วันอาทิตย์ที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

สโต๊ค 6-1 เจอราร์ด (พรีเมียร์ลีค)

...ตามเจอราร์ดไปเลยได้มั้ยอ่ะพี่ร็อดฯ...
___________________________

ลิเวอร์พูลเล่น 4-4-2 ไดมอนด์

---------------ลัลลาน่า---------คูตินโย่----------------
-------------------------เจอราร์ด-----------------------
------------อัลเลน---------------เฮนเดอร์สัน---------
---------------------------ลูคัส--------------------------
โมเรโน่---------ซาโก้--------สเคอเทล----------ชาน
-------------------------มินโยเล่------------------------

_______ นัดสุดท้ายของฤดูกาล ลิเวอร์พูลออกไปเยือนสโต๊ค ทางทฤษฎียังมีเรื่องยูโรป้าให้ลุ้นอยู่นิดหน่อย แต่ในทางปฏิบัติก็ไม่ได้มีผลอะไรมากนัก จุดสนใจของเกมอยู่ที่นัดสุดท้ายของเจอราร์ดก่อนอำลาทีมไปมากกว่า ร็อดเจอร์คงกลัวแฟนบอลไม่มีอะไรให้ลุ้นเลยจัดให้ซะช็อคเลย...ตามผังด้านบน
-------------------------------------------------------

_______ เริ่มเกมมาทั้งสองฝ่ายเล่นกันค่อนข้างเร็ว เปิดเกมรุกใส่กัน ลิเวอร์พูลทำได้ดีกว่าในเรื่องการครองบอลต่อบอล แต่โอกาสสุดท้ายหามีไม่ ส่วนสโต๊คเก็บบอลไม่ค่อยได้ ดันได้ยิงมากกว่าเพราะเน้นยิงไกลรัวๆ แต่ความหวาดเสียวหาไม่มี

________ แบ็คสองฝั่งของลิเวอร์พูลไม่ค่อยเติมเกม และเหลี่ยมข้างเพชรทั้งสองฝั่งก็ไม่ค่อยขยับเติมเกมรุก ทำให้เกมรุกของลิเวอร์พูลไม่ต่อเนื่องและเสียบอลเร็วมากบริเวณหน้าเขตโทษคู่ต่อสู้ กลับกันกับทางสโต๊ค ยิ่งเล่นเกมรุกฝั่งซ้ายโดยอนาตัววิชเริ่มขยับได้ รวมไปถึงการเข้าบอลหนักไม่ค่อยโดนจับฟาล์วหรือโดนใบเหลืองเท่าที่ควรทำให้ เกมรุกเริ่มได้ลุ้นมากขึ้นตามลำดับ

_______ นาที 22 ความสนุกสนานก็เริ่มต้นขึ้น ชานโดนอนาตัววิชตัดเข้าในก่อนจ่ายให้อดัมยิงแถวเส้นเขตโทษ มินโยเล่ปัดได้แต่ไปเข้าทางดิยุฟได้ซ้ำง่าย 1-0

_______ พอสกอร์ขยับ เกมของสโต๊คยังดีต่อเนื่องและได้ประตูที่สองอย่างรวดเร็ว นาที 26 อนาตัววิชคนเดิมหลบชานได้ก่อนจ่ายให้ดิยุฟได้ยินแถวเส้นเขตโทษแทบจะก๊อปจังหวะลูกแรกมาเลย แต่คราวนี้ดิยุฟยิงหายเองไม่ต้องรอใครมาซ้ำ 2-0

_______ เกมของลิเวอร์พูลดับสนิทไปเรียบร้อยแต่สโต๊คเล่นกันมั่นใจขึ้น ยิ่งเล่นยิ่งดี นาที 30 ได้โอกาสโยนบอลจากมุมธงขวา บอลโด่งลึกไปเสาสอง ชานขึ้นโหม่งได้สูงกว่าผู้เล่นสโต๊คแล้วแต่ดันโหม่งย้อนกลับเข้าหากรอบประตูกลายเป็นตั้งให้วอลเตอร์ได้ยิงซ้ำจ่อๆ 3-0

_______ ทางกลับคือการบรรลัยต่อ ลิเวอร์พูลยังหาฝั่งไม่เจอ รวมสติไม่ได้ เกมยังสะเปะสะปะก็โดนเข้าให้อีกลูก นาที 41 ซาโก้สกัดบอลได้แล้วแถวริมเส้นซ้ายแต่เล่นยากไปหน่อย แทงบอลให้ลูคัสที่ยังไม่พร้อมเล่นทำให้จับบอลลั่น โดนอดัมวิ่งแซะเอาบอลไปได้ก่อนเจ้าตัวจะยิงหักข้อเข้าเสาหนึ่งไปเรียบร้อย 4-0

