วันจันทร์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2557
แมนฯ ซิตี้ 3-1 ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีค)
สู้ได้นะ..แต่แพ้
__________________
ลิเวอร์พูลเริ่มด้วย 4-3-3
-----------------------สเตอริดจ์------------------------
คูตินโย่-----------------------------------------สเตอลิ่ง
-------------อัลเลน-------------เฮนเดอร์สัน-----------
------------------------เจอราร์ด------------------------
โมเรโน่--------ลอฟเรน------สเคอเทล--------จอห์นสัน
------------------------มินโยเล่-------------------------
_______ นัดนี้ลิเวอร์พูลออกไปเยือนแชมป์เก่าอย่างแมนฯซิตี้ ร็อดเจอร์ปรับทีมจากนัดก่อนพอสมควร จอห์นสันได้กลับไปยืนแบ็คขวา โมเรโน่ได้ลงสนามนัดแรก อัลเลนลงแทนลูคัสและแดนกลางปรับให้เจอราร์ดยืนต่ำคนเดียว
-------------------------------------------------------
_______ เริ่มเกมมาก็เป็นซิตี้ที่ดันกันขึ้นมาเพรสซิ่งในแดนหน้า ทำเอาลิเวอร์พูลตั้งตัวไม่ทันเก็บบอลไม่อยู่ ซิตี้เป็นฝ่ายครองบอลได้มากกว่าตั้งแต่ต้น เน้นเเกมริมเส้นเต็มที่โดยเฉพาะทางฝั่งจอห์นสัน ส่วนทางลิเวอร์พูลไม่ได้ถอยไปรับลึกหนัก อาศัยแดนกลางคอยวิ่งไล่บีบตั้งแต่กลางสนาม ในเกมรุกเกมริมเส้นฝั่งขวาโดยสเตอลิ่งกับจอห์นสันยังพอทำงาน ช่วงประมาณครึ่งชั่วโมงแรกนี้ทั้งสองฝ่ายหาโอกาสเปิดบอลเข้าทำกันได้บ้างแต่ยังเอาชนะฝ่าแนวรับเข้าพื้นที่สุดท้ายกันไม่ได้
_______ เข้าครึ่งชั่วโมงของเกมไปเกมเริ่มช้าลง ซิตี้เริ่มหันมาเน้นครองบอลมากขึ้นแต่ยังเจาะแนวรับไม่ได้อยู่ดี ส่วนทางลิเวอร์พูลยังคงใช้พื้นที่ว่างด้านหน้าและความเร็วของสเตอลิ่งและ สเตอริดจ์เล่นงานได้บ้าง ได้ลุ้นจากลูกตั้งเตะทั้งฟรีคิกและเตะมุมเป็นระยะแต่ก็ยังทำอะไรไม่ได้เช่น กัน ครึ่งแรกทำท่าจะจบที่ผลเสมอแล้วแต่ความผิดพลาดส่วนบุคคลครั้งเดียวก็ทำให้ สกอร์ขยับได้ นาที 41 จังหวะที่ซิตี้เปิดบอลเข้าเขตโทษ ลอฟเลนโหม่งสกัดได้แล้วแต่โมเรโน่ยืนรอบอลเลยช้าไปหนึ่งจังหวะ โดนโยเวติชฉกเอาไปยิงเร็วลอดขามินโยเล่เข้าไปได้ 1-0 และจบครึ่งแรกที่สกอร์ดังกล่าว
_______ เข้าครึ่งหลัง ซิตี้หันมาเน้นคุมพื้นที่เต็มตัว อาศัยวางบอลยาวไปที่ว่างเป็นหลักซึ่งก็ได้ผลไม่น้อย แม้จะครองบอลได้น้อยลงแต่เกมรุกดูดีกว่าในครึ่งแรกอีก