วันเสาร์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2559

เบิร์นลี่ย์ 2-0 ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีค)


งานสลายมโน
___________________________

ลิเวอร์พูลเล่นด้วย 4-2-3-1

-------------------สเตอริดจ์-----------------
คูตินโย่-----------เฟอมิโน่--------ลัลลาน่า
--------ไวนัลดุม------เฮนเดอร์สัน---------
มิลเนอร์---คลาวาน----ลอฟเรน-----ไคลน์
--------------------มินโยเล่------------------

_______ ลิเวอร์พูลต้องออกไปเยือนอีกหนึ่งนัดเพราะแอนฟิลด์ยังปรับปรุงไม่เรียบร้อย  นัดนี้ทีมได้สเตอริดจ์กับมิลเนอร์กลับมาเป็นตัวจริงอีกครั้งหนึ่ง
-------------------------------------------------------

________ เกมเริ่มได้สองนาทีกว่าก็งานเข้า  ไคลน์โดนกดดันจนเปิดเข้ากลางหน้าเขตโทษตัวเองพลาดโดนตัดไป คู่เซ็นเตอร์เข้ามาบังทางไม่ดีพอ  โดนโว้กยิงหักไปเสาหนึ่งเป็น 1-0 ไปเรียบร้อย

_______ เบิร์นลี่เล่นครึ่งแรกด้วยวิธีขึ้นมาไล่กดดันสูงถึงหน้าเขตโทษ  ไม่ปล่อยให้ลิเวอร์พูลต่อบอลง่าย  ในเกมรับพวกเขารับลึกหน้าเขตโทษตัวเอง  ลิเวอร์พูลครองบอลได้เยอะมากก็จริง  แต่ทำเร็วไม่ได้  กว่าบอลจะไปถึงเขตโทษฝั่งตรงข้าม เบิร์นลี่ย์ก็ยืนยิ้มอยู่สิบคนหน้าในเขตโทษแล้ว

_______ ลิเวอร์พูลเจาะตรงกลางไม่เข้าเลย  โดนบีบให้ต้องจ่ายบอลออกริมเส้นซึ่งก็ขึ้นได้อยู่ฝั่งเดียวคือฝั่งซ้ายของมิลเนอร์  ได้เปิดบอลจากริมเส้นบ้าง ตักบอลจากหน้าเขตโทษเข้าไปลุ้นบ้าง  แต่จังหวะสุดท้ายยังไม่ถึงบอล ติดเซ็นเตอร์โดยเฉพาะ เบน มี ที่ตัดมันได้ทุกลูกที่ขากับหัวยืดไปถึง

_______ ลิเวอร์พูลได้แต่ครองบอลไปมา เจาะไม่เข้า ดีที่สุดคือการยิงไกลรัวๆ แต่ก็ยังไม่ค่อยเข้ากรอบ นาที 37 เบิร์นลี่ย์ปั้มบอลได้กลางสนาม  เกรย์เก็บบอลลากมาถึงเขตโทษ ทั้งเฮนโด้และลอฟเรนเข้าพรวดโดนล็อคหนีก่อนที่เกรย์จะยิงผ่านไปเสาสอง 2-0

_______ โน้ตไว้สั้นๆ ว่า ถึงตรงนี้ เบิร์นลี่ย์ยิงสองครั้ง เข้ากรอบสองครั้ง เป็นสองประตูจ่ะ

_______ เวลาที่เหลืออยู่ของครึ่งแรก (จริงๆ รวมครึ่งหลังด้วยก็ยังได้) ลิเวอร์พูลยังทำได้แค่ครองบอล จบครึ่งแรกที่ 2-0

_______ เข้าครึ่งหลัง ลิเวอร์พูลเน้นเอาบอลขึ้นหน้าให้เร็วขึ้น เสี่ยงแทงทะลุตรงๆ มากขึ้น แต่ยังเจาะแนวรับไม่ได้ รูปเกมโดยรวมแทบไม่มีอะไรเปลี่ยน

_______ นาที 65 โอริกิได้ลงแทนสเตอริดจ์  ลิเวอร์พูลเพิ่มการโยนเข้ากลางมากขึ้น  แต่บอลไปไม่ค่อยถึงสุดเส้นหลังเลยทำลูกโยนไม่ค่อยกดดันคู่ต่อสู้มากนัก แถมคนรอโหม่งรอชาร์จในกรอบยังยืนกันค่อนข้างสะเปสะปะด้วย

