วันเสาร์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2558

เวสต์บรอมวิช 0-0 ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีคไง จะถ้วยไหนล่ะ)


...เหมือนต้นฤดูเล๊ย~...
___________________________

ลิเวอร์พูลกลับมาเล่น 4-3-2-1

-----------------------บาโลเตลลี่----------------------
สเตอลิ่ง-------------------------------------------ไอบ์
------------คูตินโย่---------------เฮนเดอร์สัน---------
-------------------------เจอราร์ด-----------------------
จอห์นสัน------ลอฟเรน--------สเคอเทล--------ชาน
-------------------------มินโยเล่------------------------

_______ ลิเวอร์พูลออกไปเยือนเวสต์บรอมวิช โดยต้องการสามแต้มเพื่อลุ้นโควต้า UCL กับอันดับสี่ตอนนี้อย่าง...เอ้อ….แมนฯซิตี้ (มันมาอยู่ตรงนี้ได้ไงหว่า) ร็อดเจอร์ปรับทีมไม่น้อยที่น่าสนใจก็คงอยู่ที่การเล่นหลัง 4 แบบ...ที่เห็น และการส่งโอ้ลงเป็นหน้าเน่า เอ้ย เป้า
-------------------------------------------------------

_______ 20 นาทีแรกมาดูไม่ทันครัช ข้ามไป

________ ตั้งแต่นาที 21 เวสต์บรอมวิชรับลึก เน้นคุมพื้นที่ในและหน้าเขตโทษตัวเองให้แน่น แดนหน้าแดนกลางนี่ไม่เข้าบอลเลย ลิเวอร์พูลจะเคาะจะครองอะไรก็ทำได้สบายแต่เจาะเขตโทษไม่ได้ ส่วนทางด้านลิเวอร์พูล เก็บบอลได้เยอะ พาบอลผ่านครึ่งสนามได้ง่ายพอๆ กับกระพริบตา แต่เอาบอลขึ้นไปให้ใกล้เขตโทษไม่ได้ อย่าว่าแต่จะลุ้นยิง เปิดบอลยังไม่ค่อยจะมีโอกาส

_______ เกมรุกของลิเวอร์พูลตีบตัน เกมริมเส้นขยับไม่ได้ แบ็คสองข้างไม่ค่อยขึ้นและไม่ได้ถ่างไปรับบอลริมเส้น แต่ขยับเข้ามาช่วยด้านในซะเยอะ ทำให้ตัวรุกอย่างสเตอลิ่งกับไอบ์ก็พาบอลไปตายเดี่ยวไม่มีคนวิ่งนำทำทางให้ เกมเจาะตรงกลางก็ไม่มีพื้นที่ให้เล่น

_______ เวสต์บรอมวิชเล่นเน้นชัวร์ไปเรื่อย ได้โอกาสก็วางยาวมาลุ้นข้างหน้าสักทีซึ่งก็ยังเก็บบอลเล่นไม่ได้ ส่วนลิเวอร์พูลได้บอลเยอะแต่กดดันคู่ต่อสู้แทบไม่ได้ เกมโดยรวมค่อนข้างอึดอัด เล่นกันช้า จบครึ่งแรกไปแบบน่าหลับสักตื่น 0-0

_______ เข้าครึ่งหลัง ลิเวอร์พูลกลับลงมาเร่งเกมมากขึ้นด้วยการขยับแผงกลางกับหลังดันขึ้นไปสูงกว่าเดิม เกมรุกเน้นฝากบอลไปให้โรนัลโด้แห่งแอนฟิลด์(ประชดนะเฟร้ย) สเตอลิ่งใช้ความสามารถเฉพาะตัว(ที่มีจำกัด) ทำเกมรุกริมเส้นฝั่งซ้าย โดยรวมเกมรุกของลิเวอร์พูลดูก้าวร้าวขึ้นหน่อย ได้บอลเปิดบอลเข้าไปลุ้นเยอะขึ้น แต่ยังเอาชนะแนวรับไม่ได้เหมือนเดิม

