วันเสาร์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

คริสตัล พาเลซ 3-1 ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีค)



...ฟอร์มยังคงเส้นคงวาครับช่วงนี้…
___________________________

ลิเวอร์พูลเริ่มด้วย 4-4-2 (หรือ 4-5-1 ต้นคริสมาสต์ สเตอลิ่งถอยลงไปกลางบ่อย)

-----------แลมเบิร์ต------------สเตอลิ่ง----------------
อัลเลน----------------คูตินโย่-----------------ลัลลาน่า
------------------------เจอราร์ด-------------------------
จอห์นสัน-----ลอฟเรน--------สเคอเทล-----มานกีโย่
------------------------มินโยเล่--------------------------

_______ พรีเมียร์ลีคกลับมาเตะอีกครั้งหลังจากหลีกทางให้บอลทีมชาติไปสองอาทิตย์ นัดนี้ลิเวอร์พูลต้องออกไปเยือนคริสตัล พาเลซที่ก่อนเตะอยู่รองบ๊วยของตาราง ร็อดเจอร์ต้องปรับทีมเยอะพอควรเพราะทั้งบาโลเตลลี่และเฮนเดอร์สันมีอาการบาด เจ็บ
-------------------------------------------------------

_______ เปิดเกมมายังโดนบอลกันไม่ครบทุกคน นาที 2 ลัลลาน่าก็ตักบอลโด่งเข้าไปในเขตโทษ บอลข้ามหัวเคลลี่เข้าเท้าแลมเบิร์ตเตะหนึ่งจังหวะก่อนยิงเข้าไปให้ทีมขึ้นนำ อย่างรวดเร็ว 1-0

_______ ลิเวอร์พูลเล่นเน้นการครองบอลเป็นหลัก เกมรุกพยายามเจาะตรงกลาง เกมริมเส้นไม่ค่อยเล่นและแบ็คก็ไม่ค่อยเติม ส่วนพาเลซแม้จะตามหลังแล้วก็ยังเน้นเกมรับเหนียวแน่นในแดน ตัดได้อาศัยวางบอลยาวโต้เร็วเอา ลิเวอร์พูลพาบอลขึ้นหน้าได้ช้าและน้อย ส่วนพาเลซรุกเองไม่ได้เลยแต่อาศัยเก็บตกจากความผิดพลาดของลิเวอร์พูลมาโจมตี ได้นิดหน่อย

_______ นาที 17 พาเลซตีเสมอได้สำเร็จจากจังหวะที่โบลาซี่เก็บและพาบอลหาที่ว่างหน้าเขต โทษ..ซึ่งหาไม่ยากเลยเพราะกองกลางหายหมดและเซ็นเตอร์วิ่งถอยหลัง...แล้วยิง ไกลจากนอกเขต บอลพุ่งชนเสาแต่ยังเด้งกลับมาเข้าทางเกลล์ที่วิ่งตามเข้ามาซ้ำได้ 1-1

_______ พอสกอร์กลับมาเสมอ ความผิดพลาดของลิเวอร์พูลเองก็มากขึ้นโดยเฉพาะการเก็บบอลจังหวะสองในเกมรับ ที่ทำได้ไม่ดีเลย กลายเป็นพาเลซที่วางยาวสวนเร็วขึ้นมาเก็บบอลสองเอามาโจมตีกดดันได้หลาย จังหวะ และเกมรุกของลิเวอร์พูลไม่สามารถบุกเจาะแนวรับที่ยืนรับต่ำและวิ่งไล่ในแดน ของพาเลซได้สักเท่าไหร่ โดยรวมแล้วเวลาที่เหลือทั้งสองฝ่ายก็ยังทำเกมรุกได้ไม่ต่อเนื่องทั้งคู่ และจบครึ่งแรกที่สกอร์ 1-1

_______ เข้าครึ่งหลัง ลิเวอร์พูลกลับลงมาเน้นเกมรุกกว่าเดิม แบ็คลอยสูงมากขึ้นทั้งสองฝั่ง แต่เกมริมเส้นยังไม่ค่อยกระเตื้องนัก ที่ดูดีหน่อยคือพาบอลไปข้างหน้าได้เร็วขึ้นกว่าเดิม ส่วนทางพาเลซ กลับลงมาเน้นเกมรับเหมือนเดิม

