วันเสาร์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2557
บอร์นมัท 0 - 2 ลิเวอร์พูล (เอฟเอคัพ)
...ยิงไม่ได้แต่จ่ายคมนะฮ้าฟ ...
--------------------------------------------------------
ลิเวอร์พูลเล่น 4-3-3
---------โมเสส---------ซัวเรส-------สเตอริดจ์---------
---------------คูตินโย่----------เฮนเดอร์สัน------------
------------------------เจอราร์ด------------------------
ซิสโซโก้--------ตูเร่----------สเคอเทล-----------เคลลี่
-------------------------โจนส์--------------------------
_______ ลิเวอร์พูลเล่นเกมเอฟเอคัพรอบสี่ออกไปเยือนทีมระดับแชมเปี้ยนชิพอย่าง บอร์นมัท ร็อดเจอร์ปรับทีมไม่มากนัก(เพราะไม่ค่อยมีตัวจะให้ปรับ) มีโจนส์,โมเสสและเคลลี่ลงตัวจริง นอกนั้นยังเป็นชุดเดิม
-------------------------------------------------------
_______ เริ่มเกมเป็นทางฝั่งเจ้าบ้านที่เร่งเครื่องลุยใส่ได้ดีตั้งแต่ต้น เข้าบอลเร็ว เน้นการขึ้นบอลเจาะทางฝั่งเคลลี่ ได้โอกาสลุ้นประตูติดๆ กันหลายครั้ง ส่วนลิเวอร์พูลดูมีปัญหากับสภาพสนามไม่น้อย วิ่งไปลื่นไปกันหลายคน แถมตั้งเกมกันไม่ค่อยได้ บอลไปไม่ค่อยถึงแดนหน้าและครองบอลได้ไม่นาน ต้องอาศัยบอลเร็ววางยาวฉาบฉวยให้กองหน้าในการทำเกมซึ่งยังไม่ได้ผลนัก รวมไปถึงแนวรับบอร์นมัทดักล้ำหน้าได้ดีด้วย
_______ แม้รูปเกมจะเป็นฝั่งบอร์นมัทที่ ทำไ้ด้ดีกว่า แต่จังหวะเข้าทำของพวกเขาไม่ดีเอามากๆ ยิงนกตายรัวๆ ไม่ว่าจะเกมเปิดหรือลูกตั้งเตะ สุดท้ายกลายเป็นลิเวอร์พูลที่กลับเป็นฝ่ายขึ้นนำก่อนในนาที 26 จากจังหวะทำเร็วซัวเรสได้บอลทางฝั่งขวาใกล้เขตโทษเปิดบอลข้ามมาทางฝั่งซ้าย โมเสสจับบอลหนึ่งจังหวะก่อนยิงเรียดจากเส้นเขตโทษเข้าเสาหนึ่งสำเร็จ 1-0
_______ สกอร์เปลี่ยนแต่รูปเกมยังไม่เปลี่ยน บอร์นมัทยังคงครองบอลเยอะกว่าและไปฝ่ายบุกเข้าใส่ แต่มาตายจังหวะเข้าทำ ส่วนลิเวอร์พูลไม่ค่อยได้ครองบอลหรือตั้งเกมนักแต่ก็อาศัยลูกฉาบฉวยโดยเฉพาะ การให้บอลเข้าทำของซัวเรสที่เปิดโอกาสให้เพื่อนได้ยิงพอสมควรแต่ยังทำอะไร เพิ่มไม่ได้ สกอร์ยังอยู่ที่ 1-0
_______ เข้า 5 นาทีสุดท้ายของครึ่งแรก บอร์นมัทเริ่มหมดมุขและเข้าบอลกันได้ช้าลง