วันพุธที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2556

ลิเวอร์พูล 3 - 0 ซันเดอร์แลนด์ (พรีเมียร์ลีค)


3 ลูกอีกแล้ว
--------------------------------------------------------

ลิเวอร์พูลเล่น 4-2-3-1

----------------------ซัวเรส------------------------
ดาวนิ่ง-----------เฮนเดอร์สัน-------------สเตอริ่ง
--------------ลูคัส-------------เจอราร์ด-----------
จอห์นสัน----แอกเกอร์-----สเคอเทล----วิสดอม
-----------------------เรน่า-------------------------

               ลิเวอร์พูลเปิดบ้านรับซันเดอร์แลนด์ในเกมพรีเมียร์ลีคนัดแรกของปี 2013 นัดนี้ขาดเอนริเก้ที่เจ็บจากนัดก่อนไปคนเดียวนอกนั้นยังอยู่กันครบ ร็อดเจอร์เลือกใช้วิสดอมลงตัวจริงในตำแหน่งแบ็คขวาแล้วโยกจอห์นสันไปซ้าย ส่วนแดนกลางมีการปรับตำแหน่งเล็กน้อย ลูคัสได้ลงเป็นตัวจริงและสลับฝั่งตัวริมเส้นให้ดาวนิ่งเล่นซ้าย สเตอริ่งเล่นขวา
-------------------------------------------------------

               เปิดเกมมาทั้งสองฝ่ายก็เปิดเกมรุกใส่กันและเล่นเร็วทั้งคู่ เน้นให้บอลจังหวะเดียวและการขึ้นเกมริมเส้นเหมือนกันแต่จังหวะสุดท้ายยัง เปิดบอลไม่ค่อยผ่าน ทำให้เกมโดยรวมสูสีโดยเป็นฝ่ายลิเวอร์พูลที่ดูดีกว่าพอสมควรในเรื่องการครอง บอล จนกระทั่งผ่าน 15 นาทีแรกไปแล้วถึงได้เริ่มเล่นช้าลงและลิเวอร์พูลเริ่มทำได้ดีกว่ามากขึ้น เรื่อยๆ

               ในที่สุดลิเวอร์พูลก็ได้ประตูขึ้นนำ นาที 19 มินโยเล่เตะเปิดเกมมาไม่ดี เจอราร์ดโหม่งตั้งให้ซัวเรสหันหลังเปิดบอลข้ามแนวรับ สเตอริ่งได้บอลหลุดเดี่ยวไปก่อนที่จะชิพบอลข้ามหัวมินโยเล่เข้าไปได้สำเร็จ 1-0 แต่หลังจากเสียประตูซันเดอร์แลนด์ก็ยังสู้ได้ดี ในเกมรับปิดพื้นที่หน้าเขตโทษกันได้แน่นและเกมรุกริมเส้นยังพอทำอะไรได้บ้าง ได้ลุ้นประตูตีเสมอแต่ยังทำไม่สำเร็จ

               เกมโดยรวมยังคงสูสี ลิเวอร์พูลดูดีกว่าเล็กน้อย แต่แล้วในนาที 26 จากจังหวะทำเร็วของลิเวอร์พูล ซัวเรสได้บอลโดนตัดฟาลว์แต่ไม่ล้มวิ่งพาบอลไปต่อก่อนจะหลุดเข้าไปยิงมุมแคบ ให้ทีมนำ 2-0 เกมของซันเดอร์แลนด์ดูสะดุดไปเล็กน้อยแต่ไม่นานก็กลับมาได้ โดยซันเดอร์แลนด์ดันเกมขึ้นมาค่อนข้างสูง เกมริมเส้นพอเปิดบอลได้บ้างแต่ไม่ถึงกับดีนัก ที่ดีและได้ลุ้นจริงๆ มาจากลูกตั้งเตะ ทั้งเตะมุมและฟรีคิกที่วันนี้ฟิล ดาวน์ป่าวค่อนข้างง่าย ได้โอกาสลุ้นพอสมควรแต่ยังไล่ตามมาไม่ได้ ส่วนทางฝั่งลิเวอร์พูลเน้นเกมโต้กลับและการวางบอลยาวไปที่ว่างเป็นหลักและทำ ได้ดีเช่นกัน ได้ลุ้นอยู่ตลอดแต่สุดท้ายยังทำเพิ่มไม่ได้ จบครึ่งแรกที่สกอร์ 2-0

