วันอังคารที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2555

วูล์ฟแฮมตัน 0 - 3 ลิเวอร์พูล





...ชนะทีมหนีตกชั้นได้แล้วเ้ว้ยเฮ้ยยย...
--------------------------------------------------------

ลิเวอร์พูลเล่น 4-5-1

------------------------คาโรล-----------------------

เบลามี่----อดัม----สเปียริ่ง---เฮนเดอร์สัน---เค้าท์

เอนริเก้-----แอกเกอร์-----สเคอเทล-----จอห์นสัน

-------------------------เรน่า------------------------

               ลิเวอร์พูลมีเกมลงเตะถี่ยิบ ได้พักจาก FA แค่ 3 วัน แต่วันนี้ต้องออกไปเยือนวูล์ฟในเกมพรีเมียร์ลีค ดัลกลิชปรับนักเตะค่อนข้างมาก เบลามี่กับเค้าท์ได้ลงเล่นริมเส้นซ้าย-ขวา ส่วนอดัม,สเปียริ่งและจอห์นสันได้กลับมาเป็นตัวจริงอีกครั้ง เจอราดกับดาวนิ่งได้พัก ส่วนแผงหลังและหน้าเป้ายังใช้นักเตะชุดเดิม
-------------------------------------------------------

               เริ่มเกมมาลิเวอร์พูลก็พยายามบุกใส่ทันที ส่วนวูล์ฟก็เข้าไล่บอลเร็วตามสไตล์บอลรอง แต่ที่มาแปลกคือพยายามเปิดเกมรุกและสวนเร็วทุกครั้งที่มีโอกาส เกมค่อนข้างสูสีและยังหาโอกาสเจาะเข้าไปลุ้นทำประตูกันไม่ค่อยได้ ลิเวอร์พูลดูมีปัญหาเล็กน้อยกับการหยุดเกมรุกของวูล์ฟที่กลางสนาม รวมไปถึงการประกบและรับมือกับนักเตะวูล์ฟที่เติมกันขึ้นมาจากแถวสองแต่ก็ยังพอเอาตัวรอดกันไปได้

               ผ่านครึ่งชั่วโมงของเกมไป ลิเวอร์พูลเริ่มหันมาไล่สูงมากขึ้น สามารถตัดเกมรุกของวูล์ฟได้ตั้งแต่กลางสนาม กดดันแนวรับของวูล์ฟได้มากขึ้น แต่ก็ยังหาช่องเจาะได้ลำบาก จังหวะเข้าทำ ทำกันค่อนข้างช้าและถูกบีบให้ต้องครอสจากริมเส้นเป็นส่วนใหญ่และยังหาโอกาสจะแจ้งไม่ค่อยได้ ก่อนจะจบครึ่งแรกที่สกอร์ 0-0

               เข้าครึ่งหลัง วูล์ฟทำเซอร์ไพรส์อีกครั้งด้วยการดันแผงหลังขึ้นสูงเกือบกลางสนาม เข้าใจว่าเพื่อบีบลดพื้นที่ในแดนกลางและพยายามเปิดเกมรุกให้มากขึ้่น แต่มันกลับทำให้เกมของวูล์ฟแย่ลงกว่าในครึ่งแรกเพราะลิเวอร์พูลมีพื้นที่ให้วางบอลเยอะขึ้น และในนาที 52 จากจังหวะที่ลิเวอร์พูลโต้เร็ว ได้ทุ่มในแดนวูลฟ์แล้วนักเตะวูลฟ์ยังลงกันมาไม่ทัน อดัมไปรับบอลทุ่มแล้วครอสไปเสาสอง เป็นคาโรลที่วิ่งเข้ามาชาร์จได้สำเร็จ 1-0

               หลังจากเสียประตู วูล์ฟก็ยิ่งเร่งจะเปิดเกมรุกให้มากขึ้น ลิเวอร์พูลแม้จะดูผ่อนเกมลงเล็กน้อย เข้าไล่บอลกันช้าแต่ก็สามารถปิดเกมรุกของวูล์ฟได้อย่างไม่ยากลำบากอะไร ทั้งยังมาได้ประตูนำห่างในนาที 61 จากจังหวะโต้กลับเช่นเดิม เบลามี่ได้บอลจากพื้นที่กลางสนามก่อนจะพาบอลมาเรื่อยๆ โดยนักเตะวูล์ฟวิ่งถอยหลังไม่มีใครเข้าบอล เบลามี่เลยยิงจากนอกเขตโทษเสียบเสาสองเข้าไปเป็น 2-0