_______ นาที 78 คล็อปเปลี่ยนที่เดียวสองคน โมเรโน่กับกรูยิชได้ลงมาแทนมิลเนอร์กับลัลลาน่า  ลิเวอร์พูลยังคงเพียรพยายามจะตรงกลางสลับกับการเปิดบอลจากทางฝั่งซ้าย แต่ผลลัพธ์ไม่เปลี่ยนจากที่เล่นกันมาทั้งเกม ลูกได้ลุ้นส่วนใหญ่จะมาจากการยิงไกลที่เรียกว่าดาหน้ากันมายิง  แต่ยิงแบบ “กรอบจ๋า บอลลาก่อน” กันไปเกือบทุกครั้ง แทบไม่ได้ลุ้นอะไรจริงจัง

_______ จบเกม ลิเวอร์พูลบุกไปแพ้เบิร์นลี่ย์ 2-0 ด้วยรูปเกมที่ได้ลุ้นน้อยมากและแก้ทางบอลอะไรไม่ได้เลยตั้งแต่ต้นยันจบ
-----------------------------------------

_______ เป็นเกมที่ได้ลุ้นน้อยมาก  ได้ครองบอลเยอะก็จริงแต่ทำอะไรคู่ต่อสู้ไม่ได้

_______ จุดเปลี่ยนสำคัญที่สุดอยู่ที่ประตูแรกที่เสียเร็วและง่ายมากเหลือเกิน ทำให้เบิร์นลี่ย์เล่นได้มั่นใจตลอดเกม กลับกันทางลิเวอร์พูลเล่นกันกดดันตลอดเกม

_______ ลิเวอร์พูลมีปัญหาเสมอเวลาเป็นฝ่ายโดนไล่บอลสูงเสียเอง นัดนี้ก็พิสูจน์เรื่องนี้ให้เห็นอีกครั้ง ผมไม่คิดว่าการขาดมาเน่จะเป็นประเด็นอะไรมากนัก คือต่อให้มาเน่อยู่ทีมอาจจะได้ลุ้นกว่านี้แต่ไม่คิดรูปเกมที่ออกมาจะต่างอะไรกับที่เกิดขึ้นแล้วมากนัก

_______ ทางด้านคล็อป ผมมองว่าเค้าพลาดอย่างเดียวในเกมนี้คือการเก็บสเตอริดจ์ไว้จนถึงนาที 65 สเตอริดจ์ควรถูกถอดออกตั้งแต่พักครึ่งแล้ว แต่นอกเหนือจากนั้นผมคิดว่าคล็อปวางหมากและพยายามแก้เก้มได้ดีแล้ว

_______ ฟอร์มส่วนตัวของนักเตะน่าพูดถึงมากกว่า

-----------------------------------------

นัดนี้เล่นดี...จะมีให้เห็นหรือออ

มินโยเล่ - “ตรงเป็นเข้า” ไม่ใช่คำเล่าลือ

มิลเนอร์ - ออกบอลเชื่อมเกมช้าไปนิด แต่การอ่านเกม การหาตำแหน่งรับบอลทำได้ดี มีเก้ๆ กังๆ ก็จังหวะจะเปิดบอลนี่ล่ะที่ทำไม่ได้เพราะต้องล็อคเข้าขวาก่อน

คลาวาน - มีส่วนพลาดกับสองประตูที่เสียไป ลูกแรกดันเปิดบอลข้ามฟากหางานให้ไคลน์มันซะงั้น ลูกสองก็เข้าพรวด การดักบอลและเล่นลูกกลางอากาศยังทำได้ดีอยู่

ลอฟเรน - ซ้อนใครไม่เป็นจริงๆ คือการสกัดบอลหรือลูกกลางอากาศลอฟเรนไม่ได้มีปัญหาเลย แต่จังหวะที่ต้องซ้อนเพื่อนที่หลุดตำแหน่ง หรือพื้นที่ที่คนอื่นมาช่วยไม่ทัน ลอฟเรนไม่พุ่งเข้าหาบอล ยืนห่าง 2 ลูกที่โดนไปลอฟเรนควรจี้เข้าไปให้ใกล้คนยิงมากกว่านี้