_______ นาที 56 ลิเวอร์พูลเกือบได้ประตูจากจังหวะที่สเตอลิงเปิดเรียดเข้ามาตรงกลางจนทั้งคูตินโย่กับเฮนเดอร์สันได้ยิงและได้ซ้ำ แต่ก็ไม่ได้ประตูอยู่ดี อย่างไรก็ตาม หลังจากจังหวะนี้ดูเหมือนผู้เล่นลิเวอร์พูลจะมีกำลังใจเล่นกันมากขึ้น ขยันวิ่งขยันเติมกันมาได้ดีกว่าช่วงก่อนหน้า

_______ ประมาณนาที 60 สเตอลิ่งกับไอบ์สลับฝั่งกันเล่น บอลตามสเตอลิ่งไปขึ้นทางฝั่งขวา รูปเกมยังไม่มีอะไรเปลี่ยนมากนัก นาที 64 สเคอเทลสกัดบอลจังหวะไม่มีอะไรผิดเหลี่ยมโดนโหม่งซ้ำดีว่าทีมไม่เสียประตู

_______ นาที 75 ร็อดเจอร์ปรับทีม ส่งบอรินี่กับลัลลาน่าลงมาแทนบาโลเตลลี่กับไอบ์ ถึงตรงนี้ลิเวอร์พูลดันเกมรุกเต็มที่ คูตินโย่กับเฮนเดอร์สันนี่ยืนเกาะอยู่หน้าเขตโทษเลย เจอราร์ดดันขึ้นมาเก็บบอลสองสูงถึงกลางแดนเวสต์บรอมวิช ลิเวอร์พูลเก็บบอลได้ เปิดบอลเข้าไปลุ้นเป็นระยะ พาบอลไปถึงสุดเส้นหลังก็พอสมควร แต่สุดท้ายก็ยังเอาชนะแนวรับไม่ได้อยู่ดี

_______ เข้าช่วง 5 นาทีท้ายของเกม เวสต์บรอมวิชดันกันขึ้นมาเล่นเกมรุกกดดันลิเวอร์พูลได้ดี ได้ลุ้นเปิดบอลและยิงอยู่ไม่น้อย รวมไปถึงตัดเกมรุกของลิเวอร์พูลออกไปได้ด้วย แต่ชะตาลิเวอร์พูลยังไม่ถึงฆาต ไม่ได้พลาดเสียประตู ทำให้จบเกม เสมอกันไปด้วยรูปเกมสุดระทึก(ประชด) 0-0
-----------------------------------------

_______ ทั้งหมดที่จะเขียนถึงต่อไปนี่คือเกมตั้งแต่นาที 21 เป็นต้นไปนะครับ

_______ 11 ตัวจริงรวมไปถึงแทคติคเริ่มเกมของร็อดเจอร์วันนี้ทำผมแปลกใจไม่น้อย คือให้ความรู้สึกว่าจัดมาเพราะอย่างลองทีม มากกว่าจะจัดมาเพราะอยากเก็บแต้ม กรณีเจอราร์ดนี่นึกออกอย่างเดียวว่าส่งลงเพราะอยากให้ลงเล่น ไม่ใช่ส่งลงเพราะควรเป็นตัวจริง อันนี้ยังไม่เท่าไหร่เพราะเข้าใจได้ว่าทำไม … ตำนานกำลังจะไปนี่นะ

_______ แต่กับการส่งไอบ์ลงตัวจริง การเอาจอห์นสันสลับไปเล่นซ้าย เอาชานเล่นแบ็ค รวมไปถึงอภิมหานวัตกรรมทางด้านแทคติคด้วยการหุบเอาแบ็คสองฝั่งไปช่วยเกมด้านใน ไม่ได้เอาไปเล่นเกมริมเส้นนี่มันช่าง...ช่าง...ช่าง

_______ คือเกมรุกลิเวอร์พูลช่วงนี้ก็ใช่ว่าจะดีอยู่แล้วนะครับ เกมตรงกลางเราก็พึ่งได้แต่คูตินโย่ เกมริมเส้นที่ผ่านมาเราพึ่งการวิ่งสอดทำทางขึ้นไปอย่างบ้าคลั่งของวิงแบ็คสองฝั่ง จนทำให้เกมริมเส้นมันขยับไปถึงมุมธงคู่ต่อสู้ได้ แต่นัดนี้ร็อดเจอร์ทุบอาวุธตัวเองทิ้งซะอย่างนั้นด้วยการเน้นให้แบ็คทั้งสองข้างหุบเข้าไปเล่นด้านใน เพื่อ?