_______ ลิเวอร์พูลยังไม่มีที่ท่าว่าจะตั้งหลักตั้งลำอะไรได้ อย่าว่าแต่เกมรุกจะขึ้นไปลุ้น เอาแค่ครองบอลยังมีปัญหา โดนสโต๊ควิ่งไล่อัดจนทำอะไรไม่ได้โดนแซะบอลอยู่เนืองๆ แถมก่อนจบครึ่งแรกนาที 45 ยังมาทำเพิ่มอีกลูกจากจังหวะเอนซองซี่ได้บอลทางฝั่งซ้าย ลากเข้ามาตรงกลางตรงๆ แต่กลางลิเวอร์พูลไม่มีใครขวางไม่มีใครไล่ เอนซองซี่ก็ยิงไกลมันดื้อๆ หายเข้าประตูไป ทำให้จบครึ่งแรกสโต๊คนำด้วยสกอร์อลังการ 5-0

_______ เข้าครึ่งหลัง ร็อดเจอร์ปรับเกมด้วยการหันมาเล่นหลัง 3 เอาตูเร่กับไอบ์ลงมาแทนโมเรโน่กับชาน เอาไอบ์ไปเล่นวิงซ้าย ถอยเฮนเดอร์สันไปเล่นวิงขวา ตรงกลางเอาอัลเลนไปช่วยลูคัส

_______ ลิเวอร์พูลพยายามดันเกมสูงขึ้น แต่ด้วยสกอร์ที่ห่างเหลือเกิน กะจิตกะใจอะไรก็ไม่ค่อยจะเหลือกันแล้วทำให้เกมไม่ได้กดดันสโต๊คเท่าไหร่ เกมรุกฝั่งซ้ายนำโดยการวิ่งทำทางของไอบ์พอจะเป็นสัปปะรดบ้างแต่ไม่ต่อเนื่องและไม่มีความเด็ดขาดในการจ่ายบอลเข้าทำ ส่วนสโต๊คก็เล่นแช่วับป้ะเท่งป้ะฉิ่งฉับทัวร์ไปเรื่อย ผ่อนเกมในระดับที่อีกนิดนึงคงเรียกว่าเตะเรียกเหงื่อก็คงได้

_______ นาที 69 แลมเบิร์ตได้ลงมาแทนอัลเลน ถัดจากนั้นนาทีเดียวเจ้าตัวก็โหม่งชงให้เจอราร์ดได้หลุดขึ้นหน้าไปยิงหนีมือผู้รักษาประตูเข้าไปได้ให้ทีมไล่ตามมาอย่างกระชั้นชิด 5-1

_______ เกมของลิเวอร์พูลมีชีวิตชีวาอยู่ราว 5 นาทีก่อนจะกลับไปเดินเล่นเหมือนเดิม เกมริมเส้นขวาดับสนิท เกมเจาะตรงกลางเหมือนวิ่งใส่กำแพง ช่องก็ไม่มีให้เล่นเพราะสโต๊คปิดหมด จังหวะที่ได้หลุดขึ้นไปบ้างก็หลุดขึ้นไปคนเดียวไม่มีทางเลือกจะเปิดให้ใคร เกมทางซ้ายก็ติดๆ ดับๆ ไม่ได้ทะลุทะลวงมากนัก

_______ นาที 86 สโต๊คยังมาได้ประตูปิดกล่องอีก จากจังหวะที่โยนบอลจากริมเส้นซ้าย ตูเร่ปิดห่างไปนิด และสเคอเทลกับซาโก้ประกบเคร้าช์ได้ไม่ดีนัก ทำให้เคร้าช์ได้โหม่งไม่พลาด 6-1

_______ 6-1!

_______ จบเกม จบฤดูกาล จบการอำลาเจอราร์ดด้วยสกอร์แพ้ขาด 6-1
-----------------------------------------

_______ เอ้อ...ใครได้ดูก็คงคิดอย่างเดียวกันละครับ เล่นไล่โค้ชรึเปล่า?

_______ เรื่่องนั้นก็ส่วนเรื่องนั้นครับ ที่จะเขียนต่อไปนี้ว่ากันเฉพาะที่เห็นในสนามล้วนๆ นะ

_______ 11 ตัวจริงดูเฉพาะรายชื่อนี่ไม่เท่าไหร่ครับ ก็ผู้เล่นชุดใหญ่ที่ได้ลงสนามบ่อยๆ ทั้งนั้นแหล่ะ แต่แทคติคที่ใช้นี่สิ เรือหายขายผักมาก ชานยังคงยืนแบ็คขวา(อันนี้ไม่น่าแปลกใจ แต่ผมไม่ชอบเป็นการส่วนตัว), ไดมอนด์ (นี่ยังไม่เข็ดจริงๆ หรือ) และไฮไลท์อยู่ที่หน้าคู่เลือกใช้ลัลลาน่ากับคูตินโย่!

_______ โหดไปไหมร็อดเจอร์ T_T  ต่อให้เป็นแค่การลองทีมก็เถอะ (เพราะอย่างที่บอกตอนต้น เกมนี้ไม่มีอะไรให้ลุ้นอีกแล้วในทางปฏิบัติ)

_______ ตั้งแต่ต้นยันจบเกม โดนสโต๊คไล่อัดอย่างเดียวเลยครับ หน้าคู่เก็บบอลไม่ได้ แถมประสานงานกันก็ไม่ได้ แหงล่ะก็ไม่ใช่กองหน้าอาชีพกันทั้งคู่นี่่ คูตินโย่นี่แทบจะหายไปจากเกมเลย ส่วนลัลลาน่าที่ได้เล่นกับบอลบ่อยก็ไม่รู้จะเล่นกับใคร แถมเป็นจังหวะที่ฉีกตัวไปรับบอลริมเส้นซะเป็นส่วนใหญ่ ในเขตโทษไม่ค่อยมีใครวิ่งทำทางหรือเข้าไปรอบอลในนั้นเลยครับ แล้วจะเอาอะไรไปยิงเค้าล่ะ?

