...ยิงแซง...ก็เป็นนะครับ
--------------------------------------------------------ลิเวอร์พูลเล่น 4-5-1
----------------------คาโรล----------------------
เบลามี่---อดัม---สเปียริ่ง--เฮนเดอร์สัน--ดาวนิ่ง
เอนริเก้---แอกเกอร์----สเคอเทล----จอห์นสัน
-----------------------เรน่า-----------------------
ลิเวอร์พูลเล่นในบ้านเจอนิวคาสเซิล โดยเกมนี้ไม่มีซัวเรสที่ติดโทษแบน ดัลกลิชตัดสินใจใช้กลาง 5 คน โดยส่งสเปียริ่งที่พึ่งโทษแบนลงเป็นตัวจริง รวมไปถึงเบลามี่ที่ได้ลงทางฝั่งซ้ายแทนมักซี่ นอกนั้นยังเป็นทีมชุดเดิม
-------------------------------------------------------
เริ่มเกมมาแบบระมัดระวังตัวกันสุดๆ นิวคาสเซิลนั้นเริ่มเกมช้าๆ ไม่ตั้งเกมบุกมากนัก อาศัยบอลยาวให้บาพักบอลเล่นเป็นส่วนใหญ่ ทางด้านลิเวอร์พูลแม้จะพยายามบุกแต่ไม่โหมเข้าใส่เหมือนนัดก่อนๆ เกมค่อนข้างสูสีโดยเป็นทางฝั่งลิเวอร์พูลที่พาบอลไปใกล้เขตโทษได้มากกว่าแต่ ยังไม่มีจังหวะลุ้นประตูมากนัก เกมค่อนข้างอึดอัดเพราะทั้งสองฝ่ายเล่นเกมรับได้ดีทั้งคู่
แต่เป็นลิเวอร์พูลที่มาพลาดก่อน นาที 25 จากจังหวะที่จอห์นสันสกัดบอลไปติดวูคคิช บอลกระดอนไปเข้าทางไรอัน เทลย์เลอร์วางเท้าเปิดเขาเขตโทษแล้วเป็นคาบายที่ได้โหม่งบอลไปแฉลบแอกเกอร์ เข้าประตูไปให้นิวคาสเซิลขึ้นนำ 1-0 และนับเป็นจังหวะลุ้นประตูครั้งแรกของนิวคาสเซิลในเกมนี้ด้วย
แม้จะเสียประตูไปก่อนแต่ลิเวอร์พูลยังทำเกมกันได้อยู่ และมาแก้คืนได้เร็วในนาที 29 เอนริเก้เปิดเข้ากลางติดกองหลังนิวคาสเซิลแต่บอลกระดอนเลยไปถึงอดัมที่อยู่ ทางเสาสองก่อนจะแปเข้ากลางมาติดติโยเต้ แล้วเป็นเบลามี่ที่ได้ซ้ำโล่งๆ จากบริเวณจุดโทษให้ทีมตีเสมอ 1-1
หลังจากนั้นทั้งสองฝ่ายยังเล่นกันได้ดี โดยเป็นลิเวอร์พูลที่ขึ้นเกมทางริมเส้นโดยเฉพาะฝั่งขวาได้อย่างไหลลื่น ส่วนนิวคาสเซิลนั้นไม่ค่อยได้ตั้งเกมบุกขึ้นมา แต่ยังเล่นเกมรับกันได้ดีอยู่ โดยเฉพาะการปิดพื้นที่ในเขตโทษทำได้ดีมากจนลิเวอร์พูลหาจังหวะจบสกอร์ได้น้อยมาก จนกระทั่งจบครึ่งแรกที่สกอร์ 1-1
