วันเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

เอฟเวอร์ตัน 3 - 3 ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีค)


...ศึกวันทรงชัย...
--------------------------------------------------------

ลิเวอร์พูลเล่น 4-3-2-1

-------------------------ซัวเรส-------------------------
คูตินโย่-------------------------------------เฮนเดอร์สัน
------------ลูคัส-------เจอราร์ด-------อัลเลน----------
ฟลานาแกน---แอกเกอร์-------สเคอเทล------จอห์นสัน
------------------------มินโยเล่-------------------------

_______ ลิเวอร์พูลเดินไปเยือนเอฟเวอร์ตันที่กูดิสันพาร์คหลังพักยาวมาจากเกมทีมชาติ นัดนี้สเตอริดจ์ยังไม่ฟิตและเอนริเก้ผ่าเข่าพักยาว 2 เดือน ร็อดเจอร์ตัดสินใจใช้ฟลานาแกนลงตัวจริงในตำแหน่งแบ็คซ้าย หันมาใช้หน้าเดี่ยวคือซัวเรส แล้วใส่อัลเลนเพิ่มเข้ามาในแดนกลาง
-------------------------------------------------------

_______ เริ่มเกมมาก็วิ่งไล่อัดกันแบบไม่รอดูเชิงมวย เกมเร็วแต่ไม่ปะติดปะต่อด้วยกันทั้งคู่ แล้วก็เป็นลิเวอร์พูลที่ทำได้ก่อนอย่างรวดเร็วในนาที 5 จากลูกเตะมุม เจอราร์ดเปิดเข้ามาหน้าเขต 6 หลา บอลโดนซัวเรสแล้วตกมาเข้าทางคูตินโย่ดีดบอลข้ามเส้นเข้าไปได้ 1-0

_______ ทางเอฟเวอร์ตันเองก็ใช้เวลาไม่นานนัก เพียงนาที 8 จากลูกฟรีคิก เปิดบอลลึกเข้าไปในเขตโทษ บาคลี่ย์ขึ้นโหม่งกับแนวรับแล้วบอลไปเข้าทางมิราลาสที่เติมขึ้นมาทางมุมเสา ชาร์จเข้าไปได้เป็น 1-1

_______ ช่วงต้นเกมนี้เป็นเอฟเวอร์ตันที่ทำได้ดีกว่า เมื่อสามารถเก็บบอลจังหวะ 2 ได้ ตัดบอลคืนได้เร็วกว่า ครองบอลและบุกใส่ได้ค่อนข้างดีโดยเฉพาะบอลเปิดจากริมเส้นและการพักบอลเล่น ของลูกากู ส่วนลิเวอร์พูลช่วงต้นเกมเน้นคุมโซนหน้าเขตโทษเยอะ ไล่บอลแดนกลางน้อยและเก็บบอลไม่ได้มากนัก

_______ อย่างไรก็ตาม แม้ในเกมเปิดจะไม่ค่อยมีโอกาสแต่ลิเวอร์พูลมาขึ้นนำได้อีกครั้งจากลูกตั้ง เตะ นาที 19 ซัวเรสรับหน้าที่ยิงฟรีคิกระยะไกล บอลมุดเข้าช่องว่างระหว่างกำแพงที่แคบนิดเดียวแถมเลี้ยวเบียดเสาเข้าไปได้ อย่างสุดยอด ขยับหนีเป็น 2-1 ได้สำเร็จ

_______ หลังจากขึ้นนำได้อีกครั้ง เกมของลิเวอร์พูลดูดีขึ้น แม้การตั้งเกมรุกและการครองบอลยังไม่ค่อยกระเตื้องสักเท่าไหร่ แต่เกมรับแน่นขึ้น โดยเฉพาะแดนกลางสามารถดักตัดบอลได้ก่อนที่จะโดนเอฟเวอร์ตันเปิดบอลเข้าทำ ถ้าเล่นหลายจังหวะเอฟเวอร์ตันจะโดนตัดก่อนได้ลุ้นเปิดหรือยิง ถ้าทำเร็วก็ไม่แม่นยำพอ ทำให้ลิเวอร์พูลที่ไม่ได้บุกเยอะดูเป็นคุมเกมได้ดีกว่า ก่อนจะจบครึ่งแรกไปที่สกอร์ 2-1

_______ เข้าครึ่งหลัง เอฟเวอร์ตันเปิดเกมรุกมากขึ้น ส่วนลิเวอร์พูลไม่ได้เน้นเกมรับเท่าไหร่ ยังคงเล่นไม่ตามจังหวะ ถ้ามีช่องวางยาวก็โยนให้ซัวเรสทัีนที ถ้าไม่มีก็พยายามเคาะตั้งบอลบุก ไม่ได้ถอยไปรับลึก ช่วงต้นครึ่งหลังเป็นเอฟเวอร์ตันที่ทำได้ดีขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเปลี่ยนดิโลโฟลลงมาแทนเบนห์ในนาที 50 การพาบอลขึ้นมาเองสามารถฝ่าแดนกลางของลิเวอร์พูลได้น่ากลัวมากขึ้น ทำให้ช่วงนี้เกมเปิด ทั้งสองฝ่ายหาโอกาสได้พอๆ กัน แต่ยังทำอะไรกันไม่ได้

_______ ผ่าน 1 ชั่วโมงของเกมไป เอฟเวอร์ตันเริ่มทำได้ดีมากขึ้นเรื่อยๆ บอลริมเส้นได้เปิดต่อเนื่อง แม้ลิเวอร์พูลจะยังหาโอกาสได้เป็นระยะ แต่ถ้าพูดถึงรูปเกมเริ่มเป็นรองแล้ว นาที 68 ร็อดเจอร์ปรับเกมเอาโมเสสลงมาแทนอัลเลน หุบเอาเฮนเดอร์สันมาเล่นข้างในแล้วใช้โมเสสที่ริมเส้นขวา ซึ่งปรับแล้วยังดูไม่ค่อยได้ผลเท่าไหร่

_______ นาที 72 เอฟเวอร์ตันตามตีเสมอได้สำเร็จจากจังหวะต่อเนื่องจากลูกฟรีคิกที่แนวรับลิ เวอร์พูลสกัดกันไม่ขาดประกอบกับบอลเป็นใจให้เอฟเวอร์ตันนิดๆ จังหวะสุดท้ายเป็นลูกากูที่ได้แถวหน้าจุดโทษเข้าไปได้ 2-2 หลังจากนั้นรูปเกมยังไม่เปลี่ยน นาที 79 ร็อดเจอร์ตัดสินใจเสี่ยงส่งสเตอริดจ์ลงมาแทนลูคัสซึ่งโดนเหลืองไปแล้ว รวมไปถึงเน้นเล่นเกมบุกมากขึ้น ทำให้เกมเปิดแลกแบบตายกันไปข้างไม่ยอมจบ 2-2 ทั้งคู่

_______ อย่างไรก็ตาม ก่อนที่การเร่งเกมบุกจะได้ผล กลายเป็นเอฟเวอร์ตันที่แซงนำได้ก่อนจากลูกตั้งเตะ นาที 82 ลูกเตะมุมที่เปิดเข้ามากลางประตู ลูกากูสลัดหลุดจอห์นสันและขึ้นได้ดีกว่าฟลานาแกนโหม่งเข้าไปได้ 3-2 ถึงตรงนี้ลิเวอร์พูลดันเกมรุกเต็มที่ ซึ่งเกมรุกกดดันได้มากขึ้นแต่คุมเกมกับคุมบอลไว้ไม่ค่อยได้ ทำให้ทั้งสองฝ่ายยังมีโอกาสทำประตูอยู่ตลอด แต่ในที่สุดก็เป็นลิเวอร์พูลที่ตีเสมอได้สำเร็จในนาที 89 จากลูกฟรีคิก เจอราร์ดเปิดเข้าหัวสเตอริดจ์โหม่งเช็ดเข้าไปได้ 3-3 หลังจากนั้นแม้จะเหลือไม่กี่นาทีแต่ทั้งสองฝ่ายก็ยังมีโอกาสได้ลูกที่ 4 กันอีกไม่น้อยแต่ทำไม่สำเร็จ จบเกมไปแบบสุดมัน 3-3
-----------------------------------------

_______ ตัดเรื่องมิราลาสน่าจะโดนใบแดงตั้งแต่ครึ่งแรกออกไป นัดนี้เสมอได้ก็ถือว่าสมเหตุสมผลแล้วครับ

_______ วันนี้ร็อดเจอร์ปรับ 11 ตัีวจริงตามสภาพทีม ฟลานาแกนได้ลงตัวจริงก่อนซาโก้และซิสโซโก้อาจจะน่าแปลกใจไปหน่อย แต่ร็อดเจอร์ก็บอกก่อนแล้วว่าตอนซ้อมฟลานาแกนทำได้ดี อันนี้ก็ต้องปล่อยให้คนที่เห็นผู้เล่นอยู่กับตาว่ากันไป ส่วนในเรื่องที่อัลเลนได้ลงและโมเสสต้องนั่งเป็นเพราะทีมต้องการคุมแดนกลาง ให้แน่นก่อนมากกว่า ดังนั้น 11 ตัวจริงดูโอเคแล้วครับสำหรับผม

