...แมวดุแต่แมวไม่กัด...
--------------------------------------------------------
ลิเวอร์พูลเล่น 3-4-1-2 (เหมือนนัดก่อนแหล่ะครับ)
---------------สเตอริดจ์-------ซัวเรส------------------
-------------------------โมเสส-------------------------
เอนริเก้---------เจอราร์ด----------ลูคัส----เฮนเดอร์สัน
---------ซาโก้---------สเคอเทล-----------ตูเร่---------
------------------------มินโยเล่-------------------------
_______ ลิเวอร์พูลเล่นเกมเยือนอีกครั้ง นัดนี้ออกไปเยือนทีมบ๊วยอย่างซันเดอร์แลนด์ที่ยังหาผู้จัดการทีมใหม่ไม่ได้หลังปลดดิ คานิโอออกไป ร็อดเจอร์ยังเลือกใช้ 11 ตัวจริงชุดเดิมจากนัดก่อน สเตอริดจ์กับซัวเรสยังได้ลงพร้อมกันต่อไป และเฮนเดอร์สันก็ยังต้องริมเส้นต่อไปเช่นกัน
-------------------------------------------------------
_______ เริ่มเกมมาทางซันเดอร์แลนด์ก็ตั้งเกมรุกสู้ทันที ขยันเติมและวิ่งไล่ในแดนหน้าตลอด ทำเกมได้ต่อเนื่อง ส่วนทางลิเวอร์พูลในจังหวะรับยืนกันลึก และพื้นที่ตรงกลางช่วยกันบีบให้แคบ เกมรับไม่ค่อยมีปัญหาและทำได้ดี แต่ทำให้เกมรุกขึ้นเกมลำบากเพราะวิ่งเติมทำทางกันไม่ทัน ทำให้บุกได้น้อยและเสียบอลกลับไปค่อนข้างเร็ว
_______ ราวๆ 20 นาทีแรกซันเดอร์แลนด์ครองบอลทำเกมได้มากกว่า แต่หลังจากผ่าน 20 นาทีไปลิเวอร์พูลก็เริ่มครองบอลได้นานขึ้น เกมยังไม่ถึงขั้นได้เปรียบแต่มาได้ประตูขึ้นนำก่อนแบบโชคดีนิดๆ จากจังหวะลูกเตะมุมในนาที 28 เจอราร์ดเปิดข้ามไปในเส้นหกหลาแล้วเป็นสเตอริดจ์ที่พยายามจะโหม่งแต่ไม่โดน บอล บอลไปเด้งโดนบริเวณไหล่เข้าประตูไป 1-0
_______ หลังจากเสียประตูกลายเป็นซันเดอร์แลนด์ที่ฮึดขึ้นมาอีกรอบ เร่งเกมเต็มที่และกดดันได้พอสมควร ได้ลุ้นจากการเปิดเข้ากลางบ้าง ส่วนลิเวอร์พูลหลังจากโดนกดดันหนักๆ อยู่ราว 5 นาทีก็กลับมาคุมเกม(รับ)ได้ดีและไม่ได้เปิดโอกาสให้ซันเดอร์แลนด์เท่าไหร่ แต่เกมรุกยังไม่ต่อเนื่องนัก
_______ ซันเดอร์แลนด์เร่งแล้วเร่งอีกแต่ยังไม่ได้ประตู อีกทั้งยังมาเสียเพิ่มในนาที 36 จากจังหวะโต้กลับ เจอราร์ดวางยาวข้ามฟากไปให้สเตอริดจ์ที่ริมเส้นก่อนจะกระชากเข้าไปถึงเส้น หลังในเขตโทษแล้วเปิดหักเข้ากลางให้ซัวเรสชาร์จจ่อๆ 2-0 หลังจากนั้นก็คุมเกมรับได้ดี แม้ซันเดอร์แลนด์จะครองบอลได้ต่อเนื่องแต่ก็ยังไม่ได้ประตู ก่อนจบครึ่งแรกที่ 2-0
_______ เข้าครึ่งหลัง ซันเดอร์แลนด์ยังลงมาเดินหน้าฆ่ามันต่อ แถมดันแผงหลังสูงมากขึ้น บดจนทำได้สำเร็จในนาที 52 จากการยิงไกลแล้วมินโยเล่เซฟได้แต่บอลไม่พ้นกรอบ จัคเครินี่ตามเข้าไปซ้ำได้เป็น 2-1 ถึงตรงนี้ซันเดอร์แลนด์ยังไม่ยอมเลิก และลิเวอร์พูลก็มีพื้นที่มากขึ้นแล้ว ทำให้เกมเปิดแลกกันมากกว่าในครึ่งแรก
_______ ลิเวอร์พูลเน้นบุกทางด้านขวาเป็นหลัก พาบอลไปได้ใกล้เขตโทษคู่ต่อสู้เป็นระยะ ส่วนทางซันเดอร์แลนด์ยังวิ่งไล่กันได้ไม่หมด(สักที) ได้ลุ้นพอสมควรโดยเฉพาะจากลูกยิงไกล นาที 75 ร็อดเจอร์ตัดสินใจปรับเกมโดยส่งสเตอริ่งลงมาแทนโมเสส โดยให้เ่ล่นตำแหน่งเฮนเดอร์สัน หุบเฮนเดอร์สันเข้าไปตรงกลาง
_______ หลังจากปรับแล้วลิเวอร์พูลหันมาเล่นรับ-โต้เต็มตัว ไม่ตั้งเกมขึ้นไปมากนักและทำได้ค่อนข้างดี ส่วนซันเดอร์แลนด์แม้จะพยายามแค่ไหนก็เจาะเข้าไปในเขตโทษไม่ได้ โอกาสได้ลุ้นส่วนใหญ่มาจากการยิงไกลและลูกตั้งเตะ ก่อนหมดเวลายังมาโดนอีกลูกในนาที 89 ลิเวอร์พูลโต้กลับเร็วเริ่มจากมินโยเล่ที่ขว้างเร็วมาให้ซัวเรส พาบอลเข้าไปในแดนคู่ต่อสู้ก่อนจะวางข้ามไปให้สเตอริดจ์รับบอลแล้วพาเข้าไปใน เขตโทษ กระชากหนึ่งจังหวะแล้วเปิดเข้ากลางกลับมาให้ซัวเรสยิงเข้าไปได้ 3-1 และจบเกมไปด้วยสกอร์ดังกล่าว
-----------------------------------------
_______ วันนี้จังหวะเกมเป็นใจครับ
_______ ลิเวอร์พูลยังคงใช้ 11 ตัวจริงชุดเดิมและแทคติคเดิม ที่ดีขึ้นคือการประสานงานระหว่าง 3 คนในแดนหน้าที่ดูจะเข้าขากันมากขึ้น รวมไปถึงที่ทางของแต่ละคนที่ชัดเจนกว่านัดก่อน สเตอริดจ์วิ่งทำทางไปไม่ต้องลงต่ำ ปล่อยให้ซัวเรสลงไปเชื่อมกับแดนกลางและทำเกมไป โมเสสหาพื้นที่ว่างรอรับบอลจากเพื่อน ช่วงครึ่งชั่วโมงแรกดูจะประสานงานกันได้ไม่ค่อยดีนัก แต่หลังจากได้ประตูนำและซันเดอร์แลนด์เริ่มดันสูงขึ้นๆ จนมีพื้นที่เล่น ทั้ง 3 คน (รวมเฮนเดอร์สันด้วยก็ได้) เริ่มประสานงานและเล่นด้วยกันได้ดีขึ้น
_______ คู่แดนกลางเจอราร์ดเคลื่อนที่มากขึ้น มีหลายจังหวะที่เติมขึ้นมาช่วยในแดนหน้ามากกว่า 2-3 นัดก่อนหน้านี้และทำให้โมเสสกับซัวเรสไม่โดนรุมกินโต๊ะมากนัก ในเกมรับพอได้ประตูนำก่อนเลยทำให้ริมเส้นทั้ง 2 ข้างไม่ต้องเติมบ่อยเลยทำให้มีตัวผู้เล่นช่วยคุมพื้นที่ในแดนกลางเยอะ เลยคุมเกมรับได้ค่อนข้างดี โดนบุกเยอะแต่ไม่ถึงกับโดนกดจนแบนแต๊ดแต๋ ส่วนเกมรุกนั้นวันนี้เกมโต้กลับทำได้น่าประทับใจมาก นอกจากจะทำได้ 2 ประตูแล้วยังมีอีกหลายครั้งที่พาบอลขึ้นได้ลุ้นแถวหน้าเขตโทษ
