วันพฤหัสบดีที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2555

ลิเวอร์พูล 1-1 ฮาร์ท(ยูโรป้า) ลิเวอร์พูลเข้ารอบด้วยประตูรวม 2-1


...ก็กลัวจะเบื่อ...
--------------------------------------------------------

ลิเวอร์พูลเล่น 4-2-3-1

---------------------ซัวเรส---------------------

---เฮนเดอร์สัน----เจอราร์ด-----มอแกน-----

----------------อัลเลน--------เชลวี่------------

ดาวนิ่ง----คาราเกอร์----สเคอเทล-----เคลลี่

----------------------เรน่า-----------------------

               ลิเวอร์พูลเปิดบ้านรับฮาร์ทในเกมยูโรป้านัดที่สอง ร็อดเจอร์สส่งตัวสำรองลงพอสมควร โดยเฉพาะริมเส้นที่เปลี่ยนยกแผงทั้งสองฝั่ง เฮนเดอร์สันกับมอแกนได้โอกาสลงสนามทั้งคู่ รวมไปถึงดาวนิ่งที่ได้เล่นในตำแหน่งแบคซ้าย  และเคลลี่ได้เล่นแบคขวา แต่ยังมีหัวใจในแนวรุกอย่างเจอราร์ดและซัวเรสลงสนาม
-------------------------------------------------------

               เกมครึ่งแรกเรียกได้เต็มปากเต็มคำว่า "ไม่มีอะไร" ฮาร์ทนั้นพยายามจะเร่งเกมเร็ว วิ่งไล่บีบพื้นที่ตั้งแต่แดนหน้า เน้นเกมรุกขึ้นทางด้านขวา(ดาวนิ่ง)เป็นส่วนใหญ่ ชลอเกมรุกของลิเวอร์พูลได้แต่หาโอกาสจบสกอร์แทบไม่ได้ ส่วนทางฝั่งลิเวอร์พูลเน้นการครองบอลเต็มที่ เคาะบอลกันไปมาในแดนหลังและแดนกลาง สลับกับเล่นเร็วไปข้างหน้าในบางจังหวะ ครองบอลได้มาก ปิดเกมรุกของฮาร์ทได้สนิท แต่เกมรุกของตัวเองบอลไปไม่ค่อยถึงเขตโทษและหาโอกาสจบไม่ค่อยได้เช่นกัน จบครึ่งแรกไปในลักษณะนี้ 0-0

               เข้าครึ่งหลังรูปเกมคล้ายเดิม แต่ที่ไม่เหมือนเดิมคือฮาร์ทเริ่มไล่บอลน้อยลงและตั้งเกมของตัวเองไม่ได้เลย ส่วนลิเวอร์พูลที่ไม่ได้เร่งอะไรมากนักแต่มีพื้นที่และมีเวลามากขึ้นค่อยๆ ทำเกมรุกกดดันได้มากขึ้น เข้าถึงพื้นที่สุดท้ายและได้ลุ้นประตูเป็นระยะแต่พลาดในจังหวะสุดท้ายบ่อยครั้งทำให้ยังไม่ได้ประตูขึ้นนำ

               นาที 62 สเตอริ่งได้ลงมาแทนมอแกน ลิเวอร์พูลที่เห็นฮาร์ทไม่มีอะไรมาสู้เริ่มหันมาเน้นเกมบุกและเร่งเกมมากขึ้น กดดันได้อย่างต่อเนื่องมีโอกาสหลายต่อหลายครั้งแต่จังหวะสุดท้ายถ้าไม่ออกบอลพลาดกันไปเองก็เป็นซัวเรสที่ฝืนเล่นจนเสียบอลอยู่ตลอดจนทำให้เกมยัง 0-0 อยู่

               นาที 76 บอรินี่ได้ลงมาแทนเฮนเดอร์สันอีกคน รูปเกมยังไม่เปลี่ยนและลิเวอร์พูลก็ยังไม่ได้ประตูขึ้นนำสักที กลับกลายเป็นฮาร์ทที่มาโชคดีได้ประตูนำก่อนอย่างเหลือเชื่อในนาที 85 จากจังหวะที่ทิมเปิลตันเก็บบอลจังหวะสองได้แตะหาช่องแล้วยิงไกลนอกเขต บอลพุ่งเข้าตรงตัวเรน่า แต่เรน่าดันรับไม่อยู่บอลปลิ้นเข้าประตูให้ฮาร์ทขึ้นนำ 1-0

               หลังจากได้ประตูกลายเป็นฮาร์ทที่มีแรงฮึดพยายามเร่งเกมอีกครั้งและทำได้ดีพอสมควร ส่วนลิเวอร์พูลก็โต้กลับด้วยบอลยาวจากพื้นที่ด้านหลังของฮาร์ทที่เปิดไว้ค่อนข้างเยอะ และสุดท้ายเป็นลิเวอร์พูลที่ทำก่อน นาที 88 จากจังหวะที่ตัดบอลได้แล้วโต้เร็วกลับมา บอรินี่จ่ายให้ซัวเรสพลิกหลบแนวรับแล้วลากไปจนเกือบสุดเส้นหลังก่อนที่จะยิงมุมแคบเสาแรกผ่านมือผู้รักษาประตูเข้าไปได้ 1-1

