...บอลจะแตกก่อนได้ประตูเข้าสักวัน...
___________________________
ลิเวอร์พูลเล่น 4-2-3-1
----------------------------อิ้งค์-------------------------
-----ลัลลาน่า-----------คูตินโย่----------ไอบ์--------
-------------เฮนเดอร์สัน--------มิลเนอร์--------------
โกเมส-------ลอฟเรน---------สเคอเทล-------ไคลน์
-------------------------มินโยเล่------------------------
_______ อุ่นเครื่องที่ฟินแลนด์ เป็นโปรแกรมอุ่นฯพิลึกๆ ยังไงไม่รู้เพราะวันรุ่งขึ้นมีอุ่นฯอีกนัดกับสวินดอน เลยแบ่งทีมเป็นสองชุด สำหรับนัดนี้นอกจากตัวจริง 11 คนนี้แล้วก็หนีบเอามาแต่เด็ก เรียกว่าใช้กันชุดเดียวแท็คติกเดียวนี่แหล่ะ
-------------------------------------------------------
_______ ทั้งสองทีมเล่นนัดนี้กันราวกับว่านัดกันมาเรียบร้อยแล้ว คือทีมหนึ่งจะซ้อมเกมรุก อีกทีมจะซ้อมเกมรับ บอลทั้งนัดเล่นกันอยู่ทรงเดียวคือลิเวอร์พูลครองบอล พยายามหาช่องเจาะแนวรับที่ยืนกันแน่นในแดนตัวเองของเฮลซิงกิ
________ ครึ่งชั่วโมงแรกเกมช้า ลิเวอร์พูลขึ้นบอลก็ช้า ได้แต่ครองบอลและเจาะไม่เข้า สิบห้านาทีท้ายเริ่มเร่งเกมมากขึ้น แต่ก็ยังไม่ได้มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันนัก เกมส่วนใหญ่ขึ้นได้ทางขวาด้วยการประสานงานของไอบ์+ไคลน์ จบครึ่งแรกที่ 0-0
_______ ครึ่งหลังลงมาไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงในด้านรูปเกม เห็นความพยายามในการเร่งจ่ายบอลไปข้างหน้าให้เร็วขึ้นจากครึ่งแรกแต่ผลลัพธ์ยังไม่ค่อยจะต่าง นาที 63 โอริกิได้ลงแทนอิงค์ มีการปรับมิลเนอร์ดันสูงขึ้นกว่าเดิม(ก่อนหน้านั้นก็สลับขึ้นมาบ้าง แต่ไม่จริงจังขนาดนี้) บอลจังหวะเดียวในพื้นที่สุดท้ายดูดีขึ้น แต่ภาพรวมก็ยังเอาชนะแนวรับไม่ได้อยู่ดี
_______ จนกระทั่งนาที 73 ลิเวอร์พูลก็ทำได้สำเร็จ ไอบ์พาบอลไปสุดเส้นหลังก่อนจ่ายเรียดมาเข้าทางมิลเนอร์ตอกส้นจังหวะเดียวให้โอริกิได้เอี้ยวตัวยิงระยะเผาหนังกำพร้า 1-0 ไม่นานจากนั้นนาที 78 ก็มาได้อีกลูกจากจังหวะเตะมุมเล่นสั้น คูตินโย่ทำชิ่งกับมิลเนอร์จนหลุดเข้าไปได้บอลในเขตโทษ คูตินโย่ยิงไปแฉลบกองหลังเข้าประตูไป 2-0
_______ หลังจากนั้นลิเวอร์พูลดูจะเน้นการครองบอลมากขึ้น (ที่ผ่านมายังเน้นไม่พออีกรึ) ดึงบอลกลับหลังบ่อยๆ นาที 81ก็ส่งเด็กลงมาเพ่นพ่านบ้าง แมคไกว์กับเปโดรได้ลงแทนโกเมสกับคูตินโย่ตามตำแหน่ง ลิเวอร์พูลเคาะบอลกันต่อไปเรื่อยๆ จนบอลแทบจะรั่ว ก่อนจบเกมด้วยสกอร์ 2-0 ยกพลกลับอังกฤษกับสถิติอุ่นเครื่อง 5 นัดชนะ 4 เสมอ 1
-----------------------------------------
