วันพฤหัสบดีที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ลิเวอร์พูล 1 - 0 อันชิ มัคชาคาล่า (ยูโรป้าลีค)


...มีพัฒนาการ...
--------------------------------------------------------

ลิเวอร์พูลเล่น 4-2-3-1

---------------------ซัวเรส----------------------
-----อัสไซดี้-------เชลวี่ย์--------ดาวนิ่ง-------
--------------ซาฮิน---------เจอร์ราด-----------
จอห์นสัน---แอกเกอร์---สเคอเทล----วิสดอม
----------------------โจนส์-----------------------

               ลิเวอร์พูลได้เล่นในบ้านต่อเนื่องเป็นนัดที่ 4 โดยนัดนี้เป็นเกมยูโรป้าลีครับมือทีมเยือนจากรัสเซีย อันชิ มัคชาคาล่า (จริงๆ มันอ่านยังไงใครรู้ช่วยบอกที) ร็อดเจอร์สส่งตัวหลักลงเยอะกว่าที่ผ่านมา เปลี่ยนแปลงแค่แผงตัวรุกหลังกองหน้าที่ส่งอัสไซดี้กับดาวนิ่งลงเป็นตัวจริง
-------------------------------------------------------

               เริ่มเกมมาเป็นลิเวอร์พูลที่ทำได้ดีกว่า ครองบอลได้ตั้งแต่ต้น ใช้เชลวี่ย์ยืนสูงเป็นตัวทำเกม ส่วนอันชิปักหลักอยู่แดนตัวเอง ประกบตัวรุกแน่นมาก อย่าว่าแต่จะพลิกบอลหันหน้าเข้าประตู แค่จับบอลยังแทบไม่มีเวลา เลยทำให้ลิเวอร์พูลที่แม้จะครองบอลได้แต่ยังหาโอกาสยิงได้ไม่เป็นชิ้นเป็นอันนัก โดยเกมรุกส่วนใหญ่ของทีมมาจากจังหวะการขยับหาช่องและแตะบอลหลบของซัวเรส ส่วนตัวรุกคนอื่นๆ ยังไม่มีบทบาทมากนัก

               ยิ่งเล่นอันชิยิ่งดูดีขึ้น เมื่อตัดบอลได้ไม่สาดทิ้งมั่วซั่วแต่เก็บบอลตั้งเกมรุกของตัวเองขึ้นไปบ้าง แต่โดยรวมก็ยังครองบอลได้น้อยกว่าและลิเวอร์พูลยังได้เปรียบอยู่ทั้ง เปอร์เซนต์การครองบอลและจังหวะลุ้นจบสกอร์ ผ่านครึ่งชั่วโมงแรกของเกมไป อันชิเริ่มไล่บอลสูงขึ้นทำให้ลิเวอร์พูลดูจะขึ้นเกมลำบากมากขึ้นเล็กน้อยแต่ ก็ยังกุมสถานะได้เปรียบอยู่ อย่างไรก็ตาม ลิเวอร์พูลยังไม่สามารถหาจังหวะยิงได้ถนัดนักและจังหวะได้ยิงผู้รักษาประตู ก็ยังไม่ต้องออกแรงเซฟ ส่วนอันชินั่นแทบไม่ได้ยิงเลย จนจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์ 0-0

               เข้าครึ่งหลัง สเตอริ่งได้ลงมาแทนจอห์นสัน โดยโยกเอาดาวนิ่งไปเล่นแบคซ้าย สเตอริ่งมาเล่นทางริมเส้นฝั่งขวา เจอราร์ดถูกดันขึ้นมาเล่นสูงมากขึ้น ทิ้งซาฮินไว้เชื่อมเกมจากหลังมาหน้าแค่คนเดียว ส่วนอันชิดูเหมือนตั้งใจลงมาเปิดเกมรุกมากขึ้น แต่ยังไม่ค่อยกล้าเิติมกันขึ้นมามากนัก ตัวรุกที่ขึ้นมายังมีไม่มากทำให้เกมรุกยังไม่ค่อยต่อเนื่อง

               ในที่สุดก็เกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้น นาที 53 ดาวนิ่งที่ยืนตำแหน่งแบคซ้าย เติมขึ้นมารับบอลแล้วตัดเข้ากลางก่อนยิงด้วยเท้าขวาเสียบเสาสองเข้าไปได้อย่างสวยงาม 1-0