_______ ช่วงต้นเกมนั้นลิเวอร์พูลดูจะเน้นคุมโซนมากไปสักนิด ในขณะที่เอฟเวอร์ตันดูขยันและฟิตกว่า แต่หลังจากเกมผ่านไปได้สักราว 20 นาที ลิเวอร์พูลก็ทำได้ตามแทคติคที่วางไว้คือไม่ได้ปล่อยให้เอฟเวอร์ตันมีโอกาสจบ มากนัก ตัดเกมได้ก่อนโดนเปิดเข้าทำ บุกไม่ค่อยได้แต่คุมเกมได้ แต่ครึ่งหลังโดยเฉพาะช่วงต้น ผมคิดว่าร็อดเจอร์พลาดที่ปล่อยให้ทีมเล่นตามสบายมากไปนิด แดนหลังยืนค่อนข้างสูงจังหวะตั้งเกมรุก คุมโซนหลวมกว่าในครึ่งแรก และการวิ่งไล่ก็ทำได้ไม่ดีนัก ยิ่งพอเจอเดโลโฟลลงมาอีกยิ่งไปกันใหญ่ โดนบอลทำเร็วเล่นงานหลายต่อหลายครั้ง ทำให้รูปเกมที่ดูได้เปรียบในครึ่งแรกสลายหายไปเรียบ

_______ ส่วนการเปลี่ยนตัวและแก้เกม ตอนเปลี่ยนโมเสสนั้นดีแล้วเพราะช่วงนั้นลิเวอร์พูลมีพื้นให้เล่นค่อนข้าง เยอะจากการเติมเกมสูงของเอฟเวอร์ตัน ใช้โมเสสน่าจะได้ลุ้นกับความเร็วความคล่องมากกว่าใช้เฮนเดอร์สัน(แต่ผลดัน ไม่ออกมาตามต้องการ) ส่วนการเปลี่ยนสเตอริดจ์แทนลูคัสหลังจากโดน 2-2 ตรงนี้คงต้องบอกว่าร็อดเจอร์เลือกเสี่ยงมากกว่าผิดพลาด เพราะ 1. ลูคัสเหลืองไปแล้วในเกมที่เสี่ยงจะต้องตัดฟาลว์อีก 2. โอกาสชนะมันก็มี

_______ จุดเปลี่ยนสำคัญของเกมขอวกกลับมาที่จังหวะได้ใบเหลืองของมิราลาส ลูกนั้นซัวเรสแตะบอลไปแล้วและมิราลาสจิ้มเข้าไปที่เข่า ยังไงก็แดงไม่ต้องสืบแต่ดันได้แค่ใบเหลือง ถ้าเอฟเวอร์ตันเหลือ 10 คนทั้งยังตาม 2-1 ครึ่งหลังลิเวอร์พูลน่าจะปิดเกมได้ไม่ยาก ถือว่าโชคร้ายครับสำหรับเรื่องนี้

_______ แต่เรื่องนั้นก็ส่วนเรื่องนั้น ถ้ามัวแต่โวยวายคร่ำครวญถึงการตัดสินของกรรมการก็ไม่ต้องเล่นกันแล้วครับ ฟุตบอล อีกทั้งจังหวะนั้นแม้จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญแต่ผมไม่คิดว่าเป็นจุดตัดสินเกม ที่ตัดสินเกมเป็นแท็คติคของผู้จัดการทีมทั้งสองคนมากกว่า ทั้งคู่กล้าเล่นแบบจะเอาชนะ ทางเอฟเวอร์ตันหลังจากตีเสมอได้ 2 ครั้งพวกเขาเดินหน้าต่อตลอด พึ่งจะมาพยายามปิดเกมเอาตอนที่ขึ้นนำได้ในนาที 82 นี่เอง ส่วนทางลิเวอร์พูลช่วงที่ขึ้นนำ 2-1 แล้วพวกเขายังเดินหน้าต่อ(แม้จะไม่ได้คลั่งดันกันขึ้นไปทั้งทีม) ไม่ได้พยามชะลอเกมแต่อย่างใด แถมตอนที่เกมอยู่ที่ 2-2 ยังเปลี่ยนตัวแบบจะเอาอีกต่างหาก

_______ ... 3-3 นี่ก็เหมาะสมแล้ว เป็นเกมที่สนุกมากด้วย

_______ อ้อ เกือบลืม นัดนี้เป็นศึกดวลลูกตั้งเตะด้วยนะ ทั้ง 6 ลูกมาจาก / ต่อเนื่องจากลูกตั้งเตะทั้งนั้น

 -------------------------------

นัดนี้เล่นกันพอใช้ได้

ร็อดเจอร์ - วาง 11 ตัวจริงดี มีแค่แบ็คซ้ายเท่านั้นที่อาจโดนสงสัยบ้างว่าซาโก้จะดีกว่าไหม แท็คติคเริ่มเกม, การแก้เกมทำได้ค่อนข้างดี มีพลาดหน่อยก็ตอนต้นครึ่งหลังที่ปล่อยให้ลูกทีมเล่นหลวมเกินไป ปล่อยให้กลางเอฟเวอร์ตันเล่นง่าย

มินโยเล่ - เซฟลูกหลุดเดี่ยวได้ถึง 3 ครั้ง สุดยอดมากกับเรื่องการเซฟ ออกมาตัดบอลโด่งวันนี้ก็ทำได้ดีและออกบอลไม่พลาด ที่ดูจะไม่ค่อยดีนักคือการวิ่งออกมาจากเส้นที่ทำได้ช้า หลายครั้งควรออกมาได้เร็วกว่านั้นและตัดบอลได้ก่อนที่บอลจะถึงกองหน้า ... แต่ถึงงั้นก็เถอะ ออกช้าแต่บล็อคได้ตลอดนะ

ฟลานาแกน - โดนเลี้ยงจี้ใส่จังหวะตัวต่อตัวนี่โดนสลัดหลุดได้เกือบทุกครั้งไม่ว่าจะเป็นใครมา แต่ทำได้ดีมากในเรื่องการอ่านเกม ตัดบอลก่อนถึงคู่ต่อสู้ได้ดีและผละจากตำแหน่งมาตัดบอลได้เยี่ยม เชื่อมเกมพอใช้ได้ เกมรุกอย่าไปยุ่งอะไรกับคุณน้องเธอ ฟอร์มยังไม่ถึงกับฝากผีฝากไข้ได้ แต่ก็ไม่ได้แย่จนควรโดนดองเค็ม

แอกเกอร์ - พลาดเยอะพอสมควรกับการอ่านเกมและอ่านทางบอล ไม่ถึงกับรั่วแต่เจ้าตัวเคยทำได้ดีกว่านี้เยอะ

สเคอ เทล - การสกัดและประกบยังดีอยู่ หยุดไม่ให้ลูกากูพลิกได้แล้ว แต่คู่ต่อสู้ยังเก็บบอลได้เยอะอยู่ (อันนี้คงไม่ใช่สเคอเทลคนเดียว บางจังหวะก็เป็นแอกเกอร์ที่ประกบเหมือนกัน)

จอห์นสัน - เกมรับเล่นได้ค่อนข้างดี วิ่งลงไม่ทันบ้างแต่ไม่มากนัก จังหวะโดนเลี้ยงจี้หยุดได้ พลาดหน่อยก็ต้องคู่ต่อสู้เปิดบอลเข้ากลางง่ายไปนิด การเชื่อมเกมทำได้ดี เกมรุกวันนี้ไม่ค่อยขึ้น ที่ขึ้นไปบ้างก็ทำพอใช้ได้

ลูคัส - ครึ่งแรกเล่นได้ดี โดยเฉพาะช่วงกลางจนถึงจบครึ่งแรกที่ดักตัดบอลได้ตลอดและหยุดเกมคู่ต่อสู้ได้ แต่ครึ่งหลังพอเจอจังหวะทำเร็วและการเลี้ยงจี้มากๆ เข้าเริ่มเข้าถึงบอลช้าจนเสียฟาลว์บ้าง สลัดหลุดไปได้บ้าง

เจอราร์ด - เล่นพลาดเยอะเหมือนกัน ไม่ว่าจะออกบอลหรือเข้าบอล แต่ยังมีบอลผ่านสวยๆ ให้เห็นเป็นระยะๆ อยู่ตลอดเกม วันนี้เปิดลูกตั้งเตะได้ดีด้วย

คูตินโย่ - ครึ่งแรกถ้าไม่นับลูกแรกที่ยิงให้ทีม แทบไม่รู้ว่าเธออยู่ตรงนี้ ช่วงครึ่งหลังโดยเฉพาะช่วงต้นจนถึงกลางครึ่งเริ่มได้บอลและเล่นได้มากขึ้นแต่ก็ัยังเอาชนะคู่ต่อสู้ได้ไม่มากนัก

เฮนเดอร์สัน - เชื่อมเกมดี ตอนยืนริมเส้นก็ทำเกมรุกพอใช้ได้ เอาตัวรอดจากการโดนไล่ยังพอได้อยู่ ไม่ค่อยเสียบอลแต่บอลที่ออกไปส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ช่วยเพื่อนร่วมทีมมากนัก คุมพื้นที่ในช่วงที่ต้องเล่นด้านในได้ตามเนื้อผ้า คือไม่แน่นเท่าไหร่แต่ไม่ได้แย่ไปกว่าลูคัส(เวอร์ชั่้นครึ่งหลัง)

