...ห่วยเสมอต้นเสมอปลาย...
___________________________
ลิเวอร์พูลเล่น 4-2-3-1
-------------------------เบนเทเก้------------------------
ไอบ์---------------------เฟอมิโน่--------------มิลเนอร์
----------------ลูคัส-------------อัลเลน-----------------
โมเรโน่--------ลอฟเรน-----------ตูเร่-----------ไคลน์
--------------------------มินโยเล่------------------------
_______ ลิเวอร์พูลเปิดบ้านรับบอร์กโดซ์ในเกมยูโรป้านัดรองสุดท้าย นัดนี้คล็อปปรับทีมจากนัดกับซิตี้เยอะพอควร ที่สำคัญคือมีเบนเทเก้กลับมาเป็นหน้าเป้าและอัลเลนได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงคู่กับลูคัส
-------------------------------------------------------
_______ เริ่มเกมมาบอร์กโดซ์วิ่งไล่ยันสุดจอ ลิเวอร์พูลพยายามจะเล่นแบบเหนือชั้นด้วยการเคาะบอลหนีแต่ก็รอดบ้างไม่รอดบ้าง ยังดีว่าพอถูกตัดไปก็ตัดกลับมาได้เร็วเหมือนกัน ยังครองบอลกันไม่ต่อเนื่องทั้งคู่
________ 15 นาทีแรกนี้เกมทางซ้ายของลิเวอร์พูลโดยเฉพาะการเติมของโมเรโน่ทำได้ดีมีลุ้น เฟอมิโน่ขยับหาช่องเล่นได้ดี ทำให้บอลมาถึงข้างหน้าและได้เปิดบ่อยแต่ตายตอนจนตลอดเพราะเบนเทเก้ยังหาจังหวะตัวเองไม่เจอ เสียฟาล์ว ยืนไม่เช็คไลน์ จับบอลไม่อยู่
_______ กลางๆ ครึ่งแรก เกมของลิเวอร์พูลเริ่มแผ่วไป นาที 27 ตูเร่เซ็งเพื่อนหรือไงไม่รู้ เติมขึ้นมาเล่นเองยันเขตโทษคู่ต่อสู้แถมได้ยิงด้วย นาที 29 เบนเทเก้รับลูกจากไอบ์ยิงเข้าไปได้แต่ล้ำหน้าไปก่อน ส่วนมิลเนอร์กับไอบ์สลับฝั่งกันเล่นแล้ว
_______ แต่แล้วนาที 32 มินโยเล่ก็แสดงอภินิหาร จากจังหวะไม่มีอะไรเลย(โว้ย) มินนี่ถือบอลไป ไล่เพื่อนขึ้นหน้าไป แต่ไม่ยอมปล่อยบอลอยู่ร่วมๆ ครึ่งนาที ...จะเหลือเหรอ เสียตั้งเตะสองจังหวะในเขตโทษ ไซเวท์อัดคานตูมเข้าไป 1-0
_______ เห็นมินโยเล่โชว์ฟอร์มแล้วแนวรับบอร์กโดซ์ไม่ยอมน้อยหน้า นาที 37 มิลเนอร์โยนบอลจากริมซ้าย ซาเน่เซ็นเตอร์ของบอร์กโดซ์เหนี่ยวเบนเทเก้ซะไหล่แทบหลุดในเขตโทษ ในจังหวะที่เบนเทเก้ไม่ได้ใกล้เคียงจะถึงบอลเลยด้วยซ้ำ เสียจุดโทษ มิลเนอร์ยิงไม่พลาดตีเสมอ 1-1
_______ ช่วงท้ายครึ่งแรก ลิเวอร์พูลยังสร้างความตื่นเต้นให้กับแฟนบอลด้วยการเล่นพลาดเองอยู่เป็นระยะ แต่โดยรวมยังสามารถเก็บบอลเล่นได้ดีกว่ามาก ส่วนบอร์กโดซ์นั้น เกมรุกอย่าเรียกว่าเจาะไม่เข้า ให้เรียกว่าเอาบอลมาคืนแบบมีมารยาทจะเห็นภาพกว่า จบครึ่งแรกเสมอ...
