วันอังคารที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2555

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 3 - 0 ลิเวอร์พูล



...รูรั่วแค่หัวเข็ม ทำเขื่อนแตกได้...

--------------------------------------------------------

ลิเวอร์พูลเล่น 4-5-1

----------------------คาโรล----------------------
ดาวนิ่ง---อดัม---สเปียริ่ง--เฮนเดอร์สัน--เค้าท์
เอนริเก้---แอกเกอร์----สเคอเทล----จอห์นสัน
-----------------------เรน่า-----------------------

          ลิเวอร์พูลเปิดเกมแรกของปีด้วยการออกไปเยือนซิตี้ ดัลกลิชปรับนักเตะคนเดียวโดยส่งเค้าท์ลงเป็นตัวจริงทางฝั่งขวาแล้วโยกดาว นิ่งไปเล่นทางซ้าย นอกนั้นยังเป็นทีมชุดเดิม

-------------------------------------------------------

          ซิติ้เริ่มเกมแบบระมัดระวัง เน้นครองบอลไม่เร่งจังหวะ แต่เมื่อเสียบอลแล้วจะเข้าไล่เร็วตั้งแต่แดนหน้า ต้นเกมลิเวอร์พูลมีจังหวะลุ้นจากดาวนิ่งที่ได้บอลยาวหลุดเดี่ยวเข้าไปในเขต โทษแต่ยิงติดเซฟ หลังจากนั้นลิเวอร์พูลก็ตั้งเกมของตัวเองได้ลำบากมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งยังต้องมาเสียประตูเร็ว แค่นาที 10 ที่ซิตี้เพรซซิ่งแย่งบอลมาได้ แล้วเป็นกุนที่ยิงไกลจากนอกกรอบบอลมุดลอดเรน่าเข้าไปใ้ห้เจ้าบ้านขึ้นนำ 1-0


          หลังจากเสียประตูลิเวอร์พูลดูจะมีอาการอยู่ราวๆ 5 นาที แต่หลังจากนั้นก็รวบรวมสมาธิกลับมาครองบอลได้บ้าง ทำเกมรุกกดดันได้เป็นระยะ แต่ยังไม่ดีพอจะหาโอกาสจบสกอร์แบบได้ลุ้น เกมค่อนข้างสูสีและเล่นกันเร็วโดยเป็นฝั่งซิตี้ที่กดดันได้มากกว่าเล็กน้อย จนกระทั่งนาที 33 ซิตี้มาได้เพิ่มจากลูกเตะมุม ตูเร่ขึ้นถึงบอลก่อนจอห์นสันโหม่งเช็ดคานเข้าไปได้เป็น 2-0


           เมื่อสกอร์เปลี่ยน เกมทั้งสองฝ่ายดูช้าลงไป ลิเวอร์พูลเริ่มหันมาเน้นขึ้นทางซ้ายมากขึ้นแต่ก็ทำได้แค่ครอสบอลเข้าไป ตั้งแต่ยังไม่ถึงเส้นหลัง ส่วนซิติ้บุกน้อยลงแต่บุกขึ้นมาแต่ละครั้งทะลุมาถึงหน้าเขตโทษเกือบตลอด จนกระทั่งจบครึ่งแรกที่ 2-0


          เข้าครึ่งหลัง ลิเวอร์พูลเร่งเกมตั้งแต่เริ่ม พยายามออกบอลกันเร็วขึ้นส่วนจังหวะเข้าทำเน้นบอลโด่งเป็นหลัก แต่ทางด้านซิตี้ก็ยังรับมือได้ดีทั้งการปิดพื้นที่แดนกลางไม่ให้ลิเวอร์พู ลขึ้นบอลได้ง่าย รวมไปถึงการสกัดบอลโด่งก็ยังรับมือคาโรลได้ดีอยู่ นาที 57 เจอราดกับเบลามี่ได้ลงแทนอดัมกับเค้าท์


          ผ่าน 1 ชั่วโมงของเกมไป ซิตี้เริ่มหันมาเน้นรับต่ำมากขึ้น ทำให้ลิเวอร์พูลพาบอลเลยครึ่งสนามและครองบอลกันได้มากขึ้น แต่แทบจะไม่สามารถพาบอลไปถึงพื้นที่สุดท้ายได้เลย อย่างไรก็ตามลิเวอร์พูลดูจะมีลุ้นขึ้นเล็กน้อยเมื่อนาที 73 แบรี่ไปขวางแอกเกอร์จังหวะพาบอลขึ้นมาโดนใบเหลืองที่สอง ทำให้ซิตี้เหลือ 10 คน


          แต่แล้วจากจังหวะต่อเนื่อง ลิเวอร์พูลเล่นลูกฟรีคิกกันผิดพลาด ซิตี้ตัดบอลได้แล้วสวนเร็วขึ้นมา ตูเร่ลากบอลเข้ามาถึงเส้นเขตโทษ แล้วเป็นสเคอเทลที่เข้าผิดจังหวะเสียจุดโทษ ทำให้ซิตี้ยิ่งนำห่างออกไปอีกเป็น 3-0 ดัลกลิชทิ้งไพ่ใบสุดท้ายส่งมักซี่ลงแทนสเปียริ่งทันที แต่ไม่มีอะไรดีขึ้น ลิเวอร์พูลไม่สามารถเจาะแนวรับของซิตี้ได้ กลับเป็นฝั่งซิตี้ที่ใช้บอลโต้เร็วกลับมากดดันลิเวอร์พูลได้เป็นระยะ จนกระทั่งจบเกม ซิตี้เอาชนะไปได้ 3-0

------------------------------------------

          ดัลกลิชตัดสินใจส่งเค้าท์ลงมาแทนเบลามี่ คาดว่าน่าจะเป็นเพราะต้องการการเพรซซิ่งและการปิดพื้นที่แดนกลางให้เด็ดขาด มากกว่าที่เปิดเกมกดดันทางริมเส้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ลิเวอร์พูลเคยใช้ได้ผลในการเจอกับทีมใหญ่มาก่อน แต่ครั้งนี้กลับไม่ได้ผล ในเกมรับ นอกจากเค้าท์จะเล่นได้ดรอปลงไปแล้ว อดัมกับเฮนเดอร์สันที่ไล่อยู่ข้างหน้าก็ชะลอเกมของซิตี้ไม่ได้เลย บอลจะทะลุเข้ามาถึงหน้าเขตโทษอยู่ตลอด รวมไปถึงสเปียริ่งเองก็ทำได้แค่ับังทางเป็นส่วนใหญ่ ไม่สามารถสกัดหรือแย่งบอลมาได้สักเท่าไหร่ ส่วนในเกมรุกกับกลายเป็นว่าซิตี้ไล่เพรซซิ่งได้เร็วกว่าและช่วยกันไ่ล่ได้ดี ทุกคนจนกระทั่งลิเวอร์พูลขึ้นบอลกันยากลำบากตลอดเกม และถูกบีบให้ต้องไปเล่นริมเส้นอยู่ตลอดเพราะตรงกลางเจาะเข้าไปแทบไม่ได้เลย

           แทคติคแผงกลาง 5 คน แต่คุมแดนกลางไม่อยู่ทั้งเกมรุกเกมรับก็เลยเอาตัวรอดกลับออกไปไม่ได้

          อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้เกมนี้ตกอยู่ในมือของซิตี้ตลอดเกม มาจากความผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ ของทางฝั่งลิเวอร์พูลเองที่เล่นกันได้ไม่ละเอียดในบางจังหวะ โดยเฉพาะลูกแรกกับลูกที่สามที่ไม่ควรพลาดง่ายขนาดนั้น ทำให้ทีมต้องเล่นด้วยความกดดันตลอดเกม รวมไปถึงจังหวะลุ้นเดี่ยวที่ถ้าเลือกช็อตเล่นให้ดีกว่านั้น อาจทำให้ทั้งเกมเปลี่ยนไปเลยก็ได้