เข้าครึ่งหลัง นิวคาสเซิลเปลี่ยนแทคติคเล็กน้อย หันมาตั้งเกมบุกเข้าใส่ลิเวอร์พูลมากขึ้น ครองบอลไว้กับตัวได้มากขึ้น สามารถกดดันให้ลิเวอร์ูพูลต้องถอยกันไปรับมากกว่าในครึ่งแรก นาที 59 ดัลกลิชส่งเจอราดลงมาแทนอดัม ซึ่งทำให้เกมเปลี่ยนทันที การเปิดบอลของเจอราดกดดันให้นิวคาสเซิลต้องลงปิดพื้นที่แถวหน้าเขตโทษกันมาก ขึ้น เกมรุกที่เริ่มดีขึ้นเริ่มสะดุดลง
แต่ลิเวอร์พูลมาทำได้จากลูกเซตพีซ นาที 67 ได้ฟรีคิกระยะไกลเบลามี่ยิงเข้ากลาง คาโรลโหม่งไม่โดนบอล(ไม่รู้ว่าตั้งใจหรือเข้าไม่ถึง) ครูลทำท่าจะเซฟได้ไม่ยากแต่บอลไปสะกิดหัวซิมสันเข้าประตูไปให้ลิเวอร์พูลนำ 2-1
นิวคาสเซิลพยายามเปิดเกมรุกบ้าง แม้จะไม่ต่อเนื่องนักแต่ก็ทำได้ดีในระดับนึง เริ่มเข้ามาใกล้เขตโทษได้มากขึ้น นาที 71 บาวิ่งตัดหลังแอกเกอร์เข้าถึงบอลก่อนเรน่าและแปบอลผ่านตัวไปแล้ว แต่สเคอเทลสกัดจากหน้าเส้นประตูได้อย่างเหลือเชื่อ หลังจากนั้นเกมค่อนข้างเปิดเพราะนิวคาสเซิลดันเกมกันขึ้นมาสูงมากขึ้น ทำให้ลิเวอร์พูลมีพื้นที่ให้เล่นเกมรุกและหาโอกาสได้อีกเป็นระยะ จนมาทำได้ในนาที 78 จากเฮนเดอร์สันที่จ่ายทะลุขึ้นไปให้เจอราดลากบอลไปแปมุมแคบลอดครูลเข้าไปให้ ทีมนำห่าง 3-1
หลังจากเสียประตูที่สาม นิวคาสเซิลเกมรวนไปทันทีและไม่สามารถตั้งเกมรุกได้เป็นชิ้นเป็นอันอีกเลย เป็นลิเวอร์พูลที่โต้กลับได้ลุ้นอีกหลายครั้งแต่ทำประตูเพิ่มไม่ได้ จบเกมเป็นลิเวอร์พูลที่แซงชนะได้สำเร็จเป็นครั้งแรกของฤดูกาล 3-1
------------------------------------------
เกมในวันนี้เป็นเกมที่มีคุณภาพมากจากทั้งสองฝั่ง ทางลิเวอร์พูลเองเล่นกันได้ดีแล้วแต่ถ้าเทียบกับเกมก่อนหน้า ยังถือว่าได้ลุ้นประตูแบบจะแจ้งไม่มากนัก ส่วนทางฝั่งนิวคาสเซิลมีเกมรับที่เหนียวแน่นมาก รวมไปถึงเกมรุกที่ถึงแม้ว่าจะกดดันได้ไม่ต่อเนื่องแต่เมื่อมีโอกาสก็ใช้ได้ คุ้มค่า และเกือบจะตีเสมอได้สำเร็จด้วยซ้ำ เป็นครั้งแรกของฤดูนี้ที่คู่ต่อสู้เล่นดีแล้วลิเวอร์พูลมีปัญญาเอาชนะได้