ส่วนลิเวอร์พูลเองก็เริ่มเล่นช้าลงเน้นความแน่นอนมากขึ้น เป็นฝ่ายครองบอลได้มากกว่าแต่ยังไม่ได้เน้นเกมรุกอะไรเท่าไหร่นักและจบครึ่ง แรกด้วยสกอร์ดังกล่าว
_______ เข้าครึ่งหลัง ลิเวอร์พูลกลับลงมาเล่นคล้ายท้ายครึ่งแรกคือเน้นครองบอลมากขึ้น ที่เปลี่ยนไปเล็กน้อยคือแดนกลางเข้าบอลได้เร็วขึ้นทำให้ครองบอลได้มากกว่า ครึ่งแรก รวมไปถึงคาดว่าจะเปลี่ยนรองเท้าแล้วเพราะครึ่งหลังทั้งครึ่งไม่เห็นใครลื่น อีก ส่วนทางบอร์นมัทยังคงตะบี้ตะบันเจาะทางเคลลี่เป็นหลักต่อไป
_______ ลิเวอร์พูลหยุดเกมรุกของบอร์นมัทได้ดีกว่าในครึ่งแรก ตัดบอลกลางสนามได้มากขึ้นและบอร์นมัทแม้จะยังพอหาโอกาสเปิดบอลเข้าทำได้อยู่ แต่ก็น้อยกว่าครึ่งแรกอย่างเห็นได้ชัด บ่อ...เอ้ย...เป้าหลักในการถูกโจมตีอย่างเคลลี่ก็มีเพื่อนสลับหน้ากันลงไป ช่วยอยู่ตลอด ส่วนในเกมรุกก็เริ่มตั้งเกมพาบอลถึงหน้าเขตโทษได้มากขึ้น ในที่สุดนาที 60 ก็มาได้ประตูหนีห่าง จากจังหวะที่คูตินโย่ฝากบอลให้ซัวเรสแล้วเจ้าตัวจ่ายทะลุช่องให้สเตอริดจ์ ที่วิ่งทำทางขึ้นไปได้หลุดเข้าไปยิงในเขตโทษ 2-0
_______ หลังสกอร์ห่าง จังหวะการเล่นของผู้เล่นลิเวอร์พูลดูผ่อนคลายขึ้นและมั่นใจมากขึ้น แม้จะเล่นไปตามจังหวะเป็นส่วนใหญ่แต่เกมรุกดูเป็นชิ้นเป็นอันกว่าบอร์นมัท ที่เปิดหรือยิงจังหวะสุดท้ายแบบเน้นโชคไม่เน้นฝีมือ นาที 73 ทั้งสองทีมเปลี่ยนตัว สำหรับลิเวอร์พูลฟลานาแกนได้ลงแทนเคลลี่ส่วนบอร์นมัทที่เปลี่ยน 2 ตัว เน้นเกมรุกเต็มที่ หันไปเจาะทางซิสโซโก้มากขึ้น แต่ผลลัพธ์ยังไม่ได้มีอะไรกระเตื้อง
_______ ถึงตรงนี้ก็บันเทิงแ้ล้วครับ บอร์นมัทเปิดพื้นที่ด้านหลังไว้เยอะ ลิเวอร์พูลก็เล่นง่ายมั่นใจ โชว์ลูกยาก แบ็คสองข้างกับเจอราร์ดนี่เติมกันขึ้นมาเล่นเกมรุกกันเพลิน นาที 84 โมเสสกับคูตินโย่ถูกถอดออกแล้วก็เป็นอัลแบร์โต้กับสเตอริ่งได้ลงมาแทนซึ่ง ไม่ได้เปลี่ยนแปลงรูปเกมอะไร ลิเวอร์พูลยังควบคุมเกมไว้ได้ เล่นไม่ตามจังหวะไม่ได้เร่งไม่ได้เน้นอะไรมากแต่ก็มีโอกาสลุ้นประตูบ้าง ประปรายซึ่งยังเป็นชิ้นเป็นอันกว่าบอร์นมัทที่พยายามเร่งเกมรุกแต่จบด้วยการ ฆ่าล้างเผ่าพันธ์นกอย่างทารุณ จบเกมที่สกอร์ 2-0
-----------------------------------------
