วันพุธที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2558

ซันเดอร์แลนด์ 0-1 ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีค)



...ถ้านัดต่อๆ ไปไม่มีใครประกบเบนเทเก้ก็อย่าแปลกใจล่ะ...
___________________________

ลิเวอร์พูลเล่นด้วย 4-2-3-1

-----------------------เบนเทเก้-----------------------
------คูตินโย่--------เฟอมิโน่-----ลัลลาน่า------
-------------ชาน---------------เฮนเดอร์สัน--------
โมเรโน่-------ซาโก้--------ลอฟเรน-------ไคลน์
-----------------------มินโยเล่------------------------

_______ ลิเวอร์พูลออกไปเยือนทีมหนีตกชั้นอย่างซันเดอร์แลนด์ที่กำลังมีปัญหาทั้งฟอร์มการเล่นและตัวผู้เล่นบาดเจ็บ ส่วนลิเวอร์พูลเอง 11 ตัวจริงก็อปมาจากนัดก่อนได้เลย เปลี่ยนแค่หน้าเป้าตัวเดียว
-------------------------------------------------------

_______ ซันเดอร์แลนด์เน้นเกมรับเต็มที่ วิ่งไล่บีบเร็วตั้งแต่กลางสนามไม่ปล่อยให้ลิเวอร์พูลตั้งเกมง่าย แต่เก็บบอลช่างมันเกมรุกช่างแม่งตั้งแต่ต้นเกม ส่วนลิเวอร์พูลขึ้นเกมทางริมเส้นด้านซ้ายได้ลื่น แต่เปิดบอลเข้าไปไม่ค่อยได้ลุ้นเพราะในเขตโทษทั้งกองหลังกองกลางซันเดอร์แลนด์ยืนกันแน่นไปหมด

________ ผ่าน 10 นาทีแรกของเกมไป เกมริมเส้นลิเวอร์พูลก็ดับเพราะโดนบีบจนต่อบอลไปถึงสุดเส้นไม่ได้ ตรงกลางก็แน่นตื้บหาช่องจ่ายไม่เจอ ยิ่งเล่นลิเวอร์พูลยิ่งเอาบอลขึ้นหน้าได้ช้าลงและน้อยลง ส่วนซันเดอร์แลนด์พยายามเล่นให้ช้า ติดๆ ดับๆ ตามสไตล์อันลาไดซ์ ถ้าเอาหมอนมาแจกหรือเปิดเพลงกล่อมนอนในสนามได้คงทำไปแล้ว

_______ แม้จะเน้นเกมรับมากแต่ซันเดอร์แลนด์เองก็มีข้อผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ อยู่ตลอด ในครึ่งแรกนี่เฟอมิโน่ได้ยิง 1 โหม่ง 1 แบบเกือบได้ประตู, เฮนเดอร์สันได้วิ่งเข้ายิงจังหวะเตะมุมอีก 1 แต่ติดบล็อค ลิเวอร์พูลแม้จะได้บอลมากกว่าและคุมเกมได้แต่ไม่ได้ประตูนำสักที ส่วนซันเดอร์แลนด์ได้ลุ้นจากจังหวะฉาบฉวยนิดๆ หน่อยของเดโฟ บอรินี่ แต่ความต่อเนื่องไม่ต้องถามถึง จบครึ่งแรกเลยยังเสมออยู่ 0-0

_______ เข้าครึ่งหลัง เริ่มเกมมา 22 วิลิเวอร์พูลดันกันขึ้นมาช่วยปั้มตัดบอลในแดนซันเดอร์แลนด์ได้ คูตินโย่เคาะออกข้างให้ไคลน์ทางริมเส้น ไคลน์แทงบอลจังหวะเดียวตั้งใจให้ลัลลาน่าแต่บอลทะลักเข้าไปในเขตโทษ เข้าทางเบนเทเก้ตามเข้าไปยิงหาย 1-0

_______ พอสกอร์ขยับ ซันเดอร์แลนด์พยายามจะเล่นเกมรุกทันที แต่โอ้ว่าอนิจจาเอ๋ย~ ตัวรุกไม่มี ร็อดเวลที่ดูจะหวังพึ่งได้ที่สุดก็โดนเปลี่ยนเพราะเจ็บตั้งแต่ครึ่งแรก อดัม จอห์นสันก็เหลือแต่ชื่อมาหลายเพลาแล้ว จะต่อบอลก็ไม่แม่น แป๊บๆ เสียบอล เก็บบอลสองก็ไม่ได้ เกมรุกเน้นเจาะทางโมเรโน่ ดีสุดก็ทำได้แค่เปิดไปติดบล็อคแล้วลุ้นเตะมุมเอา

_______ ส่วนทางด้านลิเวอร์พูล พอนำได้แล้วไม่ได้ถอยลงไปรับก็จริงแต่เน้นเก็บบอลไว้กับตัวมากขึ้น เกมกลางสนามตัดบอลได้ช้าไปหน่อยแต่เกมรับพื้นที่สุดท้ายยังจัดการได้หมด นาที 61 ลูคัสได้ลงมาแทนเฮนเดอร์สันที่มีอาการบาดเจ็บ

_______ ซันเดอร์แลนด์ยังพยายามรุกต่อแต่ทำอะไรไม่ได้ดีไปกว่าสองย่อหน้าที่แล้ว ยิ่งมีลูคัสอยู่ในสนามเกมรับหน้าเขตโทษของลิเวอร์พูลดูดีขึ้นชัดเจน บอลผ่านมาเมื่อไหร่ดักตัดได้หมดและทำให้ลิเวอร์พูลเริ่มมีโอกาสได้โต้บ่อยขึ้น ในแง่ปริมาณถือว่าไม่โอเค พื้นที่เพียบแต่เอาบอลขึ้นไปได้น้อยครั้ง แต่ในแง่คุณภาพก็ยังพอโอเคเพราะมีจังหวะได้ลุ้นเปิดบอลสุดท้ายบ้าง ได้ยิงบ้าง

_______ เข้าสิบนาทีสุดท้าย ความพยายามของซันเดอรฺ์แลนด์ยังไม่เป็นผล ส่วนลิเวอร์พูลถอยลงไปรับ-โต้เต็มตัวไม่ตั้งเกมรุกแล้ว นาที 83 ไอบ์ได้ลงแทนคูตินโย่ เกมยังทรงเดิมคือซันเดอร์แลนด์บุกแบบไร้อนาคต เจาะทางโมเรโน่แต่ไม่ได้เปิดบอลแบบมีคุณภาพ ลูกตั้งเตะไม่กดดัน แถมเปิดพื้นที่ให้ลิเวอร์พูลโต้(แต่พลาด)อยู่ตลอด

_______ นาที 88 เฟอมิโน่ได้โอกาสหลุดเข้าไปในเขตโทษ ก่อนตัดสินใจไม่ยิงเองทั้งๆ ที่ประตูก็เปิดกว้างพอควร เปิดไปให้ไอบ์ในจังหวะที่น้องแปด้วยซ้ายก็เข้าแล้วครับน้องเอ้ย แต่ไอบ์ตัดสินใจแตะบอลเข้ากลางก่อนซัดเต็มข้อแถวๆ จุดโทษ นกตายคาที่ไม่ต้องส่งโรง’บาล สกอร์ยังอยู่ที่เดิม 1-0

_______ ยัง ยัง ยังไม่พอ ทดเจ็บนาที 90+2 เบนเทเก้ได้โอกาสหลุดเดี่ยว ตั้งแต่วงกลมกลางสนาม ภาพเดียวกับนัดที่แล้วเลย เบนเทเก้พาบอลเข้าเขตโทษไปอย่างเหี้ยม แต่ยิงอย่างฮา บอลเรียดอัดขามันโนเน่เด้งออกไปไม่ได้ประตูตอกฝาโลงซะงั้น

_______ นาที 93 ตูเร่ลงแทนเฟอมิโน่ ซันเดอร์แลนด์ยังเปิดบอลขึ้นหน้ามั่วๆ โดยหวังให้กองหลังลิเวอร์พูลแสดงอิทธิฤทธิสักครั้งแต่ก็ไม่สำเร็จ แนวรับลิเวอร์พูลเล่นได้อย่างที่ควรจะเล่นเอาตัวรอดไปได้ไม่ลำบากนัก 1-0
-----------------------------------------

_______ 11 ตัวจริงช่วงนี้ค่อนข้างชัดละครับว่ามันเปลี่ยนอะไรมากไม่ได้ ตัวเลือกไม่ค่อยมีเพราะเจ็บกันระนาว

_______ เอาจริงๆ นัดนี้เล่นกันได้ธรรมดา แต่ซันเดอร์แลนด์เนี่ยเข้าขั้นเล่นแย่แถมซวยซ้ำซ้อนร็อดเวลกับโคอาเตสมาเจ็บเข้าให้อีก ลิเวอร์พูลเลยได้เล่นเกมที่ง่าย เกมรับไม่โดนกดดัน เกมรุกแม้ว่าจะเจอตัวรับเยอะแต่กลับมีช่องให้จ่ายบอลเข้าทำอยู่ตลอด

_______ เกมรุกของทีมวันนี้ริมเส้นดับสนิทเลยทั้งสองข้าง ซ้ายนี่เล่นได้อยู่แค่ต้นเกมราวๆ 5 นาทีแล้วหาย ไป เลย ส่วนขวาขึ้นไปถึงสุดเส้นนับครั้งได้และเปิดบอลเข้าไปได้น้อยมาก จังหวะลุ้นประตูส่วนใหญ่มาจากบอลจังหวะสองกับการทำเร็วเจาะตรงกลางมากกว่า