ในด้านแทคติค วันนี้ต้องชมดัลกลิชที่ไม่เลือกเล่น 4-4-2 แต่หันมาใช้ 4-5-1 ตามทรัพยากรที่ใช้งานได้ การส่งสเปียริ่งลงสนามทำให้กองกลาง โดยเฉพาะอดัมกับเฮนเดอร์สันมีอิสระในการเล่นเกมรุกมาขึ้นกว่านัดก่อนๆ จะเห็นได้ว่าอดัมสามารถเติมขึ้นไปในเขตโทษบ่อยครั้งกว่าเดิม ส่วนเฮนเดอร์สันสามารถฉีกไปเล่นริมเส้นได้บ้างและไม่ต้องลงล้วงบอลในแดนตัว เองมากนัก นอกจากนั้นการหันมาไล่เพรซซิ่งเร็วในแดนกลางโดยอาศัยตัวผู้เล่น 5 คน ยังได้ผลในการทำให้เกมรุกของนิวคาสเซิลไม่ปะติดปะต่อและตัดบาออกจากเกมได้ด้วย นอกจากแทคติคแล้ว นักเตะลิเวอร์พูลเองก็ทำผลงานได้ดีในวันนี้ด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะนักเตะที่ฟอร์มดรอปไปในนัดก่อนๆ อย่างอดัม เฮนเดอร์สัน ดาวนิ่ง
อีกสาเหตุหนึ่งของชัยชนะในวันนี้มาจากทางฝั่งนิวคาสเซิลด้วย การขาดลีออน เบสไปส่งผลต่อเกมรุกของนิวคาสเซิลเยอะกว่าที่คิด บาโดดเดี่ยวในแดนหน้า ส่วนนักเตะที่ลงมาแทนเบสอย่างวูคคิชหรือตัวสำรองอย่างอาร์ฟาทำอะไรไม่ได้เลย เมื่อดูจากประสิทธิภาพการจบสกอร์ของนักเตะนิวคาสเซิลแล้ว ถ้าวันนี้พวกเขามีเบสลงมาช่วยบาแล้วหาโอกาสได้มากกว่านี้ คนที่ต้องแพ้อาจไม่ใช่นิวคาสเซิลก็ได้ นอกจากเบสแล้ว นิวคาสเซิลยังมีปัญหาเรื่องความฟิตของนักเตะด้วย เนื่องจากสภาพทีมเล็ก ต้องใช้นักเตะชุดเดิมแทบทุกนัด บางคนพึ่งหายเจ็บก็ต้องลงเล่น บางคนเล่นได้แต่ก็ดูจะไม่ฟิตเต็มร้อย พอมาเจอการไล่เพรซซิ่งเลยทำให้ดูมีปัญหามากกว่าที่คิด
เลยเสียสถิติยิงนำแล้วชนะรวดทุกนัดเลย....
----------------------------------
นัดนี้เล่นได้ดี
เรน่า - ไม่ได้ทำงานมากนัก ไม่มีข้อผิดพลาดในการออกมาตัดบอลและเปิดบอล ลูกที่เสียก็ช่วยอะไรไม่ได้อยู่แล้ว
เอนริเก้ - หลายครั้งฝืนเก็บบอลไว้กับตัวได้ชวนหวาดเสียวมากแต่ก็เอาตัวรอดได้เกือบทั้งหมด ยังฟอร์มดีคงเส้นคงวา
แอกเกอร์ - เล่นได้ดีทั้งการดักตัดบอลและเข้าสกัด พาบอลขึ้นมาได้ดีหลายครั้งด้วย พลาดนิดหน่อยในจังหวะที่ปล่อยให้บาโฉบไปถึงบอลเกือบทำให้ทีมโดนตีเสมอ
สเคอเทล - แข็งแกร่งในการเข้าปะทะ ประกบบาได้ดี เซฟบอลบนเส้นได้ดีเหลือเชื่อในมุมที่ไม่น่าจะสกัดออกจากเส้นประตูได้แล้ว
จอห์นสัน - พลาดในจังหวะเสียประตูแรก ทั้งการสกัดไม่ดูตาม้าตาเรือและตามไปปิดพื้นที่ช้า แต่นอกนั้นก็เล่นได้ดีโดยเฉพาะเกมรุกที่เติมขึ้นไปได้ดีตลอดเกม กดดันแนวรับนิวคาสเซิลได้ดีกว่ากองกลางซะอีก