_______ สโต๊คต่อให้ตอนนี้เป็นมาร์ค ฮิวจ์คุมสไตล์การเล่นเปลี่ยนไปเยอะแล้ว แต่ผู้เล่นหลายคนก็ยังอยู่ในชุดของพูลิสนั่นแหล่ะ การเข้าบอลหนักมันอยู่ในดีเอ็นเอไปเรียบร้อย แต่สิ่งที่ร็อดเจอร์ทำคือใช้...อัลเลน เท่านั้นไม่พอ ยังเลือกเล่นไดมอนด์ที่ทำให้กองกลางน้อยลงไปอีก กลางก็โดนไล่เตะตามคาด

_______ ที่น่าแปลกใจสำหรับนัดนี้คือการไม่ใช้แบ็คเล่นเกมรุก จะไดมอนด์ก็ดี จะ 3-5-2 ก็ดี เป็นแทคติคที่ต้องพึ่งแบ็คมาเล่นเกมรุกเอามากๆ เพราะกองกลางตามตำแหน่งจะเข้าไปอยู่ด้านในซะเยอะ แต่นี่ครึ่งแรกทั้งชานทั้งโมเรโน่แทบไม่ขึ้นมาเกินเส้นครึ่งสนามเลย ครึ่งหลังเฮนเดอร์สันทางขวาก็ยังคงไม่ขึ้นทั้งๆ ที่จะเล่นเกมรุกกันแล้ว ไอบ์เองขึ้นเยอะแต่ก็ไม่ลอยขึ้นไปอย่างที่ควรจะเป็น (มีหลัง 3 แล้ว+จะเน้นเกมรุก วิงลอยเกินวงกลมไปเลยก็ได้) อันนี้ส่วนตัวคิดว่าพิลึกดี ร็อดเจอร์ไม่สั่งให้แบ็คขึ้นได้ยังไง หรือว่าสั่งแล้วแต่...

_______ เกมมันขาดเร็วก็คงไม่มีอะไรให้พูดถึงมากนัก การเปลี่ยนตัวหรือปรับแทคติคก็ไม่มีน่าสนใจเพราะมันตั้ง 5-0 เข้าไปแล้วตอนพักครึ่ง ตอนนี้คาใจอยู่เพียงเรื่องเดียวคือผู้เล่นลิเวอร์พูลเล่นแบบไร้แรงกระตุ้นซะขนาดนี้ ไม่มีใครมุ่งมั่นให้ใจเล่นเพื่อผู้จัดการทีมเลยสักคน(อันนี้เห็นมา 2-3 นัดแล้ว)

_______ บอร์ดบริหารยังจะวางใจให้ร็อดเจอร์คุมทีมต่อจริงๆ เหรอ ฝีมือก็เรื่องนึง แต่ถ้าไม่ได้ใจคนเล่นนี่ลำบากนะครับ

_______ ป.ล. ในทางคณิตศาสตร์แล้ว ใครก็ตามที่บอกว่ามั่นใจ 150% คือคนตกเลขครับ
-------------------------------

นัดนี้เล่นกันซะไม่เกรงใจร็อดเจอร์เลย

มินโยเล่ - โดนกดดันจากเพื่อนร่วมทีมมากกว่าคู่ต่อสู้อีกมั้ง คู่ต่อสู้ได้ยิงไกลแบบไม่มีใครขวางบ่อยเหลือเกิน แต่เจ้าตัวเองก็มีส่วนพลาดนิดหน่อยเหมือนกัน ตำแหน่งยืนไม่ค่อยดีนัก

โมเรโน่ - ไม่ค่อยมีส่วนร่วมกับเกม ขึ้นก็ไม่ขึ้น เชื่อมเกมก็ไม่ดีีนัก โดนไล่ก็ไปไม่เป็น

ซาโก้  - สำหรับการสกัด ซาโก้ทำได้ดีเลยล่ะ แต่กับการผ่านบอล การซ้อนเพื่อน การประกบคู่ต่อสู้ ดูไม่จืดเลย

สเคอเทล - ยังเข้าสกัดได้ดี แต่การประสานงานกับเพื่อนไม่ค่อยดีนัก การเข้าซ้อนแบ็คขวาทำได้แย่เหมือนไม่รู้ว่าควรจะให้รอเฮนเดอร์สันซ้อนก่อนดี หรือตัวเค้าจะเข้าไปซ้อนเลยดี เช่นเดียวกันกับพื้นที่หน้าเขตโทษที่ลูคัสหลุดแล้ว สเคอเทลก็ไม่ขึ้นมา

ชาน - เล่นเหมือนอยากบอกว่า “ไม่เล่นแบ็คขวา จบนะ”