ส่วนลิเวอร์พูลยังไม่ได้เน้นโหมเกมรุกเท่าไหร่ ได้บอลมากขึ้นแต่หาโอกาสเปิดบอลเข้าทำได้น้อยลง นาที 55 ยังมาเสียเพิ่มจากจังหวะที่ซิตี้ใช้บอลชิ่ง 1-2 เจาะเข้าไปในเขตโทษแล้วหักเรียดไปเสาสองให้โยเวติชจบไม่พลาด 2-0
_______ หลังจากเสียประตูเพิ่มเกมของลิเวอร์พูลก็รวนไปพอสมควร กลับกันทางฝั่งซิตี้ยิ่งผ่านบอลกันได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น ร็อดเจอร์จึงรีบปรับเกม นาที 60 ส่งมาร์โควิชลงแทนคูตินโย่ แล้วเน้นขึ้นเกมทางฝั่งซ้ายมากยิ่งขึ้นซึ่งมาร์โควิชกับโมเรโน่ที่เติมขึ้น มาก็ทำให้เกมรุกกลับมาดูวูบวาบได้พอสมควร ได้เปิดบอลเข้าทำมากขึ้นแต่่จังหวะสุดท้ายยังไม่ค่อยถึงบอลกันเท่าไหร่
_______ ทางฝั่งซิตี้ เปเยกรีนี่ก็ไม่ได้นั่งดูเฉยๆ ส่งนาบาสลงแทนซิลบาเพื่อกดโมเรโน่ไม่ให้เติมถนัดในนาที 65 ส่งกุนลงมาแทนเซโก้ที่ดูจะมีอาการบาดเจ็บเล็กน้อยในนาที 68 ที่จริงช่วงนาที 60-68 นี้เป็นช่วงที่ลิเวอร์พูลเริ่มกลับมาทำได้ดีกว่าแต่พอกุนลงมาเท่านั้นละเป็นเรื่อง จากจังหวะเปิดเกมขึ้นมาและผู้เล่นลิเวอร์พูลดูยังไม่สมาธิ นาบาสเลยได้โอกาสจ่ายทะลุให้กุนได้สัมผัสบอลครั้งแรกแล้วก็ยิงเข้าไปได้เลย 3-0
_______ พอเป็น 3-0 เกมของลิเวอร์พูลที่ทำกันได้ดีมาร่วม 10 นาทีก็มีปัญหาทันที นาที 74 ชานได้ลงมาแทนอัลเลน ลิเวอร์พูลดูพยายามจะโหมเกมรุกแต่ก็ยังกดดันไม่ได้เท่าไหร่ นาที 79 แลมเบิร์ตลงมาแทนสเตอลิ่งเป็นคนสุดท้าย ปรับมาเล่น 4-4-2 เอาเฮนเดอร์สันไปเล่นริมเส้นขวา เกมโดยรวมก็ยังไม่ได้ดีขึ้นเท่าไหร่นักและประสิทธิภาพในการครองบอลของซิตี้ ยังไม่ได้ลดลงเลย ครองบอลแต่ละครั้งกว่าจะเสียคืนมานี่นานมาก
_______ ลิเวอร์พูลมามีลุ้นเล็กๆ เมื่อนาที 83 สเตอริดจ์ไปแซะเอาบอลคืนมาจากเดมิเคลิสที่บังบอลไปได้แล้วแต่ไม่ทันระวัง พอเอาบอลมาได้สเตอริดจ์เปิดไปเสาสองให้แลมเบิร์ตได้โหม่งจ่อๆ ไม่กี่หลา บอลติดเซฟฮาร์ทแต่ยังเด้งไปโดนเข่าซาบาเลต้าเข้าประตูไป 3-1 เท่านั้นยังไม่พอ หลังจากนั้นไม่กี่นาที แลมเบิร์ตยังได้ลูกส้มหล่นจากจังหวะที่กองหลังซิตี้สกัดกันผิดพลาดเอง แต่แลมเบิร์ตที่ได้บอลหลุดโล่งคนเดียวในเขตโทษตัดสินใจไม่ยิงแต่จ่ายเรียดมา เสาสองให้สเตอริดจ์ เลยโดนกองหลังสกัดทิ้งไปเสียก่อน และหลังจากจังหวะนั้น ลุ้นเล็กๆ ที่ว่าก็หายไปสนิทเมื่อในนาที 86 จอห์นสันเจ็บเล่นต่อไม่ไหว ลิเวอร์พูลเลยต้องเลยเหลือ 10 คนเพราะเปลี่ยนครบแล้ว เอวัง
_______ เวลาที่เหลืออยู่ก็ไม่มีฟุตบอลให้ดูแล้ว มีแต่เรื่องสยองสองประโยค หนึ่งคือสเคอเทลเจ็บแต่ยังพอเล่นได้ สองคือโมเรโน่เจ็บเล่นไปกระเผลกไปยันหมดเวลา แมนฯซิตี้เอาชนะลิเวอร์พูลไปได้ 3-1
-----------------------------------------