_______  สิ่งที่ทีมทำได้ดีคือการลดข้อผิดพลาดในการออกบอลในแดนตัวเอง รวมไปถึงการประสานงานในแดนหน้าของเบนเทเก้กับเพื่อนคนอื่นๆ ซึ่งพัฒนาไปพอควร คือเปลี่ยนจากแย่มากเป็นแย่เฉยๆ ได้แล้ว แม้จะพลาดเป็นส่วนใหญ่ และโหม่งสกัดแทนที่จะโหม่งชง แต่กับการให้บอลสั้น, บอล 1-2 ง่ายๆ ก็เริ่มทำได้บ้างแล้ว

_______ ส่วนที่ต้องปรับปรุงก็ไม่ต้องสืบ เรื่องจบสกอร์นี่ล่ะ วันนี้เกมรับซันเดอร์แลนด์ไม่ดีเลย ทีมได้ล่อเป้า ยิงชนิดต้องได้ประตูอย่างน้อยๆ ก็ 4 หนเข้าให้แล้ว...ได้แค่ 1 ประตู นี่ยังไม่นับจังหวะที่มีคนทำทางไปโล่งๆ หรือแตะหาที่ว่างหน้าเขตโทษได้แล้ว แต่เปิดไปเสียหรือเก็บบอลนานจนโดนแซะอีกหลายต่อหลายครั้งด้วยนะ ถ้าต้องใช้โอกาสเยอะขนาดนี้แลกกับ 1 ประตู เราคงเก็บ 3 แต้มกันได้ไม่บ่อยนักหรอก

_______ วันนี้ข้องใจกับการเปลี่ยนตัวของคล็อปอยู่พอควร คือไม่เข้าใจเลยว่าเค้าเก็บลัลลาน่าไว้ทำไมตั้งนานสองนาน ทั้งฟอร์มของลัลลาน่าเองก็ดี จังหวะเกมก็ดี ดูยังไงไอบ์ก็น่าจะดีกว่าแต่กลับเก็บลัลลาน่าไว้ แถมตอนส่งไอบ์ลงก็ไม่ได้เอาลัลลาน่าออกด้วย

_______ อย่างไรก็ตาม ในวันที่เล่นได้ธรรมดา เก็บ 3 แต้มได้ เก็บคลีนชีทได้ ก็น่าจะเพิ่มความมั่นใจให้กับทีมได้มั่งล่ะน่า~
-----------------------------------------

นัดนี้ช่วยกันพอใช้ได้

มินโยเล่ - ได้เซฟลูกยากหนนึงในครึ่งแรก หลังจากนั้นก็หลับยาวๆ โดนกดดันจากลูกโด่งอยู่ 2-3 หน แต่โดยรวมก็ถือว่าไม่ได้เจอเกมยากอะไร เตะเปิดบอลไปที่ชอบๆ ได้ตลอดด้วย..คือเปิดปุ๊บ บอลไปสู่สุขคติปั๊บ

โมเรโน่ - เป็นวันที่เล่นได้แย่ เชื่อมเกมไม่ดีเท่าไหร่ได้แต่เคาะสั้นๆ วิ่งทำทางก็งั้นๆ รักษาตำแหน่งได้ไม่ค่อยดีนักด้วยในช่วงที่คู่ต่อสู้เริ่มบุก และที่แย่สุดเห็นจะเป็นเรื่องการเข้าปะทะที่หลวม คู่ต่อสู้ยังเก็บบอลเล่นต่อได้หลายครั้ง ยังดีที่เขายังพอจะปิดทางการเปิดบอลคู่ต่อสู้ได้โอเคอยู่

ซาโก้ - ครึ่งแรกมีปัญหากับการโหม่งบอลมาก คือจังหวะที่ซันเดอร์แลนด์หวดบอลขึ้นหน้ามาให้เดโฟ ซาโก้ที่ประกบอยู่แม้จะขึ้นโดนบอลแต่คุมบอลไม่ได้เลย หลายครั้งบอลก็ไปตกใส่คู่ต่อสู้อีกต่างหาก การประกบแม้จะประกบติดตัวแต่เบียดคู่ต่อสู้ไม่ค่อยดี ดีที่ครึ่งหลังเริ่มขยับฟอร์มขึ้นมาได้บ้าง

ลอฟเรน - เล่นได้พอใช้แต่มีจังหวะประกบห่างให้คู่ต่อสู้ได้ส่องในเขตโทษในพื้นที่ที่เขารับผิดชอบถึงสองครั้ง นอกนั้นยังสกัดบอลที่เปิดเข้าเขตโทษได้โอเคอยู่

ไคลน์ - เกมรุกขึ้นไม่สุดแต่การเชื่อมเกมยังทำได้ดีอยู่ เกมรับไม่โดนกดดันเพราะคู่ต่อสู้ไปขึ้นอีกฝั่งมากกว่า มีส่วนสำคัญในจังหวะได้ประตูด้วย

ชาน - เก็บบอลจังหวะสองในเกมรับได้ดี แต่เกมรับจริงๆ ยังไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ดักตัดได้น้อยไป ขยับรับบอลได้โอเคกว่าที่ผ่านมา บอลเชื่อมเกมยังทำช้าไปนิดนึงแต่ดีตรงไม่โดนแซะและไม่ค่อยเสีย ขึ้นไปช่วยเชื่อมเกมแดนหน้าในจังหวะที่คู่ต่อสู้ถอยต่ำได้ดีด้วย

เฮนเดอร์สัน - ออกบอลเชื่อมเกมได้ดีกว่าชาน แต่การเคลื่อนที่ไม่ดีเท่า วิ่งไล่ได้น้อยกว่าที่ควร อาการบาดเจ็บน่าจะส่งผลต่อการเล่นเยอะทีเดียว เห็นว่าเขาวิ่งผิดจังหวะ+วิ่งไม่ออกหลายครั้งมากจนกระทั่งโดนเปลี่ยนตัวออกไป

คูตินโย่ - ได้บอลเยอะ พลิกบอลขึ้นหน้าได้ดีสุดในทีมแล้วคือเล่นเหมือนคิดจะพลิกก็พลิกได้เลย แต่พลิกแล้วทำต่อได้ไม่ค่อยดีนัก บ้ายิงไป ซัดไป 5 ครั้งเข้ากรอบครั้งเดียว แบบไม่ได้ลุ้นด้วย บอลเข้าทำก็เกินๆ (ไม่ค่อยขาด) น้ำหนักบอลที่ให้นี่มันต้องสเตอริดจ์แล้วไม่ใช่เบนเทเก้

ลัลลาน่า - เล่นผิดฟอร์มมาก คือเกมรุกไม่ค่อยดีมาหลายนัดแล้ว แต่นัดนี้เชื่อมเกมก็แค่พอใช้ แถมเกมรับ+วิ่งไล่ยังแย่ด้วย คือไม่รู้ว่าได้อยู่ในสนามจนจบเกมได้ยังไง

เฟอมิโน่ - เชื่อมเกมได้ธรรมดา แต่มีส่วนกับเกมรุกมากขึ้น หาช่องเล่นในพื้นที่สุดท้ายได้หลายครั้ง จบสกอร์อาจยังไม่เด็ดขาดพอจะเป็นประตู แต่ความเสียวนี่ฟินกว่าคูตินโย่กับเบนเทเก้มัดรวมกันแล้วยกกำลังสองด้วยซ้ำ

เบนเทเก้ - วิ่งมากขึ้น ทำทางได้ดีขึ้น จ่ายบอลให้เพื่อนก็ดีขึ้นแต่ไอ้เรื่องควรทำได้ดีและเป็นหน้าที่หลักอย่างการเอาบอลลง, ค้ำบอลแล้วชิ่งให้เพื่อนเล่นยังคงเข้ารกเข้าพงอยู่ โหม่งชงแต่ละทีเพื่อนได้แต่มองตาปริบๆ เพราะเข้าอกกองหลังตลอด ยิงประตูชัยได้เด็ดขาดดีมาก ยิงเร็วไม่คิดนานจนตัวตัวประกบไม่มีโอกาสเบียดเลย แต่ทีไอ้ลูกหลุดเดี่ยวนี่….อือ ดูในไฮไลท์เอาเถอะ

ตัวสำรอง

ลูคัส - ลงมาในช่วงที่ทีมต้องการเกมรับมากกว่ารุกและลูคัสเล่นได้หล่อมาก ตัดบอลได้เยอะมาก ไม่ว่าจะตัดลูกจ่ายหรือแซะบอลจากเท้าคู่ต่อสู้ กระทั่งลูกกลางอากาศที่คู่ต่อสู้โยนเข้ามาตกแถวๆ หน้าเขตโทษก็ยังโหม่งเคลียร์ได้หมด

ไอบ์ - จังหวะเกมได้โต้ตั้งแต่ช่วง 60 ลุ้นอยากให้ลงมาเพราะเหมาะกับเจ้าตัวมาก แต่พอลงมาแล้วอยากให้เปลี่ยนกลับไปนั่งต่อเหลือเกินนน โดยเฉพาะจังหวะสังหารนกในนาที 88

ตูเร่ - ลงมาช่วยเกมรับตรงกลาง ตัดบอลได้เยอะทีเดียวถ้าเทียบกับเวลาที่อยู่ในสนาม

แมน ออฟ เดอะ แมทช์ : ...คริสเตียน เบนเทเก้… วันนี้ไม่ได้มีใครเด่นเป็นพิเศษ เฟอมิโน่ดูดีหน่อยก็ยังพลาดจังหวะสุดท้ายเยอะ เลยขอเลือกคนยิงประตูชัยอย่างเบนเทเก้ดีกว่า เลือกเพราะยิงพาทีมเก็บ 3 แต้มจริงๆนะ ลูกหลุดเดี่ยวนี่ไม่ได้คิดถึงเลยนะ
------------------------------------------------------------
เครดิตภาพจากเวปทางการ

Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.