อัลเลน - ทำได้ดีในเรื่องการอ่านเกมและคุมพื้นที่ ครึ่งแรกหยุดเกมแดนกลางและเชื่อมเกมได้ดี พอเข้าครึ่งหลังเริ่มมีปัญหากับการโดนเลี้ยงจี้และการเล่นเร็วของเอฟเวอร์ ตันพอสมควร และตลอดเกมแทบหาบอลเกมรุกไม่ได้เลย มีจังหวะหลุดเดี่ยวแบบโคตรเดี่ยวครั้งนึงด้วยแต่ยิงหลุดกรอบไปซะอย่างนั้น

ซัวเรส - เล่นหน้าเดี่ยว โดนประกบติดตลอด ช่วงต้นเกมได้บอลน้อยแต่ทุกครั้งที่ได้ก็ทำประโยชน์ให้กับทีมได้ไม่ว่าจะ เก็บบอลไว้กับตัวหรือเรียกฟาลว์ และตลอดเกมทำเกมได้ดีโดยเฉพาะจังหวะที่ถอยลงมาเล่นร่วมกับกองกลาง ยิงฟรีคิกได้สุดสวยด้วย

ตัวสำรอง 

โมเสส - แทบไม่รู้ว่าลงมา ทำอะไรได้น้อยมาก มีโอกาสได้โหม่งตัดหน้าฮาเวิร์ดครั้งนึงแต่บอลมาแรงและวิ่งถลำไปหน่อยแล้วเลยโหม่งข้ามคาน

สเตอริดจ์ - จับบอลจังหวะแรกดีมาก วิ่งหาพื้นที่พอใช้ได้ แต่จังหวะจะเลี้ยงบอลดูไม่ค่อยจะเป็นประโยชน์เท่าไหร่ ขึ้นโหม่งลูกตีเสมอช่วยทีมไว้ได้

แมน ออฟ เดอะ แมทช์ : ...ซิมง(หรือไซม่อน สรุปมันอ่านยังไง) มินโยเล่... หลุดเดี่ยวนะครับ หลุดเดี่ยว แถมเจอไปตั้ง 3 - 4 ครั้ง เซฟได้หมด ทำได้ยางงงง๊ายยย~
------------------------------------------------------------

Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.

วันเสาร์ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ลิเวอร์พูล 4 - 0 ฟูแล่ม (พรีเมียร์ลีค)


...มีคนงอนค่ะ ดิฉันสัมผัสได้...
--------------------------------------------------------

ลิเวอร์พูลเล่น 4-2-2-2

----------------สเตอริดจ์-------ซัวเรส------------------
คูตินโย่-------------------------------------เฮนเดอร์สัน
---------------ลูคัส------------เจอราร์ด----------------
ซิสโซโก้------แอกเกอร์-------สเคอเทล------จอห์นสัน
------------------------มินโยเล่-------------------------

_______ ลิเวอร์พูลเปิดบ้านรับมือฟูแล่มที่สภาพทีมไม่สมบูรณ์ขาดฮาเกอร์ลัน, รีทเธอร์และรูอิซ ร็อดเจอร์ปรับมาใช้หลัง 4 มีโดยมีแอกเกอร์กับสเคอเทลได้ลงตัวจริง จอห์นสันกับคูตินโย่ฟิตลงได้แล้ว นอกนั้นยังใช้ผู้เล่นชุดเดิม
-------------------------------------------------------

_______ เริ่มเกมมาก็เป็นลิเวอร์พูลที่เปิดฉากรุกใส่ก่อนเลย ตัดบอลกลับมาได้เร็วและครองบอลอยู่ฝ่ายเดียว เล่นเกมรุกเต็มที่เน้นขึ้นเกมทางริมเส้นขวา ซึ่งทำได้ต่อเนื่องไหลลื่นทั้งจากจอห์นสันและเฮนเดอร์สัน มีโอกาสเปิดบอลเข้าทำเรื่อยๆ แต่ยังติดกองหลังฟูแล่มอยู่

_______ ผ่าน 10 นาทีแรกของเกมไปฟูแล่มถึงได้โงหัวจากหน้าเขตโทษตัวเองบ้าง ครองบอลได้มากขึ้นแต่ก็พาบอลไปถึงเขตโทษแทบไม่ได้ มีโอกาสลุ้นประตูแค่ครั้งสองครั้ง และในเกมรับก็เอาแต่ยืนดูคุมพื้นที่เป็นหลัก ทำให้เกมรุกของลิเวอร์พูลเล่นกันได้ง่ายและพาบอลไปถึงเขตโทษอยู่ตลอด

_______ ลิเวอร์พูลยังจบสกอร์ในเกมเปิดไม่ได้ แต่มาทำได้จากลูกตั้งเตะ นาที 23 เจอราร์ดเปิดฟรีคิกวางเ้ข้ามาในกรอบหกหลาเสาแรก ซัวเรสกับแอกเกอร์ที่รออยู่ขึ้นไม่ถึงบอลแต่บอลไปตกใส่แขนอมอริเบียต้ากอง หลังฟูแล่มเข้าประตูตัวเองไปเป็น 1-0 หลังจากนั้นเกมของลิเวอร์พูลยังคงดีต่อเนื่อง โดยเฉพาะทางขวาที่ผ่านตลอด แล้วในที่สุดก็มาบวกเพิ่มได้อีกอย่างรวดเร็วในนาที 26 จากลูกเตะมุมที่เจอราร์ดเปิดเข้ามาหน้าเส้น 6 หลา สเคอเทลวิ่งเบียดเอาชนะอมอริเบียต้าเข้าถึงบอลชาร์จโหม่งเข้าไปได้สำเร็จ 2-0

_______ พอนำห่างแล้วลิเวอร์พูลก็ยังไม่ได้ผ่อนเกม ในขณะที่ฟูแล่มเองยิ่งถอยต่ำมากขึ้นไปอีกทำให้โต้ไม่ขึ้น อย่าว่าแต่จะโต้ขึ้นมาลุ้นทำประตู แต่พาบอลเลยเส้นครึ่งสนามมายังลำบาก ลิเวอร์พูลยังคงเล่นกันสบายต่อไปจนกระทั่งนาที 36 ก็ทำได้อีกครั้ง จากจังหวะที่เจอราร์ดจ่ายบอลขวางสนามจากซ้ายไปขวา บอลเข้าเท้าเฮนเดอร์สันแตะหลบตัวประกบหนึ่งจังหวะก่อนจะแทงทะลุช่องให้ซัว เรสหลุดเข้าไปยิงในเขตโทษได้สำเร็จ 3-0

_______ โดนไปสามลูกแต่ฟูแล่มยังเล่นเกมของตัวเองไม่ได้ ลิเวอร์พูลยังคงบุกได้เรื่อยๆ แต่ยังไม่ได้ประตูเพิ่ม จบครึ่งแรกที่ 3-0

_______ เข้าครึ่งหลัง ฟูแล่มลงมาเร่งเกมรุกมากขึ้น เติมขึ้นหน้ามากขึ้นแต่ยังไม่ทันได้ทำอะไรก็กลายเป็นโดนลิเวอร์พูลทำเกมรุก เร็วขึ้นมาล่อเป้าแบบน่าได้ 2-3 ครั้งแต่ยังไม่เป็นประตู ฟูแล่มแทนที่เกมจะดีขึ้นแต่ยิ่งเล่นยิ่งแย่ ส่วนลิเวอร์พูลตัดบอลกลับมาทำเกมรุกเร็วได้ดีต่อเนื่องแล้วก็ทำได้ในเวลาไม่ นานนัก นาที 54 จังหวะที่ฟูแล่มจะขึ้นเกม เฮนเดอร์สันกับเจอราร์ดช่วยกันไล่แย่งบอลมาได้ก่อนจะเป็นเจอราร์ดจ่ายทะลุ ให้ซัวเรสหลุดเดี่ยวเข้าไปยิงได้สำเร็จ 4-0

_______ หลังจากโดนไปอีกลูก ฟูแ่ล่มเล่นเหมือนถอดใจ ปล่อยเบอร์บาตอฟเหงาตายอยู่ข้างหน้าคนเดียวและครองบอลแทบไม่ได้ กลายเป็นลิเวอร์พูลที่ได้ครองบอลกันสบายและหาจังหวะเข้าทำได้เป็นระยะ ผ่านหนึ่งชั่วโมงของเกมไป ร็อดเจอร์ก็เริ่มเปลี่ยนตัวสำรองลงสนาม นาที 61 เอนริเก้ได้ลงแทนซิสโซโก้ ลิเวอร์พูลเริ่มเ้น้นเคาะครองบอล นาที 66 อัลเลนแทนเจอราร์ด ยิ่งเคาะมากขึ้นไปอีก นาที 76 โมเสสลงแทนสเตอริดจ์ ถึงตรงนี้ก็เปลี่ยนมาเล่นพินบอลกันแล้ว

