วันอังคารที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

ลิเวอร์พูล 2-0 ลีดส์ (ลีคคัพ รอบแปดทีม)



Watch them burnnn!
___________________________

ลิเวอร์พูลเล่นด้วย 4-3-3

--------------------โอริกิ----------------------
---------ชาน------------------มาเน่----------
---------ไวนัลดุม-------------อิจาเรีย-------
---------------------สจ๊วต---------------------
โมเรโน่-----คลาวาน-----ลูคัส-----อาโนลด์
-------------------มินโยเล่--------------------

_______ ลิเวอร์พูลเล่นเกมลีคคัพรอบแปดทีม เจอกับทีม(เคย)ใหญ่อย่างลีดส์ที่กำลังคั่วพื้นที่ขึ้นชั้นมาพรีเมียร์ลีคอยู่ นัดนี้คล็อปเปลี่ยนกลางกับหลังยกกะปิ ตัวจริงออกมาแบบที่เห็น
-------------------------------------------------------

_______ ลิเวอร์พูลเริ่มเกมนี้ด้วยความไม่เข้าใจกัน ต่อบอลกันผิดจังหวะ ให้กันคนละทาง แถมแนวรับเช็คไลน์พลาดจนเกือบโดนก่อนด้วยซ้ำ ดีที่โกลล์มือหนึ่งครึ่งช่วยเซฟเอาไว้ได้

_______ ทางด้านลีดส์ เกมนี้เน้นเล่นรับก็จริง แต่มีจังหวะบุกก็พยายามบุก โดยเฉพาะการแทงบอลลึกเร็วกดดันแนวรับได้ดีอยู่เป็นระยะ

_______ ลิเวอร์พูลได้บอลมากกว่าเน้นขึ้นเกมริมเส้นมากเป็นพิเศษแต่หาจังหวะเปิดเข้ามาลุ้นประตูได้น้อย ที่หาได้บ้างก็ยังไม่ดีพอเป็นประตู ลีดส์เองที่บุกมาได้บ้างก็เข้าทำไม่ดี ได้ลูกเตะมุมก็กดดันแทบไม่ได้ จบครึ่งแรกที่ 0-0

_______ เข้าครึ่งหลัง ลิเวอร์พูลเล่นเกมรุกเหมือนเดิมแต่ผลลัพธ์ไม่เหมือนเดิม บรรดาดาวรุ่งยิ่งเล่นยิ่งเกร็ง อิจาเรียที่พอเล่นได้บ้างในครึ่งแรกพอครึ่งหลังนี่หายไปเลย สจ๊วตก็โดนกดดันหนักขึ้นๆ จนออกบอลได้ช้า  ตัดบอลได้น้อยลง ทำให้เกมครึ่งหลังเป็นลีดส์ที่ยกระดับเกมขึ้นมาเยอะ เกมรับโดนกดดันน้อยลง เกมรุกพาบอลมาถึงหน้าได้มากขึ้น

_______ นาที 52 ลีดส์น่าได้ประตูขึ้นนำสุดๆ เมื่อสจ๊วตเล่นยากแล้วพลาดโดนตัดบอลหน้ากรอบแล้วยิงสวน บอลข้ามหัวมินโยเล่ไปแล้วแต่ดันไปชนเสา

_______ ผ่านหนึ่งชั่วโมงของเกมไป แกรี่ มั้งค์ กุนซือของลีดส์ตัดสินเปลี่ยนเกมครั้งใหญ่ด้วยการส่งกองหน้าลงมา เปลี่ยนมาเล่นเกมรุกมากขึ้น ตั้งใจวัดให้ตายกันไปข้างใน 90 นาที ส่วนลิเวอร์พูลเปลี่ยนวู้ดเบิร์นลงมาแทนสจ๊วตในนาที 66 ขยับเอาดูโอตัวจริงลงมาที่ชอบๆ (ชานถอยลงมาแทนสจ๊วต ไวนัลดุมลงมาเน้นเล่นตรงกลางมากขึ้น) และยังดันอาโนลด์ให้เติมขึ้นไปเล่นเกมรุกและเปิดบอลมากขึ้นด้วย

_______ รูปเกมในสนามเปลี่ยนไปกลายเป็นเกมรุกแลกกัน ลีดส์พาบอลขึ้นมาได้จริงแต่เข้าทำยังแย่ และเก็บบอลสองในเกมรุกแทบไม่ได้เลย ส่วนลิเวอร์พูลมีพื้นที่ให้เล่นมากขึ้น ยังเจาะตรงกลางไม่ได้แต่ริมเส้นขยับไปใกล้มุมธงบ่อยครั้งแล้ว

_______ ในที่สุดลิเวอร์พูลก็ทำสำเร็จ นาที 76 จากการเปิดพื้นที่ริมเส้นไว้โล่งของลีดส์ อาโนลเติมขึ้นมารับบอลก่อนบรรจงเปิดไปเสาแรก โอริกิพุ่งเข้าไปชาร์จในช่องวัดใจระหว่างกองหลังกับโกลล์ได้ถูกจังหวะ 1-0

_______ เท่านั้นไม่พอ นาที 81 จากจังหวะทำเร็ว บอลเปิดยาวจากแดนหลัง โอริกิโหม่งพักให้มาเน่ลากเข้าไปถึงในกรอบก่อนตอกส้นคืนให้โอริกิ โอริกิหักเรียดเข้ากลางให้ไวนัลดุมต่อให้วู้ดเบิร์นที่โล่งอยู่เสาสอง อัดเต็มข้อโล่งๆ ไม่พลาด  2-0

_______ ยิงจังหวะนี้เสร็จ มิลเนอร์ได้ลงมาแทนอิจาเรียทันทีและเล่นแทนตำแหน่ง ถึงตรงนี้เกมขาด ลิเวอร์พูลเคาะปิดเกม ลีดส์เร่งเกมรุกแต่ไม่ได้ลุ้นอะไรมากไปกว่าเปิดบอลไปให้ถึงเขตโทษแล้วโหม่งๆ เบียดๆ แล้วยิงทิ้งเปิดขว้างสลับล้ำหน้า นาที 90 กรูยิชได้ลงมาเหยียบยอดหญ้าแปปนึงก่อนจบเกมไปด้วยสกอร์ 2-0 เข้ารอบไปรอเจอกับใครก็ได้ที่ไม่ใช่อาร์เซนอลกับแมนฯยู สาธุ

-----------------------------------------

_______ สูสีกว่าที่คิดนะครับ

_______ สำหรับลีดส์ ผู้จัดการทีมของเขาอย่างแกรี่ มั้งค์ โคตรเท่เลยครับ เล่นงานถูกจุดด้วยการเอากองหน้าบ้าพลังมาเบียดใส่คู่เซ็นเตอร์อย่างได้ผล เวลาเสียบอลก็บี้ใส่ตัวเอาบอลขึ้นหน้าอย่างสจ๊วตและแบ็คสองข้างจนบอลมาเร็วไม่ได้ การตัดสินใจเปลี่ยนมาเล่นเกมรุกจนทำให้ทีมแพ้ก็สมเหตุสมผลที่สุด เพราะพวกเขาได้ลุ้นในลีคมากกว่า การเล่นเกมนี้แค่ 90 นาทีดูเป็นความคิดที่เข้าท่าไม่ว่าจะชนะหรือแพ้ ...ซึ่งสุดท้ายแล้วก็แพ้นั่นแหล่ะ แต่พวกเขามีโอกาสมากกว่าลงไปอุดแหลกแน่ๆ