_______ ลิเวอร์พูลเล่นใช้ได้ครับ แต่ซิตี้เล่นได้ดีกว่าจริงๆ สมควรชนะแล้ว
_______ จากเกมนัดก่อนที่แดนกลางเล่นกันไม่ดีนัก มาในนัดนี้แดนกลางลิเวอร์พูลดูดีขึ้นในเกมรับ ช่วงครึ่งแรกนั้นแดนกลางช่วยกันวิ่งไล่บอลได้ดีมาก ซิตี้ครองบอลได้แต่เจาะไม่ได้ สเตอลิ่ง, คูตินโย่วิ่งถอยลงไปช่วยแบ็คอยู่ตลอด ในขณะที่ตรงกลาง เฮนเดอร์สันกับอัลเลนจะวิ่งเข้าใส่ตั้งแต่แถววงกลมและขยับออกไปช่วยทั้งทาง ริมเส้นและหน้าเขตโทษตามจังหวะบอล และแม้ในครึ่งหลังจะวิ่งไม่ค่อยเจอบอลแต่ก็ยังรักษาพื้นที่กันได้ดีพอสมควร
_______ แต่ในขณะที่เกมรับดูดี กองกลางวันนี้ทำเกมรุกได้ไม่ดีนัก อัลเลน, คูตินโย่, เฮนเดอร์สันออกบอลเกมรุกไม่ได้ ทำให้ภาระไปตกอยู่กับสเตอลิ่งแทบทั้งหมด พอคู่ต่อสู้ซ้อนสเตอลิ่งดีๆ เกมรุกของทีมก็ไปต่อไม่ได้ จนเมื่อมีมาร์โควิช(รวมชานด้วยก็ได้)ลงมานั่นแหล่ะแดนกลางถึงได้ออกบอลเกม รุกกันได้เร็วขึ้น แต่เกมรับที่ทำได้ดีในช่วงก่อนหน้าก็ดิ่งวูบลงไประดับนึงเลย ต้องตามหาความสมดุลตรงนี้กันต่อไป
_______ ส่วนการเสีย 3 ประตู ลูกแรกคือความผิดพลาดส่วนบุคคลของโมเรโน่นั่นแหล่ะไม่ต้องสืบ วิ่งเข้าไปหวดบอลซะก็จบแต่ก็ไม่ ลูกที่สองนี่ซิตี้เล่น 1-2 กันได้ดีจริงๆ แม่นเป๊ะทั้งทางวิ่งและน้ำหนักบอล ในขณะที่ถ้ามองกองหลังแล้วนี่คือการประสานงานที่ยังไม่เข้าใจกันเท่าไหร่ ลอฟเลนยืนปักหลักเหมือนจะเช็คล้ำหน้าแล้วแต่สเคอเทลไม่ได้ขึ้นมาด้วยเลยโดน ซะ ส่วนลูกที่สามนี่ขาดสมาธิกันไปเองครับ ก็น่าเสียดายที่ดูในเกมแล้วเกมรับเล่นกันไม่แย่ ออกจะค่อนไปทางดีด้วยซ้ำ แต่รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ นี่พอมาเกิดเวลาที่เจอกับคู่ต่อสู้อย่างซิตี้เนี่ย มันเปลี่ยนเป็นประตูได้ทั้งนั้นเลย
_______ ถ้าเล่นกับทีมอื่นที่ไม่ได้เด็ดขาดขนาดนี้ ดีไม่ดีไม่โดนสักลูกนะเนี่ย
_______ การเปลี่ยนตัวก็ทำไปตามเนื้อผ้า ถ้ามองถึงเกมรุกอย่างเดียวทั้งมาร์โควิชและชานช่วยทีมได้ดีกว่าคูตินโย่และ อัลเลนแน่นอน