วันพุธที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2555

สโต๊ค ซิตี้ 3 - 1 ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีค)


ทุบหม้อ หม้อไม่แตก มือแหกซะเอง
--------------------------------------------------------

ลิเวอร์พูลเล่น 4-2-3-1

----------------------ซัวเรส------------------------
ซูโซ่-----------------เชลวี่ย์-----------------ดาวนิ่ง
-----------ลูคัส---------------เจอราร์ด------------
เอนริเก้----แอกเกอร์-----สเคอเทล----จอห์นสัน
-----------------------เรน่า-------------------------

               ลิเวอร์พูลออกไปเยือนสโต๊ค โจทย์เก่าเจ้าประจำที่ทำอะไรเขาไม่ค่อยได้ นัดนี้ร็อดเจอร์จัดผู้เล่นชุดเดียวกันกับนัดที่แล้วที่เจอฟูแล่มลงครบทุกคน ไม่มีการสลับตำแหน่งหรือเปลี่ยนแทคติคใดๆ ทั้งสิ้น
-------------------------------------------------------

               แค่ 40 วินาทีแรกของเกม ชอครอสก็พยายามจะถอดเสื้อซัวเรสในเขตโทษ ส่งผลให้เวปเป่าจุดโทษให้ไม่ลังเลและเป็นเจอราร์ดที่ยิงจุดโทษเข้าไปได้ 1-0 ชนิดที่แฟนบอลบางคนยังไม่ทันเดินถึงที่นั่ง แต่เพียงแค่นาทีที่ 5 สโต๊คก็ไล่ตีเสมอได้อย่างรวดเร็วจากการวางบอลโด่งจากแดนตัวเองถึงหน้าเขตโทษ โจนส์โหม่งชงให้วอลเตอร์หลุดเข้าไปยิงได้ 1-1 ชนิดที่แฟนบอลลิเวอร์พูลยังดีใจกันไม่ทันเสร็จเช่นกัน

               ช่วงต้นเกมนี้เป็นสโต๊คที่ทำได้ดีกว่า โดยเฉพาะการวิ่งเข้าไล่บอลเร็ว ซึ่งทำได้เร็วมากๆ และช่วยกันไล่ทั้งทีม ทำให้ลิเวอร์พูลแทบไม่มีโอกาสตั้งหลัง และไม่นานก็โดนแซงนำจนได้ในนาที 12 จากลูกเตะมุม โจนส์ขึ้นโหม่งที่เสาแรกเข้าไปเป็น 2-1 ผ่าน 15 นาทีของเกมไป ลิเวอร์พูลถึงพอจะเริ่มครองบอลได้ดีขึ้นแต่เกมยังไม่ดีกว่า ส่วนสโต๊คยังคงใช้บอลยาวเน้นให้บอลไปที่โจนส์สลับกับการขึ้นเกมทางริมเส้น ฝั่งขวา(เอนริเก้)เล่นงานได้ค่อนข้างดี

               ผ่านครึ่งชั่วโมงของเกมไป สโต๊คเริ่มไล่บอลในแดนหน้าน้อยลง แต่ยังไล่ในแดนตัวเองได้ดีอยู่ ส่งผลให้ลิเวอร์พูลที่แม้จะครองบอลได้มากขึ้นและพาบอลไปใกล้เขตโทษได้บ้าง ยังหาโอกาสจบสกอร์ได้ยากลำบากมาก และโอกาสที่พอมีบ้างก็จะโดนเร่งโดนบีบอยู่ตลอดทำให้ยังไม่สามารถไล่ตีเสมอ ได้ จบครึ่งแรกที่สกอร์ 2-1

               เข้าครึ่งหลัง สเตอริ่งได้ลงมาแทนซูโซ่ ลิเวอร์พูลยังบุกได้ค่อนข้างดีแต่ยังไม่ได้เปรียบและสโต๊คก็ไม่ได้ถอยลงไป อุด รูปเกมโดยรวมค่อนข้างสูสี และเป็นฝ่ายสโต๊คที่ขยับหนีห่างได้ก่อนในนาที 49 จากจังหวะทุ่มไกล โจนส์ขึ้นโหม่งชงให้วอลเตอร์ยิงเข้าไปได้เป็น 3-1 ถึงตรงนี้จากที่ลิเวอร์พูลดูเหมือนจะทำได้ดีขึ้นกว่าในครึ่งแรกกลับกลายเป็นเริ่มสะดุดไปอีกครั้ง ครองบอลได้ไม่ค่อยต่อเนื่องนัก