ลูคัส - ยืนต่ำมากจนแทบจะเป็นเซ็นเตอร์อยู่แล้ว ตำแหน่งเจอราร์ดฤดูก่อนนั่นแหล่ะ ซึ่งลูคัสไม่ได้มีความสามารถในการเชื่อมเกมขนาดนั้น การตั้งเกมก็เลยยิ่งไปกันใหญ่ ส่วนเกมรับครึ่งแรกก็รับเละคนเดียว สองข้างเหลี่ยมเพชรมาช่วยน้อยไป แล้วตัวลูคัสเองฟอร์มส่วนตัวก็เละเทะมากเช่นกัน ช้า เข้าบอลผิดจังหวะ เคลื่อนที่น้อยไป

อัลเลน - เหลี่ยมซ้าย หายไปจากเกม เกมรับช่วยได้น้อยเหลือเกิน เกมรุกแทบไม่มี

เฮนเดอร์สัน - เหลี่ยมขวา เหมือนถูกวางมาให้เป็นทีเด็ดในการเปลี่ยนรับเป็นรุกสำหรับเกมเร็วหรือเกมโต้ แต่เล่นจริงไม่เด็ด...ดับ เคลื่อนที่น้อยมาก รับไม่ดีรุกไม่เด่น แถมพอโดนถ่างไปเล่นวิงขวาก็หายไปเลย

เจอราร์ด - กลางรุก ได้บอลไม่มากนัก หาที่ว่างเล่นแทบไม่ได้เลย ครึ่งแรกเกมทะลุทะลวงไม่มีไม่ว่าจะวิ่งไปเองหรือจ่ายบอล ได้แต่วางไปมุมธง ครึ่งหลังโดนดันสูงขึ้นไปอีกแต่ก็ช่วยทีมไม่ได้มากนัก ยังดีที่ทำประตูปลอบใจได้แบบโชคช่วยนิดๆ (คู่ต่อสู้เจ็บพอดี)

ลัลลาน่า - ได้บอลเยอะที่สุดในทีมแต่เอาไปทำอะไรต่อไม่ได้ เพราะส่วนใหญ่โดนบีบให้ไปรับบอลริมเส้น แถมไม่ค่อยมีเพื่อนมาเล่นด้วย แบ็คก็ไม่ขึ้น กลางก็ไม่ขึ้น กับคูตินโย่ก็ต่างคนต่างไป เล่นกันคนละทางเลย ในขณะที่ลัลลาน่าชอบบอลชิ่งให้แล้วไป คูตินโย่ชอบให้บอลทำทางตามช่อง มันจะไปกันได้มั้ยล่ะนั่น

คูตินโย่ - น่าสงสารสุดอะไรสุด ได้บอลไม่มากนักแถมไม่มีคนวิ่งทำทางขึ้นหน้าสักเท่าไหร่ ได้บอลก็อยู่ห่างประตูเยอะไม่ค่อยมีโอกาสได้ทำอะไร เห็นความพยายามในการออกบอลเกมรุกแต่ประสานงานกับเพื่อนร่วมทีมไม่ดีเลย ยิ่งพอสกอร์ห่างๆ ความแม่นยำยิ่งไปกันใหญ่

ตัวสำรอง

ตูเร่ - ลงมาเล่นเหมือนอยากอยู่อีกสักปี ตั้งใจ มีสมาธิกับเกม

ไอบ์ - เล่นแบบเจียมเนื้อเจียมตัวไม่ทำอะไรเกินความสามารถ ขยันวิ่งทำทางแล้วเอาบอลไปเปิดที่สุดเส้นแค่นั้น ถ้าดูกันในสนามอย่างเดียว ไอบ์ทำได้แค่ถ่างแนวรับ, ไปในทางที่โดนบีบให้ไปและการเปิดบอลเข้าทำยังหมูมาก แต่ถ้าว่ากันตามอารมณ์ล้วนๆ ผมว่าเค้าทำดีแล้วแค่ต้องเพิ่มประสบการณ์ในทีมชุดใหญ่อีกสัก 1-2 ปี

แลมเบิร์ต - กองหน้าตัวใหญ่...เพื่อนเปิดให้วิ่งตามช่อง
------------------------------------------------------------

เครดิตภาพจากเวปทางการ

Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.

วันเสาร์ที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

ลิเวอร์พูล 2-1 ควีนสปาร์คเรนเจอร์ (พรีเมียร์ลีค)


...ถึงกับต้องเฉือนชนะกันเลยทีเดียว...
___________________________

ลิเวอร์พูลเล่น 4-2-3-1

------------------------แลมเบิร์ต-----------------------
------ลัลลาน่า---------คูตินโย่---------สเตอลิ่ง------
------------เจอราร์ด---------------เฮนเดอร์สัน-------
จอห์นสัน------ลอฟเรน--------สเคอเทล--------ชาน
-------------------------มินโยเล่------------------------

_______ ลิเวอร์พูลเปิดบ้านรับมือทีมหนีตกชั้นอย่างควีนสปาร์ค เรนเจอร์ (คิวพีอาร์) นัดนี้ร็อดเจอร์ปรับทีมนิดหน่อยตามผังที่เห็นด้านบน
-------------------------------------------------------

