วันอังคารที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2555

แบล็คเบิร์น 2 - 3 ลิเวอร์พูล



...เรน่า เก่งนะ...
--------------------------------------------------------

ลิเวอร์พูลเล่น 4-5-1

----------------------คาโรล----------------------

มักซี่--เชลวี่ย์---สเปียริ่ง--เฮนเดอร์สัน--เบลามี่

จอห์นสัน---สเคอเทล--โคอาเตส---ฟลานาแกน

-----------------------โดนี่-----------------------

                ลิเวอร์พูลไปเยือนแบล็คเบิร์นก่อนเกมสำคัญที่ต้องตัดตัดเชือก FA Cup กับเอฟเวอร์ตันในวันเสาร์ ดัลกลิชเปลี่ยนทีมแทบยกชุด เก็บผู้เล่นตัวหลักอย่างซัวเรส,เจอราร์ด,ดาวนิ่ง,เอนริเก้,คาราเกอร์(?) เป็นโอกาสของตัวสำรองและดาวรุ่งได้ลงสนาม
-------------------------------------------------------

                เกมเริ่มแบบค่อยเป็นค่อยไปเล่นกันไปตามจังหวะ รูปเกมสูสี ลิเวอร์พูลพยายามต่อบอลสั้นขึ้นไปแต่แผงกองกลางยังทำเกมไม่ได้ ในขณะที่แบล็คเบิร์นเปิดเกมรุกเข้าใส่เน้นการเข้าทำเร็วด้วยความสามารถเฉพาะตัวแต่ก็ยังเจาะแนวรับไม่ได้เช่นกัน แต่แล้วแบล็คเบิร์นมาพลาดก่อน ในนาที 13 จากจังหวะที่แบล็คเบิร์นได้ฟรีคิกแต่แนวรับสกัดไว้ได้ บอลเข้าทางคาโรลบังบอลในเขตโทษก่อนจะไหลให้สเคอเทลวางยาวให้เบลามี่หลุดขึ้นไปถึงสุดเส้น ก่อนจะเปิดกลับมาเสาสองให้มักซี่แปเข้าไปง่ายๆ 1-0

                กองกลางแบล็คเบิร์นดูจะมีปัญหากับการขึ้นบอล จ่ายพลาดและโดนตัดไปได้หลายครั้ง จนมาพลาดอีกครั้งในนาที 16 เชลวี่ย์ตัดบอลได้จากกลางสนามก่อนจะลากขึ้นมายิงเองแถวหน้าเขตโทษแ้ล้วติดเซฟ คาโรลซ้ำก็ติดเซฟ แต่บอลมาเข้าทางมักซี่(อีกแล้ว) ซ้ำเข้าไปได้สำเร็จ 2-0

                หลังจากถูกนำ 2-0 แบล็คเบิร์นยังไม่มีทีท่าจะกลับสู่เกมได้ ถึงตรงนี้น่าจะเป็นเกมที่ง่ายสำหรับลิเวอร์พูล แต่สำหรับลิเวอร์พูลฤดูกาลนี้ไม่มีอะไรง่าย ทั้งที่คุมสถานการณ์ไว้ได้แล้ว แต่ในนาที   25 ฟลานาแกนคืนหลังพลาดเข้าทางฮอยเลตได้หลุดเดี่ยวเข้าเขตโทษ โดนี่ไปรวบไม่โดนบอล โดนใบแดง เสียจุดโทษ ดัลกลิชส่งโจนส์ลงมาโดยตัดสินใจเปลี่ยนฟลานาแกนที่โดนใบเหลืองไปแล้วและเล่นพลาดหลายจังหวะออกไป ยาคูบูรับหน้าที่ยิงจุดโทษ แต่ยิงได้น่าเกลียดเหลือเชื่อ โจนส์เซฟไว้ได้ง่ายๆ สกอร์ยังเป็น 2-0 แต่ลิเวอร์พูลเสียเปรียบที่เหลือ 10 คน

