วันเสาร์ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2559

ลิเวอร์พูล 2-2 นิวคาสเซิล (พรีเมียร์ลีค)


นำสองลูกแล้วหลอนกว่าตอนยังเสมอ
___________________________

ลิเวอร์พูลเล่นด้วย 4-2-3-1

-------------------สเตอริดจ์------------------
อัลเลน------------เฟอมิโน่---------ลัลลาน่า
------------สจ๊วต---------มิลเนอร์------------
โมเรโน่------ตูเร่-------ลอฟเรน-----เรนเดล
--------------------มินโยเล่-------------------

_______ ราฟายกพลทูนอาร์มี่มาเกยตื้นหนีตายที่เมอร์ซี่ไซด์  ทางด้านคล็อปจัดเรนเดลกับสจ๊วตไว้คอยต้อนรับ บวกกับตูเร่ที่บังเอิญต้องลงแทนซาโก้ที่กินยาไม่ดูตาม้าตาเรือ ชุดตัวจริงออกมาแบบที่เห็น
-------------------------------------------------------

________ ตู้ม เข้าเลย 1-0  โมเรโน่แอบเปิดฟรีคิกเร็วให้สเตอริดจ์พักอกแล้วกลับตัวยิงในเขตโทษอย่างเท่ตั้งแต่นาที 2

_______ หลังจากนั้นนิวคาสเซิลพยายามไล่แดนกลางให้หนัก แต่ก็ทำได้แค่ชะลอไม่ให้เกมของลิเวอร์พูลต่อเนื่อง ทำได้แค่นั้น ทางด้านลิเวอร์พูลครองบอลได้เยอะกว่า เน้นวางยาวให้สเตอริดจ์พักเล่น สลับกับวางไปทางมุมธงให้ลัลลาน่ากับอัลเลนตามเล่น ซึ่งทำให้บอลขึ้นหน้าได้เร็วดีทีเดียว จังหวะเสียบอลก็ไล่กันเอาเป็นเอาตาย ได้บอลคืนมาอย่างรวดเร็ว

_______ นิวคาสเซิลพยายามบุกเจาะทางโมเรโน่แต่ทำไม่ได้แม้แต่เปิดบอล ส่วนลิเวอร์พูลเอาบอลมาไว้ักับตัวได้แทบจะตลอดเวลา นาที 30 จากจังหวะทำเร็ว เฟอมิโน่พลิกบอลแล้วจ่ายต่อไปทางซ้ายให้โมเรโน่เติมขึ้นมารับ ก่อนเปิดเข้ากลางมาหน้าเขตโทษให้ลัลลาน่าจับหนึ่งจังหวะแล้วยิงอย่างงาม 2-0

_______ ลิเวอร์พูลยังครองทั้งเกมทั้งบอลได้เหนือชั้น เกมกลางสนามไล่ตัดเอาบอลกลับมาได้เร็ว เกมรับไม่มีอะไรระแคะระเรืองระคาย หยุดนิวคาสเซิลได้ตั้งแต่ยังไม่เปิดบอลด้วยซ้ำ เกมรุกอัลเลนเรียกฟาล์วได้ตลอด ลัลลาน่าโชว์สเต็ปจับบอลแล้วกระชาก สเตอริดจ์เก็บบอลได้เหมือนเอามือจับ และเฟอมิโน่พลิกบอลได้อย่างกับไม่มีใครมาเร่งเลย อย่างไรก็ตาม จังหวะเข้าทำดูจะไม่ค่อยเน้นกันเท่าไหร่ เล่นยากไปเองบ้าง จะเล่นเองบ้าง ทำให้โอกาสยิงน้อยกว่าที่ควรจะเป็นหากดูจากรูปเกม

_______ ท้ายๆ ครึ่งแรก นิวคาสเซิลเริ่มหันไปขึ้นทางเรนเดลบ้าง แต่ผลลัพธ์ไม่ต่าง จบครึ่งแรกที่ 2-0

_______ เข้าครึ่งหลัง ลิเวอร์พูลกลับลงมาด้วยสภาพผ่อนคลายเต็มที่ วิ่งเหยาะๆ ราวกับสูดอากาศรับโอโซนยามเช้า การวิ่งหาบอลเอาเป็นเอาตายแบบต้นเกมแทบไม่เห็นแล้ว ส่วนทางนิวคาสเซิล เล่นเหมือนนึกขึ้นได้ว่ากรูจะตกชั้นแล้วนี่หว่า เลิกไล่แค่ในแดนตัวเอง หันมาวิ่งใส่ตั้งแต่ข้างหน้า ได้บอลก็เติมกันขึ้นมาเล่นหมด โดยเฉพาะแบ็คสองข้างที่ขึ้นมาช่วยเปิดบอลสูงผิดจากครึ่งแรก

