 เจอราร์ดเปิดเข้ากลางมาให้สเคอเทลโถมเข้ามาโหม่งเข้าไปได้ 1-0

               เกมส่วนใหญ่ยังเป็นของลิเวอร์พูลอยู่แต่ทำอะไรเพิ่มไม่ได้ ส่วนซิตี้มาเร่งในช่วง 5 นาทีสุดท้าย กดดันแนวรับได้พอสมควรแต่ยังหาโอกาสไม่ไ้ด้มากนัก จบครึ่งแรกสกอร์ยังอยู่ที่ 1-0

               เข้าครึ่งหลัง ซิตี้ดันแผงหลังสูงขึ้น ส่วนลิเวอร์พูลก็หันมาไล่บอลในแดนหน้ามากขึ้น เกมค่อนข้างสูสีส่วนใหญ่สู้กันอยู่ในแดนกลาง แต่ลิเวอร์พูลมาพลาดก่อนในนาที 63 ซิตี้ได้โอกาสครอสบอลจากริมเส้น เรน่าขึ้นตัดบอลพลาด บอลไปตกใส่หน้าขาเคลลี่ตั้งให้ตูเร่ยิงซ้ำจ่อๆ 1-1

               หลังจากเสียประตู ลิเวอร์พูลยังประคองสถานการณ์อยู่ไม่ตกเป็นรองซิตี้ที่พยายามเร่งเกม นาที 66 เอนริเก้ได้ลงมาแทนเคลลี่ และจอห์นสันได้กลับไปเล่นฝั่งขวาเหมือนเดิม อีกทั้งจากจังหวะเปลี่ยนตัวนั้นซัวเรสยิงฟรีคิกสุดสวยอ้อมกำแพงเสียบเสาแรกเข้าไปให้ทีมพลิกกลับมานำอีกครั้ง 2-1

               ซิตี้พยายามเร่งเกมเต็มที่แต่เจาะไม่ค่อยเข้า กลายเป็นลิเวอร์พูลที่ฉวยโอกาสที่ตัดบอลได้ทำเร็วจนเกือบได้ประตูอยู่หลายครั้งแต่จังหวะสุดท้ายยังขาดๆ เกินๆ อยู่ เข้า 15 นาทีสุดท้าย ลิเวอร์พูลเริ่มชลอเกมเล่นช้าลงเน้นความแน่นอนมากขึ้น เกมทำท่าว่าจะเข้าทางเพราะซิตี้ยังบุกกดดันได้ไม่ต่อเนื่องเท่าไหร่ และลิเวอร์พูลก็ยังครองบอลได้อยู่ แต่แล้วนาที 80 สเคอเทลส่งคืนหลังพลาด โดนเตเบซวิ่งโฉบเอาบอลไปดวลเดี่ยวกับเรน่าก่อนจะยิงผ่านไปได้ให้ซิตี้ตีเสมอ 2-2

               หลังจากสกอร์กลับมาเท่ากันเกมก็เปิดแลกกันทันที ซิตี้พยายามเร่งต่อจะแซงชนะ ส่วนลิเวอรืพูลก็ไม่ได้ถอยไปรับแต่พยายามตั้งเกมบุกต่อ นาที 83 คาโรลได้ลงแทนบอรินี่สลับเอาสเตอริ่งไปขวา หันมาใช้บอลโด่งโยนเข้าเขตโทษบ่อยขึ้นและกดดันได้เป็นระยะแต่ทำประตูไม่ได้ ส่วนซิตี้เองก็เปิดเกมรุกขึ้นมาได้ถึงเขตโทษเช่นกัน แต่จบสกอร์ไม่สำเร็จ สุดท้ายเลยทำได้แค่เสมอแบ่งแต้มกันไป 2-2
-----------------------------------------

