วันพฤหัสบดีที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2555

ฮาร์ท 0 - 1 ลิเวอร์พูล (ยูโรป้าลีค)


...นึกว่าดูผิดคู่...
--------------------------------------------------------

ลิเวอร์พูลเล่น 4-5-1 (ริมเส้นสองฝั่งยืนต่ำในแนงกลางมากกว่าขึ้นไปข้างหน้า)

---------------------บอรินี่----------------------

สตอริ่ง--อดัม--สเปียริ่ง--เชลวี่ย์--เฮนเดอร์สัน

โรบินสัน---แอกเกอร์----คาราเกอร์----เคลลี่

----------------------เรน่า-----------------------

               ลิเวอร์พูลลงเล่นเกมยูโรป้าออกไปเยือนฮาร์ทที่สกอตแลนด์ ร็อดเจอร์สปรับทีมส่งผู้เล่นดาวรุ่งและตัวสำรองลงเพียบเพื่อเก็บตัวหลักไว้กับเกมใหญ่ที่ต้องเจอซิตี้ในช่วงสุดสัปดาห์ โกล์ยังเป็นเรน่าเหมือนเดิม แผงหลังมีดาวรุ่งอย่างโรบินสันที่ได้ลงแบคซ้าย แผงกลางสำรองยกชุดและหน้าเป้าเป็นบอรินี่คนเดียว
-------------------------------------------------------

               เริ่มมาเกมค่อนข้างเร็ว ทั้งสองฝ่ายเร่งเกมและจ่ายบอลกันพลาดไปเองเยอะ ไม่มีใครครองเกมได้ต่อเนื่อง ฮาร์ทนั้นไล่เพรซซิ่งเร็วในแดนกลางและแย่งบอลกลับมาได้เร็ว แต่เร่งมากจนพลาดและบอลไปไม่ค่อยถึงข้างหน้า ส่วนลิเวอร์พูลจ่ายบอลกันพลาดแทบตลอดเวลา บอรินี่แทบไม่เจอบอล เกมส่วนใหญ่เน้นเจาะตรงกลางซึ่งยังฝ่าเข้าไปไม่ได้

               ยิ่งเล่นฮาร์ทยิ่งดูดีขึ้น สวนทางกับฝั่งลิเวอร์พูลที่ยิ่งเล่นยิ่งพลาด เกมเป็นของฮาร์ทมากขึ้น แต่คุณภาพในการเข้าทำที่เข้าขั้นห่วยแตกทำให้ลิเวอร์พูลยังไม่เจอความกดดันอะไรมากนัก ผ่าน 20 นาทีแรกของเกมไป ลิเวอร์พูลเริ่มชลอเกมหันมาเล่นช้าลง เน้นความแน่นอนมากขึ้น รวมไปถึงเริ่มเน้นขึ้นเกมทางฝั่งซ้ายด้วยสเตอริ่งมากขึ้น ทำให้เกมโดยรวมกลับมาสูสี

               ช่วงท้ายครึ่งแรกฮาร์ทเริ่มแผ่วลงไป แต่ลิเวอร์พูลก็ยังรุกได้ไม่ต่อเนื่องและไม่มีความเด็ดขาด จังหวะได้ลุ้นจบสกอร์มีไม่มากและส่วนใหญ่ต้องรอให้ฮาร์ทพลาดให้ซึ่งก็มีไม่บ่อยนัก ลิเวอร์พูลน่าจะได้ประตูขึ้นนำในช่วงนาทีสุดท้ายของครึ่งแรกเมื่อสเตอริ่งตัดบอลขวางสนามได้ พาบอลขึ้นไปถึงหน้าเขตโทษก่อนจ่ายให้บอรินี่ได้ยิงแบบไม่มีคนประกบ แต่บอรินี่ดันยิงไปชนเสา จบครึ่งแรกยังเสมออยู่ 0-0

               เข้าครึ่งหลัง ลิเวอร์พูลปรับแทคติคด้วยการดันริมเส้นสองฝั่งสูงมากขึ้น เน้นขึ้นเกมทางซ้ายด้วยสเตอริ่งเต็มที่ เล่นช้าลง เพิ่มความแน่นอนในการออกบอลให้มากขึ้น ทำให้เป็นฝ่ายครองบอลได้มากกว่าและรูปเกมดูดีกว่า แต่สุดท้ายยังหาจังหวะจบได้น้อยและบุกได้ไม่ต่อเนื่องเท่าไหร่

               นาที 62 ดาวนิ่งได้ลงมาเล่นแบคซ้ายแทนโรบินสัน ก่อนที่ 6 นาทีถัดมาอัลเลนจะได้ลงมาแทนสเปียริ่งอีกคน เกมโดยรวมค่อนข้างสูสี ฮาร์ทเริ่มกลับมาเร่งและไล่บอลเร็วอีกครั้งแต่จบสกอร์กันไม่ได้เรื่อง ส่วนลิเวอร์พูลสเตอริ่งโดนดัก 2-3 คนและเข้าประกบเร็วตลอดจนเล่นไม่ค่อยออก ส่วนตัวรุกคนอื่นยังทำเกมกันไม่ได้ ทำให้หาจังหวะลุ้นประตูได้ไม่มากนัก