_______ เดี๋ยวๆๆ ทดเจ็บนาทีแรก ไคลน์หาจังหวะพาบอลไปเปิดเองได้ดี บอลมาตรงตัวเบนเทเก้ที่หน้าเขตโทษ เบนเทเก้จับหนึ่งจังหวะก่อนตามไปยิงเข้าข้อทันที ช่วยให้ทีมพลิกแซงนำก่อนจบครึ่งแรก 2-1
_______ เข้าครึ่งหลัง ลิเวอร์พูลกลับลงมาเล่นได้อย่างมั่นใจขึ้น เกมรุกทางซ้ายที่ตอนนี้นำโดยมิลเนอร์เป็นหลัก โมเรโน่แทบไม่ขึ้นแล้ว ยังสามารถบุกอัดบอร์กโดซ์จนโงหัวไม่ขึ้น ได้เปิดบอลเข้าทำและได้ลุ้นประตูอยู่เป็นระยะ นาที 53 เบนเทเก้ชาร์จลูกเปิดของมิลเนอร์ได้ แต่โดนจับฟาล์วไปก่อน
_______ แต่พอผ่านนาที 60 ไป เกมของลิเวอร์พูลก็เริ่มแผ่วและเร่ิ่มถอยลงไปรับมากขึ้น ส่งผลให้บอร์กโดซ์เอาบอลมาเล่นในแดนลิเวอร์พูลได้มากขึ้น แต่ลูกเปิดลูกยิงอะไรก็อย่าได้ถามถึง
_______ นาที 67 ชานลงมาแทนอัลเลน ลิเวอร์พูลเน้นรับ-โต้เป็นหลัก ไม่ค่อยเติมกันขึ้นมาเล่นเกมรุกแล้ว ซึ่งยังไม่ค่อยได้ผลนัก นาที 73 ลัลลาน่าแทนเฟอมิโน่ ถึงตรงนี้ลิเวอร์พูลเน้นครองบอลมากขึ้นด้วย และการได้ลัลลาน่าลงมาช่วยไล่แถววงกลมก็ทำให้บอร์กโดซ์พาบอลไปถึงแดนหน้าได้ช้าลง
_______ ตลอดช่วง 20 นาทีท้าย เข้าใจว่าบอร์กโดซ์พยายามจะเร่งเกมรุกแล้วมั้ง เพราะเห็นส่งตัวรุกลงมาเพิ่มตลอด แต่จนแล้วจนรอดก็เจาะไม่เข้า กดดันไม่ได้ ลูกที่พอจะได้ลุ้นบ้างกลายเป็นจังหวะที่แนวรับสกัดไม่ขาด หรือจ่ายบอลขึ้นหน้าพลาด รวมไปถึงฟรีคิก ซึ่งสุดท้ายแล้วก็แทบไม่ได้ยิง ยิงทีก็ไม่ได้ลุ้นเพราะบอลข้ามแม้กระทั่งหัวนกที่บินอยู่
_______ ทดเจ็บนาทีแรก โอริกิได้ลงมาแทนไอบ์ เกมไม่มีอะไรเปลี่ยนก่อนจบด้วยสกอร์ 2-1 ลิเวอร์พูลรับประกันการเข้ารอบได้สำเร็จ
_______ แต่พอผ่านนาที 60 ไป เกมของลิเวอร์พูลก็เริ่มแผ่วและเร่ิ่มถอยลงไปรับมากขึ้น ส่งผลให้บอร์กโดซ์เอาบอลมาเล่นในแดนลิเวอร์พูลได้มากขึ้น แต่ลูกเปิดลูกยิงอะไรก็อย่าได้ถามถึง
_______ นาที 67 ชานลงมาแทนอัลเลน ลิเวอร์พูลเน้นรับ-โต้เป็นหลัก ไม่ค่อยเติมกันขึ้นมาเล่นเกมรุกแล้ว ซึ่งยังไม่ค่อยได้ผลนัก นาที 73 ลัลลาน่าแทนเฟอมิโน่ ถึงตรงนี้ลิเวอร์พูลเน้นครองบอลมากขึ้นด้วย และการได้ลัลลาน่าลงมาช่วยไล่แถววงกลมก็ทำให้บอร์กโดซ์พาบอลไปถึงแดนหน้าได้ช้าลง