ไคลน์ -  เกมรุกดับสนิท ส่วนหนึ่งคือเพื่อนก็ไม่ค่อยขึ้นทางฝั่งนั้นด้วย ในเกมรับไม่ได้มีปัญหา ที่มีปัญหาจริงๆ คือการเชื่อมเกมที่หาทางหนีตัวไล่ได้ไม่ค่อยได้

ไวนัลดุม - เกมรุกโอยย เกมรับอูยยย ถ้าอัลเลนได้ดูนัดนี้คงนั่งฮาอยู่

เฮนเดอร์สัน - ครึ่งแรกยังพอมีเสี่ยงเปิดบอลเข้าทำให้ได้ลุ้นบ้าง แค่ครึ่งหลังได้แค่เคาะไปเคาะมา แถมช่วงท้ายๆ เหมือนมีอาการเจ็บด้วย ทั้งเกมมีให้บอลน้ำหนักขาดๆ เกินๆ อีกต่างหาก

คูตินโย่ - แทบจะแบกทีมไว้คนเดียว ต้องลงไปช่วยเชื่อมเกมตรงกลาง บอลจังหวะเข้าทำก็ต้องเป็นคนปั้น ถ้าจะมีอะไรที่ทำพลาดก็เห็นจะเป็นเรื่องยิงไกล ง้างปุ๊ปโกล์ฝั่งตรงข้ามเตรียมเตะเปิดบอลได้เลย

เฟอมิโน่ - หาที่เล่นไม่ได้เลย พื้นที่ให้เล่นมีน้อยมากเพราะคู่ต่อสู้รับลึก เจ้าตัวทำดีที่สุดได้แค่รักษาการครองบอลไว้กับทีมด้วยการ...เคาะกลับหลัง

ลัลลาน่า - ชะตากรรมเดียวกับเฟอมิโน่ แถมได้บอลน้อยกว่าอีก

สเตอริดจ์ - ครึ่งแรกถอยลงมาเชื่อมเกมตรงกลางเยอะมาก มากจนไม่รู้ว่าลงมาทำไมขนาดนั้น ถ้าจะเล่นสไตล์กองหน้า false9 แบบนี้เค้าทำผลงานสู้เฟอมิโน่ไม่ได้เลย แถมการวิ่งตามช่องและความปราดเปรียวในการวิ่งไปรับบอลดรอปลงไปเยอะมาก ครึ่งแรกมีอยู่ครั้งนึงที่มิลเนอร์จ่ายทะลุช่องให้หลุดแล้ว แต่สเตอริดจ์วิ่งไม่ถึงบอลอย่างไม่น่าเชื่อ

ตัวสำรอง

โอริกิ - ไปทุกที่ ที่ไม่มีบอล

โมเรโน่ - ไม่ต้องเล่นเกมรับ(คู่ต่อสู้ลงไปอุด) มีหน้าที่แค่รับบอลด้านข้างและเปิดเข้ากลาง ออกไปรับบอลได้ดี ครองบอลก็ใช้ได้ เปิดบอลได้ถนัดกว่ามิลเนอร์ด้วย แต่บอลที่เปิดเข้ามาแต่ละทีไม่ได้ลุ้นเลย

กรูยิช - ทำเกม ทำชิ่ง ทำช่อง ทำอะไรไม่ได้ทั้งนั้น ลงมาส่องอย่างเดียวจริงๆ ซึ่งในแง่นั้นต้องนับถือว่าหาช่องยิงได้ดีทีเดียวในรูปเกมที่คู่ต่อสู้ยืนปักหลักกันเต็มเขตโทษไปหมดแบบนั้น

แมน ออฟ เดอะ แมทช์ : ...เบน มี…ดีสุดของลิเวอร์พูลต้องเป็นคูตินโย่ที่เล่นได้ดีกว่าเพื่อน แต่ฟอร์ม เบน มี เซนเตอร์ของเบิร์นลี่มันเปล่งปลั่งเจิดจรัสจนไม่พูดถึงไม่ได้จริงๆ
------------------------------------------------------------
เครดิตภาพจากเวปทางการ

Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น