วันเสาร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2558

ลิเวอร์พูล 1-0 เลสเตอร์ (พรีเมียร์ลีคป




...ขอแสดงความยินดีกับเลสเตอร์ด้วยครับ...
___________________________

ลิเวอร์พูลเล่นด้วย 4-2-3-1

-------------------------โอริกิ-------------------------
------คูตินโย่--------เฟอมิโน่-----ลัลลาน่า------
-------------ชาน---------------เฮนเดอร์สัน--------
โมเรโน่-------ซาโก้--------ลอฟเรน-------ไคลน์
-----------------------มินโยเล่------------------------

_______ ลิเวอร์พูลเปิดบ้านรับมือจ่าฝูงอย่างเลสเตอร์ซิตี้ นัดนี้คล็อปปรับทีมเยอะพอควร ทั้งผู้เล่นและวิธีเล่น ส่วนจ่าฝูงนำทัพมาด้วยวาร์ดี้และมาเรซที่กำลังฟอร์มดีทั้งคู่
-------------------------------------------------------

_______ ลิเวอร์พูลเริ่มเกมด้วยการเล่นเร็ว เน้นเกมริมเส้นทั้งสองฝั่ง แบ็คเติมทั้งสองข้าง บอลไปถึงหน้าเขตโทษได้อยู่แต่ยังไม่ได้จบ ส่วนเลสเตอร์เน้นรับแน่นในแดนแล้วรอเล่นฉาบฉวยจังหวะตัดได้กลางสนามเป็นหลัก 20 นาทีแรกเกมออกมาสูสี ลิเวอร์พูลได้บอลเยอะกว่ามาก บุกมากก็จริงแต่เลสเตอร์ยังเล่นในจังหวะของตัวเองได้อยู่

________ 20 นาทีผ่านไป ลิเวอร์พูลเริ่มได้โอกาสเข้าทำมากขึ้น ทั้งด้วยการวิ่งทำทางที่ดีของโอริกิและการตัดบอลกลับมาได้เร็วของแผงกลาง แต่พื้นที่สุดท้ายยังเอาชนะแนวรับคู่ต่อสู้ไม่ได้ ส่วนเลสเตอร์เองโดนกดดันมากขึ้น นานๆ ได้โต้ที แต่ขึ้นมาถึงเขตโทษเมื่อไหร่ก็มีลุ้นไม่แพ้กัน

_______ นาที 37 โอริกิเจ็บเล่นต่อไม่ไหว เบนเทเก้ได้ลงแทน รูปเกมโดยรวมยังไม่เปลี่ยน และจบครึ่งแรกที่สกอร์ 0-0

_______ เข้าครึ่งหลัง ลิเวอร์พูลกลับลงมาเน้นเกมริมเส้นต่อ แล้วก็เป็นเกมฝั่งขวาที่ทำได้ดี ทั้งการเติมขึ้นมาของไคลน์และการขยับออกไปช่วยเปิดบอลของเฮนเดอร์สันที่กดดันแนวรับได้ต่อเนื่อง ส่วนทางเลสเตอร์กลับลงมาพยายามจะไล่บอลแดนหน้าให้มากขึ้น แต่ยิ่งเล่นก็ยิ่งถอยลงไปรับต่ำมากขึ้นเรื่อยๆ

_______ ในที่่สุด ลิเวอร์พูลก็ขึ้นนำได้สำเร็จในนาที 63 จังหวะต่อเนื่องจากการทุ่มทางด้านซ้าย เฟอมิโน่ได้พาบอลไปถึงสุดเส้นหลังก่อนหักเรียดกลับเข้ากลางให้เบนเทเก้ทิ้งตัวจิ้มบอลจากแถวๆ จุดโทษ บอลเข้าไปทางเสาสองแบบโกล์ไม่ต้องพุ่งให้เนื่อย 1-0

_______ หลังจากสกอร์ขยับลิเวอร์พูลยังพยายามเดินหน้าบุกต่อ ในขณะที่เลสเตอร์หันมาเล่นเกมรุกมากขึ้นแต่เริ่มลนลานและออกบอลผิดพลาดให้เห็นกว่าตอนยัง 0-0 นาที 69 รานิเอรี่ตัดสินใจเปลี่ยนอูยัวกับดายเออร์ลงมาแทนวาร์ดี้กับโอคาซากิ แล้วหันมาเล่นบอลโยนยาวเต็มตัว


_______ ถึงตรงนี้ เลสเตอร์ได้บอลเล่นมากขึ้น บอลมาข้างหน้ามากขึ้นแต่กดดันได้ไม่ต่อเนื่องเท่าไหร่ ส่วนลิเวอร์พูลมีพื้นที่ให้โต้เพียบเพราะคู่ต่อสู้ขึ้นสูงบ้างแล้วแต่โต้ได้แย่ ประสานงานกันไม่ดีเท่าไหร่ ยังดีที่เกมรับและการเก็บบอลจังหวะสองยังดีอยู่

_______ เลสเตอร์เอาชนะแนวรับไม่ได้ เจาะเข้ามาเล่นในหรือหน้าเขตโทษไม่ได้ แต่พอได้ลุ้นอยู่บ้างจังหวะลูกเตะมุมและทุ่มไกล ช่วงท้ายเกมยิ่งดันสูงหนักกว่าเดิมแต่เกมรุกไม่คืบ ในทางกลับกัน ลิเวอร์พูลมีพื้นที่โต้เยอะหนักกว่าเดิมแต่โต้ได้...ละเหี่ยใจมาก จังหวะได้ยิงก็สอยนกรัวๆ แถมเก็บบอลไม่ค่อยอยู่แล้วด้วย

_______ ความพยายามอยู่ที่ไหน ความพยายามอยู่ที่นั่น เลสเตอร์บอบม์ขึ้นหน้ารัวๆ แต่โอกาสยิงอย่าว่าแต่หวังผล เอาแค่ได้ยิงยังแทบไม่มีโอกาส

_______ ช่วงทดเจ็บ นาที 91 ลูคัสได้ลงมาแทนคูตินโย่ นาที 92 ปีย์โล่ได้ลงแทนลัลลาน่า ทดเจ็บนาทีสุดท้าย (90+4) ชไมเคิลขึ้นมาลุ้นลูกเตะมุมแต่กลายเป็นลิเวอร์พูลเก็บบอลโต้ได้ บอลมาถึงเบนเทเก้ได้หลุดเดี่ยวแบบโกล์ไม่มี คนเร่งก็ไม่มี มีกองหลังยืนรอไส้แตกพยายามขวางทางยิงอย่างหมดหวังอยู่กลางประตู ...เบนเทเก้ยิงไม่ผ่านซะงั้น จบเกมเลยชนะไปได้แค่ 1-0

_______ ...ก็ช่างกล้าพิมพ์เนอะ “ชนะไปได้แค่ 1-0” เนี่ย โถววว ชนะก็บุญแล้วครับพี่
-----------------------------------------

_______ กลับมาชนะได้สักทีครับ ชนะจ่าฝูงด้วยสิ หรือว่าเพราะเป็นจ่าฝูงเลยชนะก็ไม่รู้นะ 555+

_______ 11 ตัวจริงไม่นับตัวเจ็บ คล็อปเลือกเล่นเกมรุกเต็มตัวแบบไม่เกรงเกมโต้ของวาร์ดี้+มาเรซเลยครับ ใจถึงไปรึเปล่านี่ แต่ผมชอบที่ทีมกลับมาเล่น 4-2-3-1 อีกครั้ง ผมว่าดูเหมาะกับผู้เล่นในทีมมากกว่า

_______ วันนี้เกมริมเส้นเด่นมาก อันเนื่องมาจากตำแหน่งการยืน คูตินโย่กับลัลลาน่าออกไปเล่นด้านข้างเยอะ ในขณะที่แบ็คเติมตลอด ก็นึกภาพดูว่าทีมได้โจมตีริมเส้นแบบมีตัววิ่งทำทาง, ทำชิ่งตลอด บอลเลยขึ้นได้ ได้เปิดบ่อยด้วย ดูดีกว่าเล่นแบบ 4-3-2-1 ที่สองตัวรุกหลังหน้าเป้าหุบไปเล่นตรงกลางเยอะเลย

_______  กุญแจสำคัญสำหรับชัยชนะนัดนี้ผมคิดว่าอยู่ที่การใช้แบ็คสองข้างนี่ล่ะ คือนอกจากจะช่วยเชื่อมเกมได้ดี เอาบอลขึ้นหน้าได้แล้ว ในพื้นที่สุดท้ายช่วยเล่นเกมรุกกันได้ดีด้วยโดยเฉพาะไคลน์ที่เด่นมากในครึ่งหลัง ในขณะที่เกมรับยังลงมาช่วยกันได้ดี ทางโมเรโน่นั่นโดนโต้บ่อยหน่อยแต่ก็ถือว่าทั้งโมเรโน่เองก็ยังลงได้เร็วและลอฟเรนก็ออกไปช่วยได้ดีตลอด