          มองทางฝั่งซิตี้ วันนี้พวกเขาชนะได้อย่างเด็ดขาดจริงๆ ช่วยกันวิ่งไล่ได้ดีทั้งเกม ซิตี้ทำได้ดีในเกมรับ ตูเร่กับแบรี่ปิดตรงกลางได้สนิทจนลิเวอร์พูลเจาะตรงกลางไม่เข้าไม่ว่าจะเป็น อดัม เฮนเดอร์สัน สเปียริ่ง เจอราด ส่วนทางริมเส้น ไม่ว่าจะซ้ายหรือขวา ปีกจะลงไปช่วยแบคตลอด แทบจะไม่เห็นมีจังหวะที่แบคซิตี้ต้องดวลเดี่ยวกับนักเตะลิเวอร์พูลเลย และสุดท้ายคือคู่เซ็นเตอร์ที่ประกบคาโรลได้ดี ถึงแม้ว่าจะดูมีปัญหาในช่วงๆ ต้นเกม แต่ก็รับมือได้ดีขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งคาโรลทำอะไรไม่ได้ไปในที่สุด


          ส่วนเกมรุก แม้จะหาโอกาสยิงได้น้่อยกว่านัดที่ผ่านๆ มา เกมรุกที่เคยวูวาบกดดันคู่ต่อสู้หนักหน่วงวันนี้ค่อนข้างแผ่ว ไม่มีจังหวะการเล่นเกมรุกที่ตื่นตาตื่นใจมากนั แต่ก็อาศัยรูรั่วเล็กๆ ค่อยๆ เจาะลิเวอร์พูลเข้าไปได้ทีละลูก...ละลูก สุดท้ายกลายเป็นสกอร์ไหลทะลักไปถึง 3 ลูก....ได้มากกว่าวันที่เปิดเกมรุกบ้าคลั่งซะอีก

          ...แพ้จริงๆ ครับ งานนี้...

----------------------------------

นัดนี้เล่นได้ไม่ถึงกับแย่ (แต่บังเอิญคู่ต่อสู้เล่นดีมาก)


เรน่า - อ่านทางบอลพลาดตอนเสียประตูแรก ดูจากเท้าแล้วเข้าใจว่าเรน่าอ่านทางบอลว่ากุนจะปั่นไปเสาไกล พอบอลลอดแอกเกอร์มาก็เลยล้มผิดจังหวะ หลังจากนั้นแม้หน้าตาจะดูหลอนๆ แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรผิดพลาดเพิ่มเติม จังหวะเสียประตูที่สองก็อุตส่าห์เซฟให้ ลูกนึงแล้ว มาโดนอีกลูกที่บอลมาเร็วและเช็ดคานขนาดนั้นก็คงปัดไม่ทันจริงๆ ....ลูกที่สามไม่ต้องพูดถึง


เอนริเก้ - ไม่ค่อยได้เล่นเกมรับ แถมกลายเป็นคนขึ้นเกมรุกตัวหลักมันไปซะอย่างนั้น ลากบอลไปเองอย่างหวาดเสียวว่าจะโดนตัดแต่ก็พอเอาตัวรอดได้ จังหวะสุดท้่ายโยนพอได้ลุ้น แต่ก็ได้แค่ลุ้น


แอกเกอร์ - ลูกแรกก็เข้าบอลค่อนข้างช้า น่าจะวิ่งไปปิดมุมได้ดีกว่านี้ โดยรวมแล้วยังหยุดไม่ให้กองหน้าได้พลิกยิงได้อยู่ แต่ตัดบอลไม่ได้และแรงปะทะยังดูด้อยกว่าเซโก้ในหลายจังหวะ อย่างไรก็ตาม จังหวะที่เรียกใบเหลืองที่สองจากแบรี่ได้นั่นทำได้สุดยอดจริง ลากผ่านซิตี้ไปได้ตั้งสามคนเรียกฟาลว์ได้อีกต่างหาก


สเคอเทล - มีปัญหาตลอดเกมทั้งลูกกลางอากาศ การเบียดปะทะ และการเข้าสกัด ทำได้แค่ประคองตัวไม่ให้คู่ต่อสู้ได้ยิงในเขตโทษเท่านั้นแต่หยุดกการทำเกม ของกองหน้าไม่ได้ พลาดในจังหวะทำเสียจุดโทษอีกต่างหาก ซึ่งจริงๆ โดยรวมแล้วอยากจะให้เครดิตเซโก้ที่ทำได้ดี มากกว่าที่จะบอกว่าสเคอเทลฟอร์มหลุด