_______ สำหรับลิเวอร์พูลเอง การใช้ทีมสำรองแล้วเอาตัวรอดมาได้แบบนี้ถือว่าทำได้ตามเป้า ดาวรุ่งกับตัวสำรองได้เจอเกมจริง กดดันจริง ไม่ใช่เกมประเภทชนะแน่ๆ แล้วลงสำรองไปเคาะบอลเล่น แต่เรื่องเกมในสนามก็มีปัญหาให้เห็นอยู่บ้าง (ไม่มีสิแปลก)

_______ ไม่ใช่เรื่องของคุณภาพผู้เล่น แต่เป็นทีมเวิร์ค วันนี้ลิเวอร์พูลเล่นกันติดๆ ขัดๆ บอลเร็วบอลจังหวะเดียวเล่นกันได้น้อยครั้งมาก นักเตะบางคนยังปรับตัวกับตำแหน่งที่ต้องเล่นไม่ค่อยได้ (โอริกิ ชาน ไวนัลดุม) เลยทำให้เกมนี้ลำบากกว่าที่คิด...

_______ เกมมาเปลี่ยนที่วู้ดเบิร์นลงสนามครับ ไม่ใช่ว่าตัววู้ดเบิร์นเปลี่ยนนะ แต่การส่งชานกับไวนัลดุมไปที่ชอบๆ ทำให้เกมจากหลังขึ้นหน้าดีกว่าเดิมเยอะ พอรวมกับการเปลี่ยนแทคติคของทางลีดส์ด้วยผลเลยแฮปปี้เอนดิ้ง

_______ รอลุ้นผลจับสลากประกบคู่กันครับสำหรับถ้วยนี้ ไม่ค่อยอยากเจอทีมใหญ่เพราะรู้สึกว่ามันควรจะเป็นการเจอกันในนัดชิงมากกว่า นึกภาพว่าตัดเชือกกับปืนแล้วไปชิงกับฮัลล์/นิวคาสเซิลเงี้ย มันใช่เหรอ?
-----------------------------------------

นัดนี้เล่นพอใช้ได้

มินโยเล่ - เล่นในฐานะมือสองเมื่อไหร่ไว้ใจได้ เซฟลูกอันตรายน้อยอันตรายมากได้หมด ตำแหน่งยืนดี เปิดบอลรับบอลคืนหลังได้หมด ทำไมตอนเป็นมือหนึ่งไม่เล่นงี้ว้าาา

โมเรโน่ - ไม่ได้ถึงกับแย่ แต่ฟอร์มการันตีตัวจริงให้มิลเนอร์ต่อไปอีกพักใหญ่เลยล่ะ

คลาวาน - แรงปะทะเอากองหน้าตัวถึกของคู่ต่อสู้ไม่อยู่ ไม่ปล่อยให้โดนพลิกก็จริงแต่หยุดคู่ต่อสู้ไม่ค่อยได้ ยิ่งต้องมาช่วยเปิดบอลขึ้นหน้าตามแทคติคยิ่งดูไม่ค่อยเวิร์คเลย แกเปิดบอลขึ้นหน้าพาเพื่อนโดนบี้หลายครั้ง

ลูคัส - บอลเรียดตามช่องเนี่ยดักได้หมดจด แต่บอลโด่งหรือเบียดไหล่ต่อไหล่เนี่ยร่วงพลอยๆ เบียดสู้ไม่ได้เลย ถ้าส่งลูคัสไปเจอกองหน้าสไตล์บ้าพลังที่เก่งกว่านี้ทีมคงโดนสักสามลูก

อาโนลด์ - มีสายตาในการเล่นเกมรุก ถ้าจะเอาดีทางแบ็คก็ต้องเป็นแบ็คประเภทเกล็น จอห์นสันหรือโมเรโน่ไปเลย (ยกตัวอย่างเก่งมั้ย 555+) เกมรับในจังหวะเข้าคู่เล่นโอเค แต่จังหวะอ่านเกมว่าควรจะเข้าตอนไหน วิ่งถอยหลังตอนไหนยังต้องปรับอีกเยอะ

สจ๊วต - ฟอร์มส่วนตัวผมว่าใช้ได้เพียงแต่เจอโจทย์ยากไปหน่อยเท่านั้น และการเล่นของสจ๊วตวันนี้ยิ่งตอกย้ำว่าไอ้บอลเพลย์เซฟ ตบแปะๆ น่าเบื่อของเฮนโด้นี่มันยากและเป็นประโยชน์กับทีมมากกว่าที่เห็น

ไวนัลดุม -  คอยสลับกับชานไปเล่นริมซ้าย ช้าไปและขยับน้อยไปสำหรับทีมที่เน้นเล่นบอลสั้นเร็วจังหวะเดียว แต่การหาพื้นที่เติมเข้าไปในเขตโทษหรือเล่นในพื้นที่สุดท้ายเขาทำได้ดี ดีกว่าชาน

ชาน -  นัดนี้ได้เล่นเกมรุกเต็มตัวอยู่พักใหญ่ ทำเกมพอใช้ได้ สร้างโอกาสให้เพื่อนและหาโอกาสเองได้บ้าง แต่จังหวะสุดท้ายนี่ไม่อยากจะอุทานว่า “.....” ส่วนช่วงที่เล่นตัวต่ำทำผลงานได้ดีกว่าสจ๊วตเยอะ ติดแอ็คไปหน่อยแต่ก็ไม่ได้พลาด

มาเน่ - กริบ สงัด ดับ เงียบ ตื้อ ตัน ถ้าไม่มีจังหวะที่เล่นกับโอริกิจนได้ประตู 2-0 ฟอร์มวันนี้ของเขามีแค่ห้าคำแรกนั่นแหล่ะ

อิจาเรีย - วิ่งผิดทางไปหน่อย จังหวะควรลงมาช่วยสจ๊วตต่อบอลก็ไม่ลงจะวิ่งขึ้นหน้าลูกเดียว ครึ่งแรกพอเล่นได้บ้าง แต่ครึ่งหลังนี่หนักกว่ามาเน่อีก

โอริกิ - ลงมาช่วยต่อบอลก็ดีอยู่หรอกแต่วิ่งกลับขึ้นหน้าช้า โดยส่วนตัวแล้วผมไม่คิดว่าเขาผิดคนเดียว คือจังหวะที่เขาถอยออกมา เพื่อนควรต้องเติมเข้าไปแทนแต่ไม่มี วันนี้ทำได้ค่อนข้างดีกับการเก็บบอลเล่น ทำประตูสำคัญได้ด้วย

ตัวสำรอง

วู้ดเบิร์น - ฟอร์มส่วนตัวก็ไม่ได้หวือหวา ดีอย่างเดียวคือหาตำแหน่งรอจบสกอร์ได้ดี อยู่ในตำแหน่งพร้อมยิงตั้งหลายครั้งจนได้ยิงครั้งที่เป็นประตูนั่นก็ด้วย ...แต่ถ้าเทียบกับอายุและประสบการณ์ ได้ขนาดนี้ก็ดีแค่ไหนแล้ว

มิลเนอร์ - ลืมวิธีเล่นกองกลางมั้ง ดูพรวดๆ ไงชอบกล

กรูยิช - ได้ลงนาทีสุดท้ายเหมือยวู้ดเบิร์นนัดก่อน แปลว่านัดหน้าจะได้ลงมายิง...มั้ง

แมน ออฟ เดอะ แมทช์ : ...ดิวอก โอริกิ…ไม่จี้ดจ้าดหวือหวา ท่าเต้นตอนยิงได้ก็ไม่มี แต่ยิงประตูสำคัญได้เรื่อย
------------------------------------------------------------
เครดิตภาพจากเวปทางการ

Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.