_______ อ้อ ต้องไม่ลืมว่านัดนี้ช่วยกันวิ่งไล่ดีด้วยนะ โดยเฉพาะกลางสนาม

_______ หลังจากทีมแพ้ทั้งพวกหนีตกชั้นและกลางตาราง มาเจอจ่าฝูงกลับชนะซะงั้น อันนี้ต้องขอแสดงความยินดีกับเลสเตอร์ด้วยที่ยกระดับทีมขึั้นไปเทียบ เชลซี แมนซิตี้ได้แล้วนะเนี่ย 555+
-----------------------------------------

นัดนี้ช่วยกันเล่นได้ดี

มินโยเล่ - เฝ้าเส้นมากไปนิด หลายลูกน่าออกมาชกหริือรับได้แต่ไม่ค่อยออก แต่ในทางกลับกันวันนี้ไม่มีจังหวะเฟอะฟะแล้ว แถมช่วยเซฟลูกยากได้หนสองหนด้วย

โมเรโน่ - เชื่อมเกมได้ดี ครึ่งแรกขึ้นไปเปิดบอลได้บ่อยแต่ผลลัพธ์อย่าถามถึง ครึ่งหลังเติมถึงสุดเส้นน้อยลงแต่การเชื่อมเกมยังดีอยู่ ตลอดเกมคุมพื้นที่ในเกมรับไม่ค่อยดีนักแต่อย่างน้อยเลสเตอร์ที่มุ่งเจาะทางนี้ก็ยังเปิดบอลเข้าไปได้น้อยกว่าที่ควรจะเป็น

มามาดู ซานตาคลอส - โอ้โห นี่ก็จ้องจะแจกลูกเดียว จ่ายบอลขึ้นหน้าพลาดไม่กี่ครั้ง แต่ว่าที่พลาแต่ละครั้งนี่เสียวยันไส้ติ่งที่ตัดทิ้งไปแล้ว คุณเอ๊ย~ ทำเกมรุกดุดันกว่ามาเรซอีก อย่างไรก็ตาม จังหวะสกัดบอลโดยเฉพาะบอลเปิดเข้าเขตโทษที่เก็บได้หมดจดมากๆ ...เรามั่นใจในตัวซาโก้ได้มากกว่าถ้าบอลไม่ได้อยู่ที่เท้าเขา

ลอฟเรน - จ่ายขึ้นหน้าได้ดีกว่าซาโก้มาก แต่ในวงเล็บว่าฝืนเล่นยากน้อยกว่าด้วยเช่นกัน สกัดบอลได้ดี ซ้อนแบ็คได้ดีมาก ประกบได้แน่นแม้จะเสียฟาล์วง่ายไปนิดก็ตาม โดยรวมเป็นวันที่ฟอร์มดี

ไคลน์ - เชื่อมเกมได้ดี วันนี้พิเศษใส่ไข่กับการเล่นเกมรุกที่ทำได้ดีตลอดเกมด้วย อาจจะขึ้นไปเปิดเองได้น้อยกว่าโมเรโน่ แต่บอลชิ่ง, วิ่งทำทาง, การตัดสินใจว่าจะเล่นยังไงต่อ รวมถึงการประสานงานกับเพื่อนทำได้ยอดเยี่ยมมาก

ชาน - เก็บบอลสองได้ดี เกมรับถือว่าปิดพื้นที่หน้าเขตโทษได้ดีด้วย เชื่อมเกมโอเคไม่โดนแซะ บอลไปข้างหน้าได้ แต่เรื่องเก็บบอลไว้กับตัวนานนี่แก้ไม่หาย หลายครั้งพาบอลหนีตัวไล่ขึ้นไปได้น่าดูแต่เก็บบอลไว้นานจนน่าด่า

เฮนเดอร์สัน - เล่นได้สมกับเป็นกัปตันทีม ช่วยวิ่งไล่ได้ดีแถมมีจังหวะออกบอลไปที่ว่างสวยๆ ได้หลายครั้ง ทั้งวางข้ามฝาก ทั้งวางแนวลึก มีหมด แถมมีจังหวะถ่างออกไปช่วยเปิดบอลครอสจากฝั่งขวาที่กดดันคู่ต่อสู้ได้ดีเป็นระยะๆ ด้วย

คูตินโย่ - มีส่วนร่วมกับเกมรุกมากแค่ช่วงต้นๆ เกม หลังจากนั้นบทบาทหลักดูจะเป็นเรื่องการพลิกบอลและการเชื่อมเกมมากกว่า ซึ่งเจ้าตัวทำหน้าที่นี่ได้ดี รวมไปถึงการช่วยวิ่งไล่บอลที่ทำได้ต่อเนื่องด้วย ส่วนการเข้าทำเน้นยิงเองเป็นหลัก ซัดไปน่าจะสัก 5-6 ลูกได้ ไม่เข้ากรอบเลยจ้า~

ลัลลาน่า - เชื่อมเกมได้พอใช้ พลิกบอลขึ้นหน้าได้น้อยไปหน่อย ยิ่งเกมรุกไม่ต้องพูดถึงเล่นพื้นที่สุดท้ายไม่ได้เลย แต่ทำได้ดีมากกับการไล่บอลและช่วยเก็บบอลจังหวะสอง

เฟอมิโน่ - คล้ายลัลลาน่า ในเวอร์ชั่นที่เชื่อมเกมแย่กว่า แต่อย่างน้อยวันนี้เขาก็มีส่วนร่วมกับเกมมากขึ้นกว่าที่ผ่านมา รวมไปถึงทำแอสซิสให้ทีมชนะได้ด้วย

โอริกิ - วิ่งทำทางได้ดีมาก หาจังหวะยิงเองได้ดีกว่าที่ผ่านมา เสียดายดันมาเจ็บอีก

ตัวสำรอง

เบนเทเก้ -ขยันวิ่งมากขึ้่น แต่โดยรวมก็ยังถือว่าน้อยไป ที่แย่คือพักบอลแดนหน้าได้น้อยมากๆ ขึ้นโหม่งแต่ละทีไม่รู้ว่าจะโหม่งชงหรือช่วยคู่ต่อสู้โหม่งสกัด ไม่ตรงเพื่อนเลยสักครั้ง แต่ก็ช่วยทีมยิงประตูชัยได้ แล้วพอยิงได้ก็ดูเหมือนจะเล่นได้มั่นใจขึ้นด้วย เริ่มประสานงานกับเพื่อนและกดดันคู่แข่งได้มากขึ้น ถ้านาทีสุดท้ายที่หลุดเดี่ยวยิงไม่พลาดจะเป็นเกมที่ดีกว่านี้

ลูคัส - ลงมาไม่ทันได้ทำอะไร

อัลเลน - เคราหนามองไกลๆ แล้วเหมือนปีย์โล่มากๆ

แมน ออฟ เดอะ แมทช์ : ...จอร์แดน เฮนเดอร์สัน… ถ้าดูทั้งสนามนี่คันเต้ของเลสเตอร์เล่นดีที่สุดเลย ถ้าดูเฉพาะทีมก็จะมีเฮนโด้กับไคลน์ที่เล่นดีกว่าชาวบ้าน และเบนเทเก้กับเครดิตประตูชัย แต่ขอเลือกเฮนโด้ที่มีส่วนร่วมกับเกมเยอะและช่วยทีมได้มากกว่าอีกสองคนก็แล้วกัน
------------------------------------------------------------
เครดิตภาพจากเวปทางการ

Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.

วันอาทิตย์ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2558

วัตฟอร์ด 3-0 ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีค)


...หมดทางสู้...
___________________________

ลิเวอร์พูลเริ่มเกมด้วย 4-3-2-1

-------------------------เฟอมิโน่-------------------------
-------------คูตินโย่----------------ลัลลาน่า-----------
-----------ชาน----------ลูคัส-------เฮนเดอร์สัน------
โมเรโน่-------ซาโก้----------สเคอเทล-------ไคลน์
------------------------บ็อกดาน-------------------------

_______ ลิเวอร์พูลออกไปเยือนวัตฟอร์ด ทีมน้องใหม่พึ่งเลื่อนชั้นแต่คะแนนร่ำๆ จะได้ไปบอลยุโรป คล็อปเปลี่ยนทีมพอสมควรจากนัดก่อน ส่วนใหญ่มาจากปัญหาอาการบาดเจ็บ 11 ตัวจริงเลยออกมาเป็นแบบด้านบน
-------------------------------------------------------

_______ นาที 2 ไคลน์บังบอลพลาดโดนเตะอัดเสียเตะมุม นาที 3 วัตฟอร์ดเตะมุมเข้ากรอบหกหลาเสาแรก บ็อกดานขึ้นรับบอลแต่ทำหลุดมือ จังหวะจะกอดบอลให้เข้าอกโดนอาเก้จิ้มบอลสวนเข้าประตูไป 1-0 แบบเหงืื่อยังไม่ทันไหล หลอดไฟยังไม่ทันร้อน