_______ ตลอดช่วง 20 นาทีท้าย เข้าใจว่าบอร์กโดซ์พยายามจะเร่งเกมรุกแล้วมั้ง เพราะเห็นส่งตัวรุกลงมาเพิ่มตลอด แต่จนแล้วจนรอดก็เจาะไม่เข้า กดดันไม่ได้ ลูกที่พอจะได้ลุ้นบ้างกลายเป็นจังหวะที่แนวรับสกัดไม่ขาด หรือจ่ายบอลขึ้นหน้าพลาด รวมไปถึงฟรีคิก ซึ่งสุดท้ายแล้วก็แทบไม่ได้ยิง ยิงทีก็ไม่ได้ลุ้นเพราะบอลข้ามแม้กระทั่งหัวนกที่บินอยู่
_______ ทดเจ็บนาทีแรก โอริกิได้ลงมาแทนไอบ์ เกมไม่มีอะไรเปลี่ยนก่อนจบด้วยสกอร์ 2-1 ลิเวอร์พูลรับประกันการเข้ารอบได้สำเร็จ
-----------------------------------------
_______ เอ่อ...เกมนี้เล่นไม่ดีเท่าไหร่นะ
_______ อันดับแรก จากโปรแกรมการแข่งขันก็ไม่แปลกว่า 11 ตัวจริงมันต้องมีเปลี่ยนกันบ้าง และที่เห็นในเกมนี้ก็ถือว่าตัวหลักยังอยู่กันเยอะ แต่การปรับเปลี่ยนตรงนี้ส่งผลกับการเล่นเยอะเลยทีเดียว
_______ เบนเทเก้ ไม่นับเรื่องฟอร์ม วิธีการเล่นของเขายังไปคนละทางกับทีมอยู่ คือเห็นความพยายามช่วยวิ่งไล่ แต่เขาไล่ช้า(แหงล่ะ) แถมยังเสียฟาล์วง่าย และไล่แบบไม่มีทิศทางเลยว่าจะบีบให้คู่ต่อสู้ออกบอลไปทางไหน พอไปรวมเข้ากับเฟอมิโน่ที่ยืนหน้าต่ำ(ไล่ไม่แย่แต่ไม่ค่อยตามลงต่ำ), อัลเลนที่ครึ่งแรกไม่ค่อยขยับไล่ข้างหน้า ทำให้การไล่บอลในแดนคู่ต่อสู้และการตัดบอลจังหวะคู่ต่อสู้จะเปลี่ยนรับเป็นรุกที่เป็นจุดเด่นของทีมนัดนี้ดรอปลงไปเยอะ
_______ การประสานงานกันก็ยังติดขัดเยอะ เฟอมิโน่นี่ไม่ต้องสืบ ไม่รู้จะจ่ายใครหรือรับบอลยังไงเลย ในขณะที่คนอื่นๆ ก็มีหลายจังหวะที่เก็บบอลกับตัวนานเพราะไม่รู้จะจ่ายใคร ยิ่งในเกมรับเรื่องการประสานงานนี่เกือบทำทีมพังในนัดนี้เหมือนกัน ลูกกั๊กๆ จ่ายพลาดจนโดนตัดหรือต้องตัดฟาล์วนี่เกือบโดนอยู่หลายครั้ง
_______ การประสานงานกันก็ยังติดขัดเยอะ เฟอมิโน่นี่ไม่ต้องสืบ ไม่รู้จะจ่ายใครหรือรับบอลยังไงเลย ในขณะที่คนอื่นๆ ก็มีหลายจังหวะที่เก็บบอลกับตัวนานเพราะไม่รู้จะจ่ายใคร ยิ่งในเกมรับเรื่องการประสานงานนี่เกือบทำทีมพังในนัดนี้เหมือนกัน ลูกกั๊กๆ จ่ายพลาดจนโดนตัดหรือต้องตัดฟาล์วนี่เกือบโดนอยู่หลายครั้ง
_______ มองในมุมของประสิทธิภาพก็ต้องบอกว่าตัวสำรองของทีมมีปัญหาเพราะเล่นออกมายังห่างจาก 11 ตัวแรก แต่ถ้ามองในมุมของผลลัพธ์ก็เรียกดีได้เต็มปาก เบนเทเก้เรียกความมั่นใจกลับมาได้มากจากเกมนี้, ไอบ์ได้โอกาสลงเล่นอย่างเต็มที่, อัลเลนเองยังแย่แต่กับฟอร์มประมาณนี้ ถ้าจะส่งลงมาเล่นในเกมไม่ยากนักก็ยังโอเค รวมไปถึงคนที่เจ็บหรือตั้งใจพักก็ไม่ต้องเร่งส่งลงมาแก้เกม
_______ ที่สำคัญคือได้ผลชนะด้วยไง ด้วยฟอร์มแบบนี้ ด้วยผู้เล่นชุดนี้นี่แหล่ะ
_______ สำหรับคล็อป ผมชอบการสลับฝั่งตัวริมเส้นตั้งแต่ช่วงนาที 30 คือปล่อยนานกว่านั้นอาจจะมีปัญหาได้เพราะทางซ้ายบุกเพลินจนข้างหลังเป็นบ่อระดับทะเลสาปเลย แต่นอกนั้นผมก็ว่าเค้าวางแทคติคและเปลี่ยนตัวไปตามเนื้อผ้าแค่นั้น
_______ อย่างไรก็ตาม จะไม่ยกเครดิตให้บอร์กโดซ์เลยก็ไม่ได้ คือบอร์กโดซ์เล่นได้ระดับเดียวกับที่เจอกันนัดแรกเลย เล่นซะไม่รู้เลยว่าเคยซ้อมเกมรุกกันมามั้ย เจาะไม่ได้ บุกไม่ขึ้น ถ้าไม่ได้อภินิหารมินโยเล่ช่วยไว้ก็คงยิงไม่ได้สักลูก ขนาดมีจังหวะฉาบฉวยหรือเก็บตกที่แนวรับพลาดให้ บอร์กโดซ์ก็ทำพลาดไปเองหมด คือถ้าเล่นกันได้แค่นี้ให้ลิเวอร์พูลเล่นแย่กว่านี้อีกสักหน่อยก็ยังจะชนะได้อยู่ดีนั่นแหล่ะ
______ ชนะเพราะบอร์กโดซ์มันห่วยนี่แหล่ะครับ
______ ...และนั่นคือที่มาของคำนำวันนี้
-----------------------------------------
นัดนี้เล่นกันไม่ค่อยดี
มินโยเล่ - คงต้องเปลี่ยนกติกากันใหม่ถ้าจะทำให้ลูกที่โดน 1-0 นั้นไม่โดนจับฟาล์วเพราะถือบอลนานมากกกกก ครึ่งแรกก็มีจังหวะออกมาโหม่งชงให้คู่ต่อสู้เกือบเอามาส่องไส้แตก แต่สำหรับจังหวะที่ดีก็มี มินโยเล่เซฟฟรีคิกสำคัญได้ในครึ่งหลัง รวมไปถึงการออกมาตัดบอลนอกเส้นก็ถือว่าถึงบอลได้เร็วตลอด
โมเรโน่ - ช่วง 15 นาทีแรกเติมเกมรุกได้อร่อยมาก ได้เปิดบ่อย แต่เปิดพื้นที่ข้างหลังไว้เพียบจนเป็นบ่อให้บอร์กโดซ์สวนขึ้นมาได้ตลอด ตลอดจริงๆ จนคล็อปต้องสลับฝั่งเอามิลเนอร์มาช่วยนั่นแหล่ะเกมทางซ้ายถึงได้ดูสมดุลย์ขึ้น