                เมื่อเหลือ 10 คนและเปลี่ยนฟลานาแกนออก เฮนเดอร์สันโดนโยกมาเล่นแบคขวาจำเป็น แบล็คเบิร์นเปิดเกมรุกมากขึ้นเน้นไปที่เกมริมเส้น เกมโอเพ่นเพลย์ดูจะยังไม่มีอะไรน่ากลัวแต่แบล็คเบิร์นมาทำสำเร็จจากลูกตั้งเตะ นาที 36 ดันเปิดฟรีคิกเข้าเขตโทษแล้วยาคูบูได้ขึ้นโหม่งโล่งๆ ไม่มีคนประกบเข้าไปได้ 2-1 เวลาที่เหลืออยู่แบล็คเบิร์นพยายามเร่งเกมมากขึ้นแต่ยังไม่มีอะไรมากไปกว่าการทำเกมริมเส้นที่ไปได้ไม่สุด ยังทำอะไรลิเวอร์พูลเพิ่มไม่ได้ จบครึ่งแรกที่สกอร์ 2-1

                เข้าครึ่งหลัง ลิเวอร์พูลพยายามดึงจังหวะเกมให้ช้าลง แต่ไม่ได้ลงมาตั้งรับลึก ยังสู้อยู่ที่กลางสนาม ส่วนแบล็คเบิร์นที่เร่งเกมและเปิดเกมรุกมากขึ้นยังมีปัญหากับการขึ้นบอลตรงกลางสนามเหมือนเดิมทำให้ลิเวอร์พูลไม่โดนกดดันมากนักและยังพอเก็บบอลมาโต้ได้บ้าง นาที 53 แอกเกอร์ได้ลงมาแทนจอห์นสัน โดยแอกเกอร์ลงเล่นในตำแหน่งแบคซ้าย

                จากที่คุมสถานการณ์ไว้ได้ค่อนข้างดี ลิเวอร์พูลมาพลาดอีกครั้งในนาที 60 สเคอเทลจ่ายคืนหลังให้โจนส์ แต่โจนส์เตะเปิดพลาดไปโดนยาคูบูบอลเด้งเข้ากรอบ แต่โจนส์ที่น่าจะคว้าบอลได้ไม่ยากกลับพลาดทำบอลหลุดกลายเป็นไปผลักยาคูบูเสียจุดโทษอีกครั้งโชคดีที่โดนแค่ใบเหลือง ก่อนที่ยาคูบูจะยิงจุดโทษอีกครั้งและคราวนี้ไม่พลาด 2-2

                แม้เกมจะกลับมาเสมอแต่รูปเกมไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก แบล็คเบิร์นพยายามเน้นเจาะทางเฮนเดอร์สันแต่บอลจังหวะสุดท้ายยังทำอะไรไม่ได้มากนัก กลับมากดดันได้ดีจากลูกตั้งเตะทั้งฟรีคิกและเตะมุมที่นักเตะแบล็คเบิร์นแทบจะขึ้นโดนบอลทุกครั้ง ในขณะที่ลิเวอร์พูลเองยังสามารถโต้ได้เป็นระยะแต่ยังไม่ดีพอที่จะเป็นประตู

                นาที 77 เอนริเก้ได้ลงแทนมักซี่ เวลาที่เหลืออยู่แบล็คเบิร์นกดดันได้มากขึ้นแต่ยังไม่ดีพอจะเป็นประตู เกมทำท่าว่าจะจบที่ผลเสมอ แต่ในช่วงทดเจ็บนาที 91 ลิเวอร์พูลได้ลูกเตะมุม แบล็คเบิร์นสกัดกันออกไปได้แล้วแต่โคอาเตสโยนย้อนกลับมาจากครึ่งสนาม แอกเกอร์ขึ้นถึงบอลโหม่งชงเข้ากลาง คาโรลโถมโหม่งเข้าไปได้ ทำให้ลิเวอร์พูลที่มี 10 คนแซงเอาชนะได้สำเร็จ 3-2
-----------------------------------------

                นัดนี้ชัดเจนมากว่าดัลกลิชต้องการพักตัวผู้เล่นเอาไว้บดกับเอฟเวอร์ตัน แต่ผลงาน(ก่อนเหลือ 10 คน) ออกมาดีมาก นักเตะที่ไม่ค่อยได้ลงสนามอย่างมักซี่กับเบลามี่ทำผลงานได้ดีสุดๆ ในขณะที่นักเตะที่เล่นไม่ค่อยดีในช่วงก่อนหน้าอย่างเชลวี่ย์และเฮนเดอร์สันก็ทำได้ดี ทำให้ทีมออกนำไปก่อนถึงสองประตู