_______ 30 นาทีแรกนี่ได้ลุ้นเยอะครับ...ในอีกความหมายนึงนะ ส่วน 1 ชั่วโมงหลังนี่ก็เป็นอย่างที่ควรจะเป็นแล้ว
_______ 11 ตัวจริงมีเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย ก่อนเกมเริ่มยังคิดว่าอัลแบร์โต้กับอัสปาสจะได้เป็นตัวจริง แต่ถึงไม่ได้ลงก็ไม่ได้ผิดคาดมากนักเพราะลิเวอร์พูลชุดนี้ถ้าถอดทั้งคูติ นโย่ทั้งซัวเรสมีหวังชักเหมือนกันครับ (คาดมียังเกือบชักเลย) ส่วนทางด้านแทคติคการเล่นก็ปรับเล็กน้อยเอาคูตินโย่เล่นตรงกลางเต็มตัว ไม่ต้องไปรับบอลริมเส้นแล้วปล่อยให้เป็นหน้าที่โมเสสไป
_______ เกมนี้น่าเสียดาย(สำหรับบอร์นมัท)ครับ ครึ่งชั่วโมงแรกเขาเล่นได้ดีกว่า โอกาสก็มากกว่าแต่จบกันไม่ได้เอง อีกครึ่งชั่วโมงถัดมาก็ยังดูสูสีอยู่ มีเพียงครึ่งชั่วโมงสุดท้ายคือหลังจากโดนลูก 2-0 ไปแล้วนั่นละครับที่พวกเขาไม่อยู่ในสภาพจะสู้แล้ว แถมในภาพรวมผู้เล่นของเขาก็ดูจะมุ่งมั่นกว่าด้วยซ้ำ...แต่ฟุตบอลตัดสินกันที่ประตูครับ
_______ สิ่งที่ตัดสินเกมนี้มีอยู่อย่างเดียวเลยคือคุณภาพในการจบสกอร์ ลูกแรกโมเสสดูยิงแป็กๆ ไงไม่รู้ล่ะ แต่เขาก็คุมบอลให้ตรงกรอบและพ้นตัวบล็อคได้ ลูกที่สองสเตอริดจ์ก็ยิงลูกที่ควรต้องยิงได้ไม่พลาด กลับกันทางฝั่งบอร์นมัทจังหวะที่แนวรับลิเวอร์พูลพลาดให้/พวกเขาเปิดแม่น มันก็มีครับ ไม่น้อยเลยล่ะ แต่ยิงอย่างกับจะเตะฟิลโกล์ 60 หลาในเกมอเมริกันฟุตบอลมากกว่าจะยิง(หรือโหม่ง)ในกรอบเขตโทษในเกมฟุตบอล แพ้สิครับ อะไรจะเหลือล่ะ
_______ อ้อ อยากแถมตรงนี้นิดนึง หลัง 2-0 แล้วลิเวอร์พูลเองก็จบสกอร์เอามันมากไปนิดเหมือนกันครับ ถ้าเน้นกว่านี้อีกหน่อยก็คงขาดเยอะกว่านี้ไปแล้วล่ะ ซึ่งก็ไม่ได้สำคัญอะไรนักหรอกกับบอลถ้วยนัดเดียวแบบนี้
_______ เรื่องน่าหนักใจยังคงวนเวียนอยู่ในกรอบเขตโทษตัวเองครับ นั่นคือลูกกลางอากาศ ถ้านับเฉพาะการโหม่งหรือเบียดโหม่งเนี่ยไม่แย่เท่าไหร่ แต่ที่แย่คือเรื่องการประกบ, การวิ่งเบียด, การอ่านทางบอลโยน แนวรับลิเวอร์พูลมีปัญหาสุดๆ หลายครั้งมากจนเกินไปในเกมนี้ที่บอลตกใส่หรือไปเข้าทางคู่ต่อสู้แบบที่ไม่มี แนวรับนัวเนียอยู่ใกล้ๆ ไปเล่นแบบนี้กับพวกกองหน้าระดับพรีเมียร์สงสัยซัวเรสต้องยิงจนฟันเข้าที่ละครับกว่าจะได้แต้ม