               หลังจากเสียประตู อันชิเริ่มหันมาเล่นเกมรุกอย่างจริงจังมากขึ้น แต่ยังทำได้ไม่น่ากลัวเท่าไหร่ กลายเป็นลิเวอร์พูลที่โต้ขึ้นไปได้น่ากลัวกว่าแต่ยังยิงเพิ่มไม่ได้ ก่อนที่อันชิจะทยอยเปลี่ยนตัวมาเพื่อปรับเกมรุกแล้วค่อยๆ ทำได้ดีขึ้น จากที่ขึ้นมาได้แค่กลางสนามเริ่มขึ้นมาถึงหน้าเขตโทษ ก่อนจะดีขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งเริ่มได้ลุ้นยิงบ้างเป็นระยะ ทางด้านลิเวอร์พูลที่ได้โต้หลายจังหวะแต่ทำไม่ได้ เริ่มถูกกดดันมากขึ้น แนวรับเริ่มออกอาการเป๋ไปเป๋มาให้เห็นและบอลโต้เริ่มน้อยลง จนรูปเกมเริ่มตกเป็นรอง หนักไปทางต้องตั้งรับแต่ก็ยังเอาตัวรอดกันไปได้

               เข้า 10 นาทีสุดท้ายของเกม นาที 80 อัลเลนได้ลงมาแทนเชลวี่ย์เพื่อขันเกมรับให้แน่นขึ้น และอันเลนเองก็ทำได้ดี แต่อันชิเปิดเกมรุกเต็มที่ แผงกลางแผงหลังดันกันขึ้นมาช่วยเกมรุกอย่างเป็นระบบ ไม่มีมั่ว ไม่มีสาด ทำให้สามารถกดดันลิเวอร์พูลได้อย่างหนัก โจนส์ที่เล่นมาสบายๆ เกือบทั้งเกมเริ่มมีงานให้ทำอย่างต่อเนื่อง แม้ลิเวอร์พูลจะโต้ขึ้นไปได้บ้าง แล้วอันที่จริงก็ถือว่าทำได้ไม่เลวเมื่อหลายจังหวะสามารถพาบอลไปได้ถึงในเขต โทษแต่การผ่านบอลสุดท้ายรวมไปถึงการจบสกอร์ยังทำได้ไม่ดี ทำให้สกอร์ยังอยู่แค่ 1-0 เวลาที่เหลืออยู่จึงเป็นอันชิที่บุกกดดันได้มากกว่า แต่ในที่สุดก็เจาะแนวรับไม่สำเร็จ ลิเวอร์พูลเอาตัวรอดมาได้ 1-0
-----------------------------------------

               ร็อดเจอร์สเน้นเกมนี้มากทีเดียวเมื่อดูจาก 11 ตัวจริง ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจอะไรเพราะสถานการณ์ดูล่อแหลมเหลือเกิน เพราะพ้นจากนัดนี้ต้องออกไปเยือนทั้งอันชิทั้งอูดิเนเซ่ ถ้ามัวแต่กังวลกับเกมในลีคที่จะต้องไปเยือนเอฟเวอร์ตันในคืนวันอาทิตย์เผลอๆ จะถึงขั้นตกรอบเอา ก็ถือว่าเป็นเน้นที่สมควรทำแล้ว โดยเฉพาะถ้าดูจากผลที่ได้ต้องถือว่าคุ้มค่าอย่างยิ่ง

               นัดนี้ลิเวอร์พูลเล่นได้ดีและสมควรเป็นผู้ชนะ แม้ว่าประตูที่ได้มาออกจะเหนือความคาดหมายไม่น้อย ดาวนิ่งอาจจะทำได้ดีในลูกลักษณะนี้สมัยอยู่วิลล่า แต่ตั้งแต่มาอยู่ลิเวอร์พูลเจ้าตัวยังทำแทบไม่ได้เลย(ชนเสาชนคานอยู่ 3-4 ครั้งในฤดูก่อน) อยู่ๆ มายิงได้เอาตอนที่โดนถอยไปเป็นแบค แถมยิงด้วยเท้าขวาอีกต่างหาก ก็ต้องถือว่าโชคดีอยู่เหมือนกัน

               ลิเวอร์พูลทำเกมรุกได้ดีเมื่อหาจังหวะพาบอลขึ้นไปได้ถึงในเขตโทษบ่อยครั้ง แต่ปัญหาคือไม่สามารถเล่นบอลในจังหวะสุดท้ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยิงพลาดไปเองบ้าง ฝืนจะยิงจนพลาดบ้าง หลายครั้งมีเพื่อนอยู่ในตำแหน่งดีกว่าแต่ก็ไม่ค่อยจะยอมส่งบอลให้ พออยู่ในเขตโทษไม่ว่าจะใครก็ตามดูลนลานเร่งรีบไม่นิ่งเหมือนตอนอยู่หน้าเขต โทษ ทำให้โอกาสหลุดลอยไปหลายต่อหลายครั้ง ทั้งๆ ที่น่าจะยิงนำห่างและปิดเกมไปได้อย่างสบายแล้วแท้ๆ