_______ ครึ่งชั่วโมงสุดท้ายของเกม (ตั้งแต่เริ่มเปลี่ยนตัวสำรอง) แม้ลิเวอร์พูลจะเน้นการครองบอลมากขึ้น แต่ก็ยังอุตส่าห์หาจังหวะได้ลุ้นยิงประตูเรื่อยๆ กว่าจะจบเกมได้ยิงรวมกันน่าจะราวๆ 30 ครั้งเห็นจะได้ แต่หลายครั้งก็เล่นออกฝืนๆ เหมือนพยายามจะปั้นสเตอริดจ์กันมากเกินไป บางครั้งก็ยิงกันไม่ดีเอง และหลายครั้งก็ติดเซฟผู้รักษาประตูบ้างติดบล็อคกองหลังบ้าง เลยทำประตูเพิ่มไม่ได้ ส่วนฟูแล่มอยากกลับบ้านกันตั้งแต่นาที 54 แล้ว ไม่ได้พยายามอะไรสักเท่าไหร่ ทำให้จบเกมลิเวอร์พูลเอาชนะไปได้ที่ 4-0
-----------------------------------------

_______ ฟูแล่มห่วยจัง แต่ลิเวอร์พูลก็เล่นดีจริงเหมือนกันครับ

_______ วันนี้ร็อดเจอร์ปรับกลับมาเล่นกองหลัง 4 ตัว และใช้คูตินโย่กับเฮนเดอร์สันทำเกมรุกหน้าเขตโทษเป็นหลัก ทางคูตินโย่นั้นจะหุบเข้ามาเล่นข้างในเยอะ ส่วนเฮนเดอร์สันจะถ่างไปเล่นด้านข้างเป็นระยะๆ เวลาที่จอห์นสันยังไม่เติมขึ้นมา และมีเจอราร์ดเติมขึ้นมาเล่นหน้าเขตโทษบ่อยครั้งด้วย ดันแผงหลังขึ้นสูง เสียบอลแล้วไล่เร็วในแดนหน้า ทีมเล่นเกมรุกตั้งแต่นาทีแรกยันนาทีสุดท้ายและทำได้ดีด้วย รูปเกมดีกว่าตลอด 90 นาทีและได้ถึง 4 ประตู...ที่ถ้าดูจากเกมแล้วน่าจะได้มากกว่านั้นด้วยซ้ำ สำหรับแทคติคแล้วต้องถือว่าร็อดเจอร์ทำได้ดีที่เลือกเน้นเกมรุกเต็มที่แบบ นี้ครับ เจอฟูแล่มฟอร์มไม่ดีแบบนี้จะมาดูเชิงอะไรกันให้เสียเวลา

_______ ขอเริ่มที่ฟูแล่มก่อน วันนี้พวกเขาเล่นได้แย่มากและเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกมออกมาเป็นแบบนี้ ทั้งรูปเกมและผลลัพธ์ เกมรุกหวังพึ่งเบอร์บาตอฟอย่างเดียว ไม่มีคนอื่นช่วยทำเกม แถมกองกลางยังไม่ค่อยจะช่วยขึ้นมารองบอลจากเบอร์บาตอฟด้วยยิ่งไปกันใหญ่ เกมรับก็เอาแต่ยืนดู เข้าบอลช้า ปล่อยใ้ห้กลางลิเวอร์พูลต่อบอลกันได้ง่ายเกินไป รวมไปถึงทั้งการเปลี่ยนรับเป็นรุกและเกมโต้กลับเร็วก็ดูไม่จืดทั้งนั้น โดนแค่ 4 ถือว่าปรานีสำหรับพวกเขามากแล้วครับ

_______ อย่างไรก็ตาม วันนี้สิ่งที่ตัดสินเกมคือฟอร์มของผู้เล่นลิเวอร์พูลเอง ส่วนหนึ่งที่ฟูแล่มเล่นแย่ก็เพราะโดนลิเวอร์พูลกดดันหนักด้วย และผู้เล่นลิเวอร์พูลเองก็ทำหน้าที่ของตัวเองกันได้ดีทั้งทีม ความผิดพลาดส่วนบุคคลมีน้อยมาก เล่นกันได้ตามแผนทุกอย่าง ทำได้ผลลัพธ์ตามต้องการไปในที่สุด

_______ ส่วนสิ่งที่ดีและเป็นหมัดเด็ดในวันนี้หนีไม่พ้นลูกตั้งเตะ นอกจากจะเล่นเกมรับลูกตั้งเตะ(ซึ่งไม่ค่อยจะมีอยู่แล้ว)ได้ดี ในจังหวะรุกยังทำประตูจากลูกตั้งเตะได้ถึง 2 ลูก ทำให้เกมเล่นง่ายตั้งแต่ครึ่งแรก จะบอกว่าอบอริเบียต้าพลาดก็ได้เพราะเจ้าตัวพลาดทั้ง 2 ลูก แต่บอลที่เปิดเข้าทำและทิศทางของคนที่วิ่งไปรอก็ถือว่าทำได้ดี ลูกแรกเฉียดทั้งหัวแอกเกอร์และซัวเรส ลูกที่สอง สเคอเทลก็วิ่งไปเข้าทางบอลได้ดี

_______ วันนี้ถ้าจะมีประเด็นอะไรให้หนักใจบ้างก็คงเป็นเรื่องของสเตอริดจ์ เจ้าตัวดูหงุดหงิดตั้งแต่ครึ่งแรกที่ได้บอลไม่มากนัก และครึ่งหลังก็หวงบอลเล่นเองแบบเห็นได้ชัด ทั้งยังมาโดนเปลี่ยนตัวออกอีก ช่วงครึ่งหลังเพื่อนหลายคนก็เพียรจะปั้นให้เหลือเกินจนหลายครั้งเสียโอกาส ที่ดีไปเพราะหลายครั้งที่ว่ามีซัวเรสและเฮนเดอร์สันวิ่งทำทางไปในตำแหน่งที่ ดีกว่าแล้วแต่บอลไปที่สเตอริดจ์ และทั้งเกมนี้การประสานระหว่างคู่กองหน้าแทบไม่มีเลยครับ ร็อดเจอร์คงต้องรีบปรับทัศนคติของสเตอริดจ์โดยด่วนเพราะนี่เป็นคนที่อยู่กับ ทีมไปอีกพักใหญ่ๆ (ซัวเรสน่าจะไปก่อน)

_______ ...งอนนานๆ จะพาลทีมป่วนนะริดจ์นะ
 -------------------------------

นัดนี้เล่นกันได้ดี...มาก

ร็อดเจอร์ - คูตินโย่กลับมาแล้วมีคนทำเกมก็เลิกใช้ 3-5-2 วาง 11 ตัวจริงและแทคติคเริ่มเกมได้ดีที่เดินหน้ารุกเต็มที่ ที่ประทับใจคือให้เจอราร์ดสลับขึ้นมาเล่นเกมรุกด้วย ส่วนการเปลี่ยนตัว เกมไม่มีอะไรก็ให้ตัวสำรองมาเรียกความฟิตกันบ้างก็ดีแล้ว

มินโยเล่ - เตะเปิดบอลเสียไปพอสมควร แต่รับ-เล่นบอลคืนหลังได้ดี จังหวะเซฟไม่มีเพราะไม่มีอะไรให้เซฟ

ซิสโซโก้ - เล่นได้แย่ถ้าเทียบกับคนอื่นๆ แม้จะไม่ผิดพลาดในเกมรับ (ซึ่งก็ไม่ค่อยจะมีให้เล่น) และการผ่านบอล (ให้ไม่พลาด) แต่พาบอลขึ้นหน้าไม่ได้ไม่ว่าจะแตะไปเองหรือจ่ายบอลขึ้นไป ได้บอลเคาะคืนตลอด เกมรุกฝั่งซ้ายดับสนิท

แอกเกอร์ - งานน้อย คอยรอสอยจังหวะสองเป็นหลักและทำได้ไม่พลาด ดักบอลจ่ายขึ้นหน้าของคู่ต่อสู้ได้ดีด้วย

สเคอเทล - ฟอร์มดีต่อเนื่อง จังหวะชนกับกองหน้าใช้ได้ คู่ต่อพลิกไม่ได้ วันนี้ทำประตูได้ด้วย

จอห์นสัน - ครึ่งแรกเล่นได้โดดเด่นมาก ช่วยให้เกมรุกฝั่งขวาลื่นไหลผ่านตลอด เติมบ่อย, ไปเองได้ ผ่านบอลขึ้นหน้าได้ แต่เปิดบอลเข้ากลางไม่ค่อยดีนัก ครึ่งหลังเล่นพลาดมากขึ้นแต่ก็ยังพอทำอะไรได้บ้าง เกมรับไม่ค่อยจะมีให้เล่นแล้วก็เล่นไม่พลาด

ลูคัส - เข้าวิ่งไล่ถึงบอลได้เร็ว หยุดเกมได้ดี วันนี้ทำได้ดีขึ้นกว่านัดก่อนๆ ในเรื่องการผ่านบอล ทำได้แม่นยำและไปข้างหน้าได้ตลอด

เจอราร์ด - มีเวลาเยอะ ไม่ค่อยโดนกดดัน เลือกช่องให้บอลได้ดี มองเพื่อนทั้งสนาม (คนอื่นในทีมยังทำตรงนี้ไม่ได้) วันนี้มีทีเด็ดจากลูกฟรีคิกด้วย