_______ เริ่มเกมมาเป็นลิเวอร์พูลที่ครองบอลได้เยอะกว่า เป็นฝ่ายเปิดเกมรุกเข้าใส่ เล่นเร็วและเกมรุกทางฝั่งขวาทำได้ค่อนข้างดี บอลไปถึงหน้าเขตโทษ-สุดเส้นพอสมควร ส่วนทางคิวพีอาร์ ไม่ได้มาเน้นรับ ได้บอลก็รีบวางยาวเล่นเกมรุกใส่ทันทีเช่นกัน

________ ลิเวอร์พูลทำได้ดีกว่าแต่ยังหาโอกาสลุ้นประตูไม่ค่อยได้ ในขณะที่คิวพีอาร์เน้นยิงไว้ก่อน ไปไหนช่างมัน เกมแดนกลางมีเหมือนไม่มีทั้งคู่คือคู่ต่อสู้บุกขึ้นมาก็ไปได้ถึงหน้าเขตโทษกันตลอด แต่ความแม่นยำในการผ่านบอลและการเก็บบอลเล่น ยิ่งเล่นลิเวอร์พูลยิ่งดูดีกว่ามากขึ้นเรื่อยๆ

_______ นาที 19 จากจังหวะโต้เร็ว แลมเบิร์ตขึ้นเบียดโหม่งแต่บอลตกข้ามหัวไปเข้าทางสเตอลิ่งแตะกลับให้แลมเบิร์ต ก่อนที่แลมเบิร์ตจะเปิดข้ามไปทางเสาสองให้คูตินโย่ในเขตโทษ คูตินโย่แต่งบอลหนึ่งจังหวะก่อนปั่นหนีมือผู้รักษาประตู โรเบิร์ต กรีน เข้าไปได้ 1-0

_______ พอสกอร์ขยับ ลิเวอร์พูลก็ยิ่งเล่นกันได้มั่นใจยิ่งขึ้น การต่อบอลขึ้นหน้าทำได้ลื่นไหลกว่าเดิม ส่วนทางคิวพีอาร์เร่งก็พลาด จังหวะตัวต่อตัวสู้ไม่ได้เลยทั้งเกมรุกเกมรับ ทำให้บอลไปไม่ค่อยถึงข้างหน้าแล้ว ชาลี ออสตินได้แต่ยืนเหงาไม่เข้าใจเพื่อนอยู่คนเดียวในแดนหน้า แต่ถึงลิเวอร์พูลจะทำได้ดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด เกมรุกส่วนใหญ่มักจบที่การเปิดบอลเข้าไปติดบล็อคกองหลัง ไม่ค่อยจะได้ยิงสักเท่าไหร่ จบครึ่งแรกที่สกอร์ 1-0

_______ เข้าครึ่งหลัง คิวพีอาร์กลับลงมาเน้นเกมรุกมากขึ้น ดันกันขึ้นมาสูงขึ้นโดยเฉพาะแบ็คสองข้าง แผงกลางก็ขยับมาใกล้ออสตินมากขึ้น แต่ความพยายามทั้งหมดของคิวพีอาร์ยังไม่ได้ทำให้เกมของพวกเขากระเตื้องขึ้นสักเท่าไหร่

_______ ทางด้านลิเวอร์พูลกลับลงมาเน้นเกมรับแล้วโต้มากขึ้น ถอยคูตินโย่(ลงมาทำไม)ต่ำลง บีบแดนกลางให้แคบ แล้วทิ้งแลมเบิร์ตกับสเตอลิ่งคอยเล่นลูกโต้กลับอยู่ข้างหน้า ซึ่งผลที่ออกมาก็ยังถึือว่าทำได้ตามที่ต้องการ โต้ขึ้นไปถึงหน้าเขตโทษพอสมควรและหาโอกาสจบแบบล่อเป้าได้แล้วด้วย แต่….อัฒจันทร์

_______ คิวพีอาร์ยิ่งเล่นยิ่งแย่ เก็บบอลเล่นไม่ได้ เกมรุกไม่ต่อเนื่อง นาที 68 ร็อดเจอร์เลยตัดสินใจแก้เก้มด้วยการเอาลัลลาน่าออก ส่งไอบ์ลงไปแทน ซึ่งได้ผลทันตาเห็น QPR เริ่มเกมบอลเล่นได้ต่อเนื่องขึ้น ในขณะที่การเชื่อมเกมของลิเวอร์พูลเริ่มทำได้แย่ลงอย่างเห็นได้ชัด

_______ คิวพีอาร์เริ่มสาดบอลเข้ากลางตั้งแต่ยังไม่สุดเส้นหลังแล้วมาได้แตะมุมติดๆ กัน ในที่สุดก็ตีเสมอได้สำเร็จในนาที 73 จากจังหวะเตะมุม บอลโยนมาตกตรงกลางประตูใกล้จุดโทษ เฟอร์วิ่งเข้ามากดฮาล์ฟวอลเล่ย์ชนิดไม่มีคนประกบไม่พลาด 1-1