               เข้าครึ่งหลัง โอนีลเปลี่ยนเอาเฟรเซอร์ แคมเบลล์ลงมาช่วยในแดนหน้า แต่ดันเปลี่ยนตัวแซสซิยงที่แม้จะเล่นไม่ดีนักแต่ก็เป็นกองกลางที่มีผลงาน เป็นชิ้นเป็นอันที่สุดในครึ่งแรกออก เริ่มหันมาไล่สูงมากขึ้นและเข้าบอลเร็วขึ้น ยกระดับเกมแดนกลางขึ้นมาได้เล็กน้อย แต่เกมรุกก็ยังไม่กดดันแนวรับอะไรมากนัก ส่วนทางลิเวอร์พูลเริ่มเน้นการครองบอลมากขึ้น เคาะบอลแดนกลางสลับกับวางบอลยาวในจังหวะที่กองหลังซันเดอร์แลนด์ดันสูง ช่วงต้นครึ่งหลังเกมยังดูสูสีและยังคงเป็นลิเวอร์พูลที่ดูดีกว่าเล็กน้อย

               แต่แล้วนาที 53 ลิเวอร์พูลมาหนีห่างไปอีก จากการวางบอลยาวของเจอราร์ดพรวดเดียวถึงซัวเรสได้หลุดเข้าไปยิงในเขตโทษเข้า ไปได้เป็น 3-0 ถัดมาไม่นาน นาที 57 ร็อดเจอร์ยังส่งอัลเลนลงไปแทนสเตอริ่ง ใช้อัลเลนเล่นตรงกลางและยืนสูงเป็นตัวรุก ถ่างเฮนเดอร์สันออกไปเล่นทางขวามากขึ้น ถึงตรงนี้ซันเดอร์แลนด์ก็ทำเกมและครองบอลไม่ได้แล้ว กลายเป็นลิเวอร์พูลที่แม้จะได้ไม่ได้โหมเกมรุกมากนักแต่ก็เป็นฝ่ายบุกใส่ อยู่ข้างเดียว ได้ลุ้นประตูอยู่ตลอด

               นาที 67 ซูโซ่ได้ลงไปแทนเฮนเดอร์สัน นาที 74 คาราเกอร์ได้ลงแทนสเคอเทล ระหว่างนี้ลิเวอร์พูลก็ยังเป็นฝ่ายบุกมากกว่า ครองบอลอยู่ฝ่ายเดียว และได้ลุ้นประตูอยู่เรื่อยๆๆ (เติมไม้ยมกตามความพอใจ) ยิงเข้าไปอีกสองลูกจากจอห์นสันและอัลเลนแต่โดนจับล้ำหน้าไปก่อน ซันเดอร์แลนด์หมดใจไปเรียบร้อย ไม่ช่วยกันไล่และไม่วิ่งเติมเกมรุก แค่เล่นไปตามจังหวะ สุดท้ายลิเวอร์พูลยิงเพิ่มไม่ได้ จบเกมไปที่สกอร์ 3-0
 -----------------------------------------

               11 ตัวจริงวันนี้ดูเหมือนร็อดเจอร์จะจัดตัวจากฟอร์มการเล่น ไม่ได้คิดอะไรซับซ้อน อัลเลนหลุดไปจากทีมสวนทางกับเฮนเดอร์สันซึ่งก็เป็นไปตามฟอร์มล่าสุดของทั้ง สองคน การเลือกวิสดอมก่อนซูโซ่(ถ้าเลือกซูโซ่ก่อนคือถอยดาวนิ่งมาเป็นแบ็ค) ก็ไม่ถึงกับน่าแปลกใจอะไรเพราะซูโซ่เองฟอร์มหลังๆ ก็ไม่ถึงกับดีนัก มีแปลกใจเล็กน้อยที่ใช้สเตอริ่งทางขวา ทั้งๆ ที่ดูตามตำแหน่งแล้วทำให้เกมรับฝั่งขวาดูหลอนพอสมควร ถ้าใช้ดาวนิ่งเล่นขวาน่าจะช่วยเกมรับได้น่าอุ่นใจกว่านี้(นี่พูดกันถึงตอน ก่อนเกมเริ่มนะ) แต่การใช้สเตอริ่งเล่นฝั่งเดียวกับวิสดอมอาจจะเป็นเพราะเล่นด้วยกันมา มากกว่าดาวนิ่งก็เป็นได้