_______ ช่วง 15 นาทีแรกลิเวอร์พูลยังคงมีปัญหากับการเจาะแนวรับคู่ต่อสู้เหมือนเดิม เกมริมเส้นไปไม่สุดและได้เปิดบอลเข้ามาน้อย แดนกลางก็โดนไล่จนพลิกบอลขึ้นหน้าลำบาก กลายเป็นพาเลซที่เล่นไม่คิดอะไรมาก ตัดบอลได้วางยาวขึ้นหน้าเป็นฝ่ายกดดันได้ดีกว่า ได้ลุ้นประตูมากกว่าด้วย ทั้งคุณภาพและปริมาณ

_______ ผ่าน 1 ชั่วโมงแรกของเกมไป ลิเวอร์พูลเริ่มขยับกดดันแนวรับพาเลซได้ดีขึ้นโดยเฉพาะการพาบอลเลี้ยงจี้ของ คูตินโย่ที่เริ่มทำให้ทีมได้ลุ้นยิงไกลและจ่ายเข้าทำมากขึ้น แต่ยังไม่ดีพอจะเป็นประตู

_______ นาที 72 ร็อดเจอร์ปรับทีมด้วยการส่งบอรินี่ลงมาแทนลัลลาน่าและนาที 74 ชานลงแทนอัลเลน ขยับเอาคูตินโย่ไปซ้ายและสเตอลิ่งไปขวา ถึงตรงนี้ลิเวอร์พูลดันเกมรุกเต็มที่ ทั้งกองหลังกองกลางและแบ็คลอยขึ้นมารอเล่นเกมรุกกันหมดแล้ว

_______ ...แต่ผลลัพธ์ออกมาตรงกันข้าม...

_______ บอรินี่ลงมาหาบอลไม่เจอช่วยเกมได้น้อยกว่าลัลลาน่า และคูตินโย่ที่ถูกขยับไปริมเส้นมากขึ้นก็ได้บอลน้อย,เลี้ยงจี้กดดันคู่ ต่อสู้ได้น้อยลง ทำให้เกมรุกของลิเวอร์พูลสะดุดไปจากช่วงก่อนหน้า คือแม้บอลจะขึ้นไปถึงใกล้เขตได้แต่บอลเข้าทำทำกันไม่ค่อยได้เท่าไหร่ แต่ในขณะเดียวกันการเติมขึ้นไปข้างหน้าหมดทำให้เปิดพื้นที่ด้านหลังให้พาเล ซวางยาวสวนได้ง่ายขึ้นกว่าเดิมด้วย

_______ นาที 78 จากจังหวะทุ่มที่ไม่น่ามีอะไร โบลาซี่สลัดหลุดลอฟเรน(เข้าใจว่าใช่ ถ้าผิดคนทักด้วย)ที่ลื่นล้มพาบอลหลุดขึ้นไปทางสุดเส้นขวา ก่อนจะเปิดบอลเข้ากลางให้เลดลี่ย์ที่เติมขึ้นมาได้ยิงแถวจุดโทษ ชนิดที่ยืนเงื้อเลือกมุมยิงได้สบายเพราะไม่มีใครวิ่งตามมาประกบเลย แล้วเลดลี่ย์ก็ยิงไม่พลาด 2-1

_______ เท่านั้นยังไม่พอ นาที 81 จากบอลยาวโยนสวนขึ้นหน้า สเคอเทลไปดึงเสื้อคู่ต่อสู้เสียฟาล์วหน้าเขตโทษ เจดินัครับหน้าที่ยิงฟรีคิกเสียบสามเหลี่ยมไปได้อย่างสวยงาม ส่งให้พาเลซนำห่างเป็น 3-1

_______ ช่วง 10 กว่านาทีที่เหลือ ลิเวอร์พูลพยายามเร่งเกมแต่ออกแนวสะเปะสะปะและพลาดกันไปเองมากกว่าจะกดดัน คู่ต่อสู้ได้เป็นชิ้นเป็นอัน พาเลซที่เน้นรับมากกว่ายังโต้ขึ้นหน้ามากดดันแนวรับได้ดูดีกว่าด้วยซ้ำ จบเกมพาเลซเอาชนะลิเวอร์พูลไปได้สำเร็จ 3-1
-----------------------------------------