               นาที 59 เฮนเดอร์สันลงมาแทนลูคัส ลิเวอร์พูลยังพยายามบุกแต่ทำเกมได้ลำบาก แบ็คสองฝั่งที่เคยขึ้นมาช่วยเกมรุกได้ดีวันนี้ต้องเล่นแบบห่วงหน้าพะวงหลัง เพราะสโต๊คโต้ได้ดีตลอด รวมไปถึงเข้าไล่บอลในแดนกลางได้เร็วมาก แผงกลางของลิเวอร์พูลรวมไปถึงแบ็คที่พยายามจะเติมขึ้นมาแทบไม่มีเวลาจับบอล หรือคิดอะไรได้นาน หรือแม้แต่จังหวะที่พาบอลไปถึงหน้าเขตโทษได้แล้วก็หาช่องจ่ายบอลเข้าทำแทบไม่ได้

               เล่นไปถึงราวๆ นาที 70 ลิเวอร์พูลดูเหมือนจะเร่งเกมได้ดีขึ้น พาบอลไปถึงหน้าเขตโทษได้มากขึ้นแต่ยังครองเกมไว้ไม่ได้ สโต๊คเก็บบอลจังหวะสองได้ดีรวมไปถึงโต้ได้ตลอด ทั้งยังมีลูกเล่นเวลาที่ลิเวอร์พูลได้ทุ่มแถวมุมธงฝั่งตัวเอง สโต๊คจะดันกันขึ้นไปบีบพื้นที่ไม่ให้ลิเวอร์พูลตั้งบอลขึ้นมาได้ หลายครั้งถึงขั้นตัดบอลกลับมาเล่นต่อได้ด้วย ทำให้ลิเวอร์พูลที่แม้จะเป็นฝ่ายได้บอลและได้บุกมากกว่าดูจะถูกกดดันมากกว่า ฝั่งสโต๊คด้วยซ้ำ

               นาที 77 โคลได้ลงไปแทนดาวนิ่ง ถึงตรงนี้ลิเวอร์พูลดันสูงมาก ขึ้นไปช่วยกันเล่นเกมรุกเต็มที่แต่เปิดบอลจังหวะสุดท้ายไม่ผ่านแนวรับสโต๊ค บอลที่พอหลุดไปได้บ้างก็จะเข้าไม่ถึงบอล, มุมแคบเกินกว่าจะยิง, ถูกบีบให้ต้องเล่นเร็ว สุดท้ายเลยไม่สามารถทำประตูได้ ส่วนสโต๊คที่แม้เกมบุกดูจะเพลาลงไปบ้าง แต่การเก็บบอลจังหวะสอง, การวิ่งไล่เร็ว, การปิดพื้นที่อันตราย ยังทำได้ดีไม่มีที่ติ สุดท้ายเลยปิดเกมไปได้แบบไม่ยากเย็นนัก 3-1
-----------------------------------------

               สรุปสั้นๆ ว่าแพ้ละครับ นัดนี้ สโต๊คเป็นฝ่ายที่ทำได้ดีกว่าจริงๆ

               11 ตัวจริงใช้ชุดเดิมก็ไม่น่าแปลกใจ เพราะทีมชุดนี้ก็ทำผลงานกันได้ดีอยู่แล้ว และฟอร์มปัจจุบันก็น่าจะดีกว่าคนที่นั่งสำรองอยู่จริงๆ แต่นัดนี้สาเหตุสำคัญที่ทำให้แพ้อยู่ที่จุดแข็งของสโต๊คดันเป็นจุดสลบของลิ เวอร์พูล บวกเข้าไปกับฟอร์มของผู้เล่นสโต๊คที่เล่นกันได้ดีด้วยก็เลยเป็นอย่างที่เห็น