               ขอเริ่มจากซิตี้ก่อนเลย อันเนื่องมาจาก 11 ตัวจริงวันนี้ของซิตี้จัดกลางรับมา 2 คน ไม่ใช้ซิลบา ทั้งยังเอาตูเร่ไปยืนแบ็คซ้ายทำให้เกมรุกของซิตี้ขึ้นไม่ถนัด กองกลางทำเกมรุกไม่ได้ ตูเร่เติมขึ้นมาช่วยเกมรุกไม่ได้ทั้งยังเปิดโอกาสให้สเตอริ่งเล่นได้ค่อนข้างง่าย เป็นเหตุให้ชั่วโมงแรกเกมของซิตี้ดูติดขัดอึดอัดไม่น้อย อีกทั้งฟอร์มของนักเตะซิตี้เองก็เล่นกันได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ โดยเฉพาะตัวรุกอย่างนาสรี่ บาโลเตลี่ เตเบซทำอะไรไม่ได้เลย จนทำเอาทีมเกือบพัง และน่าจะเป็นสาเหตุสำคัญอย่างหนึ่งที่ทำให้เกมวันนี้ออกมาเป็นอย่างที่เห็นด้วย ...แต่อย่าลืมว่าในวันที่เล่นได้ไม่ดีแบบนี้ ยังอุตส่าห์เก็บแต้มได้ (ถ้ารวมนัดแรกด้วยก็ล่อเข้าไป 4 จากที่ควรจะเป็น 0) ซิตี้ทีมนี้น่ากลัวจริงๆ ครับ

               ส่วนสาเหตุสำคัญอีกอย่างคือฟอร์มของลิเวอร์พูลเอง วันนี้ที่โดดเด่นไม่ใช่เรื่องของความสามารถเฉพาะตัวแต่เป็นการเล่นได้ตามแทคติคที่วางไว้มากกว่า ช่วง 20 นาทีแรกของเกมที่โดนซิตี้บุกเข้าใส่ นักเตะทุกคนคุมพื้นที่ของตัวเองได้ดีมาก กองหลังไม่สกัดบอลทิ้งมั่วซั่ว ริมเส้นสองตัวอย่างบอรินี่และสเตอริ่งลงมาช่วยแบ็คตลอด กองกลางสามคนเก็บบอลจังหวะสองและปิดพื้นที่หน้าเขตโทษได้ดีจนทำให้ซิตี้ไม่มีจังหวะยิงไกลหรือเก็บบอลที่เด้งออกมาจากเขตโทษได้เร็วนัก แม้จะตั้งเกมของตัวเองไม่ได้แต่ก็เล่นได้อย่างอดทนไม่ลนลานเสียสมาธิจนกระทั่งผ่าน 20 นาทีแรกมาได้สำเร็จ ซึ่งเกมหลังจากนั้นลิเวอร์พูลก็กลับมาเล่นเกมของตัวเองได้ดี หาโอกาสจบสกอร์จากโอเพ่นเพลย์ได้ เซตพีซก็เด็ดขาดพอที่จะทำให้ได้ประตูขึ้นนำถึงสองครั้ง เกือบชนะ และอย่างน้อยเก็บแต้มแรกในฤดูนี้ได้สำเร็จจากทีมที่แข็งแกร่งอย่างซิตี้

               ข้อด้อยของนัดนี้คงไม่มีอะไรมากไปกว่าความผิดพลาดส่วนบุคคล ลูกแรกนี่พลาดกันเป็นชุด ตั้งแต่สเตอริ่งที่บังทางเปิดบอลได้ไม่ดี จอห์นสันที่ดันปล่อยให้สเตอริ่งดวลเดี่ยวกับนักเตะซิตี้ ตัวเองดันวิ่งหุบเข้ากลางไม่ยอมมาช่วยซ้อน ทั้งที่ตรงกลางมีเพื่อนยืนรอดักบอลอยู่หลายคนแล้ว เรน่าที่ขึ้นตัดบอลพลาด และจบที่เคลลี่ที่ถึงแม้บอลจะพุ่งมาหาเร็วแต่ก็น่าจะทำอะไรได้ดีกว่านั้น ส่วนลูกที่สองคงไม่ต้องบรรยายอะไรมาก... รวมไปถึงโอกาสของซัวเรสที่ใช้ค่อนข้างเปลือง จนพลาดโอกาสการทำประตูอย่างน้อย 2-3 ครั้ง ทั้งหมดนี้เลยทำให้ลิเวอร์พูลชวดชัยชนะนัดแรกของฤดูนี้อย่างน่าเสียดาย