แต่การวิ่งไล่บอลทั้งคู่ก็สู้คูตินโย่กับอัลเลนไม่ได้เลยเช่นกัน (เป็นสาเหตุหลักที่ครึ่งหลังซิตี้ครองบอลได้นาน-ง่ายขึ้นด้วย) เลยไม่ชวนให้คิดว่าพวกเขาควรเป็นตัวจริงมากกว่าตรงไหนในเกมที่ต้องออกมา เยือนทีมอย่างซิตี้ซึ่งทีมคงต้องการเกมรับและความรัดกุมมากกว่าเกมรุก
_______ ส่วนเรื่องที่ดูเป็นปัญหาจริงๆ คงอยู่ที่การปรับตัวเข้าหากันของผู้เล่นใหม่-เก่านั่นละครับ คือมันไม่ใช่เรื่องของคนใหม่ต้องปรับตัวอย่างเดียว อีคนเก่าๆ นี่ก็ต้องปรับด้วย ถ้าอยากเห็นภาพแนะนำให้ดูเทปช่วงเวลาที่ทีมเล่น 4-4-2 แล้วจะเห็นว่าวิ่งซ้อนวิ่งชนกันให้นัวไปหมด หรืออย่างมาร์โควิชนี่ต้องซ้อมจังหวะเข้าทำกับตัววิ่งสอดอย่างอัลเลน, เฮนเดอร์สันอีกหลายตลบ เพราะเปิดกับวิ่งกั๊กๆ กันอยู่ให้เห็นพอสมควร ฯลฯ
_______ ...นี่ยังไม่นับพ่อนักเตะศิลปิน อินดี้ใจบุญ ศูนย์หน้ามหา-กาฬ (หมายถึงดำมาก) บาลโลวเต๊นลี่~ อีกคนนะครับ ทีมนี้คงต้องใช้เวลาปรับตัวกันอีกนิดนึงล่ะ หรือถ้าหลายนิดก็จะเข้าใจ...
-------------------------------
นัดนี้เล่นกันพอใช้ได้
มินโยเล่ - จริงๆ ก็ไม่มีอะไรให้เซฟเลยนะ 2 ลูกแรกที่เสียไปก็คงทำอะไรไม่ได้มากกว่านั้น แต่อีลูกสุดท้ายนี่สมาธิไม่ดีเลย แม้ว่าจะไม่ใช่ลูกที่เซฟกันได้ง่ายๆ แต่การยืนตำแหน่งที่ผิดพลาดขนาดนั้นก็ไม่ไหวเหมือนกัน
จอห์นสัน - เกมรับโอเคเล่นได้ดีไม่ได้มีอะไรผิดพลาดให้เห็นเลย แต่ไปเห็นในเกมรุกแทน...หลายจังหวะเลี้ยงและส่งได้เป็นนามธรรมมากดูแล้วเข้า ไม่ถึงว่าจินตนาการของพี่แกตอนนั้นต้องการจะทำอะไร ลองหาจังหวะที่พี่เค้าเลี้ยงดุ่ยๆ พาบอลไปใส่เท้าคลีชี่ดูครับแล้วคุณจะอึ้ง
ลอฟเรน - การเข้าสกัดเด็ดขาดดี โดยเฉพาะการเข้าบอลเร็วและลูกกลางอากาศ แต่ต้องสื่อสารกับเพื่อนร่วมทีมให้ดีกว่านี้หน่อย ไม่ว่าจะเชคล้ำหน้าหรือว่าเชื่อมเกมกับแบ็คที่คนวิ่งวิ่งไปทาง คนจ่ายดันจะจ่ายไปอีกทาง อ้ออีกอย่าง ลอฟเรนผ่านบอลสั้นแม่นดีนะ
สเคอเทล - ฟอร์มส่วนตัวเล่นได้ดี โดยเฉพาะการเข้าไปซ้อนเพื่อนและทิ้งตัวกวาดบอลจังหวะสุดท้าย
โมเรโน่ - ฟอร์มโดยรวมเล่นได้ดีทีเดียว มีความเร็ว ขยันวิ่งขึ้นลง เข้าปะทะได้สะใจใส่ไม่ยั้ง เปิดบอลไปวัดไปวาได้ด้วย แต่ความผิดพลาดส่วนบุคคลที่ทำให้เสียประตูแรกนี่ก็ทิ่มตาไม่แพ้กัน