               สิ่งที่ตัดสินเกมในวันนี้นอกจากความเด็ดขาดในการจบสกอร์ คือแดนกลางที่ลิเวอร์พูลเล่นกันได้เกือบสมบูรณ์แบบ เกมรุกทำได้ไหลลื่น โดยเฉพาะการโต้กลับ, การวางบอลยาวที่ทำได้ดีมาก รวมไปถึงการเจาะตรงกลางที่นัดนี้ดูจะเด่นกว่าเกมริมเส้นเสียอีก ในขณะเดียวกันเกมรับก็สามารถปิดเกมริมเส้นของซันเดอร์แลนด์ได้เกือบหมด บอลจังหวะสองก็เก็บได้มากกว่าทั้งรุกและรับ ทำให้ซันเดอร์แลนด์ได้บอลน้อยเกินกว่าที่จะเอามากดดันอะไรได้ เลยกลายเป็นฝ่ายเสียเปรียบตั้งแต่ต้นยันจบเกมและแพ้ขาดไปในที่สุด

               อย่างไรก็ตาม เกมนี้มีจุดเปลี่ยนที่สำคัญมากๆ อยู่สองจุด อย่างแรกคือประตูตีเสมอ 1-1 ที่ซันเดอร์แลนด์เกือบทำได้ในนาที 21 ซึ่งบอลหลุดเสาสองไปนิดเดียว ถ้าลูกนั้นทำสำเร็จ ซันเดอร์แลนด์จะกลับมาได้เร็วสวนทางกับลิเวอร์พูลที่ค่อนข้างมีปัญหาเวลาเจอ ความกดดันซึ่งจะทำให้เกมยากขึ้นกว่านี้อีกหลายเท่า ส่วนจุดเปลี่ยนอีกอย่างคือต้นครึ่งหลังที่โอนีลเปลี่ยนเอาแซสซิยงออก อย่างที่บอกไปตอนต้น แซสซิยงใช่ว่าจะเล่นดี แต่ก็เป็นกองกลางคนเดียวของซันเดอร์แลนด์ที่พอจะทำเกมรุกได้ เก็บบอลและใช้เกมเลี้ยงจี้เจาะตรงกลางได้พอสมควร พอไม่มีแซสซิยงแล้วเกมรุกของซันเดอร์แลนด์ก็ตายสนิทชนิดไม่ได้ลุ้นอีกเลย ตัวที่ลงมาแทนอย่างแคมเบลไม่มีส่วนกับเกมอย่างสิ้นเชิงจนนึกว่าซันเดอร์ แลนด์เล่นกัน 10 คน ก็ต้องขอขอบคุณโอนีลมา ณ ที่นี้ด้วยครับ

               ชนะ 3-0 มาสองนัดติดแล้ว ตอนนี้ได้แต่หวังว่าจะไม่กระสุนหมดหรือหมดโควต้าไปเสียก่อน(ฤดูนี้ยังไม่เคย ชนะในลีค 3 นิดติด) เพราะเกมหน้าต้องเจอกับ...ฟาน เพอร์ซี่!
-------------------------------

นัดนี้เล่นกันได้ดี

เรน่า - ยืนตำแหน่งดีและเซฟลูกสำคัญเอาไว้ได้ วันนี้เด่นเรื่องการออกบอลด้วยการขว้างเอามากๆ รวมไปถึงฉลาดพอที่จะดึงช้าในบางจังหวะ

วิสดอม - ได้เล่นในเกมง่าย ซันเดอร์แลนด์แทบไม่บุกกดดันทางฝั่งเขาเลย(จริงๆ แล้วฝั่งไหนก็ไม่กดดันทั้งนั้นแหล่ะ) เล่นไปตามเกมเท่านั้น ไม่มีข้อผิดพลาดในเกมรับ เกมรุกก็เชื่อมเกมได้ตามเนื้อผ้า

สเคอเทล - ซ้อนเพื่อนได้ดี เข้าบอลแม่น เล่นลูกกลางอากาศได้เด็ดขาด แต่จะว่าไปก็ไม่มีงานยากอะไรให้ทำ

แอกเกอร์ - ทำได้ดีในเรื่องการผ่านบอลขึ้นหน้า ไม่ว่าจะส่งหรือเลี้ยงขึ้นมาเอง และเกมรับก็ไม่ถูกกดดันอะไร

จอห์นสัน - ก่อน 3-0 ก็ไม่ได้เติมเกมรุกมากนัก (ถ้าเทียบกับที่ผ่านมา) พอเกมขาดถึงได้เล่นเกมรุกมากขึ้น เชื่อมเกมได้ดี ผ่านบอลได้ค่อนข้างแม่นยำ เกมรับมีงานเยอะกว่าิวิสดอมนิดหน่อยแต่พอเอาตัวรอดได้

ลูคัส - เล่นได้ดีขึ้นบ้าง อ่านเกมและดักตัดบอลได้มากขึ้น ครึ่งแรกมีปัญหาในเกมรับพอสมควร แต่พอครึ่งหลังเล่นง่ายจัดการได้หมด ยังห่างไกลจากฟอร์มที่ดีที่สุดแต่ก็กระเตื้องขึ้นแล้ว

เจอราร์ด - เจอราร์ด!