ลอฟเรน - สกัดบอลที่เปิดเข้ามาได้ดี รวมไปถึงออกไปซ้อนแบ็คได้เร็ว เกมรับถือว่าดีเลยล่ะ อยู่ในฟอร์มที่น่าอุ่นใจขึ้นเยอะ ถ้าจะมีอะไรพลาดก็เป็นเรื่องเปิดบอลขึ้นหน้าที่ดูเลิกลั่กไปนิด จ่ายพาเพื่อนเครียดหลายครั้ง เพื่อนโดนวิ่งจี้เห็นๆ ก็จ่ายยัดใส่ตัวมันซะงั้น
ตูเร่ - ไม่ค่อยโดนกดดันเท่าไหร่ คือบอลบอร์กโดซ์ที่ขึ้นมาบ้างก็จะไปทางซ้ายซะเยอะ ที่มาทางขวาก็ตายตั้งแต่ไคลน์ ที่มากลางก็ตายตั้งแต่ลูคัส ตูเร่เล่นง่ายมากและไม่มีข้อผิดพลาดอะไร ทั้งการประกบหรือการเล่นลูกกลางอากาศ
ไคลน์ - เกมรับดี โดยเฉพาะการคุมพื้นที่ทำได้โดดเด่นมาก บอร์กโดซ์โจมตีฝั่งนี้แทบไม่ได้เลย เชื่อมเกมได้ตามเนื้อผ้า จะแย่หน่อยก็ตรงที่นัดนี้รวมๆ แล้วยืนต่ำไปนิดทำให้เกมฝั่งขวาเล่นกันไม่ค่อยลื่นเท่าไหร่ แต่ก็นะ ลูก 2-1 นั้นต้องให้เครดิตการหาพื้นที่เปิดของเขาเลย รวมไปถึงการเปิดบอลแค่ครั้งเดียวนั้นมีประโยชน์กว่าไอบ์กับโมเปิดกันทั้งครึ่งแรกอีก
ไคลน์ - เกมรับดี โดยเฉพาะการคุมพื้นที่ทำได้โดดเด่นมาก บอร์กโดซ์โจมตีฝั่งนี้แทบไม่ได้เลย เชื่อมเกมได้ตามเนื้อผ้า จะแย่หน่อยก็ตรงที่นัดนี้รวมๆ แล้วยืนต่ำไปนิดทำให้เกมฝั่งขวาเล่นกันไม่ค่อยลื่นเท่าไหร่ แต่ก็นะ ลูก 2-1 นั้นต้องให้เครดิตการหาพื้นที่เปิดของเขาเลย รวมไปถึงการเปิดบอลแค่ครั้งเดียวนั้นมีประโยชน์กว่าไอบ์กับโมเปิดกันทั้งครึ่งแรกอีก
ลูคัส - เกมรุกคู่ต่อสู้ง่อย ตัวเลี้ยงจี้เร็วๆ ก็ไม่มี ลูคัสเก็บกินได้หมด สภาพความฟิตดูดีขึ้น ท้ายๆ เกมมีขยับช้าให้เห็นบ้าง แต่ไม่มีเดินเล่นหรือยืนดูแล้ว เชื่อมเกมนัดนี้มีปัญหา ให้ไม่ค่อยดี แต่บอลขึ้นหน้าดีๆ ยังพอมีให้เห็นอยู่บ้าง
อัลเลน - ครึ่งแรกเล่นไม่ดีเลย ยืนต่ำไป คือกับเกมที่บอร์กโดซ์ไม่ได้โหมรุก แต่อัลเลนก็ดันไปยืนระนาบเดียวกับลูคัสซะเยอะ แถมการวิ่งไล่ตัดเกมก็แย่งบอลได้น้อยไปหน่อย เสียฟาล์วง่ายไปนิด เชื่อมเกมดีกว่าลูคัสก็จริงแต่ถือว่าธรรมดามาก ครึ่งหลังลงมายืนสูงมากขึ้น เล่นดีอยู่ราว 10 นาที แล้วก็ค่อยๆ พลาดและแผ่วและโดนเปลี่ยนออกในที่สุด
ไอบ์ - ต้นเกมเล่นได้วูบวาบ แต่ยิ่งเล่นก็ยิ่งดับ แม้จะเสียบอลน้อยแต่ก็ถือว่ากดดันแนวรับได้น้อยไป หาที่รับบอลได้แต่หาทางไปต่อไม่ได้ ครึ่งหลังดูจะหงุดหงิดเสียฟาล์วง่ายด้วย