               ส่วนข้อดีมีให้เห็นเยอะเลยทีเดียว การเล่นได้ตามแทคติคเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับฟุตบอลยุคนี้ซึ่งนักเตะลิเวอร์พูลแสดงให้เห็นว่าทำได้ การตั้งเกมรุกในจังหวะโอเพ่นเพลย์ทำได้เร็ว ดุดัน และสร้างโอกาสได้ เซตพีซที่กลับมาทำประตูได้อีกครั้งหลังจากฤดูก่อนได้ประตูจากเซตพีซน้อยเหลือเกิน ซึ่งยืนยันว่าอย่างน้อยที่สุด...

               ... ฤดูนี้ลิเวอร์พูลเล่นได้สนุกน่าดูกว่าเดิมครับ...
----------------------------------

นัดนี้เล่นกันได้ดี (เล่นตามแทคติค - เล่นเป็นทีม)

เรน่า - 20 นาทีแรกอ่านเกมยืนตำแหน่งพลาดให้เห็นพอสมควร หลังจากนั้นก็ตั้งสติกลับมาได้ โดยรวมก็เล่นได้พอใช้จนกระทั่งมาพลาดหนักในจังหวะเสียประตูแรก ส่วนประตูที่สองที่โดนไปน่าจะต้องชมมากกว่าที่ไม่ทะลึ่งไปรวบเตเบซจนโดนจุดโทษ-ไล่ออกแล้วทีมอาจจะถึงขั้นพลิกแพ้ได้ ขึ้นตัดบอลกลางอากาศได้ไม่ดีนักตลอดทั้งเกม

จอห์นสัน - เล่นซ้ายแล้วดูจะไม่ค่อยเป็นธรรมชาติ เติมเกมรุกได้ไม่ถนัดนัก แต่วันนี้เก็บบอลได้ดี จังหวะพาบอลขึ้นหน้าไม่ว่าจะส่งหรือเลี้ยงเองแทบไม่พลาดเลย เกมรับก็ดูใช้ได้ ยกเว้นจังหวะที่ชอบปล่อยให้สเตอริ่งไปดวลกับปีกไม่ยอมเข้าไปไล่หรือซ้อน ซึ่งจอห์นสันทำแบบนั้นอยู่ตลอดที่อยู่ด้านซ้ายเลย แต่พอโดนโยกกลับมาขวาก็เล่นได้ดีทีเดียว

สเคอเทล - ช่วงแรกมีปัญหากับบาโลเตลี่พอสมควรแต่ก็เอาตัวรอดไปได้ เล่นได้อย่างแข็งแกร่งทั้งลูกโด่งและการเข้าปะทะ จนกระทั่งมาตกมาตายจ่ายถวายพานให้เตเบซมันซะอย่างนั้น โดยรวมถือว่าเล่นได้ดีทีเดียว โหม่งทำประตูได้ด้วย

โคอาเตส - เข้าบอลเร็วขึ้น ยังเล่นสไตล์หวาดเสียวด้วยการดักสกัดมากกว่าจะวิ่งเข้าไปเบียดปะทะ พลาดนิดหน่อยจนเกือบทำทีมพังอยู่หนนึง แต่โดยรวมก็ถือว่าเล่นได้ดีไม่แพ้...หรือน่าจะดีกว่าตัวสำรองคนนั้น

เคลลี่ - ทำอะไรไม่ได้เลยตลอดเกม แต่ที่ทำได้ดีขึ้นคือไม่ก่อความผิดพลาด ปิดพื้นที่ตัวเองได้พอใช้ จ่ายบอลไม่พลาด ขยับตัวหาที่ว่างเพื่อช่วยเชื่อมเกมได้ดี เล่นได้ในระดับพอใช้ได้...แต่อย่าพึ่งลงตัวจริงจะดีกว่า