เฮนเดอร์สัน - เล่นได้ดีต่อเนื่อง ออกบอลเร็วไปข้างหน้ามากขึ้นแม้จะพลาดเยอะพอสมควรแต่ทิศทางและน้ำหนักทำได้ ใกล้เคียงเอามากๆ ขยับหาพื้นที่ว่างมากขึ้นและเปิดบอลจากริมเส้นได้ดีหลายครั้ง เกมรับขยันวิ่งไล่ปิดพื้นที่อยู่ตลอด

ดาวนิ่ง - เปิดบอลเข้ากลางได้ดีพอสมควร ไม่ค่อยตรงเพื่อนแต่พอกดดันได้ เด่นในเรื่องการเชื่อมเกมที่ทำได้เร็วและค่อนข้างแม่น รวมไปถึงเกมรับที่ปิดเกมรุกของตัวริมเส้นได้ดีมาก อันที่จริงเกมรับริมเส้นวันนี้ดาวนิ่งทำได้ดีกว่าจอห์นสันอีก

สเตอริ่ง - ใช้ความเร็วกดดันคู่ต่อสู้ได้ดี ไม่ว่าจะกระชากไปเองหรือวิ่งไปรับบอลในพื้นที่ว่าง ยิงประตูสุดสวยได้ด้วย แต่หลังจากนั้นยังคงพลาดในจังหวะสุดท้ายไม่ว่าจะยิงหรือจ่ายเหมือนเดิม

ซัวเรส - ยังคงใช้โอกาสไม่เปลืองต่อไปอีกหนึ่งนัด ยิง 2 และจ่ายอีก 1 ด้วย พยายามเล่นบอลอยู่ตลอดไม่พุ่งล้ม ลูกที่ 2 ที่ทีมได้มาก็เพราะซัวเรสฝืนเล่นต่อไม่ทิ้งตัวล้ม มีส่วนร่วมกับเกมอยู่ตลอด แต่พอสกอร์ขาดและได้ลุ้นแฮททริคดูจะเล่นฝืนๆ ไปหน่อย

ตัวสำรอง

อัลเลน - ลงมาเล่นเป็นตัวรุก ช่วยเก็บและรักษาการครองบอลได้ดีมาก จังหวะทำเกมรุกเงอะงะไปหน่อย เลี้ยงไม่ผ่าน จ่ายได้แค่เกือบทะลุ แต่วิ่งทำทางและตัดสินใจยิงเวลาไม่มีคู่ต่อสู้บังได้เด็ดขาดดี

ซูโซ่ - ลงมาช่วยเก็บบอลเช่นกัน บอลอยู่กับเท้าซูโซ่แล้วเสียยากมาก เล่นระวังตัวมากไปหน่อยเลยไม่มีบทบาทกับเกมมากนัก

คาราเกอร์ - ลงมาแล้วพลาดอยู่หนึ่งจังหวะที่โดนคู่ต่อสู้กระชากหลุดไปได้ แต่ก็เล่นแบบหวุดหวิดจะเสียฟาลว์แต่ตัดบอลได้ดีอยู่ 2-3 ครั้งเช่นกัน เล่นไม่ได้แย่แต่เวลาของคาราเกอร์กับลิเวอร์พูลคงเหลืออีกไม่มากแล้ว

แมน ออฟ เดอะ แมทช์ : ...สตีเว่น เจอราร์ด.. ซัวเรสยิง 2 จ่าย 1 แต่รับรองว่าไม่มีใครโกรธแน่ถ้าเจอราร์ดจะได้ตำแหน่งนี้ วางบอลยาวระยะ 30-40 หลาได้เหมือน 3-4 หลา จ่ายเป็นหลุด ผ่านบอลสั้นพื้นที่แคบก็ทำได้ดี จ่ายบอลเป็นเข้าเท้าเพื่อน มองได้ไกลและกว้าง ไม่ใช่สักแต่วางไปให้เพื่อนวัดดวงวิ่งไล่ เกมนี้เล่นเด่นมากจริงๆ
------------------------------------------------------------
Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น