_______ ไม่นานครับ ไม่นานเลย วีรบุรุษแห่งนิวคาสเซิลก็แผลงฤทธิ์ แค่นาที 49 จากจังหวะเล่นไม่เนียนทำบอลหลุดเองของลิเวอร์พูล นิวคาสเซิลได้เปิดบอลจากทางฝั่งโมเรโน่ บอลย้อยลึกข้ามไปเสาสองแบบไม่มีน้ำหนักนัก แต่มินโยเล่ก็ทำให้มันหนักได้ด้วยการขึ้นไปตัด...ไม่ถึงบอล โดนซิสเซ่โหม่งเข้ากรอบได้ประตูไปง่ายๆ 2-1

_______ ลิเวอร์พูลยังเล่นกันเอื่อยๆ ไม่ค่อยมีสมาธินักอยู่นาน กว่าจะเริ่มมีสติกลับมาเล่นได้ตามจังหวะของตัวเองก็ร่วมนาที 55 เข้าให้แล้ว ในขณะที่ทางฝั่งนิวคาสเซิล ได้โอกาสลุ้นเปิดมากขึ้น แต่โดยรวมเกมรุกของพวกเขายังแย่ การตั้งเกมยังดูไม่ดีนัก แต่บอลสองไม่เป็นรองแล้วและการเข้าหาบอลดูจะทำได้เร็วกว่า

_______ นาที 66 จากการผิดพลาดของสเตอริดจ์ที่พาบอลไปล้มหน้าเขตโทษจะเรียกฟาล์วแล้วไม่ได้ นิวคาสเซิลโต้เร็วกลับมาจนได้เปิดจากทางฝั่งโมเรโน่อีกครั้ง ลอฟเรนโหม่งสกัดได้แต่ไม่ขาด บอลตกในเขตโทษแล้วก็เป็นโคลแบ็ค นักเตะที่ทั้งฤดูกาลนี้ยังยิงไม่ได้สักลูก วิ่งเข้ามาอัดเต็มข้อ บอลพุ่งเข้ากลางประตูแล้วตกพื้นแฉลบ หรือแฉลบขากองหลังไม่แน่ใจ แต่ที่แน่ๆ คือบอลเปลี่ยนทางจากที่ควรจะพุ่งเข้าซองมินโยเล่ที่รอรับอยู่ กลายเป็นพุ่งเข้าหาตาข่ายแทน 2-2

_______ งานเข้าดิครับ นำอยู่ดีๆ ไม่ชอบ นาที 71 คูตินโย่กับลูคัสเลยได้ลงมาแทนแรนเดลกับอัลเลน มิลเนอร์ถูกโยกไปเล่นแบ็คขวา ลิเวอร์พูลหันมาขึ้นเกมรุกทางฝั่งขวาแบบสุดลิ่มทิ่มประตูอู้หูเล่นอยู่ข้างเดียวตลอดเวลาที่เหลืออยู่ ซึ่งก็ได้ผลด้วย พื้นที่มุมธงฝั่งนี้ของนิวคาสเซิลเน่าสุดๆ อ้าซ่า หลวมพรืด ใครขึ้นไปก็ถึงสุดเส้นหลังได้หมด ลิเวอร์พูลได้เปิดบอลเข้าไปลุ้นเยอะ แต่ติดกองหลังเรียบ

_______ ทางด้านนิวคาสเซิลเปลี่ยนมิโตรวิชลงมาแทนซิสเซ่ เปลี่ยนโหมดมาโยนยาวโต้เร็วใส่ เกมถึงตรงนี้ลิเวอร์พูลยังดูดีกว่า ได้ลุ้นเยอะกว่า เกมขวาเจาะได้ตลอ แต่นิวคาสเซิลเองก็โต้ขึ้นมาพอหาโอกาสได้เหมือนกัน

_______ นาที 83 โอโจ้ได้ลงแทนลัลลาน่า ลิเวอร์พูลยังตั้งหน้าตั้งตาเจาะทางขวาต่อไป แต่สุดท้ายไม่มีอะไรดีไปกว่าบอลเฉียดเสา, ติดบล็อคกองหลัง, และโดนจับฟาล์ว จบเกมที่สกอร์ 2-2 เป็นอีกหนึ่งนัดที่นำห่างถึงสองลูกแล้วไม่ชนะ
-----------------------------------------

_______ ครึ่งแรกครึ่งหลังเป็นหนังคนละม้วนเลย

_______ ต่อให้ไม่มีถึงสองประตู เกมครึ่งแรกต้องบอกว่าลิเวอร์พูลชนะทุกอย่าง ทำเกมรุกเกมรับโอกาสการครองเกม ยิ่งพอบวกประตูที่ทำได้เข้าไปอีก ยิ่งต้องนับว่าเป็น 45 นาทีแรกที่สมบูรณ์แบบมาก