จอห์นสัน - เป็นวันที่ไม่ค่อยได้เล่นเกมรับเช่นกัน แต่เกมรุกแม้จะพยายามหลายครั้งก็ฝ่ากลีชี่ไม่ไ้ด้


ดาวนิ่ง - ช่วงครึ่งชั่วโมงแรกเล่นได้หวือหวา มีความเร็วและกระชากบอลไปได้ดี แต่หลังจากที่ซิตี้เริ่มหันมาเล่นเกมรับมากขึ้นก็ทำอะไรไม่ได้มากนัก


อดัม - เล่นดี..ไม่พอ โดยเฉพาะในวันที่ต้องเจอกับตูเร่และแบรี่ที่เล่นได้ดีทั้งคู่ อดัมคิดช้า ทำช้าเกินไปสำหรับคู่ต่อสู้ระดับนี้


เฮนเดอร์สัน - คุมจังหวะเกมได้ดีกว่าอดัม ช่วยเกมรับได้พอๆ กับสเปียริ่ง แต่การออกบอลเพื่อนไม่ได้เปรียบเลย ช่วยอะไรได้ไม่มากนัก


สเปียริ่ง - แย่งบอลได้น้อยคือปัญหาหลักของสเปียริ่งวัีนนี้ ทำให้ภาระตกไปอยู่กับคู่เซนเตอร์เยอะมากกว่าที่ควรจะเป็น ส่วนปัญหารองคือการเก็บบอลจังหวะสองที่ทำได้ไม่ค่อยจะดีเช่นกัน


เค้าท์ - เป็นไพ่หลักในการออกสตาร์ทเกมในวันนี้ แต่เค้าท์ทำไม่ได้อย่างที่เคยทำ, อย่างที่ดัลกลิชและแฟนบอลและเจ้าตัวหวัง ดูเหมือนว่าการได้ลงบ้างไม่ได้ลงบ้างแทนที่จะทำให้เค้าท์ฟิตและมีความมุ่ง มั่นกับเกม กลับกลายเป็นเข้ารกเข้าพงแทน


คาโรล - เป็นวันที่เล่นได้ดีระดับนึงเลย โดยเฉพาะช่วงครึ่งชั่วโมงแรกที่เอาชนะในจังหวะที่ขึ้นดวลตัวๆ กับเซนเตอร์ พักบอลได้บ้าง โหม่งชงได้บ้าง แต่หลังจากที่ซิตี้ลงไปรับ แล้วโดนประกบหน้าประกบหลังประกบซ้ายประกบขวา...ตายสนิท (โปรดดูเทปย้อนหลังในช่วง 30 นาทีสุดท้ายของเกมจะได้อรรถรสมาก)


ตัวสำรอง

เจอราด - เคลื่อนที่มากกว่าอดัม อดัมเคลื่อนที่เป็นแนวตรงจากเขตโทษถึงเขตโทษเป็นส่วนใหญ่ ในขณะที่เจอราดขยับออกซ้ายขวาด้วย มีบอลยาวให้ไปที่ว่างมุมธงเป็นระยะ แต่สุดท้ายก็ยังฝ่าเกมรับซิตี้เข้าไปไม่ได้


เบลามี่ - เล่นได้หวือหวาอยู่ประมาณ 5 นาที หลังจากนั้นก็โดนล็อคตาย หายสนิทตามคาโรลไปอีกคน

มักซี่ - ได้อยู่ในสนามราว 15 นาที ได้แตะบอลประมาณ 4-5 ครั้ง ได้ยิงในจังหวะที่โดนเร่ง 1 ครั้ง...นั่นคือทั้งหมดที่ได้ทำแล้ว

ป.ล. แบรี่โดนไล่ออกง่ายไปหน่อยนะ กรรมการโคตรใจร้ายเลย

 Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น