               แมคคาธี่เปลี่ยนตัวทันทีหลังจากเสียประตูแต่เกมก็ไม่ได้ดูสักเท่าไหร่ นักเตะวูล์ฟยิ่งเร่งยิ่งเสีย เกมรุกไม่ปะติดปะต่อ ทั้งยังเปิดพื้นที่ด้านหลังและริมเส้นไว้โล่งโจ้ง กลายเป็นลิเวอร์พูลที่เล่นจังหวะโต้กลับกันสบาย และก็มาได้ประตูอีกครั้งจากจังหวะโต้กลับในนาที 78 ที่เรน่าชกบอลออกมาเอนริเก้แตะหลบฟริมปงก่อนที่จะวางยาวข้ามมาทางขวาให้เค้าท์เปิดต่อให้อดัมแล้วมาจบที่เค้าท์ยิงมุมแคบเข้าไปได้ 3-0

               นาที 81 คาราเกอร์กับเชลวี่ได้ลงมาแทนอดัมและแอกเกอร์ ลิเวอร์พูลเริ่มหันมาครองบอลมากขึ้นเพื่อปิดเกม วูล์ฟพยายามเร่งอีกครั้งในช่วง 5 นาทีสุดท้ายแต่ก็กดดันอะไรไม่ได้มากนัก นาที 90 ออเรลิโอได้ลงมาแทนเค้าท์อีกคน ก่อนที่ลิเวอร์พูลจะปิดเกมไปสบายๆ เอาชนะไปได้ 3-0
------------------------------------------

               ดัลกลิชปรับนักเตะหลายตำแหน่งที่ต้องลงเตะหลายนัดในช่วงเวลาไม่กี่วัน แต่ถึงอย่างนั้นในช่วงครึ่งหลังก็ยังเห็นว่าหลายคนออกอาการหมดแรงให้เห็น แทคติควันนี้โดยรวมก็ยังเหมือนนัดที่ผ่านๆ มา ที่แปลกออกไปหน่อยและใช้เป็นอาวุธหลักในการเปิดเกมรุกในจังหวะที่ทำเกมกันขึ้นไปเอง(ไม่ใช่จังหวะโต้กลับ) คือขึ้นบอลทางขวาโดยให้จอห์นสันเติมขึ้นไป สลับกับเฮนเดอร์สันที่ออกมาเล่นริมเส้น แล้วให้เค้าท์ดันขึ้นไปเป็นกองหน้าตัวที่สอง ทำกันได้ดีระดับนึงสามารถกดดันแนวรับวูล์ฟได้อยู่ตลอด

               สิ่งที่ตัดสินเกมในนัดนี้ ...แมคคาธี่....ก็ไม่รู้ว่าพี่แกคิดอะไรอยู่ ในช่วงครึ่งแรกแม้เกมของวูล์ฟจะดูเป็นรองลิเวอร์พูลอยู่แต่ก็ไม่มาก เกมรุกพอจะหาโอกาสจบได้บ้างนิดหน่อยและเกมรับยังไม่ถึงกับเสียขบวน ถ้ายื้อเล่นแบบนั้นต่อไป วูล์ฟอาจจะได้ลุ้นสามแต้มเต็มน้อยลงแต่ลิเวอร์พูลก็คงเจาะกันเข้าไปได้ยากเหมือนกัน แต่สิ่งทีแมคคาธี่ทำในครึ่งหลังคือดันแผงหลังวูล์ฟขึ้นสูงหวังครองเกมกลางสนามและเปิดเกมรุกเต็มที่ ทั้งๆ ที่ลิเวอร์พูลมีนักเตะที่มีความเร็วอย่างเบลามี่อยู่ในสนาม, มีเค้าท์ที่พร้อมจะวิ่งไม่ว่าบอลมันจะอยู่ไกลแค่ไหนหรือว่าเพื่อนจะเปิดให้หรือปล่าว รวมไปถึงนักเตะที่วางบอลยาวได้ดีอย่างอดัม, เอนริเก้(รวมเฮนเดอร์สันด้วยก็ได้) แล้วมันจะเหลือหรือ? บทสรุปคือลิเวอร์พูลได้ประตูจากจังหวะโต้กลับ-ทำเร็ว ทั้ง3 ประตู