คูตินโย่ - ครองบอลกับตัวได้ดี แย่งยาก จังหวะให้บอลเชื่อมเกมทำได้ดีแต่บอลจังหวะเข้าทำให้ผิดน้ำหนักหลายครั้ง หาโอกาสยิงเองได้ดีด้วย ได้ยิงหลายครั้งแต่ก็พลาดหลายครั้งเช่นกัน ครั้งที่ยิงดีแล้วก็ดันติดเซฟอีก

เฮนเดอร์สัน - เป็นวันที่เล่นได้ดีมาก ยืนตำแหน่งและเคลื่อนที่หาพื้นที่ได้ดี ช่วงครึ่งแรกแม้จะเปิดบอลเข้ากลางไม่ดีนัก แต่ประสานงานกับจอห์นสันได้ดีมากในการทำเกมรุกริมเส้น ให้บอลแม่น วิ่งไล่บอลก็ทำได้เร็ว หาโอกาสยิงประตูได้พอสมควร...แต่พลาดหมด ช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้ายที่เพื่อนเล่นกันแบบไม่ค่อยมีสมาธิแล้ว เฮนเดอร์สันยังมีสมาธิอยู่ วันนี้ทำได้ 1 แอสซิสต์และช่วยไล่บีบจนเจอราร์ดตัดบอลเอาไปจ่ายให้ซัวเรสในลูกที่ 4 ด้วย

ซัวเรส - เคลื่อนที่ได้ดีมากไม่ว่าจะลงมาเชื่อมเกมตรงกลาง, วิ่งหาพื้นที่ว่างริมเส้น หรือวิ่งทำทางขึ้นหน้า ซึ่งทำให้เกมรุกในพื้นที่หน้าเขตโทษของทีมทำได้ไหลลื่น เพื่อนจ่ายให้ได้ง่าย 2 ประตูที่ทำได้นอกจากคนให้จะให้ดีแล้วต้องชมซัวเรสด้วยที่ทางวิ่งสุดยอด

สเตอริดจ์ - เป็นคนที่ปักหลังค้ำอยู่กับแผงหลัง ตามแทคติคแล้วสเตอริดจ์นั้นช่วยดึงตัวประกบและค้ำแผงหลังได้ดีแล้ว เพื่อนมีพื้นที่เล่นกันมากขึ้น ที่เห็นๆ เลยก็คือคูตินโย่กับซัวเรสที่กองหลังไม่กล้าทิ้งสเตอริดจ์ขึ้นไปไล่มากนัก แต่ทำให้สเตอริดจ์พลอยไม่ค่อยได้บอลไปด้วยในครึ่งแรก ครึ่งหลังก็เล่นไปหงุดหงิดไป ฝืนหลายจังหวะด้วย

ตัวสำรอง 

เอนริเก้ - เกมรับแทบไม่ได้เล่น ส่วนการเชื่อมเกมและเกมรุกทำได้ดีกว่าซิสโซโก้ชัดเลย ไม่ต้องเคาะคืนหลังสักเท่าไหร่

อัลเลน - ราชาพินบอลคนนี้ยังรักษาจุดเด่นในการออกบอลไ้ว้ได้ ที่ทำได้ดีหน่อยก็เห็นจะเป็นการอ่านเกม เพราะมีหลายครั้งที่วิ่งเข้าไปบีบคู่ต่อสู้ได้ก่อนบอลจะถึงเท้าซะอีก แต่รวมๆ ก็เล่นได้ออกจะธรรมดา

โมเสส - ก็เชื่อมเกมพอได้ แต่ก็ทำเกมไม่ค่อยได้สักเท่าไหร่

แมน ออฟ เดอะ แมทช์ : ...สตีเว่น เจอราร์ด... ถ้าดูเฉพาะครึ่งแรกต้องจอห์นสันเท่านั้น จะดูกันเฉพาะประตูก็คงต้องซัวเรส และถ้าเกมจบแค่ 1 หรือ 2-0 ก็จะเลือกเฮนเดอร์สันแบบไม่คิดมาก แต่พอ 4-0 แบบที่เจอราร์ดเปิดลูกตั้งเตะเป็น 2 ประตูแรก, เป็นคนขวางสนามไปให้เฮนเดอร์สันจ่ายให้ซัวเรสในลูกที่ 3, ไล่บอลและจ่ายให้ซัวเรสในลูกที่ 4 รวมถึงมุมมองการผ่านบอลที่ทำได้ดีอยู่ตลอด .... ก็กัปตันเถอะครับวันนี้
------------------------------------------------------------
Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.

วันศุกร์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

เฮนเดอร์สัน...ลูกรัก, ส่วนเกิน หรือคนที่ขาดไม่ได้



_______จอร์แดน เฮนเดอร์สัน เป็นนักเตะสารพัดประโยชน์ที่เล่นได้เกือบทุกตำแหน่งในทีม ไม่ว่าจะกองกลาง กลางรับ กลางรุก ตัวริมเส้นและแบ็ค โดยฤดูกาลนี้ลิเวอร์พูลเตะไปแล้ว 11 นัด แบ่งเป็นพรีเมียร์ลีค 9 นัดและลีคคัพ 2 นัด เฮนเดอร์สันมีส่วนร่วมกับทุกเกม ยิ่งไปกว่ายังเป็นตัวจริงถึง 10 เกม เกมเดียวที่เฮนเดอร์สันไม่ได้เป็นตัวจริงคือการเจอกับน็อต เค้าท์ตี้ในเกมลีคคัพ(ซึ่งนัดนั้นได้ลงมาแทนอัลลเนที่มีอาการบาดเจ็บในนาที 65)

_______แม้จะมีส่วนร่วมกับทีมเยอะ ได้โอกาสสม่ำเสมอ แต่ดูเหมือนเจ้าตัวจะสร้างประโยชน์ให้กับทีมไม่ได้มากนัก ไม่่ว่าจะเป็นแง่ผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัดอย่างเรื่องการยิงประตู (พึ่งทำได้ประตูเดียวในนัดเจอน็อต เค้าท์ตี้) หรือผลงานที่เห็นระหว่างเกมที่เจ้าตัวไม่ว่าจะเล่นตำแหน่งไหนก็ไม่เด่นเมื่อ เปรียบเทียบกับเพื่อนร่วมทีมคนอื่นในตำแหน่งเดียวกัน หลายคนทำได้ดีกว่า ในขณะที่บางคนก็ไม่แย่ไปกว่าเฮนเดอร์สันขณะเล่นตำแหน่งนั้นๆ ทั้งสิ้น

_______...แล้ว ทำไม เฮนเดอร์สัน ถึงได้โอกาสเยอะนัก? ร็อดเจอร์พลาดหรือปล่าว? ดรอปเป็นตัวสำรองจะดีกว่ามั้ย? หรือในกรณีที่เลวร้ายที่สุด ขายทิ้งเลยดีมั้ย? ...

_______ขอเริ่มจากสาเหตุที่เฮนเดอร์สันมีส่วนร่วมกับทีมเยอะก่อน สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากอาการบาดเจ็บของเพื่อนร่วมทีม มีเพียงช่วงเปิดฤดูเท่านั้นที่เฮนเดอร์สันเบียดตำแหน่งอัลเลนมาได้ แต่หลังจากนั้นถือว่าโชคเข้าข้างเจ้าตัวไม่น้อย(แต่เข้าข้างทีมหรือปล่าวนี่ อีกเรื่อง) เพราะอัลเลนเจ็บตั้งแต่นัดน็อต เค้าท์ตี้ ซึ่งเป็นแค่นัดที่สามของฤดูกาลเท่านั้นเอง ถัดจากนั้นยังมีเกล็น จอห์นสัน ซึ่งทำให้เฮนเดอร์สันได้โอกาสเล่นวิงแบ็คในนัดแพ้แมนฯยู, คูตินโย่ที่หายไปร่วม 6-7 นัดเข้าให้อีก

_______แต่สาเหตุหลักซึ่ง ผมคิดว่าทำให้เฮนเดอร์สันได้ลงเล่นเยอะ นั่นคือตัวเฮนเดอร์สันนั้นเล่นได้หลากหลายตำแหน่ง ช่วงเปิดฤดูกาลเขาเริ่มต้นที่กองกลางคุมจังหวะ แต่ในบางจังหวะเกมเขาโดนถอยมายืนต่ำคู่ลูคัสอยู่บ่อยๆ หลังจากนั้นบางเกมยังมีช่วงที่เขาถูกดันขึ้นไปเล่นรุกเต็มตัวอยู่หลังกอง หน้า และตอนที่อัสปาสถูกดรอปไปตั้งแต่นัดเจอสวอนซี เขาถูกถ่างไปเล่นริมเส้นอยู่ 2 นัด พอทีมปรับมาเล่นหลัง 3 เขาถึงได้กลับมาอยู่ที่เดิมคือกองกลาง