วันเสาร์ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

ลิเวอร์พูล 2-0 ซันเดอร์แลนด์ (พรีเมียร์ลีค)


โกลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลล ริกิ
___________________________

ลิเวอร์พูลเล่นด้วย 4-3-3

-------------------เฟอมิโน่-------------------
---------คูตินโย่-------------มาเน่-----------
---------ชาน-------------ไวนัลดุม-----------
-----------------เฮนเดอร์สัน-----------------
มิลเนอร์----ลอฟเรน-----มาติป------ไคลน์
--------------------คาริอุส--------------------

_______ ลิเวอร์พูลเปิดบ้านรับทีมท้ายตารางที่ฟอร์มเริ่มกระเตื้องชนะมาสองนัดอย่างซันเดอร์แลนด์ นัดนี้คล็อปใช้ตัวจริงชุดเดียวกับนัดเสมอทีมอคาเดมี่ในนัดก่อนยกชุด
-------------------------------------------------------

________ เริ่มเกม ซันเดอร์แลนด์ถอยหลังไปยืนยิ้มกันหน้าเขตโทษตัวเองเก้าคน ทิ้งอนิเชเบ้กับเดโฟไปตายคู่อยู่ข้างหน้า ส่วนลิเวอร์พูลเก็บบอลเล่นได้ตั้งแต่ต้น ดันขึ้นสูงเน้นเกมบุกทันที แต่ยังเจาะเข้าเขตโทษไม่ได้

_______ ลิเวอร์พูลพยายามใช้วิธีโยนบอลแนวลึกข้ามหัวคู่เซ็นเตอร์แต่ยังไม่ได้ผลนัก เช่นเดียวกับการยิงไกลที่หนักไปทางหลุดกรอบ ส่วนการเปิดจากริมเส้นแม้จะมีพื้นที่ให้เปิดได้ แต่เปิดไปก็ติดหมด ส่วนซันเดอร์แลนด์ไม่ครองบอลเล่น ใช้วิธีโยนยาวให้กองหน้าเก็บบอลเล่น แม้จะไม่ตัวเติมทำให้บุกไม่ได้ แต่ด้วยความที่กองหน้าพวกเขาเก็บบอลพอใช้ได้ทำให้ลิเวอร์พูลได้บุกไม่ต่อเนื่องนัก และได้บอลในแดนตัวเองเป็นส่วนใหญ่ ทำให้บุกกลับขึ้นไปได้ช้า

_______ นาที 34 ไมเกรนขึ้นกันไปตามๆ กันเมื่อคูตินโย่เจ็บจากการปะทะ ต้องเปลี่ยนตัวเอาโอริกิลงมาแทน เวลาที่รูปเกมยังเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือไม่มีคนกล้าจ่ายบอลขึ้นหน้า จบครึ่งแรกที่ 0-0

_______ เข้าครึ่งหลัง ลิเวอร์พูลลงมาเดินหน้าฆ่ามันต่อ ทั้งทีมยืนล้ำเข้าไปในแดนคู่ต่อสู้ แบ็คลอยสูง เซ็นเตอร์สลับกันขึ้นมาช่วยต่อบอลในแนวเดียวกับเฮนเดอร์สันด้วยซ้ำ ส่วนซันเดอร์แลนด์ยืนรับต่ำมากชนิดที่อยากจะบอกว่าพี่ไปยืนตั้งกำแพงกันบนเส้นประตูเถอะครับ ทำให้ลิเวอร์พูลครองบอลฝ่ายเดียว แต่เจาะเข้าเขตโทษไม่ได้

_______ ยิ่งเล่นลิเวอร์พูลยิ่งเครียด เพราะไม่ว่าจะบอลสั้น บอลชิ่ง เตะมุม ยิงไกล ตักข้ามหัว เลี้ยงกินตัว แตะหาที่ยิงเอง สุดท้ายก็ยังไม่ได้ประตูสักที แต่แล้วนาที 75 ลิเวอร์พูลก็ทำสำเร็จ ด้วยผลงานของ...

_______ ...โอริกิ!

_______ จากจังหวะหนุนสวน โอริกิได้บอลแถวข้างเขตโทษฝั่งซ้ายก่อนจะแตะหลบหนีตัวพรวดแล้วรีบยิงปั่นไซร้เข้าเสาสองทันที 1-0

_______ พอสกอร์ขยับ ซันเดอร์แลนด์พยายามปรับมาเล่นรุก แต่เกมรุกของพวกเขาก็แสดงให้เห็นว่าไอ้ที่หนีตกชั้นอยู่นี่ไม่ได้จับฉลากมา ส่วนลิเวอร์พูลพยายามจะสวนกลับเร็วทุกครั้งที่ตัดบอลได้ ทำให้เสียบอลกลับเร็วไปหน่อย และจังหวะโต้ยังขาดๆ เกินๆ

_______ อย่างไรก็ตาม ลิเวอร์พูลก็ยังเป็นฝ่ายบุกได้น้ำได้เนื้อมากกว่าอยู่ดี ในขณะที่ซันเดอร์แลนด์ก็บุกแบบน่ารักน่าเอ็นดูไปเรื่อย นาที 87 ลูคัสได้ลงแทนเฟอมิโน่ที่โดนอัดน่วมมาทั้งเกม

_______ กระทั่งนาทีสุดท้ายก่อนทดเจ็บ ลิเวอร์พูลไปปั้มบอลได้แถวริมเส้นขวากลางสนาม มาเน่สปีดขึ้นไปเอาบอลแล้วแตะขึ้นหน้า แนวรับพยายามดึงแต่เอาไม่อยู่ มาเน่ลากไปได้ยันเขตโทษก่อนโดนเสียบชนิดถ้าไม่เป่าให้พี่ปานกหวีดทิ้งเถอะ มิลเนอร์รับหน้าที่ยิงจุดโทษไม่พลาด 2-0

_______ ช่วงทดเจ็บนาทีที่สอง วู๊ดเบิร์นได้ลงมาย่ำหญ้าเล่นขำๆ พอเป็นกำลังใจให้ดาวรุ่ง และเกมจบไปที่สกอร์ 2-0

-----------------------------------------

_______ นึกว่าจะเสมอล้าววว

_______ ซันเดอร์แลนด์มารับ แค่นั้นเลยจริงๆ ครึ่งแรกการวางยาวให้อนิเชเบ้เล่นดูเข้าท่าดีแต่พวกเขาดันไม่เอากองกลางเติมขึ้นมาช่วยเลยสักคนทำให้เกมรุกไร้ประสิทธิภาพโดยสิ้นเชิง ส่วนครึ่งหลังก็สร้างโอกาสหน้าได้แค่ชุดเดียวแถมยิงกันได้มาตรฐานทีมตกชั้นมาก