               นอกจากแทคติคของแมคคาธี่แล้ว ฟอร์มของนักเตะสองฝั่งก็มีส่วนไม่น้อย คาโรลกับอดัมเล่นได้ดีกว่าที่ผ่านมา ถ้าทั้งคู่เล่นได้เหมือนเดิมอย่างที่เคยเห็นลิเวอร์พูลคงลำบากกว่านี้มากนัก ส่วนฝั่งวูล์ฟเองกลางรับอย่างพริมปงเล่นฟอร์มหลุดอย่างไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นคนเดียวกับที่เล่นงานกองกลางลิเวอร์พูลซะเกือบตายในช่วงต้นซีซั่นที่ลงสนามให้อาร์เซนอล รวมไปถึงโกลอย่างเทนเนสซี่ที่ครึ่งแรกยังเล่นดี แต่ครึ่งหลังยืนตำแหน่งได้ไม่ดีเอามากๆ ลูกที่สองและสามเขาควรจะเซฟได้

               อย่างไรก็ตาม ลิเวอร์พูลเองก็ทำได้ดีเมื่อคู่ต่อสู้เปิดช่องให้ เมื่อมีจังหวะโต้ก็ทำกันได้ดีพอ และเมื่อมีจังหวะจบสกอร์เน้นๆ ที่ไม่ควรพลาด(แต่นัดก่อนๆ พลาด) นัดนี้ก็ทำกันได้

               ...เลย 3-0 แบบไม่มีทั้งเจอราดและซัวเรส...
----------------------------------

นัดนี้เล่นกันได้ดีกว่ามาตรฐานเล็กน้อย (คู่ต่อสู้พลาดให้ซะเยอะ)

เรน่า - เป็นคลีนชีตที่ได้มาง่ายอีกนัดหนึ่ง แม้ว่าวูล์ฟมีจังหวะเกือบได้ประตูอยู่ 2-3 ครั้งแต่ก็ทำได้แค่ยิงตรงตัวกับยิงชนคาน วันนี้ออกบอลเร็วในจังหวะโต้กลับได้ดีหลายครั้ง

เอนริเก้ - ช่วง 1 ชั่วโมงแรกของเกม หันกลับมาเล่นง่ายๆ ไม่ค่อยฝืนอีกครั้งและทำผลงานได้ดีมากไม่ว่าจะเกมรับหรือการขึ้นเชื่อมเกมกลางสนาม แต่หลังจากสกอร์ห่าง 2-0 ก็กลับมาโชว์เหนืออีกครั้งเช่นกัน แต่วันนี้กลับกลายเป็นดีโดยกลายเป็นที่มาของประตูที่สาม

แอกเกอร์ - ครึ่งแรกอ่านเกมผิดพลาดให้เห็นบ้าง ยืนผิดตำแหน่งก็บ่อยอยู่ แต่พอเข้าครึ่งหลังก็เล่นได้ดีขึ้น เกือบทำประตูจากลูกเตะมุมได้ถึงสองครั้ง เสียดายที่พลาดไปหมด

สเคอเทล - เช่นกันกับแอกเกอร์ ครึ่งแรกมีจังหวะเข้าพรวดจนทีมเกือบเจ๊ง 2-3 หน แต่เข้าครึ่งหลังก็กลับมาเล่นได้แข็งแกร่งเหมือนเดิม

จอห์นสัน - ด้วยแทคติคที่ทำให้ต้องเติมเกมสูงและต้องพะวงกับเกมรุก ทำให้วันนี้จอห์นสันในเกมรับหลุดตำแหน่งและลงไม่ทันหลายครั้ง รวมไปถึงการสกัดบอลที่ผิดเหลี่ยมและไร้ทิศทางเป็นระยะๆ แต่หน้าที่ในเกมรุกทำได้ดีมากทีเดียว ไม่ว่าจะพาบอลไปเองหรือทำชิ่งกับเพื่อน ทำให้เกมรุกฝั่งขวาทำได้ต่อเนื่อง

เบลามี่ - ใช้่ความเร็วเล่นในจังหวะโต้กลับได้ดีและครองบอลได้ดี พาบอลไปเองแล้วไม่ค่อยเสียบอล ที่ทำได้ดีมากในวันนี้คือการเอาชนะกับดักล้ำหน้าซึ่งแทบไม่พลาด ยังเคลื่อนไหวได้ดีพอใช้แม้จะมียุบๆ ไปบ้างในช่วงกลางครึ่งหลัง