               เวลาที่เหลืออยู่ฮาร์ทพยายามเร่งแต่ก็พลาดกันไปเองหมดไม่ได้ลุ้นอะไร ลิเวอร์พูลปิดเกมเอาตัวรอดผ่านเข้ารอบแบ่งกลุ่มได้สำเร็จด้วยผลเสมอ 1-1 สกอร์รวม 2-1
-----------------------------------------

               ร็อดเจอร์สวางแทคติคเกมนี้มาชัดเจนมากว่าต้องการเน้นการครองบอล ไม่ได้ต้องการเปิดเกมรุกใส่ ในแนวรับแม้แบ็คจะขึ้นสูงทั้งสองข้าง แต่ตรงกลางจะมีอัลเลนยืนต่ำอยู่ใกล้คู่เซ็นเตอร์อยู่ตลอด รวมไปถึงเชลวี่ย์ที่ไม่ได้ดันขึ้นไปสูงมากนัก ทำให้จังหวะขึ้นบอลของฮาร์ทที่เน้นวางยาวมาที่กองหน้าโดนรุมกินโต๊ะเก็บบอลไม่ได้ ส่วนการต่อบอลสั้นไม่ผ่านตั้งแต่แนวเชลวี่ย์ - เจอราร์ด ไกลมาได้ถึงแค่อัลเลน คู่เซ็นเตอร์แทบไม่ต้องสกัดบอลเรียดเลย ส่วนเกมรุกแค่เล่นกันไปตามจังหวะ มีช่องก็ค่อยให้ ซึ่งกับแนวรับยุ่ยๆ ของฮาร์ทแค่นี้ก็ดีพอที่จะทำให้ทีมมีโอกาสจบสกอร์อยู่เรื่อยๆ ถ้าดูในมุมเน้นผลการแข่งขัน วันนี้ลิเวอร์พูลก็ทำได้ตามเป้าในเรื่องรูปเกมไม่มีอะไรผิดพลาด

               แต่สิ่งที่ทำให้เกมที่ไม่มีอะไรและไม่ควรจะมีอะไรกลายเป็นต้องเจอความกดดัน (4 นาที) อย่างไม่น่าเชื่อก็หนีไม่พ้นความผิดพลาดส่วนบุคคล ซึ่งหนีไม่พ้นนักแตะสองคนคือซัวเรสกับเรน่า คนแรกฝืนแล้วฝืนอีกทำทีมเสียโอกาสขึ้นนำไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ส่วนคนหลังพลาดลูกง่ายๆ ในช่วงที่เกือบหมดเวลาทำเอาทีมเกือบต้องเหนื่อยกันต่อในช่วงต่อเวลา

               ความผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้ควรต้องเร่งแก้ไขให้เร็วที่สุด ไม่งั้นต่อให้เล่นดีให้ตายยังไงก็ยากที่จะได้ผลตามต้องการ ซึ่งนับเป็นปัญหาที่รับมือยากยิ่งกว่าการวางแทคติค, จัดตัวผู้เล่นลงสนาม, เปลี่ยนเกมระหว่างการแข่งเสียอีก ก็ต้องดูต่อไปว่าร็อดเจอร์สจะรับมือกับปัญหาแบบนี้ได้ดีแค่ไหน หลังจากที่ฤดูนี้ในเกมแข่งอย่างเป็นทางการ ลิเวอร์พูลโดนไปแล้ว 6 ประตู จาก 4 นัดและ 4 ใน 6 ประตูที่เสียไปเป็นการผิดพลาดง่ายๆ คล้ายๆ กันนี้ด้วย ถ้าแก้ไม่ได้...

               ...พรุน...
----------------------------------

นัดนี้เล่นกันค่อนข้างดี

เรน่า - ไม่มีอะไรทำนอกจากเตะบอลที่เพื่อนคืนหลังมาให้ ไม่เจอความกดดัน ไม่ต้องเซฟลูกยาก แต่เรน่าคงกลัวแฟนบอลจะเบื่อเลยปล่อยให้บอลปลิ้นเข้าประตูให้เกมมันตื่นเต้นซะอย่างนั้น

ดาวนิ่ง - เล่นแบ็คซ้ายได้ไม่ขัดเขิน ช่วงครึ่งชั่วโมงแรกฮาร์ทพยายามจะเจาะตรงพื้นที่นั้นแต่ดาวนิ่งก็รับมือได้ไม่ลำบากนัก ขยันเติมเกมรุก มีความเร็ว แต่เปิดบอล...เข้าป่า