_______ผมคิดว่าเฮนเดอร์สันไม่ได้ลงเล่นเพียงแค่เพราะโชคช่วยที่เพื่อนเจ็บ หรือโชคช่วยที่ทีมปรับแทคติคไปมา แต่เป็นตัวเขาเองที่มีความสามารถ ในช่วงที่อัลเลนเจ็บ เขายังดูดีกว่าอัลแบร์โต้ที่ลงมาเล่นแล้วดูจะด้อยเรื่องเกมรับ(ดูนัดน็อต เค้าท์ตี้ประกอบ) ในช่วงที่ลูคัสกับเจอราร์ดไม่ได้ฟอร์มดีนักในเรื่องเกมรับจะเอาอัลแบร์โต้ลง มาอีกคงลำบาก ยามที่ได้ยืนเป็นตัวรุกหลังกองหน้าเขาไม่ได้ดูแย่ไปกว่าอัสปาส(ดูนัด เซาท์แธมป์ตันประกอบ) เล่นไม่ออกเหมือนกันแต่เฮนเดอร์สันทำเสียบอลน้อยกว่า ช่วงที่ได้ขยับไปเล่นตัวรุกริมเส้นนั่นเป็นเพราะเฮนเดอร์สันยังพอครอสบอลได้ ดูดีกว่าทั้งสเตอริ่งและไอบ์ที่อาจจะวูบวาบแต่เล่นได้ไม่สม่ำเสมอ (ดูทุกนัดที่เด็ก 2 คนนี้ได้ลงมาเล่นประกอบ) นัดไหนเจอเกมกดดันก็ไปไม่เป็น แม้กระทั่งตำแหน่งแบ็คขวาหรือวิงแบ็คขวา ถ้ากองกลางมีตัวเลือกมากกว่านี้ เผลอๆ เฮนเดอร์สันจะได้ลงก่อนฟลานาแกนหรือเคลลี่เอาด้วย

_______ดังนั้นผมไม่คิดว่าร็อดเจอร์พลาดครับที่ส่งเฮนเดอร์สันลงตลอด~ ตลอดแบบนี้

_______อ่านถึงตรงนี้แล้วฟังดูดีใช่มั้ยครับสำหรับเฮนเดอร์สัน? แต่!

_______ ถ้าทุกคนในทีมฟิตหมด ผมไม่คิดว่าเฮนเดอร์สัน(ณ ขณะนี้)จะดีพอสำหรับ 11 ตัวจริง จอห์นสันฟิตลืมเรื่องแบ็คกับวิงแบ็คไปได้เลย คูตินโย่, อัลแบร์โต้, จะปิดโอกาสของเฮนเดอร์สันในตำแหน่งตัวรุกหลังกองหน้าและโมเสสหรือ 1 ในคู่กองหน้าจะทำให้เฮนเดอร์สันควรทำได้แค่นั่งดูในตำแหน่งตัวรุกริมเส้นของ 4-3-3 ในตำแหน่งกองกลาง ถ้าลูคัสกับเจอราร์ดขยับฟอร์มขึ้นมาดีกว่าตอนนี้ได้ก็ลืมเฮนเดอร์สันไปได้ เลยเพราะใช้อัลแบร์โต้เพื่อช่วยเกมรุกจะมีประโยชน์กว่า และแม้กระทั่งอัลเลนผมก็คิดว่าดีกว่าเฮนเดอร์สัน

_______ไม่ต้องพูดถึงแชมป์ เอาแค่หวังจะติด Top 4 ผู้เล่นอย่างเฮนเดอร์สัน(ณ ขณะนี้) ไม่สมควรเป็นตัวจริงด้วยประการทั้งปวงครับ

_______อย่าง ไรก็ตาม ทีมทั้งทีมมีปัญหาใหญ่กว่าจะเลือกหรือไม่เลือกใครเป็นตัวจริง อันดับแรกเลยคือเงินทุนที่ไม่ได้มากนัก ขายเฮนเดอร์สันทิ้งคงไม่ได้เงินเป็นกอบเป็นกำแต่คนที่จะมาแทนรับรองว่าโดน ขูดเลือดซิบ ในขณะที่มีตำแหน่งอื่นที่สำคัญกว่ารอให้เสริมก่อน ริมเส้นแท้ๆ สักคนก่อนมั้ย กลางรับมาสำรองหรือใช้แทนลูคัสก่อนมั้ย อันดับถัดมา ถ้าไม่มองถึงการให้โอกาสหรือพยายามพัฒนาผู้เล่นที่มีอยู่ให้ดีขึ้น(สั้นๆ ว่าปั้นนั่นแหล่ะครับ) สักแต่ว่าส่งลงเล่น ไม่ดีขายทิ้ง มันไม่ใช่แค่ต้องการเิงินทุนมากๆ เท่านั้น แต่มันหมายถึงความรู้สึกผูกพันธ์กับสโมสรทั้งในแง่นักเตะต่อนักเตะและแฟนบอล ต่อนักเตะ รวมไปถึงถึงทีมเวิร์คของทีมมันก็ไม่มีตามไปด้วย อันดับสุดท้ายคือ ในเมื่อทีมยังไม่ลงตัวในแง่วิธีการเล่นต้องเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาตามสถานการณ์ แบบนี้ จะรีบทิ้งนักเตะไปคงไม่ใช่เรื่อง เพราะสุดท้ายถ้าทีมไปได้ดีกับบอลคอลโทรล เคาะไปเคาะมาหาช่องยิง บอลแบบเฮนเดอร์สันดีกว่าอีกหลายคนแน่ บ้านยังสร้างไม่ทันเสร็จจะมาเครียดเรื่องวอลเปเปอร์กันทำไม

_______ ยังไม่ต้องพูดถึงว่าเฮนเดอร์สันจะทำได้แค่นี้ไปตลอดอาชีพนักเตะ อนาคตข้างหน้าเขาอาจดีกว่านี้ได้ อย่างน้อยที่สุดเขาก็พัฒนาเรื่องการเคลื่อนที่ขึ้นมาได้มากแล้ว เกมรับดีขึ้น เกมรุกก็กล้าขึ้น (วิ่งเติมขึ้นไปข้างหน้า, ยิงเองมากขึ้น) จริงที่ว่าถึงตรงนี้ยังดีไม่พอ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นก็ยังพอให้มองโลกในแง่ดีได้บ้างจริงไหม?

_______ตอนนี้ก็ช่วยเชียร์เฮนเดอร์สันให้เก่งขึ้นเร็วๆ กันไปก่อนเถอะครับ

Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.  

วันเสาร์ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

อาร์เซนอล 2 - 0 ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีค)


...สมควรแพ้...
--------------------------------------------------------

ลิเวอร์พูลเล่น 3-5-2

----------------สเตอริดจ์-------ซัวเรส------------------
ซิสโซโก้--เฮนเดอร์สัน--ลูคัส---เจอราร์ด---ฟลานาแกน
---------ซาโก้---------สเคอเทล-----------ตูเร่---------
------------------------มินโยเล่-------------------------

_______ ลิเวอร์พูลต้องออกไปเยือนจ่าฝูงอย่างอาร์เซนอลโดยขาดจอห์นสันเพิ่มไปอีกคน ร็อดเจอร์ทำเซอร์ไพรส์เล็กๆ ด้วยการส่งฟลานาแกนลงเป็นตัวจริง นอกนั้นยังใช้ผู้เล่นชุดเดิม ส่วนอาร์เซนอลแม้จะมีผู้เล่นเจ็บหลายคนแต่คนที่ฟอร์มดีในช่วงหลังอย่างชิรู ด์,โอซิล,แรมซี่ย์ก็ลงกันได้ครบ
-------------------------------------------------------

_______ เริ่มเกมมาทั้งสองฝ่ายก็วิ่งไล่บอลแดนกลางเร็ว รุกกันแบบระมัดระวังตัวทั้งคู่ ทางอาร์เซนอลครองบอลได้ดีกว่าเล็กน้อยและเก็บบอลจังหวะสองได้ดีกว่า ส่วนลิเวอร์พูลต่อบอลน้อยครั้งกว่าและพยายามหาจังหวะวางบอลให้กองหน้าหา พื้นที่เล่น รูปเกมดูเป็นรองกว่านิดหน่อย

_______ อาร์เซนอลเน้นเกมรุกริมเส้นฝั่งซิสโซโก้เป็นหลักและกดดันได้ต่อเนื่อง ไม่นานนักก็ทำได้สำเร็จในนาที 19 ซานย่าที่เติมเกมขึ้นมาได้โอกาสเปิดบอลเข้ากลาง บอลย้อนหลังชิรูด์แต่เป็นการ์ซอล่าที่วิ่งเติมเข้ามาในเขตโทษแบบไม่มีคนวิ่งเบียดตามมาโฉบโหม่งบอลไปชนเสาแต่เด้งกลับมาเข้าทางเข้าเท้าการ์ซอล่าได้ซ้ำเองอีกครั้งไม่พลาด 1-0