ดาวนิ่ง - เล่นได้ดีขึ้น ทำเกมด้วยการเลี้ยงจี้เข้าใส่กองหลังได้ดี ลดข้อผิดพลาดในการเล่นจังหวะสุดท้ายลงได้บ้างแล้ว
อดัม - เมื่อได้เล่นเกมรุกเต็มตัวทำได้ดีกว่าตอนที่ต้องเล่นทั้งรุกและรับ เล่นได้ดีกว่าเฮนเดอร์สันด้วยซ้ำ เหตุผลเดียวที่ถูกเปลี่ยนตัวออกไปเพราะดัลกลิชคงไม่อยากเปลี่ยนแทคติ คมากกว่า (อดัมเล่นสูงกว่าเฮนเดอร์สันเป็นส่วนใหญ่)
เฮนเดอร์สัน - เล่นได้ดีขึ้นกว่านัดที่แล้ว จ่ายทะลุให้เจอราดไปยิงได้ด้วย รวมไปถึงการไล่เพรซซิ่งก็ทำได้ดี แต่ฟอร์มโดยรวมยังแค่พอใช้ไม่ถึงขั้นดีมาก
สเปียริ่ง - กลางรับที่งานน้อยที่สุดในโลก เพราะมีคนอื่นคอยไล่ให้ตั้งแต่ข้างหน้า แค่รอสกัดบอลที่ทะลักเข้ามาเท่านั้น ที่ดีแบบแปลกๆ ในวันนี้คือสเปียริ่งที่ตัวเท่าลูกแมวโหม่งสกัดบอลกลางอากาศกองกลางนิวคาส เซิลได้เป็นส่วนใหญ่มันซะงั้น
เบลามี่ - ประสานงานกับเอนริเก้ได้ดี (ดีกว่าดาวนิ่งหรือมักซี่) ดูในเกมแล้วได้บอลน้อยกว่าและทำเกมรุกได้อันตรายน้อยกว่าดาวนิ่งอีก แต่เบลามี่มีทีเด็ดตรงความเด็ดขาด นอกจากจะยิงสองประตูแล้ว การครอสบอลรวมไปถึงลูกเตะมุมกดดันกองหลังนิวคาสเซิลได้ดีกว่านักเตะ(ตัวจริง)คนอื่นๆ
คาโรล - เล่นได้ดีทีเดียว ออกบอลจังหวะเดียวให้เพื่อนได้ดี เล่นลูกกลางอากาศพอใช้ได้และขยับหาตำแหน่งได้เร็วกว่านัดก่อนๆ ยิ่งพอมีเจอราดลงมาแล้วคาโรลได้โอกาสมากขึ้นกว่าเดิม แต่ดันทำบอลลั่นไป 1 ครั้ง โหม่งชนคาน 1 ครั้ง
ตัวสำรอง
เจอราด - อดัมเล่นได้ไม่เลว แต่เจอราดเล่นดีกว่ากันแบบเทียบไม่ได้ การหาโอกาสเปิดบอลเข้าเขตโทษให้คาโรลเป็นสิ่งที่อดัม(และเฮนเดอร์สัน)ทำไม่ ได้เลย พอเจอราดลงมาสามารถเปลี่ยนเกมได้ทันทีแบบไม่ต้องใช้เวลาในสนามอะไรมากมาย
เค้าท์ - ถ้าเบลามี่ไม่คิ้วแตกเลือดอาบคงไม่ได้ลง ยังอาศัยความขยันช่วยไล่บอลได้ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันที่กองกลางตัวอื่นๆ ช่วยกันไล่แบบนี้ยิ่งทำให้ทีมได้เปรียบ แต่นอกนั้นก็ไม่ได้ทำอะไรมากนัก
แมน ออฟ เดอะ แมทช์ : เคร็ก เบลามี่...เจอราดลงมาเปลี่ยนเกม จอห์นสันเติมเกมได้สุดยอด แต่เบลามี่แสดงให้เห็นว่าการยิงประตูไม่ใช่เรื่องยาก ...แสดงให้ดูสองครั้งด้วยสิ
Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น