               บอลโด่งและกองหน้าที่เล่นด้วยพละกำลังเป็นปัญหาที่ลิเวอร์พูลยังแก้ไม่ตก ลองนึกภาพตอนแนวรับลิเวอร์พูลเจอกองหน้าแบบตอเรสหรือเบอร์บาตอฟแทบไม่มี ปัญหาอะไรเลย แต่เวลาเจอคาร์ตัน โคล, เควิน โจนส์ อะไรแนวๆ นี้แนวรับล้มกลิ้งล้มหงายทุกที นอกจากนั้นการวิ่งไล่เร็วถึงแม้จะเป็นแทคติคง่ายๆ (แต่ทำให้ดีไม่ง่าย) ที่หลายทีมใช้ วันนี้ต้องบอกว่าสโต๊ควิ่งได้ดีกว่าการออกบอลของลิเวอร์พูล ผู้เล่นลิเวอร์พูลไม่สามารถเคาะบอลได้เร็วพอที่จะเอาตัวรอดจากการถูกไล่ได้

                มีเรื่องที่คาใจในนัดนี้อยู่สองเรื่องครับ เรื่องแรกคือทำไมแอกเกอร์เป็นคนขึ้นโหม่งเบียดกับโจนส์บ่อยเหลือเกิน มันเยอะเกินกว่าจะเป็นเรื่องบังเอิญ เพราะปรกติแล้วถ้าต้องขึ้นโหม่งชนลักษณะนี้คนเข้าจะเป็นสเคอเทลมากกว่า งานนี้ไม่ใครก็ใครต้องตั้งใจสั่งมาละครับ ไม่รู้ว่าร็อดเจอร์หรือพูลิส แต่ที่แน่ๆ คือแอกเกอร์เอาไม่อยู่เลยจริงๆ เรื่องที่สองคือ เชลวี่ย์ ร็อดเจอร์เลือกที่จะเสี่ยงกับเชลวี่ย์ทั้งๆ ที่การเปลี่ยนตัวสามครั้งในนัดนี้สามารถเปลี่ยนเชลวี่ย์ออกได้โดยไม่ต้อง ปรับแทคติค (ถ้าครั้งแรกก็เอาซูโซ่มาอยู่กลางได้, ครั้งที่สองก็ใช้เฮนเดอร์สันเล่นแทนตำแหน่งได้, ครั้งที่สามโคลก็เล่นตรงนั้นได้) คือเข้าใจว่าร็อดเจอร์ต้องการบอลเร็วจังหวะเดียวทะลุช่องของเชลวี่ย์มาเป็น อาวุธเจาะแนวรับ (ซึ่งสไตล์นี้เชลวี่ย์ถนัดกว่า 3 คนที่ว่ามา) แต่ปัญหาคือทั้ง 3 คนที่โดนเปลี่ยนออกไม่ว่าจะ ซูโซ่,ลูคัส,ดาวนิ่ง เล่นไม่ได้แย่ไปกว่าเชลวี่ย์เลย ออกจะดีกว่านิดๆ ด้วยซ้ำ สรุปว่าเสี่ยงคราวนี้นอกจากจะเสียหมดหน้าตักแล้วยังต้องรอดูว่าโอกาสลงสนาม ของเชลวี่ย์จะน้อยลงไปด้วยหรือปล่าว

               อ้อ...วันนี้ลิเวอร์พูลได้ลูกโทษในเกมพรีเมียร์ลีคเป็นครั้งแรกของฤดูกาลแล้วนะครับ
 ----------------------------------

นัดนี้เล่นกันพอใช้ได้ค่อนไปทางไม่ดี

เรน่า - 3 ลูกที่เสียไปใครโทษก็ใจร้ายแล้ว เพราะเป็นจังหวะหลุด, ระยะใกล้มากทุกลูก วันนี้ยืนตำแหน่งได้ค่อนข้างดีและเซฟได้พอสมควร แต่ที่ดูแย่ไปเลยคือการเปิดเกมและเล่นบอลด้วยเท้าที่โดนกดดันจนออกบอลพลาด เยอะมาก

เอนริเก้ - แทบไม่มีโอกาสได้เติมเกมรุกเพราะต้องระวังบอลยาวโต้กลับของสโต๊คอยู่ตลอด เวลา ในเกมรับนั้นวิ่งเบียดบังบอลแย่งบอลได้ดีมาก เก็บกินได้เกือบตลอด แต่ปิดทางการเปิดบอลเข้ากลางได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ คู่ต่อสู้เปิดได้ง่ายและเปิดได้บ่อยไปนิด