_______ หลังเสียประตู ลิเวอร์พูลที่ดูจะเป็นรองอยู่แล้วยิ่งแย่หนักขึ้นไปเอง เปลี่ยนรับเป็นรุกไม่ได้และหลายครั้งเสียบอลกลับไปเร็ว กลับกันกับทางฝั่งอาร์เซนอลที่ยิ่งต่อบอลกันได้มั่นใจยิ่งขึ้น เกมดีขึ้นและดีกว่าอย่างชัดเจน สามารถผ่านบอลครองบอลได้ต่อเนื่อง แดนกลางลิเวอร์พูลไม่สามารถหยุดการผ่านบอลได้เลยและบอลของอาร์เซนอลสามารถ บุกมาถึงหน้าเขตโทษได้เกือบทุกครั้ง ยังดีว่าแนวรับลิเวอร์พูลยังพอประคองตัวรอดไม่ให้โดนเพิ่มได้อยู่

_______ อันที่จริงลิเวอร์พูลถ้าได้โอกาสรุกเร็วก็จะพอได้ลุ้นแต่ปัญหาคือหาโอกาสแบบนั้นได้น้อย พอรุกได้ช้าก็ไม่สามารถหาช่องเจาะแนวรับอาร์เซนอลได้ แม้ช่วงท้ายครึ่งแรกอาร์เซนอลจะผ่อนเกมลงไปบ้างแต่ลิเวอร์พูลก็ยังหาโอกาส ได้ลำบาก ก่อนจะจบครึ่งแรกที่สกอร์ 1-0

_______ เข้าครึ่งหลัง คูตินโย่ถูกส่งลงมาแทนซิสโซโก้ทันที ลิเวอร์พูลปรับมาเล่น 4-2-2-2 (4-4-2) ถ่างซาโก้ไปเล่นแบ็คซ้าย คูตินโย่(ยืนเยื้องไปทางซ้าย)กับเฮนเดอร์สัน(ยืนเยื้องไปทางขวา)เล่นเป็นตัว รุกหลังคู่กองหน้า ลิเวอร์พูลกลับลงมาเร่งเกมมากขึ้น ทั้งเกมรับที่เข้าอัดถึงบอลเร็วขึ้นและเกมรุกที่จ่ายเสี่ยงไปข้างหน้ามาก ขึ้น และแผงหลังที่ดันขึ้นสูงด้วย ทำให้เกมของลิเวอร์พูลในช่วงต้นครึ่งหลังดูดีขึ้นมาก

_______ อย่างไรก็ตาม อาร์เซนอลไม่ได้ถอยไปรับและมาตรฐานการเล่นไม่ได้ลดลง ยังคงผ่านบอลแดนกลางกันได้อยู่และเติมเกมขึ้นมาช่วยกันได้ดี ลิเวอร์พูลทำได้ดีกว่าชัดเจนอยู่เพียงราวๆ 5 นาทีหลังจากนั้นเกมก็กลับมาสูสีและเปิดแลกกัน ลิเวอร์พูลดีขึ้นในแง่ที่ว่าได้ลุ้นมากขึ้น บอลไปข้างหน้ามากขึ้น แต่อาร์เซนอลยังคงเป็นฝ่ายที่ทำเกมรุกกดดันได้มากกว่า โดยเฉพาะเกมริมเส้นฝั่งซาโก้และพื้นที่หน้าเขตโทษที่ดูเหมือนแนวรับลิเวอร์ พูลจะยังสับสนจากการเปลี่ยนจากเล่นหลัง 3 มาเป็น 4

_______ ถึงตรงนี้ ไม่ใครก็ใครต้องโดนสักลูก แล้วก็เป็นอาร์เซนอลที่ทำได้ก่อน นาที 59 กองกลางอาร์เซนอลผ่านบอลหนีกองกลางทั้ง 2 คนของลิเวอร์พูลได้ บอลเข้าเท้าแรมซี่ย์จับหนึ่งจังหวะก่อนยิงเร็วก่อนโดนบล๊อค บอลพุ่งข้ามมือมินโยเล่เข้าไปได้สำเร็จ 2-0

_______ หลังจากเกมของอาร์เซนอลยิ่งเล่นยิ่งดี ผ่านบอลกันแม่นยำรุกขึ้นมาแต่ละครั้งกดดันได้ตลอด นาที 68 โมเสสได้ลงมาแทนฟลานาแกน เฮนเดอร์สันโดนถอยลงไปเล่นแบ็ค ยังคงพยายามเร่งเกมรุกต่อไป ได้ลุ้นบ้างโดยเฉพาะกับบอลทะลุช่องของคูตินโย่แต่แนวรับอาร์เซนอลก็ยัง จัดการกันได้ดีอยู่

_______ ช่วง 15 นาทีสุดท้าย อาร์เซนอลเริ่มผ่อนเกมลงไปอีกครั้ง ทำให้ลิเวอร์พูลได้บุกต่อเนื่องและหาโอกาสยิงได้บ้างเรื่อยๆ แต่ก็ยังทำกันไม่ได้ อีกทั้งส่วนใหญ่ยังไม่ใช่จังหวะจะแจ้งนัก ร้อนถึงเวนเกอร์ต้องลุกขึ้นมาโบกมือเป็นจราจรกลางสีแยกไล่ให้ลูกทีมดันกัน ขึ้นไปกดดันข้างหน้ามากขึ้น เวลาที่เหลืออยู่ลิเวอร์พูลได้โอกาสดีที่สุดจากซัวเรสสองครั้งแต่พลาดไปทั้ง สองครั้ง ทำให้อาร์เซนอลปิดเกมไปได้สำเร็จ ชนะด้วยสกอร์ 2-0
-----------------------------------------

_______ วันนี้อาร์เซนอลเล่นดีจริงครับ

_______ ร็อดเจอร์จัด 11 ตัวจริงไม่ผิดพลาด ในรายของฟลานาแกนแม้ชื่อจะไม่ได้ทำให้อุ่นใจแต่ผลงานที่ได้ก็ไม่เลวนัก ถ้าจะมีอะไรผิดพลาดก็คงเป็นการวางแผนจัดการการผ่านบอลของอาร์เซนอลมาได้ไม่ ดีพอ ครึ่งแรกนี่เวลาส่วนใหญ่ผู้เล่นลิเวอร์พูลแทบจะกลายเป็นคนดูที่ยืนอยู่ใน สนามเลย ไล่ไม่ทัน จังหวะที่ทันก็แย่งบอลไม่ได้ ครึ่งหลังแม้จะดูดีขึ้นแต่ก็ไม่ดีพอที่จะพาทีมกลับมาได้เปรียบในเรื่องรูปเกม

_______ จุดสลบในเกมนี้ แน่นอนว่าอยู่ที่ลิเวอร์พูลหยุดการผ่านบอลไม่ได้ แต่ประเด็นสำคัญอีกอย่างคือเกมริมเส้น ทีมเล่น 3-5-2 ไม่ต้องคิดมากเลยว่าวิงแบ็คสองฝั่งมีผลมากกับรูปเกม ในรายของซิสโซโก้โดนเจาะหนักในครึ่งแรกและเสียประตูแรกจากจุดนี้ด้วย และในเกมรุกทั้งซิสโซโก้และฟลานาแกนช่วยเกมได้น้อยมาก ไม่ว่าจะทำเกมหรือเชื่อมเกม ทำให้เกมรุกไม่คืบ พอเกมไม่คืบก็ยิ่งส่งผลให้แบ็คสองฝั่งของอาร์เซนอลเติมขึ้นมาได้สะดวก ยิ่งทำให้พื้นที่ในการผ่านบอลของอาร์เซนอลกว้างเข้าไปอีก และจบเกมไปด้วยสกอร์ที่เหมาะสมกับรูปเกมในที่สุด

_______ การปรับแทคติคในช่วงพักครึ่งผมคิดว่าร็อดเจอร์ทำได้ดีแล้วเพราะเล่นแบบเดิม ยังไงก็แพ้ การส่งคูตินโย่ลงมาทำให้เกมรุกของลิเวอร์พูลจากที่แทบไม่ได้ลุ้นกลายมาเป็น ได้ลุ้นบ้าง แต่สิ่งที่เสียไปเพื่อให้ได้ "โอกาส" นี้มาก็ราคาแพงไม่ใช่น้อย การปรับระบบการยืนของแนวรับจาก 3 เป็น 4 ระหว่างเกมให้ผู้เล่นเก่งแค่ไหนก็ต้องมีเสียจังหวะกันบ้าง ซาโก้ที่ถ่างไปยืนแบ็คจับจังหวะการเล่นผิดไปเยอะในช่วง 10 นาทีแรกของครึ่งหลัง ทำให้โดนเจาะทางฝั่งนั้นอย่างหนักอยู่นาน รวมไปถึงทั้งสเคอเทลและตูเร่ที่กะจังหวะการออกไปเล่นนอกเขตโทษเพื่อซ้อนกอง กลางและการผ่านบอลตั้งเกมต้องจับจังหวะกันใหม่อยู่พักใหญ่ ผลลัพธ์คือเสียเพิ่มมาอีก 1 ประตูทำให้เกมยากหนักกว่าเดิมอีก อย่างไรก็ตาม ถึงที่สุดแล้ว ผมคิดว่าร็อดเจอร์ทำถูกที่ปรับแบบนั้น เพราะอย่างน้อยก็สร้างโอกาสในเกมรุกของตัวเองได้