               อย่างไรก็ตาม สุดท้ายลิเวอร์พูลยังอุตส่าห์ทำประตูขึ้นนำจนได้ นาที 78 เคลลี่เติมขึ้นมาเปิดบอลเรียดเข้ากรอบเขตโทษแบบวัดดวง บอลผ่านกองหลังมาได้ 3 คน บอรินี่ชาร์จบอลไม่โดนแต่บอลไปโดนกองหลังของฮาร์ทที่วิ่งประกบบอรินี่มาเข้าประตูไป 1-0

               หลังจากได้ประตูนำ ลิเวอร์พูลก็เล่นช้าลงไปอีก พยายามเน้นการครองบอลสลับกับออกบอลยาวจังหวะโต้กลับแต่ส่วนใหญ่ก็จ่ายพลาดกันไปเอง ทางด้านฮาร์ทพยายามโหมเกมรุกเต็มที่แต่หาจังหวะเข้าทำในพื้นที่สุดท้ายไม่ได้ ได้แต่บอมบ์เข้ามาวัดดวงในเขตโทษซึ่งไม่ได้ผลมากนัก นาที 92 มอแกนได้ลงมาแทนบอรินี่อีกคนก่อนที่จะจบเกมด้วยสกอร์ 1-0 ลิเวอร์พูลเบียดชนะได้สำเร็จ
-----------------------------------------

               จากโปรแกรมในช่วงนี้ ไม่แปลกใจเลยว่าร็อดเจอร์สเลือกส่งทีมชุดนี้ลงสนาม ถึงแม้ว่าจะเป็นเกมยุโรปนัดเยือนแต่คู่ต่อสู้อย่างฮาร์ทที่จริงแล้วก็ไม่มีอะไรมาสู้มากนัก การจัดทีมแบบนี้เลยไม่ทำให้รู้สึกว่าประมาทหรือผิดพลาดแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม นักเตะลิเวอร์พูลก็ยังอุตส่าห์ลดระดับลงไปเล่นให้มันสูสีกับคู่ต่อสู้มันซะอย่างนั้น มันไม่เกี่ยวกับว่าเป็นผู้เล่นดาวรุ่งหรือตัวสำรองหรือแทคติคใหม่ของผู้จัดการทีมเลยแม้แต่น้อย แต่เป็นฟอร์มส่วนตัวของนักเตะเกือบทั้งทีมที่พากันดรอปอย่างน่าใจหาย ให้บอลสั้นๆ ง่ายๆ ก็ยังอุตส่าห์พลาด บอลยาวไม่ต้องพูด จังหวะการเข้าทำด้วยตัวเองหากันแทบไม่ได้ทั้งๆ ที่คู่ต่อสู้ก็ไม่ได้เล่นเหนียวแน่นอะไร จนดูแทบไม่รู้ว่าเป็นลิเวอร์พูล นึกว่าเวสต์แฮมหรือคิวพีอาร์ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกมวันนี้ออกมาดูไม่จืดด้วย

               นับเป็นฟอร์มการเล่นที่ชวนให้หวาดหวั่นจริงๆ เมื่อตระหนักว่าคนที่เล่นกันอยู่นั่นคือคนที่ต้องลงสนามมาในกรณีที่ 11 ตัวจริงเล่นไม่ได้...เรียกว่าตัวจริงห้ามเจ็บห้ามแบนห้ามป่วยห้ามตาย ลูกห้ามป่วยแฟนห้ามคลอดกันเลยทีเดียว

               จังหวะได้ประตูถึงว่าเป็นความพยายามที่ดีของเคลลี่ และเป็นโชคดีเล็กๆ ที่บอลไปโดนกองหลังถูกเหลี่ยม ทำให้ลิเวอร์พูลได้เปรียบลากยาวไปถึงเกมนัดที่สองด้วย ยิ่งดีหนักเข้าไปอีกเมื่อมองไปถึงเกมลีคนัดก่อนและหลังเกมยุโรปนัดที่สองที่จะจัดตัวได้ง่ายขึ้น สรุปแล้วถึงรูปเกมนัดนี้จะแย่ยิ่งกว่านัด WBA แต่การได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ เล่นยังไงไม่รู้ล่ะ แต่ชนะ เทียบกับการเล่นดีแต่จบด้วยความพ่ายแพ้หรือได้แค่เสมอ...