               อย่างไรก็ตาม เกมของลิเวอร์พูลดูพัฒนาขึ้นมาจากช่วงเปิดฤดูกาลเยอะทีเดียว เกมรับดูจะเหนียวแน่นขึ้นทั้งในเรื่องของการลดข้อผิดพลาด(ยังมีอยู่แต่น้อย ลง) รวมไปถึงการทำลายจังหวะยิงของคู่ต่อสู้ที่ดูดีขึ้น ส่วนเกมรุกจากที่เคยได้แต่ป้วนเปี้ยนแถวหน้าเขตโทษ ช่วงนี้รู้สึกจะหลุดเข้าไปถึงในเขตโทษมากขึ้น โดยสรุปแล้วจากตอนช่วงเปิดฤดูกาลที่ต้องนั่งลุ้นว่าจะพลาดโดนเมื่อไหร่ จะตึเสมอได้มั้ย แต่ตอนนี้เปลี่ยนมาลุ้นว่าจะรักษาสกอร์ขึ้นนำได้จนจบมั้ย จะยิงนำห่างปิดเกมได้เมื่อไหร่

               ...ก็เป็นปัญหาที่น่ารื่นรมย์ไม่น้อยครับ...
----------------------------------

นัดนี้เล่นกันค่อนไปทางดี

โจนส์ - เล่นสบายๆ มาเป็นชั่วโมงก่อนจะเริ่มงานชุกในช่วงประมาณ 20 นาทีท้าย แม้โดยรวมจะมีลูกยากให้เซฟไม่มากนัก แต่ก็ต้องชมว่ายืนตำแหน่งดีมาก สมาธิอยู่กับเกมตลอด สามารถวิ่งออกมารับบอล, พุ่งไปเชคระยะลูกยิงไกลที่ไม่เข้ากรอบ เอาตัวรอดจากการโดนวิ่งไล่ในระยะประชิดได้ดี ที่สำคัญคือวันนี้เตะเปิดเกมได้ดีขึ้นเยอะเลย...ซวยแล้วเหม่งเอ้ย...

จอห์นสัน - ครึ่งแรกอันชิยังขึ้นมากันน้อย เกมรับยังไม่ต้องทำอะไรมาก หนักไปทางขึ้นไปเล่นเกมรุก ทำได้ดีในการพาบอลไปถึงสุึดเส้นและเล่นร่วมกับอัสไซดี้ ได้ลุ้นยิงเองก็พอประมาณ แต่จังหวะสุดท้ายไม่เด็ดขาด ถูกเปลี่ยนตัวออกในช่วงพักครึ่งเพราะอะไรยังงงๆ อยู่ เพราะตอนเล่นครึ่งแรกก็ไม่เห็นมีอาการเจ็บ (แต่ก็คงเพราะเจ็บนั่นแหล่ะ)

แอกเกอร์ - เข้าสกัดและบังทางบอลได้ดีมาก ผ่านบอลและพาบอลขึ้นไปเองได้ดี

สเคอเทล - ปะทะได้หนักหน่วงทั้งบนพื้นและลูกกลางอากาศ ขวาทางยิงและลูกยิงได้ดี ฟอร์มโดดเด่นมาก

วิสดอม - เกมรุกช่วยอะไรไม่ได้เหมือนเดิม แต่ขึ้นไปเชื่อมเกมได้ดีมากขึ้น เกมรับเหนียวแน่นมาก มีทั้งความเร็วและพละกำลัง พลาดให้เห็นบ้างในช่วงที่โดนบดหนักๆ แต่ก็พอเอาตัวรอดได้

ซาฮิน - ยืนต่ำและเล่นได้ไม่ดีนัก ขยับไปรอรับบอลจากแผนหลังได้ไม่ดีเอามากๆ ทำให้ช่วงที่อันชิไล่สูงบอลขึ้นไปข้างหน้าได้ช้า คุมพื้นที่ได้ดีพอประมาณ อย่างน้อยก็ไม่ได้ปล่อยให้คู่ต่อสู้เลี้ยงดุ่ยๆ ผ่านไปได้ ส่วนที่ยังดีอยู่คือการจ่ายบอลไปข้างหน้า