_______ พอเสียประตูตีเสมอ ผู้เล่นลิเวอร์พูลเริ่มเสียสมาธิ เข้าบอลพรวดพราด ผ่านบอลได้ช้าลง เกมกลับมาสูสีชนิดที่ไม่บอกก็ไม่รู้ว่าเป็นบอลพรีเมียร์ลีค ทางคิวพีอาร์เน้นสาดบอลรัวๆ เน้นปริมาณไม่เน้นคุณภาพ ส่วนลิเวอร์พูลก็เน้นวางบอลโต้ยาวไปที่ว่างไม่เน้นเพื่อนร่วมทีม

_______ นาที 79 ลิเวอร์พูลมาได้จุดโทษจากความสามารถเฉพาะตัวของโอนูโอฮา จังหวะลูกเตะมุม บอลเปิดมาย้อนหลังสเคอเทลแล้วแต่โอนูโอฮายังไม่ดึงสเคอเทลซะหน้าหงาย เจอราร์ดรับหน้าที่สังหารแต่โดนกรีนเซฟเอาไว้ได้

_______ ถัดจากนั้นไม่นาน โอนูโอฮา ยังมาสำแดงเดชอีกครั้งในนาที 82 จังหวะไอบ์ได้บอลกระชากขึ้นหน้าจะโต้เร็ว โอนูโอฮา พุ่งเข้ามาเสียบไอบ์กลิ้งโดนใบเหลืองที่สองเป็นใบแดงไล่ออกไป

_______ ร็อดเจอร์เห็นคู่ต่อสู้เหลือ 10 คนก็ได้ทีขี่แพะไล่ ส่งมาโควิชลงไปแทนจอห์นสัน ปรับมาเล่นหลัง 3 ให้ไอบ์เล่นวิงซ้าย มาโควิชเล่นวิงขวา สเตอลิ่งเล่นเป็นตัวรุกตรงกลาง คูตินโย่ก็ยังอยู่ที่เดิมคือยืนค่อนข้างต่ำ ถึงตรงนี้ลิเวอร์พูลพยายามจะเน้นเกมรุกมากขึ้น โดยเกมรุกทางซ้ายขึ้นไปได้ถึงสุดเส้น แต่ยังหาจังหวะยิงไม่ค่อยได้ บอลเข้าทำยังเปิดไม่แม่นยำ

_______ นาที 87 ลิเวอร์พูลได้ลูกเตะมุม คูตินโย่รับหน้าที่เปิดบอลลอยเข้ามาบนเส้นหกหลา เจอราร์ดวิ่งโฉบไปโหม่งกลางดงผู้เล่นคิวพีอาร์ได้สำเร็จ บอลเปลี่ยนทางเสียบเสาสองเข้าไปให้ทีมนำอีกครั้ง 2-1

_______ นาที 89 ลูคัสได้ลงมาแทนเจอราร์ด เวลาที่เหลืออยู่คิวพีอาร์ยังพยายามจะเล่นเกมรุก แต่ตัวผู้เล่นกับความสามารถไม่เอื้อ ในขณะที่ลิเวอร์พูลปิดเกมเอาตัวรอดไปได้สบายๆ … หมายถึงตั้งแต่นำขึ้นนำได้อีกรอบ จบเกมที่ชัยชนะ 2-1
-----------------------------------------

_______ ทีมเล่นพอใช้ได้ครับ แต่คิวพีอาร์นี่คือเล่นได้อุบาทว์ขั้นสุดเลย

_______ 11 ตัวจริงผมชอบมากที่ได้เห็นกองหน้าแท้ๆ อย่างแลมเบิร์ตได้ลงสนาม ส่วนตำแหน่งอื่นๆ ก็ดูจะอยู่ถูกที่ถูกทางกันหมด ยกเว้นชานที่เอาไปเล่นแบ็คอีกแล้ว

_______ สำหรับชาน นัดนี้ร็อดเจอร์มีทางเลือกที่จะส่งแบ็คแท้ๆ อย่างโมเรโน่ลงมาก็ได้ แถมจอห์นสันจะได้อยู่ฝั่งที่ถนัดอีกด้วย แต่สุดท้ายก็เลือกชาน(ซึ่งทำให้ต้องโยกจอห์นสันอีกต่อหนึ่งเข้าให้อีก) ที่จริงชานเล่นตำแหน่งนี้ในวันนี้ไม่ได้แย่ แต่ผมคิดว่าในระยะยาวการโยกชานไปมาแบบนี้มันจะทำให้เค้ากลายเป็นเป็ดเอาได้ง่ายๆ คือทำได้ทุกอย่างแต่ไม่ดีสักอย่าง ร็อดเจอร์ควรจะหยุดและเลือกได้แล้วว่าจะเอาชานไว้ตรงไหน ผู้เล่นเป็ดๆ มันช่วยทำให้จัดทีมได้ง่ายขึ้น มีทางเลือกในม้านั่งสำรองมากขึ้น แต่กับผู้เล่นที่พอเห็นคุณภาพแบบชาน ถ้าต้องลงท้ายกลายเป็นเป็ดมันน่าเสียดายมากครับ