เจอราร์ด - ช่วยเกมรับในจังหวะสำคัญได้บ้างพอสมควรโดยเฉพาะการดักตัดบอลเข้าทำ การเชื่อมเกมขึ้นหน้าแม้จะโดนไล่จนทำได้ไม่เร็วนักแต่ก็พลาดน้อย บอลยาวไปที่วางทำได้พอสมควร ....จะว่าไปแแล้วก็เล่นได้ "พอสมควร" ไปหมดเลยทุกสิ่งอันนั่นแหล่ะครับ
อัลเลน - เคลื่อนที่ได้ดีมาก ช่วยเชื่อมเกมกลางสนามได้ดี ทั้งยังวิ่งไล่บีบบอลได้เร็วตลอด แต่นั่นคือทั้งหมดที่เขาทำให้ทีม ไม่ได้ทำอะไรนอกจากนั้นแล้ว
คูตินโย่ - สลับตำแหน่งกับอัลเลนเป็นระยะ เล่นได้เหมือนกันเปี๊ยบในเวอร์ชั่นที่ออกบอลเกมรุกได้ดีขึ้นมาหน่อยนึงเท่า นั้นเอง ในแง่ของการเล่นเกมรับในแดนกลางและริมเส้นพวกเขา(อัลเลน+คูตินโย่+เฮนเดอร์ สัน) ทำหน้าที่ได้ดีมาก...แต่ถ้าช่วยเล่นเกมรุกกันได้เท่านี้ก็ไม่ไหวนะ
สเตอลิ่ง - ช่วงครึ่งแรกโดยเฉพาะต้นๆ เกมใช้ความเร็วเล่นงานแนวรับได้ดี หาโอกาสเปิดบอลได้หลายครั้งและเรียกฟาล์วได้บ้าง แต่ยิ่งเล่นก็ยิ่งโดนประกบโดนซ้อนหนัก พอท้ายครึ่งแรกต้นครึ่งหลังก็ค่อยๆ จางหายไปจากเกม
เฮนเดอร์สัน - เหมือนคูตินโย่ แต่ไล่บอลได้ดีกว่าและวิ่งได้มากกว่านิดนึง
สเตอริดจ์ - หาที่ว่างด้านหน้าไม่ค่อยได้ ถูกบีบให้ถอยจากเขตโทษอยู่ตลอด จังหวะที่ได้บอลก็เชื่อมเกมกับเพื่อนได้ดีระดับนึง ลูกที่ได้ประตูก็เป็นผลมาจากความพยามยามและการเปิดบอลของเขา แต่โดยรวมก็ไม่ได้มีส่วนร่วมกับเกมมากนัก
ตัวสำรอง
มาร์โควิช - ลงมาเล่นเกมรุกได้วูบวาบดีกว่าคูตินโย่มัดรวมกับอัลเลนในช่วงก่อนหน้านั้นเยอะ ได้เปิดอยู่หลายจังหวะด้วย
แลมเบิร์ต - มีส่วนร่วมกับประตูแรก และควรจะมีส่วนร่วมกับประตูตีสองของทีมไปแล้วด้วย...ถ้าตัดสินใจยิงเองในจังหวะลูกส้มหล่นนั้น
ชาน - ออกบอลเกมรุกได้ดีทีเดียว คือบอลเชื่อมเกมนี่แหล่ะแต่ส่งได้เร็วและเลือกตัวส่งได้ดี ปัญหาคือไม่ค่อยวิ่ง ไม่ค่อยหาพื้นที่ว่างรับบอล ไม่ต้องพูดถึงวิ่งไล่บอลที่ทำได้ไม่ดีนัก ต้องรอดูว่าถ้าฟิตสมบูรณ์(ตอนนี้เห็นชัดเลยว่ายังไม่ฟิต)จะเคลื่อนที่ได้ดี กว่านี้มั้ย
แมน ออฟ เดอะ แมทช์ : ...มาริโอ บาโลเตลี่... นักฟุตบอลระดับนี้ ไม่ต้องลงสนามก็เป็น MOM ได้ครับ (กล้องจับบ่อยกว่าหน้ารอดเจอร์อีกมั้งครับ 555+)
------------------------------------------------------------
Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.
ป้ายกำกับ:
บาโลเตลี่,
แมนซิตี้ 3-1 ลิเวอร์พูล,
โมเรโน่,
โยเวติช
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น