_______ ส่วนลิเวอร์พูล...ความตั้งใจและสมาธิกับเกมยังดีเหมือนเดิม แต่ที่ดูแย่ลงคือเกมรุก หลังจากไม่มีลัลลาน่า บอลจังหวะเดียวในพื้นที่หน้า-ในเขตโทษนี่หายไปเลย ยิ่งพอไม่มีคูตี้เข้าอีกคน การเอาบอลเข้าไปในเขตโทษทำได้แย่ลงกว่าเดิมมาก จริงอยู่ว่าคู่ต่อสู้รับได้ดีแต่ทีมเคยทำได้ดีกว่านี้

_______ เรื่องน่าหนักใจหนีไม่พ้นบรรดาแนวรุกที่เคยจัดจ้าน ลัลลาน่ายังไม่กลับมา มาเน่ฟอร์มตก คูตี้เจ็บไปแล้ว ซึ่งทำให้จุดขายอย่างการเข้าทำมันลดประสิทธิภาพไปเยอะ นี่เป็นเรื่องใหญ่ของคล็อปเลยทีเดียว

_______ แต่เรื่องดีๆ มีเยอะไม่แพ้กัน ทีมกลับมาชนะได้ในเกมที่ยากลำบากช่วยรักษาความมั่นใจให้ทีมได้อีกเยอะ ลองนึกภาพเกมนี้จบที่ผลเสมอแถมคูตี้เจ็บด้วย...ไม่อยากจะคิด นอกจากนั้นฟอร์มของผู้เล่นเกมรับโดยเฉพาะคู่เซ็นเตอร์ยิ่งเล่นยิ่งเด่น, ลูกตั้งเตะหวังผลกดดันได้ ซึ่งโดยรวมแล้วน่าจะทำให้ทีมสมดุลขึ้นมากกว่าช่วงต้นฤดูที่หวังพึ่งแนวรุกให้ต้องยิงเยอะๆ แต่เพียงอย่างเดียว

_______ ยังดีว่าช่วงนี้โปรแกรมไม่หนักนัก น่าจะยังพอหมุนเวียนนักเตะได้ หวังว่าทีมจะเก็บคะแนนเป็นกอบเป็นกำตุนไว้ก่อนเจอเกมยากๆ ในช่วงเดือนถัดไปครับ
-----------------------------------------

นัดนี้เล่นได้ค่อนข้างดี แต่มีปัญหาเรื่องเข้าทำให้เห็นบ้างแล้ว

คาริอุส - เล่นได้มั่นใจขึ้น ทำได้ดีในจังหวะออกมาขวางลูกยิง,ตามเข้ามายิงซึ่งบล็อคได้หมด ในขณะที่การใช้เท้าเล่นทำได้เนียนขึ้น

มิลเนอร์ - เชื่อมเกมได้ เกมรับโอเค ยิงจุดโทษปิดกล่องได้เด็ดขาด แต่เล่นในพื้นที่สุดท้ายแย่ เปิดบอลติดหมด ทำชิ่งหรือวิ่งทำทางก็ไม่ค่อยเวิร์ค

ลอฟเรน - ยิ่งเล่นยิ่งหล่อ ไม่มีพรวดพราดเสียฟาล์วแล้ว ดักบอลได้เยอะ ตัดฟาล์วจังหวะสำคัญได้ดี(ครั้งที่โดนใบเหลือง) ออกบอลขึ้นหน้าได้ดีด้วย แต่จะให้ดีจังหวะโหม่งสกัดในเขตช่วยโหม่งไปไกลๆ หน่อยได้ม้ายยย

มาติป - วันนี้เล่นลูกกลางอากาศไม่ดีเท่าเดิม เจออนิเชเบ้เข้าไปมาติปมีปัญหาเหมือนกัน แต่การดักบอลจ่ายเข้าเขตโทษยังทำได้ดี ขึ้นมาช่วยต่อบอลข้างหน้าก็แม่นยำ

ไคลน์ - ขึ้นไปช่วยเชื่อมเกมข้างหน้าได้ดีกว่ามิลเนอร์  ออกบอลแม่นไม่ค่อยโดนตัด แต่ไม่ค่อยกล้าจ่ายบอลเข้าพื้นที่สุดท้ายแค่นั้นเอง

เฮนเดอร์สัน - เก็บบอลสอง ต่อบอลสั้น ดักบอลโต้ อะไรพวกนี้ดีหมดแล้ว ที่ขัดใจคือบอลเกมรุกไม่ค่อยกล้าออกบอลเอง คือคู่ต่อสู้รับต่ำหมดแล้ว คนไล่ก็ไม่มี แต่แกเคาะฝากคนนั้นทีคนนี้ทีตลอด จังหวะที่จะตักข้ามแนวรับบ้างก็น้ำหนักผิดหมด

ชาน -  เติมเข้าไปแถวหน้า-ในกรอบได้ดีหลายครั้ง แต่จังหวะสุดท้ายทำได้ไม่ดีนัก เก็บบอลได้ เชื่อมเกมดี

ไวนัลดุม - ไม่ค่อยเล่นบอลจังหวะเดียวทำให้เพื่อนถลำล้ำหน้าแล้วจ่ายไม่ได้ เกมรุกสร้างก็ไม่ได้ จบเองก็ไม่ดี แต่มีดีตรงแรงปะทะที่เข้าไปช่วยแซะตัวครองบอลที่จะเปลี่ยนรับเป็นรุกได้หลายครั้ง วิ่งไปเก็บบอลสองดีด้วย

มาเน่ - ยิ่งเล่นยิ่งเงียบ บอลสุดท้ายไม่ว่ายิงหรือจ่ายคือแย่หมด ที่ยังดีอยู่คือความเร็วและจังหวะกระชากที่หนีตัวไล่ได้หลายครั้ง ครั้งที่เด่นสุดก็ตอนท้ายเกมที่เรียกจุดโทษนั่นแหล่ะ

คูตินโย่ - ยังเล่นได้ตามมาตรฐานของตัวเองเพียงแต่ยังจ่ายบอลเข้าเขตโทษไม่ได้ เสียดายที่เจ็บออกไปเร็ว

เฟอมิโน่ - ช่วยวิ่งรับบอลข้างหน้าได้เยอะมาก เชื่อมเกมในพื้นที่สุดท้ายได้ดีกว่าทุกคนในทีม แต่กับจังหวะเข้าทำเจ้าตัวหาช่องหาจังหวะแทบไม่ได้เลย ที่หาได้บ้างก็ยิงแบบดูไม่จืด

ตัวสำรอง

โอริกิ - ตำแหน่งการเล่นมึนมาก คือพยายามจะเล่นแบบเฟอมิโน่(วิ่งรับบอลนอกกรอบไปทั่ว)หรือเปล่าไม่แน่ใจ แต่ที่ออกมาคือมั่วซั่วมาก ที่ดีคือจังหวะเล่นกับบอลที่จับได้ เก็บได้ จ่ายโอเค และที่หล่อที่สุดหนีไม่พ้นจังหวะ 1-0 ที่อัญเชิญวิญญาณสเตอริดจ์(ตอนพีค)มาสิงร่างได้ทันเวลาพอดี

ลูคัส - ไม่ค่อยเได้ทำอะไรนัก

วู้ดเบิร์น - เอาวะ อย่างน้อยก็ได้ลง สเตอริดจ์กับกรูยิชยังไม่มีโอกาสเลยนะเว้ย

แมน ออฟ เดอะ แมทช์ : ...ดิวอก โอริกิ…ดูฟอร์มตลอดเกมผมประทับใจลอฟเรนที่สุด แต่โอริกิไม่ถึงกับแย่แถมยิงประตูสำคัญสุดๆ ที่ช่วยทีมเอาได้เยอะกว่าแค่ได้สามแต้ม
------------------------------------------------------------
เครดิตภาพจากเวปทางการ

Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.