________ ...นัดหน้าดาร์บี้แมทช์ ซ้อมเกมรับกันดีๆ ล่ะ...
-------------------------------
นัดนี้เล่นพอใช้ได้
โจนส์ - มือสปริง บอลเด้งออกจากมือตลอดตลอด โดยเฉพาะช่วงต้นเกมนี่มือไม้อ่อนเป็นพิเศษ ยังดีว่าเล่นไปเรื่อยๆ แล้วเริ่มเข้าที่เข้าทางขึ้น มีปัญหากับการตัดบอลโด่งเยอะกว่ามินโยเล่อีก แต่ออกมานอกเส้นและเตะเปิดเกมได้ดีกว่าเล็กน้อย
ซิสโซโก้ - มีงานไม่มากนัก ยังบล็อคลูกเปิดเข้ากลางได้ค่อนข้างน้อยแต่ยังพอกดดันให้คู่ต่อสู้เปิดใน จังหวะที่ยากได้ดีอยู่ เชื่อมเกมพอใช้ได้เฉพาะเรื่องนี้ดูดีกว่าอีกหลายนัดที่ลงเล่น
ตูเร่ - สกัดการเปิดบอลเรียดและบล็อคลูกยิงได้ดี แต่บอลโด่งนี่ประกบตัวไม่ค่อยน่าประทับใจเท่าไหร่
สเคอเทล - ดีกว่าตูเร่เล็กน้อย
เคลลี่ - ...รอน้องเค้าแป็ปนึงครับ
เจอราร์ด - เล่นเกมรับได้ดีโดยเฉพาะการอ่านเกม จัดการกับการวิ่งสอดและดักบอลได้ดีมาก เข้าสกัดก็หนักหน่วง ดูจะช้าไปสักหน่อยแต่ยังดีว่าผู้เล่นบอร์นมัทเองก็ไม่ได้เร็วคล่องอะไรนัก ออกบอลยาวได้ค่อนข้างดี จะมีพลาดติดกับดักล้ำหน้าบ่อยหน่อยก็ช่วงต้นเกมเท่านั้น
เฮนเดอร์สัน - วิ่ง รอ จับ พลิก จ่าย จบ ก็ทำหน้าที่เชื่อมเกมได้ดีครับ แต่ก็มีแค่นั้นจริงๆ
คูตินโย่ - ฝืนน้อยลง เล่นง่ายๆ มากขึ้น ผ่านบอลได้ดีทีเดียว แต่ช่วงครึ่งแรกเคลื่อนที่รอรับบอลไม่ค่อยดีนัก และตลอดเกมไม่ค่อยมีลูกจ่ายทีเด็ดทีขาดให้เห็น
โมเสส - รออยู่ ณ ที่ว่างอันไกลโพ้นนนน~ ก็เข้าใจนะว่ารอบอลเปลี่ยนแกน ซึ่งเขาก็ไปที่ว่างได้จริงๆ จับบอลลงและพาบอลไปเองได้ดีกว่านัดหลังๆ ที่ได้ลง กดดันแนวรับคู่ต่อสู้ได้ค่อนข้างดี แถมวันนี้ยิงประตูสำคัญได้ด้วย แต่ที่ไม่เข้าใจเลยคือจะไปรออะไรไกลซะขนาดนั้น คือถ้ารอบอลอยู่บนอัฒจันทร์ได้นี่พี่แกก็คงขึ้นไปรอแล้วละครับ บางจังหวะวิ่งหุบเข้ามาบ้างก็ได้
สเตอริดจ์ - ครึ่งแรกลงมาช่วยเคลลี่เป็นระยะก็ทำได้ระดับกองหน้าไล่บอลแล้วล่ะ จบสกอร์ในโอกาสแรกได้เด็ดขาด ช่วงครึ่งแรกนี่ยังวิ่งทำทางไม่ค่อยดีเท่าไหร่และเล่นเชื่อมกับเพื่อนติดๆ ขัดๆ อยู่แต่ยิ่งเล่นก็ยิ่งคล่องขึ้น
ซัวเรส - เป็นเกมที่พาบอลไปเองค่อนข้างน้อยถ้าวัดจากมาตรฐานซัวเรส ครึ่งแรกได้บอลไม่เยอะนักแต่ที่เด็ดอยู่ที่การผ่านบอลเข้าทำ โอกาสในครึ่งแรกของทีมนี่แทบจะมาจาการผ่านบอลเข้าทำของซัวเรสคนเดียวเลย ครึ่งหลังก็ยังจ่ายบอลเข้าทำได้ดีอยู่เรื่อยๆ วันนี้ 2 แอสซิสเลย ถ้าไม่มีซัวเรสในสนามก็คงต้องลุ้นกันอีกหลายตลบครับกว่าจะได้ 2 ลูกเนี่ย...แต่ยิงเองวันนี้ไม่สำเร็จ
ตัวสำรอง
ฟลานาแกน - ลงมาในเวลาลั๊ลลา คุณน้องเธอวิ่งเติมเกมรุกถึงหน้าเขตโทษเพลินเลย เกมรับก็เล่นได้พอประมาณ ไม่ได้เหนียวแน่นมากแต่ก็ไม่ได้รั่ว
อัลแบร์โต้ - เชื่อมเกมได้ในระดับเดียวกับคูตินโย่ พยายามจะจ่ายบอลเกมรุกมากกว่าแต่ก็ไม่ค่อยดีนักในเรื่องนั้น
สเตอริ่ง - ได้ลงมาแว้นโชว์ความเร็ว บอลเบิลไม่ค่อยได้หรอกครับ
แมน ออฟ เดอะ แมทช์ : ...หลุยส์ ซัวเรส... ฤดูนี้ยิงกระจายก็จริง แต่ลูกจ่ายนี่เผลอๆ จะน่ากลัวกว่าลูกยิงอีกมั้ง นัดนี้ก็ด้วย
------------------------------------------------------------
Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น