_______ สำหรับแทคติค วันนี้แดนกลางยืนใกล้กันมากครับ เล่นกันแค่ครึ่งสนามเลยด้วยซ้ำ คือครึ่งแรกเน้นเกมรุกฝั่งขวา ตัวซ้ายสุดอย่างลัลลาน่า(หรือคูตินโย่ที่สลับออกไปบ้าง) ยืนอยู่แค่กลางสนามเท่านั้นเอง มุมธงอีกฝั่งนี่ว่างโล่งไม่มีคนไปเลย นานๆ ทีจะมีจอห์นสันเติมขึ้นมาบ้างก็ไม่บ่อย และชัดเจนว่าไม่ได้เน้นการใช้แบ็คเติมขึ้นมาเล่นสูง รวมไปถึงแดนกลางทิ้งเจอราร์ดไว้ด้านหลังคนเดียว เฮนเดอร์สันขยับขึ้นมาช่วยต่อบอลไล่บอลแถวกลางสนามมากกว่า

_______ ผลลัพธ์ที่ออกมาน่าพอใจครับ บอลสั้น บอลจังหวะเดียวที่หายไปนานนนนน เริ่มกลับมาให้เห็นบ้าง ชาน สเตอลิ่ง แลมเบิร์ต คูตินโย่(หรือลัลลาน่าที่สลับมา) ต่อบอลจังหวะเดียวกันได้ดีหลายครั้ง หนึ่งในนั้นเป็นประตูด้วย

_______ ที่แย่ตามคาดก็คือเกมรับแดนกลาง นัดนี้คือไม่มีเลย คูตินโย่กับลัลลาน่าช่วยไล่อยู่ในแดนหน้า เต็มที่ก็ราวๆ วงกลมกลางสนาม แต่เมื่อไหร่ที่พ้นวงกลมกลางสนามมาคือเหลือเจอราร์ดคนเดียวซึ่งไล่ใครไม่ทัน ตัดบอลไม่ได้ ยังดีว่าเกมเจาะตรงกลางของคิวพีอาร์น่าเกลียดกว่าเยอะ คือต่อบอลกันได้ไม่เกิน 3 จังหวะ 1-2-เสีย, 1-2-เสียตลอด เลยไม่มีอะไรมากดดันแนวรับลิเวอร์พูลเท่าไหร่ มองมุมนี้อาจต้องว่าร็อดเจอร์คิดถูกแล้วก็เป็นได้ที่ทิ้งเกมรับแดนกลางไปเลย เพราะไม่มีอะไรต้องรับอยู่แล้ว

_______ แต่เรื่องที่มองมุมไหนก็ไม่เข้าใจพี่เค้าคือการเปลี่ยนตัวและปรับแทตทิคกลางเกม การปรับช่วงพักครึ่งที่เปลี่ยนมาเล่นรอโต้มากขึ้นยังไม่เท่าไหร่ แต่การเปลี่ยนเอาลัลลาน่าที่ผลงานดีที่สุดในแดนกลางวันนี้ออก ส่งไอบ์ที่เล่นเหมือนสเตอลิ่งเป๊ะลงมา ผลคือแดนกลางที่ต่อบอลกันลื่นๆ อยู่ดีๆ เริ่มสะดุดตั้งแต่นั้น

_______ การเปลี่ยนมาโควิชลงมาก็ช้ามาก ทีมโดนตีเสมอตั้งแต่นาที 73 แต่กว่าร็อดเจอร์จะส่งมาโควิชลงมาก็ตั้งนาที 84 แถมยังเป็นการเปลี่ยนชนิดที่ต้องปรับมาเล่นหลัง 3 ให้มันยุ่งยากเข้าไปอีก นอกจากจะเสียเวลาไปร่วม 10 นาทีแล้ว ผลที่ได้คือมาโควิชลงมาแทบไม่ได้บอล และเกมรุกส่วนใหญ่ที่ทำได้ก็ยังเป็นทรงเดิมคือใช้ไอบ์หรือสเตอลิ่งตะบี้ตะบันไปสุดเส้นแล้วเปิดมั่วๆ เข้ามา สลับกับให้เฮนเดอร์สันตักเข้าเขตโทษ … ซึ่งไม่เกี่ยวอะไรกะแทคติคที่ปรับเลย

_______ นอกจากจะปรับเกมให้ดีขึ้นไม่ได้ วันนี้ยังปรับให้แย่ลงแถมคิดช้าอีกต่างหาก

_______ ซื้อกองหน้ามาใหม่จะช่วยได้แค่ไหน ถ้าร็อดเจอร์จะทำอะไรประหลาดๆ แบบนี้อยู่เรื่อยๆ ?

_______ ส่วนคิวพีอาร์วันนี้ห่วยขั้นสุดจริงๆ แถมยังมีทีเด็ดอย่างโอนูโอฮาอีก ตกชั้นเถอะครับ จะได้ไม่เป็นภาระของพรีเมียร์ลีค
-------------------------------

นัดนี้เล่นกันไม่ดีนัก

มินโยเล่ - โดนกดดันน้อยมาก ลูกที่เสียไปก็คงทำอะไรไม่ได้ดีไปกว่านั้น นัดนี้ออกมาตัดลูกกลางอากาศไม่ถึงกับดีนัก แต่ถ้าลึกหน่อยก็ยังเก็บได้หมด