สเคอเทล - มีปัญหากับลูกกลางอากาศตลอด สกัดและบอลจังหวะสองได้ไม่ค่อยดีด้วย ที่ยังดูดีอยู่คือการเข้าสกัดและอ่านทางบอลที่เปิดเข้ากลาง

แอกเกอร์ - สู้โจนส์ไม่ได้จริงๆ ขึ้นได้ไม่สูงเท่าและเบียดเอาไว้ได้ไม่ดีพอ เป็นวันที่เล่นได้ไม่ดีนัก

จอห์นสัน - เติมเกมรุกได้น้อยกว่าที่ผ่านมา พาบอลหนีการวิ่งไล่ของสโต๊คไม่ค่อยได้ โดนบีบจนหมดพื้นที่เล่นบ่อยครั้ง ช่วยทีมได้ไม่มากนัก

ลูคัส - แรงปะทะดูด้อยกว่าคู่ต่อสู้ ซึ่งแม้แต่ตอนที่ลูคัสสมบูรณ์ดีสุดการเจอกับกองกลางสโต๊คก็ไม่ใช่ง่ายอยู่ แล้ว ยิ่งสภาพยังไม่เต็มร้อยแบบนี้ลูคัสช่วยทำลายเกมแดนกลางได้น้อยกว่าที่ควรจะ เป็น

เจอราร์ด - ฟอร์มส่วนตัวไม่น่าจะแย่ลงเท่าไหร่ เพราะข้อผิดพลาดมีไม่มากนักและช่วยเกมรุกได้ดีอยู่(เมื่อเทียบกับคนอื่นๆ) แต่ปัญหาคือพื้นที่ว่างให้วางบอลง่ายๆ แบบนัดก่อนมันไม่มีในนัดนี้ รวมไปถึงการโดนบีบให้ต้องลงไปช่วยเกมรับมากกว่าปรกติทำให้จังหวะที่เจอราร์ด ได้บอลส่วนใหญ่ค่อนข้างจะไกลจากเขตโทษ เลยทำอะไรไม่ได้มากนัก

ซูโซ่ - จับบอลแรกได้ดีมาก เก็บบอลได้ดีกว่าอีกหลายคนในทีม มีส่วนร่วมกับเกมมากกว่าที่ผ่านมา แต่จังหวะทีเด็ดทีขาดมีให้เห็นน้อยไปหน่อย

ดาวนิ่ง - ยังเล่นได้ดีต่อเนื่อง ช่วงครึ่งแรกกระชากบอลและเปิดบอลได้ลุ้นหลายครั้ง จังหวะเกมรับขยันลงไปช่วย แต่ดูเหมือนจะขยันไปนิดเพราะหลายครั้งที่ทีมตัดบอลกลับมาได้ ดาวนิ่งอยู่ต่ำเกินกว่าจะทำเกมรุกขึ้นไปได้ เข้าครึ่งหลังค่อยๆ หายไปจนถูกเปลี่ยนตัวในที่สุด

เชลวี่ย์ - เล่นพลาดหลายครั้ง บอลเร็ววันนี้ไม่ทำงานเลย

ซัวเรส - จังหวะไปเองวันนี้แทบไม่ผ่านผู้เล่นสโต๊คเลย (ยกเว้นครั้งแรกที่เรียกจุดโทษได้) โอกาสน้อยนิดที่พอจะหาเองได้หรือเพื่อนหามาได้ก็ทำได้ไม่ดีพอจะเป็นประตู ช่วยเชื่อมเกมได้ดีอยู่และยังเล่นไม่ถึงกับแย่ แต่กดดันแนวรับได้น้อยกว่าที่ควรจะเป็น

ตัวสำรอง

สเตอริ่ง - ใช้ความเร็วเลี้ยงจี้กดดันกองหลังได้ดี...อยู่ประมาณ 10 นาที

เฮนเดอร์สัน - ช่วยทำให้เกมรุกตรงกลางดูดีขึ้นนิดหน่อย แต่ก็ทำให้เกมรับตรงกลางดูแย่ลงไปนิดหน่อยเช่นกัน

โคล - ลงไปดับ
 ------------------------------------------------------------

Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น