_______ เห็นเขียนสั้นๆ ไม่ได้ทำลวกๆ นะครัช แต่บอลอุ่นเครื่องมันไม่มีรายละเอียดในเกมอะไรมากหรอก ยิ่งนัดนี้ยิ่งไม่ค่อยมีใหญ่ อย่างที่บอกตอนต้น เกมนี้เหมือนนัดกันมา ทีมนึงรุก ทีมนึงรับ ก็เลยได้ดูอะไรกันแค่ด้านเดียวนี่ล่ะ แต่ก็ยังมีอะไรน่าสนใจอยู่ไม่น้อย
_______ 11 ตัวจริงนัดนี้ น่าจะเป็นชุดหลักหากทีมต้องการเล่นในระบบ 4-2-3-1 แค่เปลี่ยนหน้าเป้าเป็นเบนเทเก้หรือสเตอริดจ์ และใช้เฟอร์มิโน่แทนลัลลาน่า รูปแบบการเล่นยังคงสไตล์ร็อดเจอร์ นั่นคือกองกลางหุบเข้าใน ริมเส้นปล่อยให้แบ็คเติมขึ้นมา เน้นบอลสั้นจังหวะเดียวให้เร็ว
_______ 11 ตัวจริงนัดนี้ น่าจะเป็นชุดหลักหากทีมต้องการเล่นในระบบ 4-2-3-1 แค่เปลี่ยนหน้าเป้าเป็นเบนเทเก้หรือสเตอริดจ์ และใช้เฟอร์มิโน่แทนลัลลาน่า รูปแบบการเล่นยังคงสไตล์ร็อดเจอร์ นั่นคือกองกลางหุบเข้าใน ริมเส้นปล่อยให้แบ็คเติมขึ้นมา เน้นบอลสั้นจังหวะเดียวให้เร็ว
_______ จุดที่น่าสนใจที่สุดของเกมนี้อยู่ที่การเล่นร่วมกันของเฮนเดอร์สัน, มิลเนอร์และคูตินโย่ ไอเดียคือให้ทั้งสามคนยืนเป็นสามเหลี่ยมหมุนแทนตำแหน่งกันไปตลอดคอยขับเคลื่อนทั้งทีม
_______ ฟังดูเท๊~ เท่เนอะ หยั่งกะเล่น CM, FM เลย 55+ แต่เล่นจริงมันไม่เป๊ะงั้นหรอก
_______ ปัญหาที่เห็นคือทั้งสามคนยังหาที่ทางเล่นร่วมกันไม่ค่อยจะได้ คูตินโย่ถอยลงมาล้วงบอลต่ำไปทั้งๆ ที่มีกลางอยู่แล้วทั้งสองคน ในขณะที่จังหวะจะรุก เฮนกับมิล ดึงเชงกันเอง เติมกันขึ้นไปช่วยข้างหน้าช้าไปทำให้บอลไปข้างหน้าช้าเหลือเกิน ภาพที่เห็นชินตาคือมีผู้เล่นลิเวอร์พูล 6 คนล้อมรอบวงกลมกลางสนามอยู่แล้วให้บอลสั้นกันอยู่อย่างนั้น
_______ ปัญหาที่เห็นคือทั้งสามคนยังหาที่ทางเล่นร่วมกันไม่ค่อยจะได้ คูตินโย่ถอยลงมาล้วงบอลต่ำไปทั้งๆ ที่มีกลางอยู่แล้วทั้งสองคน ในขณะที่จังหวะจะรุก เฮนกับมิล ดึงเชงกันเอง เติมกันขึ้นไปช่วยข้างหน้าช้าไปทำให้บอลไปข้างหน้าช้าเหลือเกิน ภาพที่เห็นชินตาคือมีผู้เล่นลิเวอร์พูล 