เฮนเดอร์สัน - เล่นได้ดุดันขึ้นเล็กน้อย หาจังหวะทำเกมรุกได้ดีขึ้นบ้าง ออกบอลเร็วและกระจายบอลได้ดี ที่ดูดรอปลงไปคือการครอสบอลที่ทำได้ไม่ดีนัก ส่วนเกมรับปิดพื้นที่ได้เข้าขั้นแย่ ไม่ค่อยเข้าไปเร่งนักเตะวูล์ฟและเข้าสกัดน้อยไปหน่อย

สเปียริ่ง - เล่นในบทบาทของคาราเกอร์ในนัดก่อนและทำไ้ด้ดีกว่า...มาก เข้าสกัดได้ดีในจังหวะที่เป้าหมายพาบอลมาให้เห็นๆ แต่อ่านเกมไม่ดีและเข้าไม่ค่อยถึงบอลในจังหวะที่นักเตะวูล์ฟมีทางเลือกให้เล่นมากกว่าการพาบอลไปเอง ที่น่าแปลกใจคือเชื่อมเกมได้ดีและมีมิติการให้บอลในเกมรุกดีกว่าเฮนเดอร์สันเสียอีก

อดัม - แม้วันนี้จะสร้างเกมรุกได้ไม่มากนักในแง่ปริมาณ แต่ดีตรงที่มีคุณภาพในหลายจังหวะ ทำได้สองแอสซิส, หาโอกาสยิงไกลได้ครั้งสองครั้งและมีโอกาสสอดขึ้นไปยิงในเขตโทษถึง 2-3 ครั้ง(อดัมนะครับไม่ใช่เจอราด 2-3 ครั้งนี่ต้องใช้คำว่า "ถึง" แล้ว) ที่ประทับใจที่สุดในนัดนี้คือการทำฟาลว์จนโดนใบเหลืองในนาที 13 จังหวะที่ยาวิสเกือบได้หลุดเดี่ยว ถ้าไม่ตัดสินใจเร็วแบบนั้น ยาวิสหลุดแน่แล้ววูล์ฟอาจได้ขึ้นนำก่อน

เค้าท์ - การวิ่งทำทางแบบบ้าคลั่งคือสิ่งที่เค้าท์ทำได้ดีในวันนี้ ทุกครั้งที่ีข้างหน้ามีพื้นที่ เค้าท์จะวิ่งไปก่อนเลยไม่ว่าเพื่อนจะเปิดให้หรือไม่เปิด และมันทำให้การขึ้นเกมของลิเวอร์พูลทำได้ง่ายขึ้น แต่ที่หายไปในวันนี้คือการวิ่งไล่บอลที่ทำได้น้อยลงมาก

คาโรล - มีความมั่นใจมากขึ้น ผลงานก็ดูดีขึ้น ทำได้ดีในการจบสกอร์แรกให้ทีม โหม่งชงให้เพื่อนและให้บอลได้ดีขึ้นกว่าเดิมมาก ที่ยังดูไม่ดีคือเรื่องความละเอียด หลายครั้งที่เล่นยากและตะบี้ตะบันชิ่งแบบไม่ได้ดูเพื่อนเลยว่าพร้อมเล่นมั้ย รวมไปถึงการควบคุมอารมณ์ที่ดูจะหงุดหงิดนู่นนี่อยู่ตลอดเกม แต่โดยรวมแล้วเกมนี้คาโรลทำได้ดี

ตัวสำรอง

คาราเกอร์ - ไม่มีอะไรให้ทำนอกจากโหม่งสกัดบอลง่ายๆ

เชลวี่ย์ - ลงมาในช่วงที่ทีมผ่อนเกมและเน้นครองบอลแล้ว ไม่มีโอกาสได้โชว์อะไร

ออเรลิโอ - สงสัยจะอกหักจากพยาบาลแล้ว

แมน ออฟ เดอะ แมทช์ : ชาลี อดัม...สองแอสซิสเชียวนะ โดยเฉพาะลูกแรกวางบอลได้สวยงามสุดๆ รวมกับใบเหลืองที่ได้มาแบบคุ้มค่ามากใบนัด ตำแหน่งนี้ไม่น่ายกให้คนอื่นแล้ว

Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น