                แต่แล้วปัญหาเดิมๆ ก็ตามมาหลอกหลอน ความผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ ทำเอาลิเวอร์พูลต้องเจอเกมยาก ฟลานาแกนพลาดหนักกับการคืนหลังไม่ดูตาม้าตาเรือ ในขณะที่โดนี่ก็พลาดไม่แพ้กันที่ดันไปรวบ สถานการณ์ที่มีเกมสำคัญรออยู่, นำอยู่ 2 ลูก, และเกมลีคแทบไม่มีผลอะไรแล้ว(นอกจากเรื่องศักดิ์ศรีและกำลังใจ) โดนี่ไม่น่าเสี่ยงเล่นอย่างนั้น ยิ่งไปกว่านั้น แค่ครั้งเดียวยังไม่พอ คนที่ลงมาแทนอย่างโจนส์ยังมาพลาดง่ายๆ อีก บอลที่สเคอเทลจ่ายกลับไปไม่กดดันใดๆ ทั้งสิ้นเพราะยาคูบูยังอยู่ห่าง อีกทั้งสเคอเทลและโคอาเตสก็วิ่งฉีกออกไปรอรับบอลแ้ล้วทั้งคู่ โจนส์มีทางเลือกให้เล่นมากเหลือเกินแต่ก็ยังพลาด นัดหน้าถ้ายังพลาดกันง่ายขนาดนี้ ไม่น่ารอดเงื้อมมือเอฟเวอร์ตันไปได้ ต่อให้มีซัวเรสกับเจอราดลงก็เถอะ

                นอกจากความผิดพลาดส่วนบุคคลแล้ว นัดนี้ปัญหาใหญ่เอามากๆ คือการรับมือลูกตั้งเตะ แทนที่จะโทษใครคนคนหนึ่งที่ประกบตัวพลาด น่าจะเรียกว่าเป็นความผิดพลาดของแทคติคการตั้งรับลูกฟรีคิกมากกว่า เพราะปล่อยให้แบล็คเบิร์นขึ้นได้แทบจะทุกจังหวะ ถ้าแบล็คเบิร์นมีนักเตะที่เล่นลูกกลางอากาศได้ดีอีกสักคนมาช่วยยาคูบู รับรอง...เละ แล้วนัดหน้าต้องไปเจอตัวเปิดฟรีคิกดีๆ อย่างเบห์นด้วย ได้แต่หวังว่าลิเวอร์พูลจะรับมือลูกฟรีคิกได้ดีกว่านี้

                แต่ไม่ใช่ว่าอะไรจะเลวร้ายไปซะหมด นัดนี้  "ขิงแก่" ของทีมอย่างมักซี่และเบลามี่ยังแสดงให้เห็นว่าพวกเขายังเผ็ดอยู่และอาจจะ "เผ็ดกว่า" นักเตะหนุ่ม หรือนักเตะที่ดัลกลิชเลือกเป็นตัวจริงด้วยซ้ำ ถ้าดัลกลิชเลือกใช้งานพวกเขาดีๆ ทั้ง FA Cup ที่ยังมีลุ้น และเกมลีคที่เหลืออยู่ ลิเวอร์พูลอาจจะมีผลงานดีกว่าช่วงย่ำแย่ที่ผ่านมาก็เป็นได้

                สำหรับการเปลี่ยนตัว การที่ดัลกลิชตัดสินใจเปลี่ยนฟลานาแกนออกแทนที่เป็นตัวรุกคนใดคนหนึ่งถือว่าเป็นการตัดสินใจเปลี่ยนตัวที่ดีที่สุดครั้งนึงของดัลกลิชในฤดูนี้ นอกจากจะทำให้เกมโต้กลับยังมีคุณภาพอยู่เหมือนเดิมแล้ว จุดอ่อนสำคัญอย่างฟลานาแกนยังถูกถอดออกไปด้วย นอกจากนั้นเมื่อเหลือ 10 คนแล้ว การไม่ถอยลงไปอุดแต่เลือกที่จะสู้ที่กลางสนาม ทำให้เกมของลิเวอร์พูลไม่เป็นรองมากนัก ถือว่าเป็นการตัดสินใจเลือกแทคติคที่ดีเอามากๆ ด้วย วันนี้ในฐานะผู้จัดการทีมดัลกลิชทำได้น่าประทับใจทีเดียว