6 คนล้อมรอบวงกลมกลางสนามอยู่แล้วให้บอลสั้นกันอยู่อย่างนั้น
_______ แต่ในด้านดี ทั้งสามคนเป็นส่วนผสมที่่น่าสนใจ เฮนอัพเกรดแล้วพร้อมจ่ายบอลเกมรุกและวางยาวทุกเมื่อ, คูตินโย่ยังคงหน้ากลัวเมื่ออยู่ใกล้เขตโทษ และมิลเนอร์เล่นบอลด้วยกำลังได้ดี ถ้าเล่นเข้ากันมากกว่านี้ ถ้าให้พูดเป็นรูปธรรมคือจ่ายบอลจังหวะเดียวให้กันแล้วไปข้างหน้าได้เร็วกว่านี้ นี่น่าจะเป็นอาวุธทีเด็ดที่เอาชนะแดนกลางของคู่ต่อสู้ได้ทุกทีมเลย
_______ … ถ้าไม่โดนหน้าคู่ไดมอนด์ตัดโอกาสการเล่นแทคติคนี้ไปซะก่อนอ่ะนะ
_______ นอกจากนั้นก็มีการเล่นของไอบ์ที่น่าสนใจมากพอที่จะยกมาพูดถึงบนนี้ คือรายนี้เนี่ยเล่นบอลตามตำราเป๊ะ เค้าสั่งมาไงก็ทำงั้น ให้ยืนชิดเส้นแล้วกระชากไปสุดเส้นก็ทำแค่นั้นจริงๆ หลายจังหวะโดยเฉพาะในครึ่งแรก พื้นที่ด้านในมันว่าง เพื่อนได้บอลตรงกลาง แทนที่จะวิ่งเข้ามารับบอลให้ใกล้ก็ยืนแช่อยู่ชิดเส้น วิธีการจ่ายบอลสุดท้ายก็เน้นจ่ายให้มันพ้นตัวบล็อคเข้าไว้ เพื่อนอยู่ตรงไหนไม่รู้ และเปิดเรียดมันอย่างเดียว ถ้าเจอแนวรับที่มีประสบการณ์นี่รับรองว่าเปิดทั้งคืนก็ติดทั้งคืน
_______ แต่ถามว่าดีมั้ย ก็ตอบว่าดีนะ
_______ วิธีการเล่นของไอบ์เป็นสิ่งที่ต้องมีอยู่ในทีมหากต้องการความหลากหลาย เพราะการมีไอบ์อยู่ในสนามจะช่วยกดแนวรับคู่ต่อสู้ไม่ให้ลอย และต่อให้แบ็คแน่แค่ไหนก็คงไม่กล้าให้ดวลตัวๆ กับไอบ์แน่ รวมไปถึงถ้าจะรับ-โต้นี่คือสไตล์การเล่นที่ต้องมีอยู่ในทีมเลย
_______ ตอนนี้เมื่อไม่มีสเตอลิ่งแล้ว ดูจากผลงานฤดูก่อน คนที่จะมาเล่นเกมริมเส้น+เล่นกับพื้นที่ด้านหน้าเยอะๆ ได้ดีทั้งทีมดูจะเหลืออยู่แค่สองคนคือไอบ์กับมาโควิช จากนี้ไปสองคนนี้น่าจะมีแค่คนเดียวที่ได้อยู่กับทีมต่อในระยะยาว ถึงตรงนี้ผลงานของไอบ์ยังดูดีกว่ามาโควิชอยู่ แต่โดยส่วนตัวผมคิดว่ามาโควิชอ่านเกมได้ดีกว่าไอบ์เยอะ แต่กล้าไม่เท่า และยังขาดความมั่นใจอยู่ บอกตรงๆ ผมชอบมาโควิชมากกว่านะ แต่ให้เลือก 11 ตัวจริงตอนนี้เลยก็เลือกไอบ์ก่อนเหมือนกัน
______ ท้ายสุด สำหรับทีมแล้วโปรแกรมอุ่นเครื่องปีนี้ดูจะเน้นหนักไปที่การสร้างความเข้าใจระหว่างผู้เล่นเป็นหลัก คือจัดโปรแกรมมามีแต่ทีมที่เราจะได้ครองบอลมากๆ เป็นฝ่ายบุกใส่ทั้งนั้นเลย ถ้าดูจากตัวผู้เล่นใหม่เกินครึ่งโหลก็เข้าใจได้ล่ะ แต่เกมรับที่แทบไม่ได้ซ้อมกับเกมจริงเลยนี่เปิดฤดูจะมีปัญหารึเปล่ายังต้องลุ้นกันต่อไป
-------------------------------
