...นี่ยูโรป้า หรือบอลผ้าป่าการกุศล...
___________________________
ลิเวอร์พูลเริ่มเกมด้วย 4-3-3
---------------------------โอริกิ--------------------------
--------เฟอมิโน่-----------------------ลัลลาน่า-------
-----------มิลเนอร์-------ชาน-----เฮนเดอร์สัน------
สมิธ-----------ลอฟเรน---------ตูเร่------------ไคลน์
-------------------------มินโยเล่-------------------------
_______ เกมยูโรป้าลีคนัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม ทั้งสองทีมเข้ารอบกันไปเรียบร้อยแถมแย่งที่หนึ่งไปก็ไร้ประโยชน์เพราะไม่มีระบบทีมวาง คล็อปเลยจัดทีมแบบสบายๆ ส่งดาวรุ่งกับตัวสำรองมาเยอะทั้งตัวจริงตัวสำรอง
-------------------------------------------------------
_______ เริ่มเกมมาลิเวอร์พูลเก็บบอลเล่นดีมาก ตัดบอลกลับได้เร็ว บอลสองเก็บได้หมดทั้งรุกทั้งรับ ครองบอลอยู่ฝ่ายเดียว เกมรุกทางฝั่งซ้ายไหลลื่นมากโดยเฉพาะการเติมขึ้นมารับ-เปิดบอลของสมิธที่ได้ลุ้นพอประมาณ
________ ผ่าน 10 นาทีไปซิยงก็เริ่มเก็บบอลเล่นได้มากขึ้น แต่ยังเปิดบอลเข้าไปลุ้นไม่ได้ ส่วนลิเวอร์พูลยิ่งเล่นก็ยิ่งต่อบอลกันช้าลงๆ เกมซ้ายไม่ค่อยคืบแล้ว ในขณะที่ตรงกลางกับขวานั่นไม่ไปไหนตั้งแต่ต้นเกม
_______ ผ่าน 20 นาทีของเกมไป ลิเวอร์พูลมีปัญหาชัดเจนในแดนหน้าที่เก็บบอลเล่นไม่ได้เลย โอริกิตัดออกไปคงไม่มีใครหวังอยู่แล้ว แต่เฟอมิโน่กับลัลลาน่านั้นเน้นเล่นบอลจังหวะเดียวเยอะแล้วกลายเป็นทำให้ทีมเสียบอลเร็ว เกมรุกของทีมของทีมที่พยายามจะโยกมาเล่นขวาก็ขึ้นไม่ได้ ส่วนซิยงก็เหมือนเดิม หาสาระไม่ได้ เก็บบอลได้เยอะขึ้นจริงแต่แค่จะเอาบอลไปเปิดยังไม่สำเร็จ
_______ ท้ายครึ่งแรก ลิเวอร์พูลกลับมาเร่งเกมและเน้นเกมฝั่งซ้ายให้พอหายง่วงกันนิดนึง แต่ก็ไม่ได้จริงจังอะไรก่อนจบครึ่งแรกที่ 0-0
_______ เข้าครึ่งหลังเกมก็เหมือนครึ่งแรกเป๊ะ ซิยงยังมงเท่งมงกับการต่อบอล เอาไปเปิดไม่ได้สักที(โว้ย) ส่วนลิเวอร์พูลก็เคาะกันช้าๆ เน้นการต่อบอล 1-2 อย่างแม่นยำในแดนตัวเองโดยมีตูเร่ ลอฟเรนเป็นตัวทำเกมหลัก ...คงหวังให้คู่ต่อสู้หลับไปก่อนค่อยแปเข้ากรอบง่ายๆ มั้ง
_______ นาที 61 คล็อปทำฮึดฮัดด้วยการส่งคูตินโย่ลงมาแทนมิลเนอร์ ปรับตำแหน่งการยืนพอควร โดยดึงลัลลาน่ามาช่วยตรงกลาง คอยรับบอลต่อจากชาน เกมรุกเน้นใช้เฟอมิโน่(ซ้าย) คูตินโย่(กลาง) คอยประสานงานร่วมกับโอริกิที่ยืนค้ำหน้า โดยมีเฮนเดอร์สันขยับไปช่วยเกมทางด้านขวาบ่อยๆ รวมไปถึงปรับให้ทีมเอาบอลขึ้นหน้าให้เร็วขึ้นด้วย
_______ เกมของลิเวอร์พูลดีขึ้นทันตาเห็น เริ่มได้เปิดบอลเข้าไปลุ้นบ้าง ทั้งการโยนจากด้านข้างและการจ่ายทะลุช่องตรงกลางแต่ยังติดแนวรับอยู่ แต่ทีมก็ดีดอยู่ได้ราวๆ 5 นาที ก่อนจะค่อยๆ นิ่งงันซึมเซาไป ส่วนซิยงก็ยังเป็นซิยงทีมเดิมเพิ่มเติมไม่มีเช่นเดียวกับตอนต้นเกม เน้นต่อบอลให้แฟนบอลร้องเพลงเชียร์ไปเรื่อยๆ แค่นั้น
_______ นาที 76 รอสซิสเตอร์แทนเฮนโด้ รูปเกมยังไม่มีอะไรเปลี่ยน นาที 89 บรานาแกนแทนเฟอมิโน่ ก็ยังไม่มีอะไรเปลี่ยน คือ 15 นาทีสุดท้ายของเกมนี้ถ้าก่อกองไฟร้องเพลงสามัคคีชุมนุมกันกลางสนามได้คงทำไปแล้ว เล่นกันไปตามจังหวะเฉยๆ ก่อนจบเกมที่สกอร์ 0-0 ตามคาด
-----------------------------------------
_______ นาที 76 รอสซิสเตอร์แทนเฮนโด้ รูปเกมยังไม่มีอะไรเปลี่ยน นาที 89 บรานาแกนแทนเฟอมิโน่ ก็ยังไม่มีอะไรเปลี่ยน คือ 15 นาทีสุดท้ายของเกมนี้ถ้าก่อกองไฟร้องเพลงสามัคคีชุมนุมกันกลางสนามได้คงทำไปแล้ว เล่นกันไปตามจังหวะเฉยๆ ก่อนจบเกมที่สกอร์ 0-0 ตามคาด
-----------------------------------------
_______ ก็...อย่างที่ทุกคนรู้ บอลนัดนี้มันไม่ได้มีความหมายอะไรแล้วกับทั้งสองฝ่าย ลิเวอร์พูลเข้ารอบชัวร์ ส่วนซิยงเงื่อนไขในการตกรอบก็น้อยจ้อยซะเหลือเกิน เกมมันก็ต้องออกมาเป็นแบบนี้แหล่ะ ไม่มีใครอยากเหนื่อยอยากเจ็บฟรีหรอก อันนี้เข้าใจตรงกันก่อนนะ
_______ ทางด้านคล็อปเองก็คงมองเกมนี้แค่เน้นให้โอกาสดาวรุ่ง, เคาะสนิมคนพึ่งกลับมา และทดลองแทคติคนิดๆ หน่อยๆ นั่นแหล่ะ ซึ่งทั้ง 11 ตัวจริงทั้งการเปลี่ยนตัวสำรองก็ยืนยันตามนั้น อันนี้ผมเห็นด้วย คือไม่รู้จะเอาจริงกับเกมแบบนี้ไปทำไม
_______ คราวนี้มาพูดถึงในเกมบ้าง
_______ เอ่อ...เล่นช้ากันไปเยอะเลย ไม่ค่อยขยับรับบอลด้วย ถ้านึกภาพไม่ออกให้นึกเหมือนเวลาบอลนำ 3-0 แล้วเข้าช่วงทดเจ็บแล้ว อะไรประมาณนั้นน่ะ แล้วเล่นด้วยจังหวะแบบนี้แทบทั้งเกม จะเอาอะไรมาหวาดเสียวหรือเป็นประตูได้ล่ะ
_______ ที่แย่ที่สุดอยู่ที่พื้นที่แดนหน้าที่เก็บบอลเล่นไม่ได้เลย ไม่ได้เลยโดยสิ้นเชิง แดนหน้าที่ว่าไม่ใช่โอริกิคนเดียวนะ แต่หมายถึงเฟอมิโน่ ลัลลาน่า รวมไปถึงคูตินโย่(เปลี่ยนลงมา) เฮนเดอร์สันกับชาน(บางช่วงที่ขยับขึ้นไป) คือบอลแถวหน้า-ในเขตโทษแตะปุ๊บเสียปั๊บตลอด ต่อบอลกันไม่ได้ แต่งบอลไปยิงก็ไม่ได้
_______ จบ ไม่เหลืออะไรน่าพูดถึงแล้วสำหรับนัดนี้
_______ ไปรอดูเกมพรีเมียร์ลีคนัดต่อไปกันดีกว่าครับ
-----------------------------------------
นัดนี้เล่นประคองตัวกันไป
มินโยเล่ - ตำแหน่งยืนดี บอลล้นๆ มาจัดการได้หมด ทำได้ดีในเรื่องการออกมานอกเส้นที่ทันตลอด แต่เอาจริงๆ ก็ไม่ได้มีลูกยากให้เซฟสักลูก
สมิธ - โดนเจาะทั้งเกม เล่นเกมรับไม่ดีเท่าไหร่ คือการสกัดเนี่ยโอเคอยู่ การคุมพื้นที่มุมธงและปิดการเปิดเข้ากลางก็จัดว่าดี แต่การอ่านเกม โดยเฉพาะการตัดสินใจว่าตอนไหนควรจะเข้าไปไล่ตัวแรก ตอนไหนควรจะถอยไปปิดช่องไม่ให้เปิดตัดหลังนี่ถือว่าพินาศมาก ส่วนเกมรุก เปิดบอลได้ดีมาก ดีทั้งการเปิดและการเลือกจังหวะเปิด