_______ อย่างไรก็ตาม ลิเวอร์พูลยังมีปัญหาอยู่ไม่น้อย วันนี้ร็อดเจอร์เลือกให้ทีมเล่นเกมรับเป็นหลัก ถอยกันไปรับกันลึกและทำให้จังหวะเปลี่ยนเป็นรุกทำได้ลำบาก เล่นเกมของตัวเองไม่ได้มากนัก และปัญหาใหญ่เลยคือแม้ทีมจะเล่นรับเยอะแล้ว มีตัวผู้เล่นเยอะแล้วในแดนตัวเองแต่กลับปล่อยให้คู่ต่อสู้ยิงไกลหน้าเขตโทษ ตัวเองอยู่บ่อยๆ บ่อยมากจนไม่น่าเชื่อ ส่วนในเกมรุกในช่วงที่ยังไม่ได้ประตูขึ้นนำและไม่มีพื้นที่เล่นมากนัก ก็เล่นเกมรุกกันได้ไม่ค่อยต่อเนื่องเท่าไหร่ หนักไปทางให้ลุ้นพึ่งซัวเรส(บางจังหวะเป็นโมเสส)เป็นหลักซึ่งคู่ต่อสู้ก็รู้ทาง รับมือกันได้หมดแล้ว ถ้าไม่ได้ประตูขึ้นนำก่อนจนซันเดอร์แลนด์ต้องบุกมากขึ้นสงสัยได้เหนื่อยกว่านี้
_______ ส่วนทางฝั่งซันเดอร์แลนด์ ที่จริงเล่นเกมนี้ได้ดีทีเดียว ได้ลุ้นประตูไม่ได้น้อยไปกว่าลิเวอร์พูล ขยันวิ่งกันมากกว่า แต่การเลือกเล่นเกมรุกมากเกินไปหน่อย ทั้งๆ ที่คุณภาพผู้เล่นในเกมรุกมีไม่มากนัก ทำให้แม้จะกดดันได้ ครองบอลมากกว่า อีกทั้งยังได้ลุ้นตีเสมอได้อยู่ร่วม 20 นาที แต่สุดท้ายก็ได้แค่นั้น แค่ลุ้น
_______ ...แค่ข่วนพอแสบๆ แต่บาดแผลไม่ลึกเท่าไหร่...
-------------------------------
นัดนี้เล่นกันได้ดีหลายคน
ร็อดเจอร์ - วางรายละเอียดในการเล่นได้ดี ทั้งตอน 0-0 ที่เลือกเล่นรับลึก แบ็คขึ้นข้างเดียว ตอน 1-0,2-0 ที่รับก็จริงอยู่แต่วาง ตัวรุกทิ้งเผื่อโต้ไว้ข้างหน้า 2 คนตลอด ที่คาใจอยู่บ้างคือตอนส่งสเตอริ่งลงไปเล่นแบ็คขวาซึ่งเล่นเกมรับได้หลอนสุด เข้าใจว่าเพื่อช่วยเกมโต้กลับ(ซึ่งทำได้ดีในเรื่องนั้น) แต่ทำเอาเกมรับริมเส้นแ่ย่กว่าตอนเฮนเดอร์สันยืนพอสมควร
มินโยเล่ - เป็นผู้รักษาประตูที่มีมารยาท มือไม้อ่อนตลอด ปัดบอลไม่ค่อยไปไหน แต่การรักษาตำแหน่งและโดยเฉพาะอย่างยิ่งการเซฟทำได้สุดยอดเอามากๆ ช่วยเซฟไว้ได้หลายลูก ต่อบอลสั้นกับเพื่อนได้ดีขึ้น แถมมีทีเด็ดท้ายเกมที่ออกบอลโต้กลับนำไปสู่ประตูปิดกระป๋องมีโอด้วย
เอนริเก้ - ฟอร์มเฉพาะตัวยังทำได้ดี เปิดบอลเข้ากลางก่อนถึงเส้นหลังได้ดีหลายลูกและเชื่อมเกมได้เนียน เกมรับรักษาพื้นที่ของตัวเองดี ที่มีปัญหาน่าจะอยู่ที่การประสานกับซาโก้ที่ดูจะไม่ค่อยเข้าใจกันเท่าไหร่ และการปิดทางการโยนบอลเข้ากลางที่ดูจะหลวมเกินไปสักนิด
ซาโก้ - เล่นได้ดีขึ้น ประกบกองหน้าได้ค่อนข้างดี เล่นบอลกับเท้าได้ดีด้วย ที่ด้อยไปสักนิดก็เรื่องการวิ่งเข้าไปซ้อนเพื่อนไม่ว่าจะทางริมเส้นหรือกลาง รับที่ทำได้ค่อนข้างช้า