_______ แต่ครึ่งหลัง ยังไม่ต้องนับถือการเปลี่ยนวิธีเล่นของคู่ต่อสู้ เอาแค่ตัวเองก่อน ลิเวอร์พูลผ่อนเกมลงไปเยอะมากครับ ความกระตือรือร้นในการวิ่งน้อยลงอย่างเห็นได้ชัดโดยเฉพาะก่อนที่จะ 2-2 ยิ่งไปกว่านั้นคือพยายามจะเล่นลูกยาก เน้นเล่นเองกันอีกหลายจังหวะ พูดง่ายๆ คือสมาธิไม่ค่อยอยู่กับเกมตรงหน้านั่นแหล่ะ

_______ ถ้าพวกเขาเล่นเน้นกว่านี้ ต่อให้ไม่ได้ลูกที่สาม(ซึ่งน่าจะได้) อย่างน้อยก็ไม่น่าจะเสียได้ถึงสองประตู(ตั้งแต่นาที 66)

_______ ลิเวอร์พูลเป็นแบบนี้อยู่หลายนัดแล้ว ส่วนนึงมาจากแท็คติคที่ต้องวิ่งเยอะด้วยนั่นแหล่ะ พอได้ประตูแล้ว ความกระตือรือร้นมันต้องมีลดบ้างก็เข้าใจ คนไม่ใช่หุ่นยนต์ จะให้สมาธิเขม็งเกลียวกันตลอด 90 นาทีมันเป็นเรื่องยาก แต่อย่างน้อยก็ควรจะผ่อนให้อยู่ในระดับที่เอาตัวรอดได้ดีกว่านี้หน่อย และที่สำคัญกว่านั้นคือไอ้เรื่องเล่นยากเล่นโชว์ทั้งที่เวลาเหลืออีกเพียบนี่ต้องแก้ไขก่อนเลย

_______ สำหรับคล็อป เขาพลาดเรื่องปล่อยให้ลูกทีมผ่อนมากไป แต่ทำได้ดีกับเรื่องเปลี่ยนแท็คติคที่ถอดแรนเดลออกแล้วเอามิลเนอร์ไปเล่นแทน เกมรุกทางขวาดีขึ้นมากอย่างเห็นได้ชัด โอกาสลุ้นประตูกว่า 90% ในครึ่งหลังนี่มาจากเกมฝั่งนั่นล้วนๆ และการเปิดบอลเข้าทำก็ถือว่าฝ่าตัวบล็อคเข้ามาได้ในระดับน่าพอใจด้วย ไม่ใช่เปิดเป็นติดๆ

_______ อย่างไรก็ตาม เรื่องน่าดีใจที่สุดของวันนี้คงหนีไม่พ้น

_______ ไม่มีใครเจ็บเพิ่มครับ
-----------------------------------------

นัดนี้เล่นได้ดีมาก...ในครึ่งแรก

มินโยเล่ - ลูกแรกงามไส้มาก เห็นก่อนตั้งนาน บอลก็ไม่แรง แต่ลูกที่สองนี่ยกประโยชน์ให้จำเลยไป

โมเรโน่ - ทำสองแอสซิสต์ได้สุดยอดในครี่งแรก เกมรับก็จัดว่าดีด้วยเพราะคู่ต่อสู้เปิดไม่ได้ แต่เข้าครึ่งหลังที่เจอตัวซ้อนบ่อยๆ เข้าโมเรโน่เริ่มหลง แถมช่วงที่สกอร์ใกล้กันแล้วโมเรโน่ปล่อยพื้นที่ตัวเองหลุดบ่อยไปด้วย สองลูกที่เสียก็เปิดมากจากฝั่งนี้หมดเช่นกัน

ตูเร่ - ครึ่งแรกบอลมาทางไหนกลับไปทางนั้น ไม่เก็บบอลเล่น แต่ครึ่งหลังพยายามเก็บมากขึ้น ผลงานพอใช้ได้ ส่วนเกมรับเทตามบอลมากไป(ไม่)หน่อย ไม่ค่อยดูคนเลย ที่เห็นว่าดีคือการซ้อนแบ็คซ้อนกองกลางที่ทำได้รวดเร็ว

ลอฟเรน - สกัดลูกเปิดได้ดีมาตลอดจนกระทั่งลูกที่สองที่เสียนั่นแหล่ะ ลูกนั้นโหม่งได้ค่อนข้างแย่ แต่โดยรวมฟอร์มจัดว่าดี สกัดได้แล้วยังเก็บบอลเล่นและเอาบอลขึ้นหน้าได้ด้วย จังหวะที่โดนโต้ก็มีความเร็วพอจะตามลงมาปิดพื้นที่ได้โอเคอยู่