ลูคัส - โดนบอลเหมือนกันนะ

อัลเลน - ลูกหนักในการเ้ข้าปะทะไม่ค่อยมี เบียดไหล่ต่อไหล่เอาไม่ค่อยอยู่ แต่นอกนั้นทำได้ดีมาก ออกบอลได้ดี มองกว้าง มีจังหวะจ่ายได้เสียให้เห็นเป็นระยะด้วย เก็บบอลครองบอลได้เหนียวแน่น เอาเป็นว่าทำให้เกมรับของลิเวอร์พูลที่ไม่มีลูคัสไม่ได้ดูแย่ลงก็แล้วกัน แทบสนับสนุนเกมรุกดีกว่าด้วย

เจอราร์ด - ทำเกมรุกได้ไม่ดุดันนัก หนักไปทางผ่านบอลเร็วไปให้คนอื่นทำมากกว่า ลูกยิงไกล จ่ายทะลุ พาบอลเลี้ยงจี้เข้าไปเองทำได้ไม่ดีและแทบไม่มีให้เห็น แต่มาเด่นเอามากๆ ตรงการคุมจังหวะแดนกลางทั้งในการขึ้นเกมรุกและมาช่วยปิดพื้นที่ในเกมรับ

บอรินี่ - หาตำแหน่งจบสกอร์ได้ดีเอามากๆ แต่พอบอลมาถึงกลับทำพลาดไป และบางครั้งอยู่ในตำแหน่งที่ดีแต่บอลดันมาไม่ถึง มีส่วนร่วมกับเกมไม่มากนัก

สเตอริ่ง - เล่นได้ไม่เลวและกดดันตูเร่ได้ตลอด ถึงแม้ว่าจะหลุดผ่านไปได้จริงๆ ไม่มากนักแต่ก็ยังพอครองบอล เก็บบอลได้ ออกบอลและผ่านบอลเข้ากลางได้ดีด้วย ทั้งยังขยันวิ่งขึ้นวิ่งลงและไล่บอล ถึงแม้ว่าเกมรับจะดูไม่จืดเท่าไหร่นักก็ตาม

ซัวเรส - ใช้โอกาสค่อนข้างเปลือง เล่นฝืนมากไปหลายครั้ง แต่สุดท้ายการพาบอลไปกับตัวยังกดดันแนวรับได้ดี และยังมีทีเด็ดจากลูกฟรีคิกอีกด้วย

ตัวสำรอง

เชลวี่ย์  - ลดข้อผิดพลาดลงได้มากจนแทบไม่มีให้เห็น ออกบอลได้แม่นยำ ครองบอลได้ดี และเข้าไล่บอลได้อย่างมีสติไม่ค่อยพรวดพราดจนเสียฟาลว์

เอนริเก้ - ลงมาเล่นได้ดีกว่าเคลลี่แค่นิดหน่อย แต่ที่ดีกว่าคือทำให้จอห์นสันได้กลับไปเล่นทางขวา

คาโรล - หาบอลเจอและใช้ลูกกลางอากาศกดดันแนวรับได้พอสมควร ท้ายเกมมีจังหวะโหม่งในกรอบเขตโทษแต่เลือกโหม่งชง ไม่เลือกโหม่งฝัง (หรือโหม่งผิดเหลี่ยมก็ไม่แน่ใจ) มีความแตกต่างจากตัวรุกคนอื่น เป็นทางเลือกที่ไม่เลวนักเมื่อต้องการเปลี่ยนเกม

แมน ออฟ เดอะ แมทช์ : ...โจ อัลเลน... เล่นได้คงเส้นคงวาที่สุดตลอดระยะเวลาที่อยู่ในสนามแล้ว ข้อผิดพลาดแทบไม่มีให้เห็น

Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น