สเคอเทล - ประกบกองหน้าได้สุดยอดมากระดับที่นึกว่าผีฮูเปียเข้าสิง(ฮูเปียยังไม่ตายนะครับ) เป็นเหตุผลหลักเลยที่ทำให้เกมรุกซันเดอร์แลนด์ไม่ทะลุทะลวงเท่าที่ควรเพราะ กองหน้าดับสนิททำประโยชน์อะไรไม่ได้เลย จังหวะที่เสียประตูจะว่าพลาดก็ไม่น่าใช่เพราะพยายามหุบขาบล็อคลูกยิงเลยล้ม
ตูเร่ - เล่นเกมรับได้ดี ที่โดดเด่นกว่ากองหลังคนอื่นคือการอ่านเกม ตูเร่มีจังหวะวิ่งออกจากตำแหน่งไปเพื่อตัดบอล, หยุดเกม, ซ้อนเพื่อนที่หลุดตำแหน่งได้ดีกว่าแผงหลังทุกคน
ลูคัส - ฟอร์มกระเตื้องขึ้น หยุดเกมรุกคู่ต่อสู้ได้มาก ที่ยังไม่ดีนักคือการเคลื่อนที่ เพราะทั้งๆ ที่ตัวเองไม่้ต้องวิ่งขึ้นลงบ่อยเท่าเจอราร์ดแต่กลับช่วยคุมพื้นที่หน้าเขต โทษได้ไม่ดีเท่าที่ควร และจังหวะทีมได้บอลเจ้าตัวก็วิ่งหาที่ว่างรับบอลได้ห่วยแตกมากๆ
เจอราร์ด - เล่นได้ดีขึ้น วางบอลยาวคมขึ้นกว่า 2-3 นัดที่ผ่านมาทั้งยังขึ้นไปช่วยเชื่อมเกมในแดนหน้าได้ดี แต่จังหวะไล่บอลทำได้ดีไม่ดีนักและวิ่งไล่น้อยไปหน่อย
เฮนเดอร์สัน - เล่นได้มิติเดียว กระชากบอลไปไม่ได้และเปิดบอลเข้ากลางได้ทื่อสุดๆ แต่ในเรื่องเชื่อมเกมและการเล่นเกมรับเล่นได้เนียน ไม่พาเพื่อนเครียด
โมเสส - ครึ่งชั่วโมงแรกไม่แน่ใจว่าเล่นเป็นตัวรุกให้ลิเวอร์พูลหรือเป็นตัวรับให้ซันเดอร์แลนด์ แต่หลังจากทีมขึ้นนำและมีพื้นที่ให้เล่นมากขึ้น โมเสสยิ่งเล่นยิ่งดี โดยเฉพาะจังหวะออกบอลที่ไม่ฝืนและเพื่อนเล่นง่าย
ซัวเรส - เลี้ยงบอลจี้คู่ต่อสู้เมื่อไหร่ ทีมสิ้นสุดการครองบอลเมื่อนั้น แต่เด่นมากในการทำเกมรุกโดยเฉพาะจังหวะโต้เร็ว ออกบอลให้เพื่อนได้ดีตลอดเกม หาช่องวิ่งเติมเข้าไปยิงได้สุดยอด ทำได้ถึง 2 ประตู
สเตอริดจ์ - มีส่วนร่วมกับเกมไม่มากนักถ้าเทียบกับซัวเรสและโมเสส แต่อยู่ด้วยทุกครั้งกับจังหวะได้ลุ้นได้เสีย ทั้งยังยิง 1 จ่าย 2 ด้วย
ตัวสำรอง
สเตอริ่ง - เกมรับชวนสยองมาก ยังดีว่าทั้งเฮนเดอร์สันและตูเร่ช่วยกันประคองไว้ได้ ส่วนการเปลี่ยนรับเป็นรุกตัดสินใจและทำได้ดี การเล่นในจังหวะโต้กลับช่วยทีมได้มาก
แมน ออฟ เดอะ แมทช์ : ...แดเนียล สเตอริดจ์...ถ้าเกมนี้จบแค่ 2-1 ตั้งใจว่าจะเลือกมินโยเล่ที่เซฟแล้วเซฟอีกจนดูแล้วเหนื่อยแทน แต่พอมีประตูที่ 3 ที่สเตอริดจ์ทำได้ดีอีกครั้งก็ขอเปลี่ยนใจแล้วกันครับ
------------------------------------------------------------
Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น