วันเสาร์ที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

เซาท์แธมป์ตัน 0-0 ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีค)


ซื้อแม่ง!
___________________________

ลิเวอร์พูลเล่นด้วย 4-3-3

-------------------เฟอมิโน่-------------------
---------คูตินโย่-------------มาเน่-----------
---------ชาน-------------ไวนัลดุม-----------
-----------------เฮนเดอร์สัน-----------------
มิลเนอร์----ลอฟเรน-----มาติป------ไคลน์
--------------------คาริอุส--------------------

_______ ผ่านพ้นเกมทีมชาติ ลิเวอร์พูลเสียลัลลาน่าไปด้วยอาการบาดเจ็บ ส่วนคูตินโย่กับเฟอมิโน่ก็เดินทางไกลข้ามทวีปกลับมา นัดนี้คล็อปปรับใช้ไวนัลดุมลงตัวจริงแทนลัลลาน่า แต่คูตินโย่ยังได้ลงสนามต่อ
-------------------------------------------------------

________ เซาท์แธมป์ตันเล่นเน้นเกมรับรัดกุมตั้งแต่แรก ไม่ได้ไล่แดนบนมากนักมาเน้นปิดช่องในพื้นที่สุดท้ายมากกว่า ส่วนลิเวอร์พูลได้ครองบอลเยอะกว่าจริงแต่เอาบอลเข้าพื้นที่สุดท้ายแทบไม่ได้เลย

_______ ตลอดครึ่งแรก ลิเวอร์พูลเพียรจะต่อบอลเจาะตามช่องเน้นเข้าทำตรงกลาง แต่แนวรับเซาท์แธมป์ตันวิ่งตามปิดช่องได้ดี แม้แต่ลูกที่พอจะหาโอกาสยิงหรือเปิดได้แล้วก็ยังอุตส่าห์โดนกองหลังตามมาทิ้งตัวบล็อคไว้ได้อีก ทำให้ลิเวอร์พูลหาโอกาสยิงได้น้อยครั้งมากและเข้ากรอบครั้งเดียว

_______ ส่วนทางเซาท์แธมป์ตัน เกมรับพวกเขาทำได้ไม่มีที่ติ แต่เกมโต้ทำได้ไม่มีที่ชม อย่าว่าแต่จะหาโอกาส เอาแค่พาบอลขึ้นหน้ายังเติมกันขึ้นมาไม่ทัน จบครึ่งแรกที่สกอร์ 0-0

_______ เข้าครึ่งหลัง เกมยังคล้ายครึ่งแรกคือลิเวอร์พูลเป็นฝ่ายครองบอลบุกใส่แนวรับเซาท์แธมป์ตันที่เล่นได้ดี ลิเวอร์พูลเริ่มหันมาใช้เกมริมเส้นมากขึ้นโดยเฉพาะทางซ้าย ได้เปิดบอลยัดเข้าเขตโทษบ้างแต่ส่วนใหญ่ติดบล็อคหมด

_______ ลิเวอร์พูลยังอดทนเล่นเกมบุกของตัวเองได้ดีจนกระทั่งเริ่มเห็นช่อง แนวรับเซาท์แธมป์ตันเริ่มมีอาการยุบให้เห็นบ้าง ทำให้ลิเวอร์พูลได้โอกาสยิงทั้งในและนอกเขตโทษมากขึ้นกว่าในครึ่งแรก แต่จังหวะสุดท้ายยังยิงไม่เด็ดขาดพอจะเป็นประตูซะงั้น

_______ เข้าช่วง 20 นาทีสุดท้าย คูตินโย่เริ่มออกอาการหมดแรง จังหวะแตะบอลจะสปีดหนีคู่แข่งไม่เหลือแล้วโดนเบียดเอาบอลไปได้หลายครั้ง แต่การเปิดบอลของเขายังทำได้ดีอยู่ เฟอมิโน่กับชานก็ยังช่วยกันวิ่งเติมเล่นเกมรุกได้ดี แต่มาเน่หายเงียบไปจากเกม ส่วนไวนัลดุม เฮนโด้ ไคลน์ช่วยเกมรุกไม่ได้มากนัก โดยรวมลิเวอร์พูลยังบุกไปถึงเขตโทษได้ หาโอกาส(ยากๆ) ได้บ้าง แต่ไม่ดีพอจะเป็นประตู

_______ นาที 78 สเตอริดจ์ได้ลงแทนชาน ลิเวอร์พูลเพิ่มตัววิ่งช่องข้างหน้าแต่ผลลัพธ์ยังไม่ดีขึ้นเท่าไหร่ แนวรับเซาท์แธมป์ตันวิ่งตามปิดช่องได้ทันหมด นาที 90 โอริกี้ได้ลงแทนมาเน่แต่ก็ไม่เหลือเวลาให้ทำอะไร สุดท้ายจบเกมเลยได้แค่เสมอเซาท์แธมป์ตันไป 0-0 ไปด้วยรอยยิ้มมุมปากของคอนเต้ที่นั่งดูทีวีอยู่ที่บ้าน

-----------------------------------------

_______ เอ่อ...เกมนี้ไฮไลท์อยู่ที่เกมรับของเซาท์แธมป์ตันอย่างเดียวเลยครับ ทำได้ดีมากจริงๆ

_______ ทางด้านลิเวอร์พูลเองไม่ได้เล่นเกมรุกแย่ลง แต่ที่เด็ดของทีมอย่างการวิ่งตามช่องที่วิ่งจนแนวรับตามไม่ทัน ไม่ว่าจะเป็นช่องด้านบนในเขตโทษ, การเปิดกลับมาหน้าเขตโทษให้วิ่งสอด หรือการแตะหนีหาพื้นที่ยิงหน้ากรอบ มานัดนี้แนวรับตามได้หมดเลย

_______ จริงที่ว่าทีมยังเจาะได้ และมีโอกาสน่าได้ประตูอยู่หลายครั้ง แต่ต้องยอมรับว่าแนวรับทำได้ดีมากแล้วจริงๆ

_______ โอกาสที่ดีที่สุดของลิเวอร์พูลมีอยู่สามครั้ง ครั้งแรกคือมาเน่ได้หลุดแต่โดนฟาน ไดซ์ตามมาทิ้งตัวบล็อคจังหวะสุดท้ายได้เหลือเชื่อ, ครั้งที่สองคือคูตินโย่ได้บอลแบบไม่มีตัวเบียดแต่สปีดเข้าไปยิงไม่ดีเลยยิงพลาดไปเอง และครั้งที่สามคือเฟอมิโน่ที่ยิงหลุดกรอบไม่น่าเชื่อทั้งๆ ที่ไม่มีคนบังด้านหน้า