_______ เสมอต้นเสมอปลาย คงเส้นคงวามากครับ ลิเวอร์พูลช่วงนี้ ทั้งหน้ากลางหลังและผจก.ด้วย

_______ เกมนี้ทีมยืนแบบ 4-4-2 ที่มีเจอราร์ดยืนต่ำคนเดียว อัลเลนอยู่ซ้าย ลัลลาน่าอยู่ขวา สเตอลิ่งถอยลงมาช่วยเชื่อมเกม เป็นส่วนผสมของไดมอนด์กับคริสมาสต์ แต่ที่แน่ๆ จุดใหญ่ใจความอยู่ที่การมีเจอราร์ดห้อยต่ำคนเดียว และการเน้นเจาะตรงกลางแบบสุดลิ่มทิ่มประตู

_______ ในฤดูกาลนี้ ผมไม่เห็นด้วยกับการใช้เจอราร์ดยืนต่ำคนเดียวแบบนี้เลย และเกมนี้ก็เป็นอีกเกมที่สิ่งนี้สร้างปัญหาให้กับทีมทั้งเกมรุกและเกมรับ ในเกมรุก เจอราร์ดเคลื่อนที่หาพื้นที่รับบอลได้ไม่ดี พาบอลหนีก็ไม่ได้แล้ว แต่บอลไปตั้งที่เขาเยอะมาก ทำให้บอลขึ้นหน้าได้ช้า ในเกมรับเขาเก็บบอลสองได้น้อย วิ่งตามตัววิ่งสอดก็ทำไม่ได้ตลอดแล้ว ยิ่งมาปล่อยให้ยืนต่ำคนเดียวแบบนี้เท่ากับเปิดพื้นที่แถวหน้าเขตโทษให้คู่ ต่อสู้เล่นงานเอาง่ายๆ ซึ่งนัดนี้พาเลซก็เล่นงานตรงนี้ได้ตลอด

_______ เรื่องนี้ยังไงก็ต้องเปลี่ยนครับ เจอราร์ดพ.ศ.นี้ยืนต่ำคนเดียวแบบนี้ไม่ไหวแล้ว ฤดูที่แล้วอาจยังพอได้อยู่(ท้ายฤดูก็ออกอาการเหมือนกัน)แต่ฤดูนี้ไม่ได้แล้ว จริงๆ ครับ ฝืนต่อไปก็พังกันทั้งขบวนล่ะ

_______ สำหรับช่วงเริ่มเกมก็คาใจเรื่องนี้เรื่องเดียวล่ะครับ แต่สำหรับตอนเปลี่ยนตัวนี่คาใจหนักเข้าไปอีก คือนอกจากจะเปลี่ยนช้าแล้ว (คนแรกนาที 72) คูตินโย่ที่เริ่มเลี้ยงจี้เล่นงานคู่ต่อสู้ได้ดีในช่วงประมาณ 5-10 นาทีก่อนหน้าการเปลี่ยนตัว ร็อดเจอร์ขยับถ่างออกไปยืนริมซ้ายซะอย่างนั้น

_______ เป็นการเปลี่ยนตัวและปรับแทคติคที่ไม่น่าประทับใจเลยครับ

_______ แต่ปัญหาใหญ่สุดและเป็นสิ่งที่ตัดสินเกมในวันนี้ด้วยคือ ความมั่นใจ ของผู้เล่นครับ

_______ ...ซึ่งหมดแหงแก๋ไม่มีเหลือให้เห็นแล้วครับ

_______ ทีมเวิร์คกระจุยกระจายมาก บอลชิ่ง 1-2 ง่ายๆ ยังเล่นกันแทบไม่ได้ การประสานงานกันก็ไม่ดีเอามากๆ ความมั่นใจที่จะเล่นอะไรยากๆ ไม่มีให้เห็นแถมออกลูกผิดพลาดกันรัวๆ ด้วย กองหน้าหาบอลไม่เจอ กองกลางโดนไล่เข้าหน่อยก็เคาะคืนหลัง กองหลังเห็นคู่ต่อสู้อยู่ใกล้ๆ มือไม้เปะปะแข้งขาอ่อนไปหมด ซึ่งทั้งหมดนี้มันก็มากจากผลงานที่ไม่ดีชนิดที่ไม่มีทีท่าจะโงหัวขึ้นมาได้ ของทีมในช่วงนี้นี่ล่ะครับ