จอห์นสัน - ครึ่งแรกเล่นได้ค่อนข้างดี เกมรับไม่พลาด เติมขึ้นไปรับช่วยรับบอลได้บ่อย แล้วพอไม่เร่งที่จะเปิดหรือยิงแค่ขึ้นไปช่วยเชื่อมเกมก็ยิ่งทำให้จอห์นสันเล่นเป็นประโยชน์กับทีมมากขึ้น แต่พอเข้าครึ่งหลังเหมือนหมดแรง เกมรับก็ขาตายต้องมาวิ่งไล่ตาม เกมรุกก็ขยับไม่ขึ้นแล้ว

ลอฟเรน  - ช่วงที่ไม่โดนกดดัน ลอฟเรนเล่นได้สบาย สกัดลูกกลางอากาศได้ดี แต่ช่วงประมาณนาที 70 อยู่ดีๆ ก็สกัดแป๊กออกหลัง แล้วหลังจากนั้นก็เล่นพลาดๆ รวนๆ อยู่เกือบ 10 นาทีเห็นจะได้

สเคอเทล - ประกบชาลี ออสตินได้ดี จังหวะบอลสาดยาวมาสเคอเทลดักเล่นก่อนได้หมด

ชาน - เติมขึ้นมาช่วยเกมกลางสนามบ่อย ไม่ค่อยได้ขึ้นไปสุดเส้นหลังแต่เน้นขึ้นมาต่อบอลจากกลางไปหน้า(สเตอลิ่ง)มากกว่า ทำได้น่าพอใจสำหรับการเชื่อมเกม พาบอลไปกับตัวได้ดี ล้มเรียกฟาล์วเยอะไปนิดนึง ส่วนเกมรับหลายจังหวะลงช้า+อ่านเกมไม่ดี คู่ต่อสู้ตัดได้จะโต้อยู่แล้วชานยังยืนดูอยู่

เจอราร์ด - ช้าลงไปเยอะ เข้าไม่ค่อยถึงบอลทำให้อยู่ในเหลี่ยมเสียเปรียบในการปะทะอยู่ตลอด ตัดบอลได้น้อย เชื่อมเกมได้ธรรมดามาก ยิงจุดโทษพลาด แต่โหม่งประตูชัยได้ดี

เฮนเดอร์สัน - สภาพร่างกายดูไม่ค่อยสดเท่าไหร่ วิ่งน้อยลงไม่ว่าจะทำทางหรือไล่บอล เกมรับดับสนิท เชื่อมเกมได้พอใช้มีดีที่การวางบอลไปที่ว่าง บอลเกมรุกก็มีการตักบอลเข้าเขตโทษที่กดดันคู่ต่อสู้ได้พอสมควร

คูตินโย่ - ลงไปเชื่อมเกมต่ำ รับบอลจากกองหลัง+เจอราร์ดซะเยอะ มีส่วนร่วมกับการเปลี่ยนรับเป็นรุก แต่ไม่ค่อยได้เล่นเกมรุก จังหวะที่เติมขึ้นเล่นก็ทำได้ดี โดยเฉพาะการเล่นบอลจังหวะเดียวกับเพื่อน นัดนี้ยิง 1 จ่าย 1 ทั้งๆ ที่ยืนกลางสนามนี่ล่ะ

ลัลลาน่า - วิ่งทำทางรับบอลและเล่นบอลจังหวะเดียวกับเพื่อนได้ดี ช่วยไล่บอลในแดนหน้าได้พอสมควร มีโอกาสได้ยิงในกรอบแบบโล่งๆ หนนึงดันยิงหลุดซะงั้น

สเตอลิ่ง - เลี้ยงจี้โดนตัด เปิดบอลเป็นติด ยิงใส่คนดู

แลมเบิร์ต - ครึ่งแรกช่วยเชื่อมเกมในแดนหน้าได้ดี เก็บบอลพอใช้ได้ คือขยับหาที่รับบอลดีมาก ต่อบอลกับเพื่อนดีทำให้บอลอยู่กับทีม จ่ายให้คูตินโย่ได้ดีในจังหวะที่ได้ประตูแรกด้วย แต่จังหวะบอลที่เปิดใส่ตัวนี่ดันเก็บไม่ค่อยได้ ส่วนครึ่งหลังหันมาเล่นบอลด้วยสายตาเป็นหลัก

ตัวสำรอง

ไอบ์ - เล่นเหมือนสเตอลิ่งเป๊ะ เสียบอลน้อยกว่านิดนึง

มาโควิช - เตะโดนบอลทีนึง

แมน ออฟ เดอะ แมทช์ : ...ฟิลิปเป้ คูตินโย่...สำหรับผมนัดนี้เลือกได้แค่สองคนระหว่างสเคอเทลกับคูตินโย่ ถ้าไม่ชนะคงเลือกสเคอเทลไปแล้ว แต่พอชนะก็ขอเลือก 1 ยิง 1 จ่าย (จริงๆ ควรเป็น 2 แต่ลัลลาน่าพลาด) เป็น MOM ก็แล้วกัน
------------------------------------------------------------

เครดิตภาพจากเวปทางการ

Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.