________ ครึ่งแรกนี้บอลเล่นอยู่ทรงเดียวคือวัตฟอร์ดวิ่งไล่ถึงบอลเร็วตั้งแต่แดนหน้า แซะแงะตัดบอลได้บ่อย  ในเกมรุกกับจังหวะตั้งเกมก็อาศัยตักบอลเอา คือตักจริงๆ งัดข้ามกองกลางไปเลย แค่นั้น เก็บไม่ได้ก็ไม่สน เน้นตักขึ้นหน้าให้เร็ว ซึ่งทั้งหมดนี้ได้ผล ครองบอลได้น้อยแต่เกมดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด ได้ประตูด้วย

_______ ส่วนลิเวอร์พูลไม่ได้มีปัญหาแค่ตั้งเกมไม่ได้ แต่เกมรับพวกเขาแย่ด้วย โดนตัดในแดนมาล่อเป้าเป็นระยะ หยุดเกมคู่ต่อสู้ได้น้อย บอลลอยสูงกว่าเอวเมื่อไหร่คือเสียบอล เข้าปะทะแพ้ทุกจังหวะ และตามด้วยการเสียประตูเร็วด้วย

_______ นาที 15 จากจังหวะวัตฟอร์ดเบิ้ลบอลขึ้นหน้าเร็ว บอลไม่น่ามีอะไรแต่สเคอเทลยังมีหน้าทำให้มันมี ทั้งๆ ที่เหลี่ยมได้เปรียบแต่เขาบังอิกาโล่ไม่อยู่แทบสกัดบอลไม่ออก โดนอิกาโล่เบียดเอาบอลไปยิงมุมแคบได้ 2-0 ถึงตรงนี้แฟนบอลเริ่มเห็นเค้าลางของความบันเทิงอยู่รำไรแล้วค้าบ

_______ เวลาที่เหลืออยู่ เกมยังเดินไปแบบในย่อหน้าที่สามเป๊ะ เพิ่มเติมคือแนวรับวัตฟอร์ดดักล้ำหน้าแม่น รักษาตำแหน่งดีตลอดด้วย

_______ ก่อนจบครึ่งแรก นาที 41 สเคอเทลเจ็บเล่นต่อไม่ไหว คล็อปตัดสินใจเอาโอริกิลงมายืนหน้าเป้าทันที แล้วถอยลูคัสลงไปยืนเซ็นเตอร์ ก่อนจบครึ่งแรกด้วยสกอร์ 2-0


_______ เข้าครึ่งหลัง ทั้งสองฝ่ายปรับเกมกันพอสมควร ทางด้านวัตฟอร์ด พวกเขาถอยลงไปรับกันมากขึ้น แต่การเข้าบอลยังเร็วเหมือนเดิมและเก็บบอลเล่นได้ดีอยู่ ส่วนลิเวอร์พูลหันมาปรับความเร็วของการตั้งบอล หันมาใช้บอลยาวข้ามตัวไล่ส่งไปให้โอริกิเก็บเล่น แดนกลางขยับลัลลาน่าถอยลงไปช่วยรับบอลเชื่อมเกมเต็มตัว

_______ เกมรุกของลิเวอร์พูลมีลุ้นมากขึ้น โดยเฉพาะเกมริมเส้นได้เปิดบอลเข้าไปลุ้นแบบที่แทบไม่เห็นในครึ่งแรก แต่รูปเกมไม่ได้เป็นต่อ คุมเกมไม่ได้ การแย่งบอลยังคงสู้ไม่ได้ และยังจ่ายบอลพลาดในแดนตัวเองกันบ่อยอยู่

_______ นาที 74 เบนเทเก้กับไอบ์ได้ลงแทนลัลลาน่ากับเฟอมิโน่ ลิเวอร์พูลเน้นมาโยนให้คู่กองหน้าคือเบนเทเก้กับโอริกิพักบอลเล่นมากขึ้น แต่สุดท้ายยังเจาะพื้นที่สุดท้ายไม่ได้ มีลุ้นจากลูกฉาบฉวยกับบอลจังหวะสองมันเด้งเข้าทางในบางครั้งเท่านั้น

_______ นาที 85 วัตฟอร์ดมาย้ำกันชัดๆ ให้เห็นอีกครั้งว่า “เละเทะนะ” จากจังหวะโต้กลับแล้วแนวรับลิเวอร์พูลแซะถึงบอลไม่ต่ำกว่า 3 หนตั้งแต่กลางสนามแต่ตัดบอลไม่ได้ เก็บบอลไม่อยู่ โดนเค้าแย่งกลับไปได้เร็วจนสุดท้ายโดนบอลทะลุช่องให้อิกาโล่ได้หลุดเข้าไปยิงผ่านบ็อกดานเข้าไป 3-0

_______ จบเถอะ นัดนี้
-----------------------------------------

_______ ครับ พึ่งโดนมาหมาดๆ แต่กลายเป็นว่าทีมไม่มีวิธีรับมือกับเกมแบบนี้เลย เป็นวันที่สู้ไม่ได้ทั้งรูปเกมและผลลัพธ์

_______ 11 ตัวจริงก็ตามสภาพ ลอฟเรน มิลเนอร์ สเตอริดจ์ ลงไม่ได้ก็ต้องออกมาเป็นอะไรประมาณนี้ ฟอร์มและคุณภาพผู้เล่นก็มีส่วนล่ะ แต่นับเฉพาะแทคติคก็ต้องบอกว่าคล็อปทำได้ไม่ดีเลยในนัดนี้

_______ เห็นชัดๆ ว่าทีมมีปัญหาเวลาเจอวิ่งไล่+บอลไดเรกต์ แต่คล็อปไม่มีอะไรมาช่วยลูกทีมเลย ซ้ำร้ายยังขยับเอาหน้า 3 ตัวยืนสูงอย่างเดียวไม่ถอยไปเชื่อมบอลให้ยิ่งแย่เข้าไปอีก รวมไปถึงการเก็บตัวแถมอย่างเฟอมิโน่ไว้นานถึง 74 นาทีนี่นานไปจริงๆ เขาไม่ควรได้กลับลงสนามแล้วในครึ่งหลัง

_______  ส่วนการเปลี่ยนตัวโอริกิลงแทนสเคอเทลที่เจ็บ, หันมาเล่นหน้าคู่นาที 74,  การเน้นขึ้นเกมด้วยบอลยาว และเน้นการเข้าทำด้วยการโยนจากข้าง ผมยังเห็นด้วยกับคล็อปอยู่

_______ นี่นับเป็นตลกร้ายเลยนะที่คล็อป “ยัง” หาวิธีรับมือการโดนวิ่งไล่เร็วแดนหน้าไม่ได้เนี่ย เพราะเค้าเองก็ใช้เป็นอาวุธหลักมาก่อน ควรต้องมีวิธีรับมือดีกว่านี้ รวมไปถึงบอลไดเรกต์ที่มาพร้อมกับเกมเข้าปะทะตลอดเวลาสไตล์อังกฤษแท้ๆ นี่ก็ด้วยที่คล็อปอาจจะยังไม่ชิน แต่โดนมาหลายเกมแล้วก็น่าจะหาทางแก้ให้ได้ดีกว่านี้บ้าง

_______ ส่วนเรื่องฟอร์มผู้เล่น โอ้โห นั่นนี้่ได้โล่มาก คือเฮนเดอร์สันเป็นคนเดียวที่ทำให้เรายังรู้ว่านี่คือลิเวอร์พูล ส่วนคนอื่นนี่ถ้าบอกว่าดูซันเดอร์แลนด์อยู่ก็เชื่อ ผิดฟอร์มมาก พลาดเยอะมาก

_______ นัดหน้าต้องเจอ วาร์ดี้+มาเรซ เห็นฟอร์มคู่เซ็นเตอร์แล้วต้องบอกว่า ลุ้นให้ชนะยังง่ายกว่าลุ้นคลีนชีต คงต้องหวังพึ่งกองหน้าแล้วล่ะ แล้วกองหน้าที่ฟอร์มดีที่สุดในทีมตอนนี้คือ?

_______ โอริกิ ครับ...อาเมน
-----------------------------------------

นัดนี้เล่นกันซะไม่เหลือเยื่อใยเลยคนดีเธอทำเยี่ยงนี้ได้อย่างไร

บ็อกดาน - เล่นซะมินโยเล่กลายเป็นบุฟฟ่อนเลย รับบอลหลุดแบบหมูมากจนเสียประตูแรก โดนไล่เมื่อไหร่สาดทิ้งมั่วซั่วไว้ก่อน เซฟหลุดเดี่ยวได้หนนึงแต่โดยรวมไม่ใช่วันที่ควรจำเลย

โมเรโน่ - เติมขึ้นไปได้เปิดบอลเยอะพอควร แต่เปิดแต่ละลูกนี่ควรพอเถอะ เพื่อนรอเสาแรกแหกไปเสาสอง เพื่อนรอเสาสองเปิดให้ไลน์แมน เกมรับไม่แย่ รักษาพื้นที่ได้โอเค แต่ที่แย่คือการเชื่อมเกมที่ช้าและประสานงานกับเพื่อนได้ไม่ดี

ซาโก้ - นับเป็นนัดใช้กรรมโดนแท้จริง เพื่อนไม่ขยับช่วยรับบอล จะจ่ายใครก็ลำบากจนสุดท้ายโดนแซะบอลไปรัวๆ เกมรับเพื่อนก็หางานตลอดทั้งสเคอเทล ทั้งลูคัสที่การยืนตำแหน่งแย่มากทั้งคู่  แต่ที่สุดแล้วไม่ใช่เพื่อนผิดอย่างเดียว ฟอร์มของเจ้าตัวเองก็ไม่ได้ดีด้วย โดนเผาเกรียมล้มกลิ้งล้มหงายตลอดเกม