_______ สเตอลิ่งกับไอบ์ได้บอลก็ไม่มีคนไปช่วย ตายสิครับ อย่าว่าแต่บอลสไตล์คล้ายกันอย่างสเตอลิ่งกับไอบ์ลงมาพร้อมกัน นี่พี่ร็อดฯแกใจคอจะไม่อยากให้ทีมมีการเข้าทำหลากหลายหน่อยเหรอ จะเล่นแบบ กระชากไปเปิด แค่นี้ทั้งเกมเลยเหรอ

_______ นัดนี้ถ้าใครได้ดูเราจะเห็นความประดักประเดิด งุนงงสงสัยกรูลงมาทำอะไรที่นี่บ่อยมากนะครับ ชัดสุดเลยก็คือชาน ตามตำแหน่งแล้วเขาต้องขยับไปรับบอลริมเส้น แต่พอโดนสั่งให้ขยับเข้าใน จังหวะขึ้นบอลทั้งตัวชานเองทั้งเพื่อนก็งงกันหมดครับ เพราะจ่ายออกไปริมเส้นตามปกติไม่ได้ ไม่มีคนรองบอล ในขณะที่ตรงกลางก็จะเห็นว่าชานที่หุบเข้าไป ยืนจ้องหน้าเจอราร์ดแล้วเคาะบอลกันใกล้ๆ อยู่หลายครั้ง

_______ เฮนเดอร์สันวิ่งไปไหนก็จะไปทับตำแหน่งกับใครสักคนอยู่ตลอด และคูตินโย่ดันกลายเป็นคนที่ต้องถอยมาเอาบอลเชื่อมเกมเพราะคนอื่นอยู่ข้างหน้ากันหมด ปิดท้ายยอดภูเขาน้ำแข็งด้วยการมีบาโลเตลลีที่อยู่ทุกที่ที่ไม่ควรอยู่ ทำให้รูปเกมส่วนใหญ่ไม่มีการประสานงานอะไรกันเป็นชิ้นเป็นอันเลย

_______ ปัญหาของทีมนัดนี้ย้อนกลับไปคล้ายกับช่วงต้นฤดูมากครับคือไม่รู้จะบุกยังไง ประสานงานกันก็ไม่ได้ ใครจะเล่นยังไงตรงไหนดูมึนงงไปหมด ข้อดีอย่างเดียวของทีมคือความผิดพลาดส่วนบุคคลโดยเฉพาะในแนวรับมันน้อยลงกว่าต้นฤดูกาลเยอะ (ไม่ใช่ไม่มี แต่น้อยลงเยอะ) ไม่งั้นถึงขั้นแพ้ได้ง่ายๆ เลย

_______ ...ถ้าไม่รักกันจริงนี่ปิดทีวีนอนไปแล้วนะเนี่ย...
-------------------------------

นัดนี้เล่นกันไม่ดีนัก

มินโยเล่ - ตลอดเกมแทบไม่ต้องทำอะไรเลยเพราะเวสต์บรอมวิชเน้นหลับเป็นหลักอยู่แล้ว ในจังหวะฉาบฉวยหรือผิดพลาดเองของกองหลัง มินโยเล่สติดีพอที่จะไม่พลาดไปด้วย ช่วงท้ายเกมช่วยทีมไว้ได้ดีจากการเซฟลูกมุมแคบ

จอห์นสัน - ฟอร์มนัดนี้ทำให้ผมเสียดายเลยครับที่จอห์นสันใกล้หมดสัญญา...เสียดายค่าเหนื่อย

ลอฟเรน  - โดยรวมแล้วเป็นเกมที่เขาตัดบอลได้เยอะมาก เยอะกว่าสเคอเทลด้วย โดยเฉพาะในครึ่งหลังที่ต้องรับมือกับบอลยาวไปที่ว่าง ลอฟเรนมีสปีดและการเข้าสกัดบอลจังหวะที่วิ่งเบียดกับคู่ต่อสู้ที่ดีมาก ปัญหาคือเขาเล่นไม่เนียน เตะบอลผิดเหลี่ยมบ้าง เข้าบอลผิดจังหวะบ้าง ล้มตัวสกัดในจังหวะที่ไม่ต้องล้มบ้าง เซ็นเตอร์ระดับนี้มันควรต้องเล่นให้เนียนกว่านี้