_______ ทั้งสามครั้งสรุปเกมนี้ได้ครบเลยล่ะ ฟาน ไดซ์เล่นได้ดีจริง เร็ว ตัวใหญ่ อ่านทางดี, มาเน่ฟอร์มดรอป, คูตินโย่หมดแรง(ถ้าฟิตเต็มร้อยคู่ต่อสู้ไส้แตกไปแล้ว) และเฟอมิโน่ต้องปรับปรุงการจบสกอร์ด้วยตัวเองให้ดีกว่านี้

_______ ...ส่วนพี่มาร์คของเรา (มาร์ค แคลทเทนเบิร์ก - กรรมการ) นัดนี้พี่ซาดิสม์มากครับ ปล่อยเกมไหล ไม่ค่อยเป่า ใบเหลืองก็ไม่ค่อยแจก ซึ่งมันไปเข้าทางทีมเล่นเกมรับพอดี ...อันนี้ถือว่าเราซวยไป

_______ หลังจบนัดนี้  อาทิตย์นี้บอกกงๆ ไม่ได้หวังพึ่งอะไรโบโร่เพราะคาดว่าไม่น่ารอดมือเชลซีแน่ ดังนั้นนัดหน้าเรามาว่ากันใหม่ครับ
-----------------------------------------

นัดนี้เล่นดี แต่ไม่ดีไปกว่าคู่ต่อสู้

คาริอุส - ไม่โดนกดดันอะไรเลย หวาดเสียวสุดก็ลูกที่ออสตินได้โหม่งซึ่งเขาก็ไม่ได้มีโอกาสถึงบอลอยู่แล้ว นัดนี้ทำได้ดีในการออกบอลเร็วโดยเฉพาะการขว้างสั้น

มิลเนอร์ - ช่วยเชื่อมเกมได้โอเค โดยเฉพาะครึ่งหลังนี้ช่วยทีมพาบอลเข้าไปใกล้เขตโทษได้มาก แต่การเปิดบอลหรือวิ่งสอดหนีตัวประกบเอาชนะคู่ต่อสู้ไม่ได้ ส่วนเกมรับที่แทบไม่ได้มีให้เล่นก็ไม่มีอะไรเสียหาย

ลอฟเรน - เอ่อ..เวลาส่วนใหญ่ในสนามวันนี้คือขึ้นมาเคาะบอลแถววงกลม จะให้คอมเม้นท์อะไรล่ะ

มาติป - ประกบคู่ต่อสู้ได้ดี แต่ก็นั่นแหล่ะ ออสตินหรือกระทั่งเชน ลองที่ลงมาที่หลังก็โดนปล่อยเกาะอยู่คนเดียว มาติปก็สบาย

ไคลน์ - เติมขึ้นไปช่วยต่อบอลข้างหน้าได้โอเค แต่หาช่องชิ่งบอลหรือรับบอลชิ่งไม่ดีพอจะเอาชนะแนวรับ

เฮนเดอร์สัน - เก็บบอลสอง ต่อบอลสั้น ดักบอลโต้ อะไรพวกนี้ดีหมดแล้ว ที่ขัดใจคือบอลเกมรุกไม่ค่อยกล้าออกบอลเอง ต้องไปฝากคูตินโย่ตลอด

ชาน -  ครึ่งแรกโดนผีเมสซี่เข้าสิงอยู่แปปนึง แต่โดยรวมแล้วก็ถือว่าช่วยเก็บบอลต่อบอลได้ดี ทั้งเกมก็มีส่วนร่วมกับเกมรุกได้ดีกว่าไวนัลดุมด้วย

ไวนัลดุม - ก็ไม่ใช่ว่าขี้เกียจนะ แต่พอเทียบกับลัลลาน่าแล้วไวนัลดุมดูเหมือนไม่วิ่งไปเลย มีความแข็งแกร่ง ปะทะได้โหม่งได้ แต่เกมรุกแบบจังหวะเดียวหรือช่วยวิ่งชิ่งวิ่งช่องอะไรนี่ไม่มีให้เห็น ...ไม่ได้ผิดที่เจ้าตัวนะฮะ อันนี้มันสไตล์การเล่น ซึ่งสไตล์นี้ไม่ช่วยอะไรในเกมนี้เท่าไหร่

มาเน่ - เล่นดร็อปไปเยอะนะ คือคู่ต่อสู้เล่นดีก็ใช่ แต่ปกติจังหวะได้บอลเจ้าตัวเคยเล่นได้ดุดันกว่านี้

คูตินโย่ - ถอยต่ำมาช่วยเชื่อมเกมเยอะ เรื่องจับแล้วจ่าย ให้แล้วไปไม่ได้มีปัญหา มีบอลคิลเลอร์พาสเป็นระยะด้วย แต่ความฟิตเหลือไม่เท่าไหร่ ยิ่งพอเข้าครึ่งหลังนี่โดนเบียดแย่งบอลไปดื้อๆ

เฟอมิโน่ - มีสมาธิกับเกมดีมาก เป็นคนอื่นนี่มีหวังสติหลุดวิ่งไปเลาะข้อเท้าชาวบ้านแล้วถ้าเจอเกมแบบนี้ ช่วยให้ทีมได้ลูกเก็บตกก็พอสมควร ช่วยต่อบอลในพื้นที่สุดท้ายโอเค สร้างโอกาสได้ แต่โอกาสที่ต้องยิงเองดันยิงทิ้งซะงั้น

ตัวสำรอง

สเตอริดจ์ - ในเกมที่ไม่มีช่องให้เห็น สเตอริดจ์ก็ช่วยอะไรไม่ได้มากมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว

โอริกิ - ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ว่าคล็อปส่งลงมาทำไมตอนนั้น

แมน ออฟ เดอะ แมทช์ : ...ฟาน ไดซ์…ซื้อแม่งเลยครับ หมดเรื่อง
------------------------------------------------------------
เครดิตภาพจากเวปทางการ

Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.

วันอาทิตย์ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

ลิเวอร์พูล 6-1 วัตฟอร์ด (พรีเมียร์ลีค)


ยิงเยี่ยงสัตว์ป่า  ยิงจนต้องร้องขอชีวิต
___________________________

ลิเวอร์พูลเล่นด้วย 4-3-3

-------------------เฟอมิโน่-------------------
---------คูตินโย่-------------มาเน่-----------
---------ชาน-------------ลัลลาน่า-----------
-----------------เฮนเดอร์สัน-----------------
มิลเนอร์------ลูคัส-------มาติป-------ไคลน์
--------------------คาริอุส--------------------

_______ ลิเวอร์พูลเปิดบ้านรับวัตฟอร์ดที่กำลังฟอร์มดีไม่แพ้ใครมาสี่นัด เกมนี้ลิเวอร์พูลไม่มีลอฟเรนที่ป่วย คล็อปตัดสินใจส่งลูคัสลงแทน  ส่วนแดนกลางชานยังยึดตำแหน่งตัวจริงไว้ได้ปล่อยให้ไวนัลดุมต้องนั่งต่อไป ส่วนตำแหน่งอื่นยังเหมือนเดิม
-------------------------------------------------------