                สำหรับการตัดสินนัดนี้ ผู้ตัดสินแกแจกใบเหลืองกระจาย 9 - 10 ดูเหมือนจะให้ง่ายไปนิด แต่กับจังหวะจุดโทษทั้ง 2 ลูกนั้นถูกต้องใสสะอาด โดยเฉพาะลูกที่สองนั้นต้องถือว่าโชคดีด้วยซ้ำที่โจนส์ไม่โดนใบแดงตามโดนี่ไปอีกคน ไม่งั้นนอกจากเกมนี้จะไม่รอดแล้ว เกมนัดหน้าจะมีปัญหาหนักกว่าเดิมจากการที่ไม่มีผู้รักษาประตูมือ 1-2-3 อีกด้วย

                ...เกือบได้เห็นดาวรุ่งลงตัวจริง ในตำแหน่งที่ไม่อยากเห็นแล้วสิ... ----------------------------------

นัดนี้เล่นดีบ้างไม่ดีบ้าง

โดนี่ - พลาดหนักจริงๆ ในจังหวะที่โดนไล่ออก ถ้ามันเป็นนาทีสุดท้ายของเกมสำคัญ สกอร์ห่างไม่เกิน 1 ลูกจะไม่ถือว่าพลาดเลย แต่กับจังหวะนี้ไม่น่าพลาด

จอห์นสัน - เหมือนจะยังฟิตไม่สมบูรณ์ เกมรุกไม่ได้เติมมากนัก ส่วนเกมรับก็แถบไม่ได้ทำอะไรเพราะแบล็คเบิร์นไปเจาะทางขวามากกว่า ที่โดนเปลี่ยนออกก็น่าจะเป็นเพราะความฟิตมากกว่าจะเป็นการเปลี่ยนแทคติค

โคอาเตส - เล่นได้พอใช้ค่อนไปทางดี ในโอเพ่นเพลย์ไม่พลาดอะไร แม้สไตล์การเล่นจะดูหวาดเสียวกับการที่ชอบที่จะเสี่ยงสกัดในจังหวะยิงแทนที่จะใช้วิธีเบียดให้ติดตัวก็ยังไม่เห็นข้อผิดพลาดอะไร โยนกลับเข้าไปจนทีมได้ประตูชัยด้วย

สเคอเทล - เป็นกัปตันทีมในเกมที่แนวรับเปลี่ยนแปลงเยอะเหลือเกิน แค่ออกสตาร์ทก็เปลี่ยนแล้ว ,เหลือ 10 คน แล้วไหนยังจะมาเปลี่ยนผู้รักษาประตู,แบคขวา, แบคซ้าย ระหว่างเกมอีก สเคอเทลประคับประคองแนวรับได้ขนาดนี้ถือว่าทำได้ดีมากแล้ว

ฟลานาแกน - เล่นพลาดหลายจังหวะ หวุดหวิดจะโดนใบแดงไปก่อนที่จะส่งคืนหลังพลาดด้วยซ้ำ เด็กคนนี้แม้จะยังเล่นได้ไม่ถึงระดับที่ไว้ใจได้แต่ก็พอเห็นแววจะปั้นได้ กลัวแต่ว่าเกมนี้จะทำให้ความมั่นใจของฟลานาแกนหมดไปแล้วกลายเป็น แจ็ค ฮอปป์ คนที่สอง (ยังจำกันได้รึปล่าว)

มักซี่ - 2 ประตูที่ยิงได้ไม่ใช่ฟลุ๊ค การวิ่งทำทางของมักซี่เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้เขายิงประตูได้เรื่อยๆ ขอแค่บอลมาถึง ตำแหน่งของมักซี่พร้อมทำประตูทันที นอกจาก 2 ลูกที่ทำได้ยังมีอีกหลายครั้งที่เขาวิ่งไปรอบอลแล้วแต่เพื่อนไม่ส่งให้, บอลไปไม่ถึง อย่างไรก็ตามปัญหาของมักซี่ก็ยังคงเป็นเรื่องเดิม ไม่มีส่วนร่วมกับเกมโดยรวม และทำเกมด้วยตัวเองไม่ได้เลย