เรนเดล - อ่านเกมดีขึ้น เติมถูกจังหวะจะโคนมากขึ้น แต่ประสิทธิภาพในพาบอลไปเองยังต้องรออัพแพทช์ใหม่ ส่วนประสิทธิภาพในการจ่ายบอลควรอันอินสตอลออกแล้วลงโปรแกรมอื่นไปเลย โปรแกรมที่ใช้อยู่สิ้นหวังแล้ว

สจ๊วต - ตำแหน่งยืนดี ไม่มีเท ไม่มีหลุด เกมรับรักษาพื้นที่หน้าเขตโทษได้น่าพอใจทีเดียว จ่ายบอลให้เพื่อนก็ไม่แถมเฝือกแล้ว แต่ออกบอลช้า เลือกตัวออกบอลได้แย่มาก แม้บอลจะอยู่กับทีมแต่ทีมไม่ค่อยได้เปรียบเท่าไหร่

มิลเนอร์ - ไม่ค่อยอยู่เป็นที่เป็นทาง วิ่งเยอะ เชื่อมเกมเยอะ แต่สาระจริงๆ อยู่ตอนที่แอบขึ้นไปเปิดบอลซึ่งทำได้ดีหลายครั้ง เพื่อนได้ยิงได้โหม่งกันไปคนละทีสองที

อัลเลน - เทพครึ่งแรก กลิ้งไปกลิ้งมาเหมือนเดิมเพิ่มเติมคือเรียกฟาล์วได้ ทำให้เกมลื่นไหลดีทั้งจากการวิ่งดักบอลและวิ่งทำทางเชื่อมเกม แต่ครึ่งหลังเหมือนปลั๊กหลุด หายไปจากเกมดื้อๆ

เฟอมิโน่ - ครึ่งแรกพลิกบอลได้สุดยอด จะไล่อยู่กี่ตัว เบียดติดแค่ไหนเฟอมิโน่พลิกได้หมด จ่ายต่อให้เพื่อนเล่นง่าย ในขณะที่การวิ่งไล่ก็ทำอยู่ตลอด พอเข้าครึ่งหลังเริ่มวิ่งน้อยลง ยังเชื่อมเกมแถวหน้าเขตโทษได้อยู่แต่เอาชนะแนวรับแน่นหนาหลายชั้นไม่ได้

ลัลลาน่า - จับบอลแรกได้เนียนตามาก นับเฉพาะเรื่องนี้เรื่องเดียวดีที่สุดในทีมตอนนี้เลย บอลจะมาแบบไหนจับปุ๊บได้เปรียบและเล่นต่อได้ปั๊บ ช่วยเชื่อมเกมและทำเกมรุกได้มีประสิทธิภาพ ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องของครึ่งแรก

สเตอริดจ์ - สเตอริดจ์ตัวจริงโป้งเดียวจอด และสเตอริดจ์ตัวจริงเช่นกันที่ชอบฝืนเล่นลูกยาก แม้จะจบสกอร์ได้สุดยอดแต่การมีส่วนร่วมกับเกมของสเตอริดจ์วันนี้ไม่ดีเลย ช่วงที่หายก็หายไปเลย ช่วงที่โผล่มาก็มาทำเพื่อนเสียจังหวะจาการฝืนเก็บบอลนานไปหลายครั้ง

ตัวสำรอง

คูตินโย่ - เอาบอลขึ้นหน้าได้เร็วกว่าช่วงก่อนหน้า เกมรุกหาโอกาสได้น้อยไปหน่อย ได้ยิงเอง่แบบหวังผลได้ครั้งเดียวก็ติดบล็อค ได้เปิดเข้าทำหนสองหนก็ไม่แม่น

ลูคัส - ช่วยให้ทีมเก็บบอลได้ดีขึ้น แต่จังหวะโดนโต้เร็วก็ช่วยอะไรทีมไม่ได้เท่าไหร่ ตามไม่ทัน งานเข้าเซ็นเตอร์อยู่ดี

โอโจ้ - ใช้ความเร็วความสดช่วยประสานงานกับมิลเนอร์ได้ในระดับนึง ลงมาพอมีอะไรให้พูดถึงบ้าง

แมน ออฟ เดอะ แมทช์ : ...ซิมง มินโยเล่…ต่อหน้าฉันเธอตัดลูกนั้นไม่ถึงได้อย่างไร~ โว้โอ่~
------------------------------------------------------------
เครดิตภาพจากเวปทางการ

Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น