_______ ถ้าดูกันให้ลึกอีกหน่อย วันนี้พูดได้เต็มปากว่าอาร์เซนอลดีกว่าเพราะเวนเกอร์เจียระไนทีมมาลงตัวแล้ว พวกเขารู้ว่าจะเล่นกันยังไง คนที่ลงมาแทนคนที่เจ็บทดแทนกันได้ดี ฝีเท้าอาจไม่เท่าแต่วิธีเล่นมันไม่ต้องเปลี่ยน ทั้งๆ ที่พวกเขาขาดทั้งโพลโดลสกี้ วัลคอต เชมเบอร์เลน (รวมฟลามินี่ด้วยก็ได้) กลับกันทางฝั่งลิเวอร์พูลการขาดผู้เล่นสำคัญไปส่งผลเยอะกว่ามาก ขาดคูตินโย่ต้องปรับมาเล่น 3-5-2 ก่อนหน้าคูตินโย่เจ็บลิเวอร์พูลไม่เคยเล่นนะครับอย่าลืม พอขาดแบ็คที่รุกได้ดีไปทั้งเอนริเก้และจอห์นสัน  3-5-2 ก็ดับสนิท(อันนี้เพราะคู่ต่อสู้เล่นดีด้วย) ต้องปรับกลับมาอีก ถ้านึกภาพต่้อว่าคู่กองหน้าใครลงไม่ได้สักคนทีมก็คงต้องปรับมาเล่นหน้า เดี่ยวในทรง 4-5-1 (4-3-3) อีกต่างหาก ร็อดเจอร์ต้องการเวลา(และเงิน)อีกสักพักกว่าจะไปถึงระดับความลงตัวของทีมใน แบบที่เวนเกอร์ทำได้...ลงตัวนะครับ ไม่ใช่หมายถึงฟอร์มการเล่นวันนี้

_______ ที่สำคัญไม่ได้หมายถึงต้องร้างแชมป์ 7 ปีแบบอาร์เซนอลนะครับ แฮ่~

_______ มองทางฝั่งอาร์เซนอล วันนี้ฟอร์มการเล่นของพวกเขาเป็นฝ่ายตัดสินเกมอย่างแท้จริง ได้เล่นในเกมของตัวเองอยู่ตลอด กอสเชียลนี่ประกบซัวเรสได้สุดยอด ซานย่ากับกิบส์ปิดเกมริมเส้นได้ชะงัดแถมยังเติมขึ้นมาช่วยเกมรุกได้อีกต่าง หาก อาร์เตต้า,โอซิล,แรมซี่ย์ ผ่านบอลทำชิ่งกันแม่นยำจนลูคัสกับเจอราร์ดแทบจะทำได้แค่ยืนดู ชิรูด์เก็บบอลได้สุดยอด ปิดท้ายด้วยเชสนี่ที่ยังอุตส่าห์อ่านเกมดีตัดทั้งบอลเปิดเข้ากลางและเซฟ จังหวะสำคัญได้ตลอด...ลิเวอร์พูลก็เจ๊งสิครับ

_______ ลิเวอร์พูลสมควรแพ้...ไม่ใช่เพราะพวกเขาเล่นไม่ดี...แต่เป็นเพราะอาร์เซนอลเล่นดีกว่าเท่านั้นเอง
 -------------------------------

นัดนี้เล่นกันเกือบดี

ร็อดเจอร์ - แทคติคเริ่มเกมทำได้ไม่ดีนัก ไม่มีอะไรมาช่วยลูกทีมหยุดเกมคู่ต่อสู้ พักครึ่งเปลี่ยนตัวและเปลี่ยนแทคติคลงมาเสี่ยงได้ดี เปลี่ยนโมเสสได้ถูกจังหวะและสะใจมากด้วยกับการเลือกถอดฟลานาแกนออก...คือชัด เจนดีอ่ะว่าจะเอา

มินโยเล่ - เปิดบอลได้ไม่ดีเลย แต่ยืนตำแหน่งได้ดีและวันนี้เด่นในเรื่องการออกมาปิดมุมเร็วด้วย ที่พอเซฟได้ก็เซฟได้

ซิสโซโก้ - เกมรุกดับสนิทและเกมรับก็หยุดคู่ต่อสู้ได้ไม่ค่อยดีนักเพราะเคลื่อนที่ขึ้นลงได้ช้าไปหน่อย

ซาโก้ - ครึ่งแรกผลงานดี แต่ครึ่งหลังเล่นแบ็คซ้ายแล้วหุบเข้าในมากเกินไป ริมเส้นคู่ต่อสู้มีพื้นที่เล่นเยอะและนานไปหน่อย

สเคอเทล - ยังเล่นได้ค่อนข้างดี การเข้าสกัดและวิ่งเบียดยังดีอยู่ ที่ด้อยลงไปคือการประกบที่หยุดเกมของชิรูด์ไม่ได้ ชิรูด์เก็บบอลได้ตลอด

ตูเร่ - ไม่รู้ว่าแค้นเวนเกอร์ฝังลึกอะไรขนาดนั้น ความตั้งใจเอาชนะและต้องการช่วยเกมรุกมันพุ่งทะลุจอมาเลยทีเดียว เติมบ่อยมากซึ่งช่วยได้นิดหน่อย ส่วนเกมรับยังทำได้ค่อนข้างดีโดยเฉพาะการวิ่งออกไปช่วยหยุดเกมริมเส้นของคู่ ต่อสู้

ฟลานาแกน - ต้นเกมพยายามจะช่วยเกมรุก ขยันวิ่งเติมบ่อยแต่เปิดบอลจังหวะสุดท้ายไม่ดี จังหวะโดนเร่งทำได้ไม่ดีนักไม่ว่าจะไปเองหรือผ่านบอลให้เพื่อน...แต่พูดก็ พูดเถอะ ฟลานาแกนเล่นดีกว่าที่คิดมากครับ โดยเฉพาะเกมรับ ไม่ได้ยอดเยี่ยมแต่ไม่ใช่บ่อ

เฮนเดอร์สัน - กองกลางพันธ์เป็ด เล่นได้มันทุกอย่าง นัดนี้ได้เล่นทั้งกองกลาง, ตัวริมเส้น, ตัวรุก, แบ็ค ไม่เด่นสักอย่างแต่ไม่ได้แย่สักอย่างเช่นกัน ถ้าจะมีอะไรเด่นก็คงเป็นความเป็ดนี่ละครับ กองกลางของทีมชุดใหญ่ทุกคนไม่มีใครเล่นได้หลากหลายแบบนี้ เจอราร์ดเคยทำได้(ทำได้ดีมันทุกอย่างด้วย)แต่ตอนนี้สังขารไม่เอื้อแล้ว

เจอราร์ด - โดนกดดันหนักจนทำอะไรได้ไม่มากนัก เปลี่ยนรับเป็นรุกพลาดเยอะพอสมควรโดยเฉพาะครึ่งแรก ในเกมรับก็ไล่ไม่ค่อยทันแย่งบอลไม่ค่อยได้

ลูคัส - คล้ายกับเจอราร์ด ในเวอร์ชั่นที่พลาดมากกว่า

ซัวเรส - ถูกปล่อยให้พลอดรักสองต่อสองกับคู่ขาอย่างสเตอริดจ์อยู่ร่วมชั่วโมง เพื่อนขึ้นมาช่วยแทบไม่ได้ โดนประกบและซ้อนตลอดจนทำอะไรแทบไม่ได้ มีช่วงกลางถึงท้ายครึ่งหลังที่เริ่มมีพื้นที่และได้บอลมากขึ้นที่พอจะทำอะไร ได้บ้าง สร้างเกมได้นิดหน่อยและเป็นคนหาจังหวะจบสกอร์ได้เยอะที่สุดในทีม...ซึ่งพลาด เรียบ

สเตอริดจ์ - สถานการ์ณเดียวกับซัวเรสแต่ทำอะไรได้น้อยกว่า พลาดเยอะกว่า ท้ายเกมที่ซัวเรสดักบอลมาได้แล้วไม่ได้จ่ายมาให้เขาซึ่งตำแหน่งดีกว่าดูจะทำ ให้เจ้าตัวน็อตหลุดและออกอาการงอนอย่างเห็นได้ชัด...หวังว่าจบเกมจะเคลียร์ ใจกันได้ ถึงงั้นก็เถอะ มั่นใจ 100% ว่าถ้าจังหวะนั้นเป็นเจ้าตัวเป็นคนครองบอลก็ยิงเองไม่จ่ายเหมือนกันนั่นแห ล่ะ

ตัวสำรอง 

คูตินโย่ - เสียดายที่ฟิตไม่ทัน ถ้าลงตัวจริงได้เกมคงมันกว่านี้ (อาจจะเละหนักกว่าเดิมแต่รับรองว่าได้ลุ้นประตูมากขึ้น) แม้จะเอาชนะแนวรับได้ไม่มากนัก แต่ครองบอลดีและทำเกมให้กับทีมได้ ถ้าแนวรับอาร์เซนอลหลวมกว่านี้อีกนิดเดียวรับรองว่าเสร็จลูกจ่ายเข้าทำของ เจ้าตัวแน่

โมเสส - ช่วยทำเกมรุกได้บ้างตามอัตภาพ ไม่ถึงขั้นลงมาเปลี่ยนเกม แต่ไม่ไ่ด้หายไปกับพื้นหญ้า
------------------------------------------------------------

Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.