สเคอเทล - อ่านเกมแย่มาก กะบอลตกแย่ไม่แพ้กัน ยิ่งลูกสองนี่รับไปเต็มๆ โชคร้ายที่เจ็บจนต้องเปลี่ยนตัวออก แต่ฟอร์มตอนอยู่ในสนามนัดนี้นี่ไม่รู้ว่าเราควรเสียดายไหมที่เขาเล่นต่อไม่ไหว

ไคลน์ - เชื่อมเกมได้ดีกว่าแผงหลัง+ลูคัสหรือจะ+ชานด้วยก็ยังได้ แต่เกมรุกในพื้นที่สุดท้ายไม่เด็ดขาด ทำไม่ได้กระทั่งเปิดบอล เกมรับเองก็ดูมีปัญหากับอาเก้อยู่ตลอดเกม ไม่ได้โดนเผาแต่เก็บกินไม่ได้

ลูคัส - ออกบอลพลาดเยอะมาก เชื่อมเกมไม่ดีทั้งในแง่การจ่ายบอลและการขยับรับบอล ช่วงถอยไปยืนเซ็นเตอร์การสกัด ปะทะ แย่งโหม่งทำได้ดีอยู่นะ แต่การรักษาตำแหน่งนี่ถือว่าบรรลัยสุดในสามโลกหกจักรวาลเก้ามิติ ซึ่งส่งผลให้ซาโก้ต้องกลิ้งไปกลิ้งมาตลอดครึ่งหลังด้วย

ชาน - รักลูกฟุตบอลมาก เลี้ยงอยู่คนเดียว เพื่อนก็ไม่ให้ จะยิงจะส่งก็ไม่เอา เก็บมันไว้กับตัวอยู่นั่นแหล่ะ พอโดนคู่ต่อสู้บังหรือตัดแซะไปได้ก็หันไปโวยวายกรรมการ คือถ้าฟ้องคู่ต่อสู้ขอหาลักทรัพย์หรือวิ่งราวทรัพย์ได้คงทำไปแล้ว และนี่คือทั้งหมดที่ชานเล่นในวันนี้

เฮนเดอร์สัน - ดูเป็นผู้เป็นคนสุดในทีมวันนี้แล้ว มีปัญหากับการโดนวิ่งไล่อยู่หรอกแต่เจ้าตัวยังมีบอลเชื่อมเกมที่ดีกว่าเพื่อน ที่สำคัญคือบอลข้ามฟาก บอลหาที่ว่างที่โดดเด่นมาก แม่น เพื่อนได้เปรียบ รวมไปถึงมีจังหวะเปิดบอลเข้าทำก็ดูโอเคกว่าอีกหลายคน ยิงไกลได้น้ำหนักและเข้ากรอบดีด้วย แต่ทิศทางยังต้องปรับปรุง

ลัลลาน่า - บอลจังหวะเดียววันนี้ไม่ทำงานเลย ส่วนหนึ่งคือเพื่อนสลัดตัวไล่ไม่หลุดด้วย และอีกส่วนหนึ่งคือเขาเองก็ขยับทำทางไม่ดีด้วย โดยรวมยังดูดีกว่าดูโอ้บราซิลแต่ก็เช่นเดียวกับบ็อกดานคือเป็นวันที่ไม่ควรจำ

คูตินโย่ - ได้บอลน้อยแต่ยังพอมีจังหวะหาตำแหน่งยิงไกลหรือพยายามจะจ่ายบอลตักเข้าเขตโทษให้เพื่อนวิ่งโฉบเข้าทำอยู่บ้าง แต่โดยรวมแล้วต้องถือว่านัดนี้คูตินโย่ขยับฟอร์มได้เข้าใกล้เฟอมิโน่มากเลยทีเดียว

เฟอมิโน่ - เล่นกลางรับได้โดดเด่น เกมรุกลิเวอร์พูลถูกเค้าหยุดเอาไว้ได้หลายครั้ง ไม่ว่าจะบอลชิ่ง 1-2, บอลตามช่อง หรือบอลโยนยาว ล้วนโดนเฟอมิโน่ตัดทิ้งได้หมดจนคู่เซ็นเตอร์ของวัตฟอร์ดเล่นง่ายไม่ถูกกดดัน

ตัวสำรอง

โอริกิ - ครึ่งแรกตัดไป ไม่ได้ทำอะไรเวลามันหมดก่อน ครึ่งหลังลงมาวิ่งทำทางดีทีเดียว เก็บบอลลงเล่นดีด้วย ด้อยอยู่หน่อยตรงที่วิ่งหนีออกริมเส้นเยอะไป ใกล้หรือในเขตโทษนี่ขยับหาที่เล่นไม่ได้เลย ส่วนช่วงที่เล่นหน้าคู่ โอริกิกับเบนเทเก้ประสานงานในเกมรุกได้เป็นประโยชน์กับทีมมาก คือทำให้ตลาดเปิดรอบนี้ทีมอาจได้กองหน้าตัวใหม่มาเสริมทีม

เบนเทเก้ - จังหวะเพื่อนสาดขึ้นหน้าโหม่งถึงบอลเยอะ เก็บบอลไว้กับทีมได้เยอะกว่านัดก่อน แต่ยังมีประโยชน์กับทีมน้อย ในเขตโทษก็ยังดูเป็นเป้านิ่งอยู่

ไอบ์ - ลงมาทำตัวเป็นประโยชน์กว่าเฟอมิโน่ได้นิดหน่อย

แมน ออฟ เดอะ แมทช์ : ...จอร์แดน เฮนเดอร์สัน… ไม่ต้องมองคนอื่นเลยครับนัดนี้
------------------------------------------------------------
เครดิตภาพจากเวปทางการ

Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.

วันอาทิตย์ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2558

ลิเวอร์พูล 2-2 เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน(พรีเมียรืลีค)


...มันต้องอย่างนี้ดิ ไม่ชนะน่ะไม่เป็นไรหรอก...
___________________________

ลิเวอร์พูลเริ่มเกมด้วย 4-3-2-1

-------------------------เบนเทเก้------------------------
-------------คูตินโย่----------------ลัลลาน่า-----------
-----------มิลเนอร์-------ชาน-----เฮนเดอร์สัน------
โมเรโน่-------ลอฟเรน-------สเคอเทล-------ไคลน์
-------------------------มินโยเล่-------------------------

_______ ลิเวอร์พูลต้องเล่นเกมลีคในสนามที่ไม่ค่อยถนัดอย่างแอนฟิลด์ นัดนี้เบนเทเก้ได้กลับมาเป็นตัวจริงอีกครั้ง เช่นเดียวกับคูตินโย่ที่กลับมาแล้ว ส่วนแดนกลางลูคัสหลุดออกจากทีมไป
-------------------------------------------------------

_______ ช่วงต้นเกมลิเวอร์พูลไล่บอลแดนหน้าได้ดี เก็บบอลสองดีและตัดบอลกับมาได้เร็ว ได้เปรียบชัดเจนและหาโอกาสจบสกอร์ได้หลายครั้งในช่วง 15 นาทแรก แต่ก็เหมือนเดิม...เปลี่ยนเป็นสกอร์ไม่ได้

________ ทางด้านเวสต์บรอมวิชเน้นเกมรับเหนียวแน่นในแดนเป็นหลัก ถ้าลิเวอร์พูลเอาบอลขึ้นหน้าช้าจะถอยลงไปรับกันหน้าเขตโทษแน่น ส่วนเกมบุกเน้นโต้ไปทางริมเส้นและพยายามโยนเข้ามากดดันได้บ้าง แต่รูปเกมเป็นรองอย่างชัดเจน

_______ นาที 21 ลิเวอร์พูลขึ้นนำสำเร็จ คูตินโย่วางบอลโด่งเข้าเขตโทษให้ลัลลาน่าโหม่งชงให้เฮนเดอร์สันที่วิ่งสอดเข้าเขตโทษตามไปยิงไม่เหลือ 1-0 หลังสกอร์ขยับเกมของลิเวอร์พูลก็ยังดีต่อเนื่อง เน้นเคาะบอลดึงตัวไล่แล้ววางสวน เกมรุกพื้นที่สุดท้ายยังกดดันได้น้อย แต่การคุมเกมและเก็บบอลทำได้ดี

_______ ในเกมเปิดเวสต์บรอมวิชกดดันได้น้อยมากแต่พวกเขาเล่นได้อย่างมีวินัย ไม่เสียฟาล์วง่ายไม่ปล่อยให้เจาะพื้นที่สุดท้าย จนในที่สุดก็มาตีเสมอได้จากทีเด็ดของพวกเขา ...ลูกเตะมุม นาที 30 เวสต์บรอมวิชเปิดเตะมุมลึกไปทางเสาสองหน้าเขต 6 หลา มินโยเล่กระโดดขึ้นถึงบอล...แต่ชกวืด โดนดอสันยิงสวน 1-1

_______ หลังจากเสียประตู เกมของเวสต์บรอมวิชดีขึ้นผิดหูผิดตา แดนหน้าไล่บอลจังหวะเสียบอลได้ดีขึ้น แดนกลางเข้าถึงบอลได้เร็วขึ้น ลิเวอร์พูลเอาบอลขึ้นหน้าได้ยากกว่า 30 นาทีแรกแล้ว ส่วนมินโยเล่ที่พลาดทำทีมโดนตีเสมอก็เริ่มของขึ้นด้วยการออกไปเล่นนอกเขตโทษแบบไม่ควรเล่นอีกต่างหาก