เจอราร์ด - เล่นพลาดเยอะมาก จินตนาการในการเล่นยังอยู่ครบแต่ประสิทธิภาพไม่ดีเท่าเดิม แม้จะยังมีจังหวะที่ทำได้ดีให้เห็นอยู่เป็นระยะ แต่โดยรวมถือว่าต่ำกว่ามาตรฐานของตัวเองที่เคยทำได้

เชลวี่ย์ - ครึ่งแรกดูจะยังขาดๆ เกินๆ ไม่ค่อยได้ทำอะไรมากนัก แต่ครึ่งหลังที่ีเจอราร์ดขึ้นมาช่วยดูจะทำได้ดีขึ้น วันนี้หาจังหวะสอดเข้าไปในเขตโทษได้ดีหลายครั้ง รวมไปถึงหาพื้นที่ยิงไกลได้ดีเป็นระยะ ฉวยโอกาสวิ่งเข้าไปฉกบอลจากเท้าคู่ต่อสู้ได้ดี ผ่านบอลได้ค่อนข้างแม่นยำ

อัสไซดี้ - เล่นได้โดดเด่นมาก ครึ่งแรกยังไม่หวือหวามากแต่ก็ทำชิ่งเล่นร่วมกับจอห์นสันได้ดี พอเข้าครึ่งหลังยิ่งทำได้ดีมากขึ้นไปอีกโดยเฉพาะจังหวะโต้กลับ กระชากบอลได้ดีมาก ตัวต่อตัวผ่านได้ตลอด ทำเสียบอลน้อยถ้าเทียบกับสไตล์การเล่นลักษณะนี้ ไม่หวงบอลและจ่ายให้เพื่อนที่ตำแหน่งดีกว่าอยู่ตลอด ถ้าเพื่อนยิงได้เด็ดขาดกว่านี้น่าจะมีสัก 2-3 แอสซิส

ดาวนิ่ง - ครึ่งแรกในตำแหน่งริมเส้นขวาทำอะไรไม่ได้เป็นชิ้นเป็นอัน ครึ่งหลังในตำแหน่งแบคซ้ายเล่นเกมรับได้ดีพอประมาณ ไม่เหนียวแน่นนักแต่ก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร แต่เติมขึ้นมาช่วยเชื่อมเกมได้ดีตลอด ยิงประตูชัยได้อีกต่างหาก

ซัวเรส - ครึ่งแรกเล่นได้โดดเด่นโดยเฉพาะจังหวะแตะบอลหลบคู่ต่อสู้ การทำเกมและจังหวะได้ลุ้นยิงในช่วงครึ่งแรกมาจากการเล่นของซัวเรสล้วนๆ ครึ่งหลังขยับไปเล่นริมเส้นบ่อยขึ้น ฝืนเล่นยากและทำพลาดเป็นระยะ แต่โดยรวมก็ยังถือว่าน่าพอใจ

ตัวสำรอง

สเตอริ่ง - ไม่มีจังหวะพาบอลไปเองสักเท่าไหร่ แต่วิ่งหาพื้นที่ว่างได้ดี ที่ทำได้ดีมากๆ ในวันนี้คือสามารถเบียดไหล่ต่อไหล่กับคู่ต่อสู้ได้อย่างไม่เป็นรอง อันที่จริงก็เบียดชนะเป็นส่วนมากด้วยซ้ำ และมีส่วนช่วยให้เกมโต้กลับเร็วสามารถพาบอลไปถึงเขตโทษได้หลายครั้ง

อัลเลน - ลงมาแค่ 10 นาที แต่ถ้าไม่ได้ลงมาอันชิคงบดได้หนักกว่านี้และทีมอาจพังท้ายเกมได้ ชลอเกมรุกและเก็บบอลได้ดี ทำให้เกมแดนกลางดูดีขึ้นกว่าในช่วงก่อนหน้านั้น

แมน ออฟ เดอะ แมทช์ : ...อุสซามะ อัสไซดี้... ถ้าดูจากประตูก็ต้องเป็นดาวนิ่ง ถ้าดูจากรูปเกมที่ชนะมาได้เพราะไม่เสียประตูก็ต้องเป็นสเคอเทล แต่ถ้าดูจากฟอร์มการเล่นจะเป็นคนอื่นไม่ได้เลยนอกจากริมเส้นโมรอคโคคนนี้ เล่นได้ในแบบฉบับของปีกแท้ๆ ที่ลิเวอร์พูลไม่มีมานานหลายปีแล้ว
 ------------------------------------------------------------
Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น