คาราเกอร์ - สกัดบอลหวาดเสียวหวุดหวิดจะฟาลว์หลายครั้งแต่ส่วนใหญ่ก็ไม่พลาด เล่นลูกกลางอากาศได้ดีและออกบอลใช้ได้ ไม่โยนทิ้งโยนขว้างหรือจ่ายไปเข้าเท้าคู่ต่อสู้

สเคอเทล - ประกบกองหน้าได้ดี แรงปะทะดีกว่าเยอะ ลูกกลางอากาศก็เก็บได้หมด ไม่เจองานยากอะไร วันนี้มีจังหวะวางบอลยาวไปริมเส้นสวยๆ ให้เห็นอยู่ 2-3 ครั้ง

เคลลี่ - แทบไม่ต้องเล่นเกมรับ ไม่เจอความกดดัน ครึ่งแรกเติมเกมรุกเยอะมากและไปได้ถึงสุดเส้น เปิดเข้ากลางดีบ้างไม่ดีบ้าง ก่อนที่ครึ่งหลังจะค่อยๆ หายไป

อัลเลน - ขาดความแข็งแกร่งเอามากๆ เบียดไหล่ต่อไหล่เอาไม่ค่อยจะอยู่ แต่เข้าบอลและอ่านทางแม่น ครองบอลไว้กับตัวได้เหนียวแน่นและผ่านบอลได้ดีมาก

เชลวี่ย์ - ลดความดุลงไปเยอะ ไม่ค่อยวิ่งเข้าไปอัดคู่ต่อสู้สักเท่าไหร่ เบียดและเพรซซิ่งอย่างที่คนอื่นเขาทำกันได้แล้ว ปิดพื้นที่และไล่บอลได้ดี ออกบอลได้แม่นโดยเฉพาะบอลยาวไปพื้นที่ว่างวันนี้เชลวี่ย์ทำได้ยอดเยี่ยม

เจอราร์ด - เล่นไม่ออก การพาบอลไปกับตัวทำได้ไม่ค่อยดีนัก ประสานงานกับผู้เล่นแดนหน้าคนอื่นแทบไม่ได้เลย ยังขยับหาที่ว่างและเชื่อมเกมได้ดีพอใช้ แต่โดยรวมนับเป็นกองกลางที่ฟอร์มด้อยที่สุดในจำนวน 3 คน

เฮนเดอร์สัน - ไม่ค่อยเล่นทางริมเส้นมากนัก ส่วนใหญ่ขยับเข้ามาช่วยตรงกลาง ไม่มีส่วนกับเกมรุกเลย ส่วนเกมรับก็ไม่พลาดแต่ก็ไม่โดดเด่นนัก ที่ดูดีหน่อยคือผ่านบอลสั้นได้เร็วและแม่น ยังคงเอกลักษณ์ของฟอร์มการเล่นแบบชั่วไม่มีดีไม่ปรากฎได้เหนียวแน่น

มอแกน - ครึ่งแรกได้โอกาสเล่นในพื้นที่สุดท้ายพอสมควร ตัดสินใจช้าไปหน่อย ดูเกร็งและตั้งใจจนพลาดเยอะ พาบอลทำเกมเองไม่ได้แต่หาพื้นที่ได้ดีและมีความเร็วกดดันคู่ต่อสู้ได้พอใช้

ซัวเรส - ช่วงต้นเกมออกบอลจังหวะเดียวได้สุดยอดมาก แต่ยิ่งเล่นก็ยิ่งฝืนพาบอลเล่นเองคนเดียวมากเกินไป ทำบอลเสียเยอะมาก จังหวะควรจ่ายไม่จ่าย หลายครั้งที่เพื่อนรอโล่งอยู่ไม่มีตัวประกบก็ไม่ให้ เป็นวันที่ฟอร์มไม่ดีเอามากๆ แต่สุดท้ายแล้วก็ยังอุตส่าห์ยิงประตูสำคัญ(แบบยากๆ เช่นเคย)ให้ทีมได้สำเร็จ

ตัวสำรอง

สเตอริ่ง  - เริ่มมั่นใจมากขึ้น มีความเร็วและพาบอลไปกับตัวได้ดีมาก แต่ที่ไม่ดีคือเจ้าตัวเริ่มจะเห็นซัวเรสเป็นไอดอลแล้ว

บอรินี่ - ไม่ค่อยได้เข้ามาใกล้เขตโทษนัก ส่วนใหญ่ก็ช่วยเคาะบอลทำชิ่งอยู่แถวๆ ริมเส้น

แมน ออฟ เดอะ แมทช์ : ...โฮเซ่ เรน่า... ถ้านับฟอร์มโดยรวมวันนี้ก็เล่นดีพอๆ กันหลายคน แต่จำเป็นต้องยกตำแหน่งนี้ให้กับคนที่ทำให้เกมนี้กลับมาตื่นเต้นได้อย่างไม่น่าเชื่อ ไม่ได้ลูกนั้นเกมนี้ก็แทบไม่เหลืออะไรให้พูดถึงแล้ว :P

Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น