_______ เข้าช่วง 5 นาทีท้ายก็เป็นเวสต์บรอมวิชที่ยังคงได้บอลเล่นน้อยกว่า แต่ดูจะเป็นฝ่ายคุมเกมเอาไว้ได้มากกว่าแล้ว ช่วงทดเจ็บนาทีแรกมาได้ลูกตั้งเตะก่อนโยนตัดแนวรับเข้าไปให้โอลสันโหม่งเข้าประตูแต่โดนจับล้ำหน้า ซึ่งก็ล้ำจริงๆ แต่กรรมการคิดนานเหลือเกินกว่าจะเป่า จบครึ่งแรกเลยยังเสมอกันอยู่ 1-1

_______ เข้าครึ่งหลัง การขยับวิ่งไล่จังหวะตั้งเกม สลับถอยไปรับต่ำหน้าเขตโทษยามไล่ไม่จนของเวสต์บรอมวิชยังทำได้ดีต่อเนื่อง ส่วนลิเวอร์พูลกลับลงมาเน้นการส่งบอลขึ้นหน้าให้เร็วขึ้นกว่าเดิม แบ็คทั้งสองข้างลอยขึ้นไปช่วยเชื่อมเกมสูง เฮนเดอร์สันกับมิลเนอร์พยายามหาโอกาสออกไปเปิดบอลริมเส้นมากขึ้นด้วย

_______ เกมรุกของลิเวอร์พูลมีลุ้นมากขึ้น เริ่มได้เปิดบอลเข้าไปวืดวาดในเขตโทษแบบเบนเทเก้ถึงบอล ได้บอลเป็นระยะแต่เป็นเบนเทเก้เองที่ยังคุมบอลไม่ได้ จับบอลไม่อยู่ และไปไม่ค่อยถึงบอล ส่วนเวสต์บรอมวิชโดนกดดันมากขึ้นแต่ยังเล่นได้เหมือนเดิมไม่ลนลาน หาจังหวะเก็บบอลได้บ้าง เล่นไปเล่นมาเห็นท่าไม่ดีล้มลงไปนอนเรียกแพทย์(ราวๆ นาที 61) หยุดเกมมันซะเลย..ได้ผลด้วย กลับมาเล่นต่อแล้วลิเวอร์พูลเสียจังหวะไป

_______ นาที 71 ไอบ์ได้ลงมาแทนคูตินโย่ แต่ลงมาปุ๊บทีมโดนปั๊บ นาที 73 ลูกเตะมุมอีกแล้ว คราวนี้เวสต์บรอมวิชโยนมาทางเสาแรก โอลสันวิ่งมาโหม่งเช็ดเข้าไปได้ 2-1 เท่านั้นยังไม่พอ ลอฟเรนยังมาโดนเข้าหนัก ต้องปฐมพยายามในสนามกันอยู่นาน สุดท้ายต้องเปลี่ยนออก...

_______ ...ซึ่งตรงนี้คล็อปเปลี่ยนตัวได้สะใจแฟนบอลมากด้วยการส่งโอริกิลงไปซะเลย ถอยเอาชานไปยืนเซ็นเตอร์แทน แล้วสั่งทีมดาหน้าบุกต่อไป

_______ ลิเวอร์พูลยังคงบุกแบบได้ลุ้นแต่ไม่ได้ประตู ในขณะที่เวสต์บรอมวิชโดนกดดันแต่ไม่ออกอาการยุบให้เห็น ยังคงเล่นได้ตามจังหวะตัวเองที่ว่าด้วยการรับต่ำปิดช่องเข้าทำ, วิ่งไล่จังหวะลิเวอร์พูลตั้งเกมตรงกลาง, เก็บบอลเอาไปเล่นแถวริมเส้นเผื่อเรียกฟรีคิกบ้าง ทุ่มบ้าง ให้เกมของลิเวอร์พูลไม่ต่อเนื่องเข้าไว้

_______ นาที 86 เฟอมิโน่ได้ลงแทนลัลลาน่าเป็นคนสุดท้าย ลิเวอร์พูลเร่งจนได้ลุ้นเยอะมากแต่จบไม่ลงสักที กรรมการขึ้นป้ายเวลาทดเจ็บนานถึง 8 นาทีเพราะมีจังหวะลอฟเรนเจ็บยาว แถมเวสต์บรอมวิชเองก็ดึงช้าด้วยหลายจังหวะ

_______ ลิเวอร์พูลตะบี้ตะบันบุกต่อ เน้นการขึ้นเกมริมเส้นให้สุดแล้วเปิดเข้ากลาง สลับกับจ่ายเรียดย้อนกลับมาให้กองกลาง โดยเฉพาะเฮนเดอร์สันคอยยิงหรือจ่ายสวนตามช่องแถวหน้าเขตโทษ ได้ลุ้นหลายครั้งหลายครา (กว่าจะจบเกมนี่ยิงรวม 25+ ครั้งน่าจะได้) จนในที่สุด

_______ นาที 90+6 เฮนเดอร์สันโดยไล่กลางสนามแต่พลิกหนีมาดี ก่อนจ่ายให้โอริกิโดนเสียบซะลอยแต่รีบลุกมาเล่นต่อ แตะหาจังหวะแล้วยิงไกลมาก บอลไปแฉลบหลังกองหลังเข้าไปประตูไป ตีเสมอให้ทีมได้สำเร็จ 2-2

_______ หลังจากนั้น แม้เวลาจะเหลือไม่มาก แต่ลิเวอร์พูลยังเล่นเหมือนจะเอาอีก วิ่งไล่เต็มที่ เร่งเปิดบอลไปข้างหน้าเต็มที่ แต่ก็แซงนำไม่สำเร็จ จบเกมที่ 2-2 แบบแฟนบอลยังยิ้มออกอยู่
-----------------------------------------

_______ ดูเหมือนว่าทรงบอลแบบ 4-3-3 จะกลายเป็นแทตติคหลักของคล็อปไปซะแล้ว จุดเด่นอยู่ที่แผงกลางที่พร้อมเล่นเกมรุกทุกคน มิลเนอร์กับเฮนเดอร์สันนั้นครอสบอลเข้ากลางได้ดีและได้ยืนในฝั่งที่ควรยืนทั้งคู่ คูตินโย่(หรือเฟอมิโน่)กับลัลลาน่าจะเล่นเจาะตรงกลางเป็นหลัก แล้วริมเส้นถ้าจะเล่นก็ให้แบ็คขึ้นมา ดูเป็นแทคติคที่เข้าท่าเอามากๆ กับนักเตะที่มีอยู่ในทีมตอนนี้ ดูดีกว่าการเล่น 4-2-3-1 ในช่วงก่อนหน้าอีก

_______ ปัญหาคือทรง 4-3-3 ที่เล่นอยู่ตอนนี้ การวิ่งไล่บอลที่เป็นอาวุธหลักของทีมมาตลอดในยุคคล็อปมันถูกลดประสิทธิภาพไปมาก ในช่วงที่ทีมเล่นทรง 4-2-3-1 ตรงกลางมันมี 5 คนตลอด เสียเมื่อไหร่พร้อมไล่และยืนกันครอบคลุมเต็มกลางสนาม แต่พอ 4-3-3(4-3-2-1) ที่ขาดไปเห็นๆ เลยคือพื้นที่ริมเส้น เพราะ 2 คนหลังกองหน้ามากระจุกตรงกลาง แถมจังหวะรับ 2 คนนี้ก็ไม่ได้ถอยลงไปต่ำ เต็มที่ก็แค่วงกลมกลางสนาม เท่ากับกลาง 3 ต้องเล่นรับกันไปเอง เทียบกับตอน 4-2-3-1 ตัวรุกสองฝั่งลงไปช่วยเกมรับริมเส้นด้วย เท่ากับกลางมี 4 คนเล่นเกมรับง่ายกว่ากันเยอะ

_______ แถมกองหน้าตอนนี้ไม่ว่าจะโอริกิหรือเบนเทเก้ช่วยไล่บอลแบบมีประสิทธิภาพไม่ได้อีกด้วย

_______  ที่จริงแทคติคนี้ถ้าเบนเทเก้เล่นได้อย่างมั่นใจและมีประสิทธิภาพในกรอบเขตโทษกว่านี้เรื่องก็จบไปแล้วค้าบบบ แทคติคนี้มันโคตรจะปั้นกองหน้าเพราะไม่ต้องทำอะไรเลยรอจบในเขตโทษอย่างเดียว  อย่างนัดนี้ถ้าเค้าเล่นได้สักครึ่งของตอนที่อยู่วิลล่า แฮททริคไปแล้วมั้ง เพื่อนเปิดเข้าจุดนัดพบตั้งหลายครั้ง

_______ ผมมั่นใจว่าถ้าสเตอริดจ์ฟิต คล็อปจะไม่เล่นแบบนี้ จะหันไปหา 4-2-3-1 ไม่ก็หน้าคู่ไดมอนด์ไปเลยมากกว่า แต่กับตัวที่มีอยู่โดยเฉพาะมีเบนเทเก้ก็เลยคิดวิธีนี้ออกมาก ครั้นจะสลับไปใช้โอริกิ คล็อปก็พยายามแล้วแต่เจ้าตัวตอนเล่นหน้าเป้า ไม่เอาอ่าวกว่าเบนเทเก้เข้าให้อีก