_______ นี่เป็นเรื่องที่ผู้จัดการทีมต้องแก้ปัญหาให้ได้ ซึ่งร็อดเจอร์เคยทำให้ทีมกลับมาเล่นได้อย่างมั่นใจมาสองครั้งนะครับ

_______ ครั้งแรกคือการซื้อคูตินโย่กับสเตอริดจ์มาในช่วงปีใหม่ของฤดูกาลแรก ส่งผลให้ทีมแม้จะจบที่เจ็ดแต่ดูมีอนาคตกว่าครึ่งฤดูกาลแรกเยอะเลย

_______ ครั้งที่สองคือเอาเจอร์ราดไปยืนต่ำแล้วมีส่วนพาทีมบินสูงเมื่อฤดูกาลที่แล้ว

_______ ครั้งที่สาม ถ้าจะมี ก็ต้องมีเดี๋ยวนี้ตอนนี้แล้วครับ ไม่งั้นเจ้าตัวอยู่ไม่ถึงจบฤดูนี้แน่
-------------------------------

นัดนี้เล่นกันเกือบใช้ได้...แปลว่าไม่ได้

มิ นโยเล่ - สามประตูที่เสียไป มีแค่ลูกสองที่อยู่ในวิสัยจะทำอะไรได้มั่ง แต่เซฟลูกนั้นไม่ได้ก็ไม่ถึงขั้นผิดบาปอะไร ตัดบอลโยนเข้ามาได้ค่อนข้างดีทีเดียว มีแย่หน่อยก็ต้องการออกบอลช้า และเตะเปิดเกมแย่มาก

จอห์นสัน - เกมรุกและเชื่อมเกมช่วยไม่ได้เลย เกมรับไม่ค่อยโดนเจาะเท่าไหร่ยังพอเอาตัวรอดได้

ลอฟเรน - พลาดเยอะมาก ทั้งจังหวะเสียประตูลูกแรกกับลูกสองก็ใช่ (ลูกแรกวิ่งถอยหลังลูกสองล้ม)นอกนั้นก็ยังมีจังหวะหลุดจังหวะหลอนให้เห็น เป็นระยะทั้งเกม

สเคอเทล - เป็นวันที่เล่นได้ไม่ดีเลย อ่านบอลผิดจังหวะให้เห็นเป็นระยะ สกัดบอลไปไหนไม่รู้ เสียฟาล์วง่ายๆ อีกต่างหาก

มาน กีโย่ - เกมรับมีปัญหาให้เห็นเยอะ ทั้งการปิดลูกเปิดเข้ากลางได้ไม่ดีและการอ่านเกมพลาด, ยืนขาตายให้คู่ต่อสู้พาบอลขึ้นไปเล่นงานได้บ่อยเกินไป เกมรุกกับการเชื่อมเกมก็ทำได้ไม่ดีเท่าไหร่

เจอราร์ด - เคลื่อนที่น้อยมากๆ เชื่อมเกมได้ไม่ค่อยดีนัก บอลยาวก็แทบไม่มีให้เห็น

อัลเลน - ช่วยเกมได้น้อย เกมรุกเก็บบอลไม่อยู่และเล่นเกมรุกแทบไม่ได้เลย เกมรับก็ลงมาช่วยไม่ค่อยทัน

ลัลลาน่า - มีส่วนร่วมกับเกมไม่มากนัก ทำดีจังหวะแอสซิสให้แลมเบิร์ต โดยรวมเกมรุกดูดีกว่าอัลเลนเล็กน้อยแต่เกมรับช่วยไม่ค่อยได้พอกัน

คู ตินโย่ - ครึ่งแรกทำอะไรได้น้อยมาก ครึ่งหลังเริ่มหาโอกาสเลี้ยงจี้กดดันแนวรับได้ดีอยู่ราว 10 นาที แต่หลังจากการเปลี่ยนตัวแล้วก็เริ่มหายไปเหมือนเดิม

สเตอลิ่ง - พลิกบอลได้น้อย เปิดบอลเข้ากลางแทบไม่ผ่านเลย และหาช่องทำทางได้ไม่ดีนัก

แลมเบิร์ต - ทำได้ดีมากกับการยิงลูกแรก แต่หลังจากนั้นก็เก็บบอลได้น้อยมาก ชิ่งต่อให้เพื่อนก็พลาดบ่อย

ตัวสำรอง

บอรินี่&ชาน - ถ้าบอกว่าไม่ได้ลงมาก็เชื่ออ่ะ
------------------------------------------------------------

เครดิตภาพจาก FB ทางการ

Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.   

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น