________ วัตฟอร์ดเริ่มต้นเกมด้วยการเล่นเหมือนลิเวอร์พูลเป๊ะ ไล่เร็ว ถึงตัวอัด ได้บอลแทงสวนขึ้นหน้าไม่ครองบอล ช่วง 7-8 นาทีแรกเกมยังสูสี วัตฟอร์ดแม้จะไม่ค่อยมาถึงเขตโทษแต่ยังเห็นว่าสู้ได้

_______ แต่ยิ่งเล่นเกมยิ่งเป็นของลิเวอร์พูล ตั้งแต่ประมาณนาที 10 เป็นต้นไป ลิเวอร์พูลทำเกมรุกทะลุทะลวงได้ดีขึ้นโดยเฉพาะเกมตรงกลางและทางซ้าย เปิดบอลเข้าเขตโทษได้เรื่อยๆ การขึ้นเกมรุกแทบไม่มีขวางสนามแต่จ่ายขึ้นหน้าตรงๆ บ่อยครั้ง แต่จังหวะสุดท้ายยังโดนกองหลังเบียดให้ยิงยาก และโกลก็ยืนตำแหน่งดี ทำให้ยังไม่ได้ประตู

_______ ...แต่ก็เท่านั้น  สุดท้ายวัตฟอร์ดก็ต้านไม่อยู่  เริ่มด้วยประตูแรกจากจังหวะเตะมุมสั้นในนาที 27 คูตินโย่เปิดเข้ามาทางเสาแรก มาเน่วิ่งโฉบมาโหม่งเช็ดกลับหลังเข้าเสาสองชนิดที่ต้องถามว่า “โหม่งแบบนั้นได้ยังไง” 1-0

_______ ถัดจากนั้นสามนาที จังหวะวัตฟอร์ดเติมขึ้นไปจะเล่นเกมรุกเร็วแต่โดนตัด สุดท้ายเฟอมิโน่จ่ายยัดให้คูตินโย่ได้บอลแถวหน้าเขตโทษ  คูตินโย่แต่งก่อนยิงเรียดแรงลอดขากองหลังเข้าเสาแรก 2-0 แถมจากจังหวะนี้ โกเมสโกลของวัตฟอร์ดดันมาเจ็บเองต้องเปลี่ยนตัวออกอีก (น่าจะเข่าพลิก ไม่ได้มีใครไปปะทะ)

_______ หลังจากนั้นก็เป็นลิเวอร์พูลที่บุกเข้าใส่อย่างโหดร้าย วัตฟอร์ดพยายามจะเล่นในจังหวะเดิมคือวิ่งไล่ตัดได้ทำเร็ว แต่วิ่งตามไม่ค่อยทันบอลสั้นจังหวะเดียว จะทำเร็วก็แม่นไม่พอกลายเป็นเสียบอลคืนแถมโดนโต้กลับเองอีก จนกระทั่งนาที 43 ลัลลาน่าได้บอลทางขวาเปิดเข้ากลางให้ชานวิ่งสอดขึ้นมาโหม่งส่งวัตฟอร์ดไปตั้งสติช่วงพักครึ่งด้วยสกอร์ 3-0

_______ เข้าใจว่าคล็อปคงมองสกอร์บอดร์ผิดข้าง พอกลับลงสนามในครึ่งหลัง ลิเวอร์พูลยังคงเดินหน้าวิ่งไล่บอลเอามาบุกต่อ วัตฟอร์ดน้อยผู้น่าสงสารพยายามจะบุกแต่ครองบอลแทบไม่เคยเกินสามจังหวะ ไม่นานก็โดนเพิ่ม นาที 56 จากจังหวะต่อเนื่องจากฟรีคิก ลัลลาน่าสอดขึ้นไปรับบอลทางซ้ายก่อนเปิดเรียดให้เฟอมิโน่ชาร์จ 4-0

_______ วัตฟอร์ดเองก็เล่นแบบขอแค่ได้ยิง แต่ก่อนจะได้ยิงมาโดนเพิ่มซะก่อน นาที 60 ลิเวอร์พูลตัดได้กลางสนามเฮนโด้แทงยาวรวดเดียวให้เฟอมิโน่ควบเข้าไปรับบอลในเขตโทษ เฟอมิโน่ดึงรอจังหวะก่อนเปิดเรียดเข้ากลางผ่านตัวบล็อคสองชั้นให้มาเน่สอดขึ้นมาชาร์จ 5-0

_______ พอได้ 5 ลูก ก็นึกว่าคล็อปจะพอใจแล้วเพราะจัดการเปลี่ยนตัวทันที เก็บมาเน่ส่งไวนัลดุมลงมาแทน แต่ก็เปล่า ทั้งทีมยังคงพร้อมใจกันดันขึ้นสูง ดาหน้าเข้าไปจะตัดบอลให้ได้ ลูค๊งลูคัสพรวดเข้าไปปั๊มบอลตั้งแต่วงกลม ทำให้หลายจังหวะโดนวัตฟอร์ดสวนขึ้นมาได้บ้างเพราะพื้นที่ข้างหลังเหลือเพียบ เกมเปิดหน้าแลกกันสนุก

_______ นาที 70 สเตอริดจืได้ลงแทนลัลาน่า ช่วงประมาณนาที 65-75 นี้เป็นช่วงที่วัตฟอร์ดได้พาบอลเข้าาใกล้เขตโทษลิเวอร์พูลมากที่สุดเพราะแดนกลางแดนหลังลิเวอร์พูลพรวดขึ้นมาปั้มบอลกันหมด วัตฟอร์ดหาโอกาสยิงได้บ้างด้วยแต่คาริอุสเซฟได้ดีหลายครั้ง ส่วนลิเวอร์พูลเองยังเปิดบอลเข้าทำได้ดีตลอด ได้ลุ้นเป็นระยะๆ

_______ วัตฟอร์ดได้รางวัลแห่งความพยายามในนาที 75 จากจังหวะขึ้นทางซ้าย มิลเนอร์เบียดกับคู่ต่อสู้แล้วล้มแต่ไม่ได้ฟาล์ว ทำให้พื้นที่แถวมุมเขตโทษเปิด สุดท้ายเป็นยันมาร์ทวิ่งเข้ามารับบอลก่อนยิงผ่านคาริอุสเข้าไปได้ 5-1

_______ หลังจากนั้นเป็นสเตอริดจ์ที่หาโอกาสยิงได้เยอะเหลือเกิน เพื่อนก็พยายามปั้นให้ แต่ยิงชนเสา เข้าหน้าต่าง ติดปลายมืออยู่ตลอด นาที 86 อีจาเรียได้ลงแทนคูตินโย่ เกมทำท่าว่าจะจบแล้วแต่วัตฟอร์ดยังม่เสียประตู “ครึ่งโหล” ในนาที 90+1 จังหวะเตะมุมเล่นเร็ว (ลูกยังไม่นิ่งด้วยนะ)  สุดท้ายเป็นสเตอริดจ์ได้ยิงในเขตโทษติดบล็อคโกล์ ไวนัลดุมตามไปยิงซ้ำ 6-1 จบเกมด้วยความดีใจของวัตฟอร์ดที่ได้กลับบ้านสักที ส่วนลิเวอร์พูลเองขึ้นนำจ่าฝูงเป็นที่เรียบร้อย
-----------------------------------------