                ...ก็ไม่เลวนักหรอก ...
----------------------------------

นัดนี้เล่นกัน...แย่มาก

เรน่า - ฮาร์ทมีจังหวะยิงพอสมควร แต่ลูกยากๆ จริงมีแค่ลูกเดียวและเรน่าก็เซฟได้ดี วันนี้ได้บอลบ่อยกว่าบอรินี่อีก อ่านเกม,ออกมาตัดบอลและใช้เท้าเล่นได้ีดี

โรบินสัน - ...หลอน

แอกเกอร์ - เล่นลูกกลางอากาศได้ดี มีจังหวะสกัดไม่ขาดให้เห็นบ้างนิดหน่อย ผ่านบอลขึ้นหน้าได้ดี ไม่ใช่วันที่เล่นได้ท๊อปฟอร์มแต่ถือว่าเป็นกองหลังที่เล่นดีที่สุดแล้ว

คาราเกอร์ - พลาดนิดๆ หน่อยๆ หลายครั้ง และพลาดหนักจนทีมเกือบเสียประตูถึงสองครั้ง ยังดีว่ากองหน้าฮาร์ทก็ออกทะเลไปด้วยกันเลยพอเอาตัวรอดมาได้แบบสะบักสะบอม อย่างเดียวที่ยังดีอยู่คือลูกกลางอากาศ

เคลลี่ - รับคือกับคู่ต่อสู้ที่พาบอลเลี้ยงจี้ได้ไม่มีปัญหา แต่ถ้าวิ่งเบียดไหล่ต่อไหล่ดูจะลำบากไม่ใช่น้อย ยืนสูงแต่ช่วยเกมรุกไม่ได้เลย ทั้งยังตามมาปิดพื้นที่ด้านหลังได้ช้า จังหวะที่ทำให้ทีมได้ประตูแทบจะเป็นจังหวะเดียวที่เคลลี่ขึ้นไปเล่นเกมรุก

สเปียริ่ง - หาตำแหน่งรองบอลจากกองหลังได้ไม่ดี ทำให้บอลไปถึงข้างหน้าได้ช้า เก็บบอลจังหวะสองได้น้อย อ่านเกมได้ไม่ดีเปิดพื้นที่หน้าเขตโทษไว้เยอะมาก เป็นวันที่เล่นได้ไม่ดีเลย

อดัม - วางบอลยาวพลาดเกือบทุกลูก บอลสั้นดีบ้างไม่ดีบ้าง ทำเกมด้วยการพาบอลขึ้นมาเองได้ดีอยู่สองสามครั้ง รวมไปถึงเป็นคนเดียวในแผงกลางที่หาจังหวะยิงไกลได้ แต่ก็ไม่เข้ากรอบ

เชลวี่ย์ - ได้บอลเยอะที่สุดในทีม มีส่วนร่วมกับเกมเยอะมากทั้งเกมรุกและเกมรับ เล่นในบทบาทคล้ายๆ เจอราร์ด วันนี้ออกบอลพลาดเยอะมากจนน่าใจหาย แต่การเข้าบอลเนียนขึ้น เสียฟาลว์น้อยลง รวมไปถึงยังมีการผ่านบอลดีๆ ให้เห็นมากกว่าคนอื่น

เฮนเดอร์สัน - น่าจะเป็นแทคติคที่โดนสั่งมาที่ทำให้เฮนเดอร์สันไม่ได้เล่นทางกว้างมากนักแต่หุบเข้ามาช่วยตรงกลางซะเยอะ โผล่มาครั้งเดียวคือจังหวะผ่านบอลเข้าเขตโทษให้บอรินี่ได้ลุ้นยิง นอกนั้นก็แทบไม่รู้ว่าอยู่ในสนาม

สเตอริ่ง - เป็นคนเดียวที่กดดันแนวรับได้ ใช้ความเร็วเล่นงานคู่ต่อสู้ได้ดี จังหวะ 1-1 ผ่านได้เกือบทุกครั้ง ปัญหาคือแรงปะทะไม่มี ถ้าคู่ต่อสู้ถึงตัวคือเสร็จทุกครั้ง และจบสกอร์ได้ไม่ดีเท่าไหร่

บอรินี่ - ยังคงวิ่งทำทางและหาตำแหน่งได้ดี แต่เพื่อนจ่ายมาแต่ละลูกถ้าไม่ไปคนละช่องก็ได้แต่ใช้สายตามองตาม ชนิดที่ว่ามีมอเตอร์ไซต์ก็ไม่รู้ว่าจะไปรับทันมั้ย ทำได้ไม่ดีในจังหวะได้ยิงช่วงท้ายครึ่งแรกที่ได้ยิงโล่งๆ ไม่มีคนประกบแต่ทำได้แค่ชนเสา

ตัวสำรอง

ดาวนิ่ง  - ไม่โดนกดดันจากคู่ต่อสู้มากนัก ลงมาช่วยสเตอริ่งได้ดี

อัลเลน - เล่นได้ดี เก็บบอลจังหวะสองและออกบอลได้ดีกว่าสเปียริ่งลิบลับ

มอแกน - ใส่เสื้อเบอร์ 50

แมน ออฟ เดอะ แมทช์ : ราฮีม สเตอริ่ง ... นัดนี้ที่จริงไม่มีใครเล่นได้น่าประทับใจสักคน ที่ดูจะดีกว่าชาวบ้านหน่อยก็มีแค่สเตอริ่ง เรน่า แอกเกอร์ แต่ด้วยความที่กองหลังก็ไม่ได้โดนกดดันอะไรมากนัก และสเตอริ่งเป็นความหวังเดียวในการทำเกม มีฟอร์มที่ดีเอามากๆ ถ้าเทียบกับอายุ ขอยกตำแหน่งนี้ให้เด็กไปก็แล้วกัน

Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น