ลอฟเรน - เล่นได้ดี เข้าสกัดได้เด็ดขาด ซ้อนแบ็คได้ยอดเยี่ยมมากๆ ประกบกองหน้าในเขตโทษพอใช้ได้ ออกบอลให้เพื่อนไม่พลาด
ตูเร่ - ต้นเกมขยันวางยาวให้โอริกิพักเล่น ซึ่งวางได้แม่น โอริกิอยู่ในตำแหน่งที่ดีกว่าหลายครั้ง...แต่เก็บเล่นไม่ได้เอง หลังจากนั้นเลยหันมาออกบอลสั้นซึ่งพลาดอยู่พอสมควร ส่วนในเรื่องเกมรับก็สกัดบอลเปิดขึ้นหน้า-เข้ากลางของคู่ต่อสู้ได้หมด
ไคลน์ - เกมรับไม่ค่อยมีอะไรให้ทำและไม่มีข้อผิดพลาด แต่กับการเชื่อมเกมและเกมรุกวันนี้ไคลน์เล่นไม่ได้เลย บอลเชื่อมเกมช้า ไม่ค่อยไปข้างหน้า จังหวะเติมเกมดีๆ ไม่มี จังหวะตัวต่อตัวก็ไม่ผ่าน ทั้งๆ ที่มีพื้นที่และเวลาให้ไม่น้อย
ชาน - ในตำแหน่งที่เล่นต้องถือว่าชานเข้าปะทะคู่ต่อสู้ช้าไปสักนิด แต่การอ่านเกมและเก็บบอลสองในเกมรับเขาทำได้ดี การเชื่อมเกมทำได้พอใช้คือไม่พลาดแต่ขึ้นหน้าช้าไป
เฮนเดอร์สัน - สนิมเกาะเต้มมม~ ยังคงต้องรอดูสภาพความฟิตกับอาการบาดเจ็บกันอีกสักพัก วิ่งไม่ออก ปะทะไม่ได้ จ่ายบอลได้แต่ขวางไปมาหาที่ว่างเท่านั้น ขึ้นหน้าไม่ได้
มิลเนอร์ - ยังคงรับบทหนักในแผงกลางที่ต้องทำงานเยอะกว่าชาวบ้าน ซึ่งยังทำได้ไม่ดีนัก วิ่งเยอะแต่ประโยชน์น้อย วันนี้ช่วยเกมรับแดนกลางได้มากกว่าเกมรุก
เฟอมิโน่ - ลงมาให้ครบ 11 คน
ลัลลาน่า - มีส่วนร่วมกับเกมน้อยไป แต่ยังมีจังหวะที่ออกบอลเกมรุกสวยๆ อยู่เป็นระยะ ไม่ถึงกับเงียบหายไปซะทีเดียว
ลัลลาน่า - มีส่วนร่วมกับเกมน้อยไป แต่ยังมีจังหวะที่ออกบอลเกมรุกสวยๆ อยู่เป็นระยะ ไม่ถึงกับเงียบหายไปซะทีเดียว
โอริกิ - อย่างเดียวที่ยังดูดีอยู่คือการวิ่งทำทางที่วิ่งได้ถูกช่อง แต่นอกนั้นคือพัง การยิงพัง จ่ายบอลพัง ประสานงานพัง เก็บบอลพังพินาศ
ตัวสำรอง
คูตินโย่ - ลงมาเล่นเลียนแบบเฟอมิโน่ได้เหมือนเป๊ะ
รอสซิสเตอร์ - ขยันวิ่งและเข้าบอลเร็วกว่าชาน แซะบอลได้โอเคแต่เก็บบอลยังต้องปรับปรุงหน่อย รวมไปถึงการออกบอลที่ไม่ค่อยระวังด้วย
บรานาแกน - เวลามีน้อย นอกจากลงไปอัดคู่ต่อสู้กลิ้งไปทีนึงก็ไม่มีโอกาสได้ทำอะไรอีก
แมน ออฟ เดอะ แมทช์ : ...เดยัน ลอฟเรน… กับรูปเกมที่ออกมา รวมถึงการมีส่วนร่วมกับเกมก็ต้องบอกว่ามีแค่ลอฟเรนกับตูเร่ให้เลือกเท่านั้น ขอเลือกลอฟเรนที่เด่นกว่า(เพราะบอลขึ้นทางเขาเยอะกว่า)ก็แล้วกัน
------------------------------------------------------------
ป.ล. เผื่อใครคิดถึงเฟอมิโน่ (เพราะต่อให้ดูก็ไม่ได้ออกกล้อง) เอารูปมาแปะประกอบบทความให้แล้วนะ
เครดิตภาพจากเวปทางการ
Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น