_______ ได้อย่างก็เสียอย่าง ตอนนี้เกมรุกเล่นได้ทั้งริมเส้นและตรงกลาง มีทั้งบอลทะลุช่องและบอลครอสกลางอากาศ แต่การไล่บอลยวบไปเยอะ และเกมรับที่ใช้ชาน(เพราะต้องเอามาช่วยเปิดบอลขึ้นหน้าด้วย) ตัดบอลได้ไม่เยอะเท่าใช้ลูคัส(ซึ่งจะทำให้เอาบอลขึ้นหน้าได้ช้าลง) ก็ต้องมาดูกันต่อว่าจะเลือกอันไหนมาปรับแก้กันต่อไปครับ

_______ เรื่องแทคติคก็ว่ากันไป แต่วันนี้คล็อปแก้เกมได้ใจแฟนบอลมากครับ ต้นเกมก็เน้นเกมรุกอยู่แล้ว พักครึ่งยังเร่งเพิ่มขึ้นอีก ทั้งปรับสปีดบอล ทั้งดันแบ็คช่วย ยิ่งตอนลอฟเรนเจ็บ เวลาก็เหลือไม่ใช่น้อย เป็นผู้จัดการทีมคนอื่นคงเลือกเปลี่ยนเซ็นเตอร์ลงมาก่อนแล้ว แต่คล็อปส่งโอริกิมาวัดเลย แถมเล่นเกมรุกไม่มั่วด้วยเพราะเน้นการครอสจากริมเส้น ซึ่งตัวเล่นริมเส้นมีรอทั้งสองฝั่ง ไม่ได้โยนยัดเข้าไปในเขตโทษอย่างเดียว แถมตีเสมอได้แล้วยังจะเอาต่ออีกต่างหาก

_______ บางทีฟุตบอลมันไม่ได้มีอะไรซับซ้อน แค่พยายามจะยิงเอาชนะคู่แข่งให้ได้เท่านั้นเอง ซึ่งวันนี้ทั้งผู้จัดการทีม ทั้งคนเล่น แสดงออกมาให้เห็นแล้ว
-----------------------------------------

นัดนี้เล่นกันดีบ้างไม่ดีบ้าง

มินโยเล่ - โหม่งวืดลูกเดียวเสียวทั้งเกม วันนี้เล่นพลาดเยอะทั้งเรื่องการตัดบอลกลางอากาศที่ทั้งออกพลาด ทั้งไม่ออก ออกไปเล่นนอกเขตโทษเป๋อๆ ก็ 2-3 จังหวะ

โมเรโน่ - เติมเกมค่อนข้างน้อยถ้ามองจากแทตติคที่ทีมเล่น (ข้างหน้าไม่มีคนเล่นริมเส้น) เชื่อมเกมได้ไม่ดีนัก เน้นหนักไปทางเล่นเกมรับก็ยังไม่ค่อยเหนียวแน่นเท่าไหร่ จังหวะพลาดแบบจะๆ น่ะไม่ค่อยมีหรอก แต่ฟอร์มโดยรวมก็ไม่ใช่วันที่เล่นได้น่าพอใจเลย

ลอฟเรน - อยู่ในช่วงที่เล่นได้ดี ทั้งประกบ ทั้งซ้อนแบ็ค ทำได้ดีหมด ไม่นับจังหวะลูกตั้งเตะลอฟเรนแทบไม่มีพลาดให้เห็นเลย

สเคอเทล - จับจังหวะบอลตกไม่ค่อยดี แต่นอกนั้นก็ถือว่าเล่นได้ดีไม่แพ้ลอฟเรน เอาบอลขึ้นหน้าได้ดีกว่าด้วย แต่กับลูกตั้งเตะก็พลาดพอกันทั้งคู่

ไคลน์ - ขึ้นไปช่วยเชื่อมเกมได้พอใช้ในครึ่งแรกแต่ก็ขึ้นไม่สุด ครึ่งหลังโดยเฉพาะหลังจากทีมโดน 2-1 ไปแล้วนั่นแหล่ะไคลน์ถึงจะเติมสูง ซึ่งก็ทำได้น่าพอใจ ไปสุด เคาะชิ่งได้ ขยันวิ่งทำทาง เปิดบอลไม่ผ่านแต่ยังกดดันแนวรับได้ ในขณะที่เกมรับก็ยังลงช่วยได้ ฟอร์มช่วง 15 นาทีสุดท้ายถือเป็นสิ่งที่ทุกคนอยากเห็นจากเจ้าตัว

ชาน - ยืนต่ำเก็บบอลได้ดี มีจังหวะเก็บบอลไว้กับตัวนานให้เห็นบ้างแต่พอรับได้ จ่ายบอลขึ้นหน้าพลาดเยอะไปหน่อย แลกกับการไม่ต้องขวางสนามเยอะนัก ช่วงที่ทำได้ดีกลายเป็นจังหวะที่เติมขึ้นไปเล่นแถวหน้าเขตโทษคู่ต่อสู้ ส่วนช่วงที่เป็นเซ็นเตอร์เก็บบอลเล่นเยอะไปมากแต่ก็ไม่ได้พลาด

มิลเนอร์ - วิ่งรับบอลเชื่อมเกมดี ขยับขึ้นไปเปิดบอลได้น้อยไปหน่อย แถมจ่ายได้แต่บอลสั้นๆ ถ้ามองในแง่เชื่อมเกมกับไล่บอลมิลเนอร์ก็ทำได้ดีกว่าเฮนเดอร์สันกับชานล่ะ แต่ถ้าจะเอาลูกเด็ดขาด ไม่ว่าจะในเกมรุกหรือเกมรับ มิลเนอร์ไม่มีให้

เฮนเดอร์สัน - ยังเล่นติดๆ ขัดๆ อยู่บ้าง จ่ายบอลผิดน้ำหนักหรือเปิดไม่ขึ้นบ่อยมากถ้าเทียบกับช่วงก่อนเจ็บ การวิ่งไล่นัดนี้ถือว่าธรรมดามากเลย แต่ที่ทำได้ดีคือเกมรุก มีส่วนร่วมกับทั้งสองประตู และทั้งเกมการหาที่ว่างรับบอลเล่นแถวหน้าเขตโทษคู่ต่อสู้ทำได้ดีมาก เพื่อนจ่ายมาให้ได้ตลอดและเจ้าตัวก็หาจังหวะยิงเองได้พอควรด้วย

ลัลลาน่า - เล่นบอลจังหวะเดียวได้ดีหลายครั้ง วิ่งไล่บอลได้โอเคถ้ามองในมุมว่ายืนสูงเป็นตัวรุกอ่ะนะ เสียอย่างเดียวลัลลาน่าตั้งใจเชื่อมเกมมากไปหน่อย ไม่ค่อยเห็นจังหวะที่เขาตั้งใจทำเองสักเท่าไหร่ ไม่ได้หมายถึงยิงอย่างเดียวนะ หมายถึงเปิดเอง กระชากเองก็ด้วย

คูตินโย่ - ครึ่งแรกเล่นดีมาก เป็นคนเปิดบอลเข้าทำและสร้างสรรเกมรุกได้ดี แต่พอเข้าครึ่งหลังเริ่มหายไปจากเกม

เบนเทเก้ - เล่นนิ่มไป ไม่แข็งแรงดุดัน ทั้งๆ ที่น่าจะทำได้ โหม่งถึงบอลเยอะแต่เคาะคืนเพื่อนพลาดเยอะมาก ในเขตโทษไม่ค่อยขยับหาที่ว่างรับบอล ที่แย่สุดคือจังหวะเพื่อนโยนมาเบนเทเก้ยืนเฉยๆ รอโหม่งกับที่ ไม่ยอมวิ่งชาร์จตามช่อง กระโดดอยู่กับที่ต่อให้ถึงบอลแล้วมันจะมีน้ำหนักทิศทางอะไรล่ะ


ตัวสำรอง

ไอบ์ - ลงมาช่วยเชื่อมเกมโดยเฉพาะริมเส้นขวาได้ดี ประสานงานกับไคลน์ช่วยให้บอลไปถึงกรอบเขตโทษได้ตลอด แต่ยิงหรือจ่ายก็อย่าได้นำพา

โอริกิ - ทำได้คล้ายไอบ์แต่อยู่ฝั่งซ้าย โอริกิเลี้ยงจี้ไม่ดีเท่าไอบ์แต่เก็บบอลดีกว่า ตีเสมอให้ทีมได้ด้วย

เฟอมิโน่ - ลงมาเชื่อมเกมแดนกลางเป็นหลัก ทำได้ดีแต่ทำได้แค่นั้น

แมน ออฟ เดอะ แมทช์ : ...จอร์แดน เฮนเดอร์สัน… เอ่อ...ด้วยความสัตย์จริง อยากจะเลือกเบนเทเก้นะเพราะนัดนี้พีคจริงๆ แซงหน้ามินโยเล่ด้วย แต่อย่างน้อยนัดนี้ทีมเสมอได้ทั้งๆ ที่ไม่น่ารอดแล้ว และเฮนเดอร์สันในฐานะกัปตันก็ปลุกเร้าเพื่อนตลอด ยิง 1 จ่ายให้โอริกิยิงอีก 1 (แต่อย่าเรียกแอสซิสเลย โอริกิทำเองทั้งนั้น) ดังนั้นเลือกจากความรู้สึกดีๆ ดีกว่า
------------------------------------------------------------
เครดิตภาพจากเวปทางการ

Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.