เชลวี่ย์ - ทำได้พอใช้ ฉวยโอกาสตัดบอลได้ดีหลายครั้งในจังหวะที่แบล็คเบิร์นขึ้นบอล แต่เล่นเห็นแก่ตัวไปหน่อย ฝืนจะเล่นเองมากเกินไป(ทั้งอย่างนั้นก็ยังทำได้ดีระดับนึงเลย) ในเกมรับช่วยทีมได้น้อยมาก ห่วงแต่เกมรุก ลงมาช่วยเชื่อมเกมในแดนหลังไปกลางน้อยเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อทีมเหลือ 10 คน

เฮนเดอร์สัน - เล่นได้ดีพอใช้ตอนที่อยู่ตรงกลาง เชื่อมเกมได้ดี แต่มาเล่นได้ค่อนข้างดีจริงๆ คือตอนที่ลงไปเป็นแบค ไม่น่าเชื่อว่าเล่นแบคแล้วดันทำเกมรุกได้ดีกว่าตอนยืนเป็นกองกลาง ทั้งบุกตะลุยและวางบอล อย่างไรก็ตาม เกมรับในฐานะแบค ไม่ไหวเอามากๆ ซึ่งก็คงโทษอะไรไม่ได้

เบลามี่ - เป็นตัวทำเกมหลักของทีม นอกจาก 1 แอสซิสต์แล้ว ยังทำเกมโต้กลับได้ดีตลอดเกม โมโหน้อยกว่าทุกวันด้วย (ซึ่งยังเยอะกว่าเฮนเดอร์สันในวันที่หงุดหงิดที่สุด)

สเปียริ่ง - เป็นโชคดีที่แบล็คเบิร์นเน้นเกมริมเส้น งานเลยน้อยลงไป ปิดพื้นที่หน้าเขตโทษได้ดีทีเดียว แต่กับการเข้าสกัดแย่งบอลทำได้น้อย เพราะเข้าไม่ถึงบอล

คาโรล - ทำผลงานได้ดี เก็บบอลหรืออย่างน้อยเรียกฟาลว์ให้กับทีมได้ ทำให้ทีมไม่เสียการครอบครองบอล ทำประตูในช่วงเวลาสำคัญทั้งยังเป็นประตูชัยให้กับทีมได้ ที่ดูจะยังไม่เปลี่ยนคืออ่านจังหวะโหม่งพลาดบ่อยเหลือเกิน ขึ้นวืดบ้าง โหม่งผิดเหลี่ยมบ้าง ทั้งๆ ที่น่าจะเป็นจุดแข็งของเขา

ตัวสำรอง

โจนส์ - ทำพลาดจนเสียจุดโทษ และไม่ค่อยจะยอมออกมาตัดบอลโด่ง ปักหลักอยู่บนเส้นมากเกินไป

แอกเกอร์ - ทำเกมด้วยการเลี้ยงขึ้นมาดื้อๆ ได้ดีหลายครั้ง เรียกฟาลว์ได้เกือบทุกครั้ง โหม่งชงให้คาโรลด้วย เป็นวันที่มีส่วนร่วมกับเกมรุกและทำได้ดี ในขณะที่เกมรับแทบไม่ได้ทำอะไร

เอนริเก้ - ลงมาเล่นปีก ครองบอลนานจนพลาด 2-3 ครั้ง แต่ไม่ใช่พื้นที่อันตราย ไม่มีบทบาทอะไรกับเกมมากนัก

แมน ออฟ เดอะ แมทช์ : แอนดี้ คาโรล ... ในเรื่องของฟอร์มการเล่น เบลามี่ดูดีกว่าแน่นอน ในเรื่องของประตูมักซี่ก็ทำได้ดีกว่าแน่นอน แต่ในวันที่เหลือ 10 คน, โดนไล่ตีเสมอ, เวลาจะหมด เขา...นักเตะที่ค่าตัว 35 ล้านปอนด์ที่ไม่เคยมีใครคิดว่าจะฝากผีฝากไข้อะไรได้(อย่างน้อยจนถึงตอนนี้) ทำประตูชัยให้กับทีม ก็ยกตำแหน่งนี้ให้เขาไปเถอะ


Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.

ป.ล. ทำไมวันนี้มันยาวจังฟระ!?

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น