_______ รายละเอียดไม่ค่อยมี คือเดินหน้าฆ่ามันอย่างเดียว

_______ เข้าใจว่าวัตฟอร์ดคงเน้นจะตีหัวเข้าบ้านถึงได้เลือกเล่นแบบเร่งเกมในช่วงต้น แล้วก็ถือว่าทำได้ดีด้วย แต่พอลิเวอร์พูลยิงได้ก่อนก็จบข่าว แต่ถึงอย่างนั้น ความพยายามจะเร่งเกมในจังหวะเดิมทั้งๆ ที่ตามหลัง ทำให้ลิเวอร์พูลมีช่องบุกต่อ ผลลัพธ์ก็เลยเละเทะอย่างที่เห็น

_______ ทางด้านลิเวอร์พูล วันนี้แทบไม่ได้เล่นเกมรับเลย เล่นจริงๆ จังๆ อยู่สักสิบนาทีเองมั้ง ที่เหลือคือวิ่งไล่เอาบอลคืนแล้วจ่ายขึ้นหน้าแล้วก็จ่ายเข้าเขตโทษ ยิงไปทีละลูกๆ จนได้หกลูกนั่นแหล่ะ ที่จริงถ้าสเตอริดจ์อยู่ในฟอร์มที่ดีที่สุดของเขา เผลอๆ สกอร์จะมีเลขสองหลักเอา

_______ ไอ้ที่บอกว่าโหดร้ายป่าเถื่อนไม่ใช่จำนวนประตู แต่เป็นวิธีการเล่น คือสองลูกก็แล้ว ผ่านพักครึ่งก็แล้ว ทีมไม่มีทีท่าจะผ่อนแถมยังดันสูงหนักเข้าให้อีก การยิงลูกปิดกล่องทดเจ็บไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ถ้าใครได้ดูจะเห็นว่าทีมก็บุกมาตลอดๆๆ แค่ยิงแล้วมันติดบล็อคติดเสาแค่นั้นเอง

_______ อย่างไรก็ตาม มีเรื่องน่าสังเกตอยู่อย่างนึงในนัดนี้ ...สเตอริดจ์

_______ ฟอร์มส่วนตัวสเตอริดจ์ไม่แย่นะครับ แต่ชัดเจนเลยว่าสไตล์การเล่นของเขามันแปลกแยกจากเพื่อน เขาจับบอลนานกว่าเพื่อนอยู่นิดนึง รวมถึงการวิ่งหาตำแหน่ง ตัวรุกคนอื่นจะวิ่งไปหาช่องที่ว่างแล้วจ่ายให้คนที่เข้าไปในตำแหน่งสุดท้าย แต่สเตอริดจ์วิ่งเข้าช่องยิงอย่างเดียว มันทำให้จังหวะเกมรุกเร็วด้วยบอลจังหวะเดียวของทีมที่โหดสัสสลัดผักในช่วงก่อนหน้านั้นมันรวนไปเหมือนกัน

_______ ไม่น่านานครับสเตอริดจ์ ไม่น่านาน

_______ สุดท้าย ในบรรดาหกประตูที่ทำได้ในวันนี้ ผมประทับใจลูกที่ 5 มากที่สุด การจ่ายเร็ว การดึงจังหวะ การวิ่งสอด จังหวะมันเป๊ะมาก ต้องซ้อมกันกี่ชั่วโมงถึงออกมาเป็นแบบนี้ได้
-----------------------------------------

นัดนี้เล่นเกมรุกได้ดีมาก

คาริอุส - เปิดยาวได้เหียกมาก แต่วันนี้ยืนตำแหน่งได้สุดยอด เซฟช่วยได้หลายครั้ง ไม่มีกระฉอกให้โดนซ้ำด้วย จังหวะน่าเกลียดโคตรๆ มีครั้งเดียวคือการออกมาโหม่งนอกเขตประตู คือโค้ชไม่สอนเหรอออออออ  ออกมาแบบนั้นโหม่งทิ้งออกข้างไว้ก่อนสิเฟร้ยยยย

มิลเนอร์ - ครึ่งชั่วโมงแรกเติมขึ้นมาช่วยเชื่อมเกมรุกได้ดีมาก เพื่อนหันมาเป็นเจอ เกมรับวันนี้คุมพื้นที่หลวมไปหน่อย เน้นจะไปดักจังหวะแรกมากไป ทำให้คู่ต่อสู้ที่พลิกไปได้บางครั้งเอาบอลไปกดดันในเขตโทษได้เลย

ลูคัส - ได้โอกาสโหม่งหนึ่งยิงหนึ่งแบบน่าได้แต่ก็พลาด  เกมรับก็แทบไม่ค่อยได้เล่น ทำได้ดีในจังหวะดันสูงขึ้นมาตัดบอลโต้ของวัตฟอร์ดได้หลายครั้ง

มาติป - โหม่งบอลโด่งจากแดนหลังของวัตฟอร์ดได้หมด กองหน้าเก็บเล่นไม่ได้ ทำให้ทีมกลับมาครอบครองบอลได้เร็ว

ไคลน์ - วันนี้เติมขึ้นไปในแดนคู่ต่อสู้บ่อย เชื่อมเกมได้ดี เปิดเข้ากลางน้อยครั้งแต่เปิดได้ดี

เฮนเดอร์สัน - หล่อแล้ว

ชาน -  เก็บบอลไว้กับตัวนานไปในบางจังหวะ แต่เกมรุกดีขึ้น และดูรวมๆ แล้วมีสเน่ห์เหลือเกิน

ลัลลาน่า - เรียกเทพม้วนไม่ได้แล้วนะครับ วิ่งสอดแนวรับอย่างเทพ บอลจ่ายให้เพื่อนยิงก็นิ่งดีเหลือเกิน

มาเน่ - โดนล็อคตายมาหลายนัด วันนี้มีพื้นที่เล่น มาเน่มีพื้นที่เล่นคู่ต่อสู้ก็บรรลัย

คูตินโย่ - ครึ่งแรกเล่นได้สุดยอด ครึ่งหลังดรอปลงมาหน่อยเหลือแค่ดีเฉยๆ

เฟอมิโน่ - เล่นเพื่อทีมได้ดีเหลือเกิน ไม่หยุดวิ่ง ทั้งเรื่องวิ่งไล่และทั้งไม่เสียดายโอกาสยิง คือมีช่องให้วิ่งดึงตัวประกบก็ทำทันที ใครจะเข้าไปยิงก็เข้าไป ทำให้แนวรับคุมพื้นที่ยาก

ตัวสำรอง

ไวนัลดุม - เกมรุกดูหงอยๆ แต่การเก็บบอลสองกับเชื่อมเกมก็โอเคนะ

สเตอริดจ์ - ตามด้านบนนู๊นเลย

อีจาเรีย - ได้เล่นน้อยไปหน่อย

แมน ออฟ เดอะ แมทช์ : ...เจอเก้น คล็อป…พี่ซ้อมยังไงลูกทีมเล่นได้แบบนี้ครับ ทั้งเรื่องทัศนคติแบบ “เอาให้ตาย” ทั้งเรื่องทีมเวิร์คที่ลงตัว
------------------------------------------------------------
เครดิตภาพจากเวปทางการ

Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.