นัดนี้ซ้อมครองบอลอีกแล้ว
มินโยเล่ - มาเที่ยวฟินแลนด์เฉยๆ
โกเมส - เล่นซ้ายไม่น่ารอด ไม่ถนัดจนเห็นได้ชัด วิ่งตัดในบ่อยไปซึ่งข้างในมีกองทัพพินบอลยืนกันอยู่เยอะแล้วจะเข้าไปอีกทำไม มีส่วนทำให้เกมทางซ้ายดับสนิท
ลอฟเรน - ต้นเกมยังแอบเห็นการจ่ายบอลชนิดเพื่อนต้องสรรเสริญอยู่บ่อยๆ แต่หลังจากประมาณนาที 30 เป็นต้นไปก็ว่างงาน
สเคอเทล - ยังเป็นตัวสุดท้ายที่เข้าบอลแม่นและหนักหน่วง แต่พูดก็พูดเถอะ งานก็ไม่ได้มีให้ทำเท่าไหร่
ไคลน์ - ประสานงานกับไอบ์ได้ดี ทำให้เกมรุกทางขวาเล่นได้คล่อง อ่านเกมรับได้ดีพอควร เป็นแบ็คที่เข้าบอลแปลกดีคือปกติเคยเห็นแต่แบ็คจะใช้วิธีพิงหรือเบียดให้คู่ต่อสู้เสียตำแหน่งมากกว่า แต่ไคลน์นี่เน้นจิ้มๆ บอลเอา
เฮนเดอร์สัน - อัพเกรดเวอร์ชั่นแล้ว ไม่คิดมากเวลาจะจ่ายบอลเกมรุก ความแม่นกับความเข้าใจทางวิ่งของเพื่อนอาจต้องปรับกันอีกสักหน่อย
มิลเนอร์ - บอลเชื่อมเกมกลางสนาม สู้เฮนไม่ได้ แต่การเล่นบอลจังหวะเดียวในพื้นที่สุดท้ายทำได้ดีกว่าทั้งเฮนทั้งคู
คูตินโย่ - มีส่วนร่วมกับเกมน้อย ถอยต่ำมากไป และในบทบาทการเชื่อมเกมก็ธรรมดาไม่ได้โดดเด่น ยังดีทำประตูได้ และเวลาได้บอลในพื้นที่หน้า-ในเขตโทษ หาจังหวะยิงได้ดีกว่าใครเพื่อนเลย
ลัลลาน่า - ยิ่งเล่นยิ่งกลายเป็นม้าน้ำ ม้วนวนหมุนควงมันอยู่นั่นล่ะ ได้บอลแต่ละครั้งต้องควงก่อนหนึ่งรอบค่อยทำอย่างอื่น ก็ดีในแง่เก็บบอลไว้กับทีม แต่ในตำแหน่งที่เล่นอยู่ถ้าจะม้วนซะขนาดนี้บอลก็ไปหน้าไม่ได้
ไอบ์ - อ่านข้างบนโลด
อิ้งค์ - เข้าหาบอลได้ดีมาก เพื่อนเปิดมาง่อยแค่ไหนก็ทำให้มันหวาดเสียวได้ แต่การยิงยังไม่ค่อยน่าประทับใจ ความเร็วหรือความแข็งแกร่งก็งั้นๆ
ตัวสำรอง
โอริกิ - นัดนี้ไม่ได้เรื่องเลย หาตำแหน่งแย่มาก สมาธิกับเกมก็ไม่ได้ ยังดีว่ายิงได้ในจังหวะที่ไม่ควรพลาดแบบนั้น
แมกไกว์+เปโดร - ยังไม่มีอะไรมากนัก
แมน ออฟ เดอะ แมทช์ : ...เจมส์ มิลเนอร์… 2 แอสซิสก็บอกทุกอย่างอยู่แล้ว
------------------------------------------------------------
เครดิตภาพจากเวปทางการ
Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น