มิลเนอร์ - เล่นได้หุ่นยนต์มาก คือไล่ไม่เลิก ได้บอลใครว่างก็ให้ ใกล้เขตโทษเปิดได้ก็เปิด ไม่มีลีลาอะไรทั้งนั้น แต่กลายเป็นคนที่ช่วยทีมได้เยอะที่สุด การวิ่งไล่ช่วยแดนกลางไว้ได้เยอะ ตอนเล่นฝั่งซ้ายก็ช่วยปิดบ่อทางฝั่งนั้นได้ และเกมรุกที่ว่าทื่อๆ นั่นก็เปิดบอลจนทำให้เบนเทเก้เรียกจุดโทษได้, เปิดให้เบนเทเก้ยิงได้อีกครั้งด้วยแต่โดนจับฟาล์วไปก่อน
เฟอมิโน่ - เล่นได้วูบวาบมาก วิ่งตัดช่องแนวรับได้สวยๆ หลายครั้ง เจาะแนวรับคู่ต่อสู้ได้ดีตลอด เสียดายที่อยู่ในสนามแค่ราว 15 นาที
เบนเทเก้ - ต้นเกมเล่นได้หายนะมาก ผิดทุกอย่าง แต่ก็ค่อยๆ พาตัวเองกลับเข้าฝั่งมาอย่างช้าๆ จนสุดท้ายแม้โดยรวมจะไม่ได้อยู่ในฟอร์มที่ดีนัก, เสียฟาล์วโคตรบ่อย เก็บบอลไม่ดี แต่เขาก็เรียกจุดโทษได้ ทำประตูชัยด้วย รวมไปถึงสกัดบอลจังหวะตั้งรับเตะมุมได้แทบจะทุกลูก
เบนเทเก้ - ต้นเกมเล่นได้หายนะมาก ผิดทุกอย่าง แต่ก็ค่อยๆ พาตัวเองกลับเข้าฝั่งมาอย่างช้าๆ จนสุดท้ายแม้โดยรวมจะไม่ได้อยู่ในฟอร์มที่ดีนัก, เสียฟาล์วโคตรบ่อย เก็บบอลไม่ดี แต่เขาก็เรียกจุดโทษได้ ทำประตูชัยด้วย รวมไปถึงสกัดบอลจังหวะตั้งรับเตะมุมได้แทบจะทุกลูก
ตัวสำรอง
ชาน - ไม่ได้ลงมากลิ้งไปกลิ้งมาแบบอัลเลน บอลเกมรุกก็ดูดีกว่า แต่มีส่วนร่วมกับเกมน้อยไป เกมรับก็ทำได้แค่ปิดพื้นที่ แย่งบอลได้ไม่เท่าไหร่
ลัลลาน่า - เกมรุกไม่มีเลย ไม่ว่าจะตั้งเกมหรือโต้กลับ แต่ช่วยวิ่งไล่แดนกลางได้ดีกว่าเฟอมิโน่เยอะ รวมไปถึงเป็นคนวิ่งหาที่รับบอลในช่วงท้ายเกมได้มากกว่าคนอื่น ช่วยในเรื่องการเก็บบอลไว้กับทีมได้
โอริกิ - ได้ลงมาตามหาอนาคต เสียดายเวลาหมดไปซะก่อน
แมน ออฟ เดอะ แมทช์ : ...คริสเตียน เบนเทเก้… นัดนี้มีให้เลือก 3 คนครับ โดยรวมมิลเนอร์ช่วยทีมได้เยอะสุดเลย ยิงจุดโทษด้วย, โปโก้แบ็คขวาของบอร์กโดซ์ก็กดดันแนวรับตัวเองได้ตลอด 90 นาที แต่ที่ต้องเลือกเบนเทเก้เพราะเกมนี้ชนะหวุดหวิดมาก การเรียก 1 จุดโทษและยิงเองอีก 1 ลูกมันตัดสินเกมจริงๆ
------------------------------------------------------------
เครดิตภาพจากเวปทางการ
Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น