สเคอเทล - ถ้าไม่นับลูกสกัดพลาดไปตั้งให้เข้าโหม่งในนาที 65 นัดนี้สเคอเทลก็เล่นได้ดี โดยเฉพาะการประกบกองหน้าไม่ให้เก็บบอลเล่น

ชาน - ผิดตำแหน่งไปหมด ทั้งเกมรุกเกมรับ เกมรับปล่อยพื้นที่ริมเส้นไว้เยอะ(ก็ดันถูกหุบเข้ากลางจังหวะรุกนี่หว่า) จะช่วยเกมรุกก็ไม่ถนัดนักเพราะเข้าไปตรงกลางก็มีทั้งเจอราร์ดทั้งคูตินโย่ อยู่แล้ว ริมเส้นก็ไม่ค่อยได้วิ่งขึ้นไป

เจอราร์ด - หมดแล้วจริงๆ เขายังเชื่อมเกมได้อยู่ จ่ายบอลไปที่ว่างได้ดีกว่าคนอื่น แต่ความเฉียบคมในการวางบอลหายไปเยอะ ช้าไปมากทั้งการวิ่งและการตัดสินใจเล่น ทีเด็ดทีขาดอะไรก็ไม่มีเห็นแล้ว

คูตินโย่ - ลงมาเชื่อมเกมเยอะ ทำได้ดีในเรื่องนั้น ส่วนบอลเกมรุกไม่ค่อยมี ประสานงานกับเพื่อนก็ไม่ค่อยดี จ่ายไปคนละทางเยอะอยู่ พยายามจะยิงไกลจากหน้าเขตโทษเยอะ บอลไม่ค่อยเข้ากรอบ

เฮนเดอร์สัน - หาที่ว่างรับบอลไม่ค่อยดี ไม่ว่าจะวิ่งรับบอลกลางสนามหรือวิ่งสอดเข้าเขตโทษ ทับตำแหน่งบ่อย ได้บอลน้อยกว่าที่ควร บอลเกมรุกก็มีน้อยมาก น้อยมากๆ เก็บบอลจังหวะสองได้ค่อนข้างดี

สเตอลิ่ง - ถ้าจะเก็บบอลเล่นนานขนาดนี้ ซื้อกลับไปเล่นคนเดียวที่บ้านเลยเถอะครัช

ไอบ์ - สเตอลิ่งเวอร์ชั่นปล่อยบอลออกจากตัวเร็วกว่า ประสบการณ์ยังน้อยไปนิด ช่วยทีมได้น้อยไปหน่อย

บาโลเตลลี่ - ครึ่งแรกวิ่งไปไหนไม่รู้ อยากได้บอลมากแต่ขี้เกียจมากกว่า บอลไกลตัวไม่เอาเลย บอลให้ไปพื้นที่ว่างไม่ขยับ จังหวะไม่พร้อมจะเล่นเยอะมาก มากจนสงสัยว่าสรุปว่าโอ้จะเล่นมั้ยครัช บอลเนี่ย ครึ่งหลังกลับลงมาค้ำได้ดีขึ้นหน่อย เก็บบอลได้มากขึ้น แต่ถ้าจะเล่นแบบนี้ (จ่ายยัดตัว ค้ำหรือชิ่งให้เพื่อน) แลมเบิร์ตน่าจะเป็นประโยชน์กว่าด้วยซ้ำ

ตัวสำรอง

บอรินี่ - จมหายไปในดงเซ็นเตอร์

ลัลลาน่า - ปล่อยบอลเร็ว เล่นบอลจังหวะเดียวพอใช้ได้ ช่วยให้เกมรุกเล่นได้เร็วขึ้น แต่การประสานงานกับเพื่อนไม่ดีนัก และวิ่งทำทางในเขตโทษเอาชนะคู่ต่อสู้ไม่ได้

แมน ออฟ เดอะ แมทช์ : ...เดยัน ลอฟเรน...ยังคงไม่ชอบความลนลานและแข้งขาอ่อนของเจ้าตัว แต่นับเฉพาะนัดนี้ เขาตัดบอลได้เยอะมาก และเป็นตัวหลักในการหยุดเกมโต้กลับเร็วของคู่ต่อสู้
------------------------------------------------------------

เครดิตภาพจากเวปทางการ

Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.

วันจันทร์ที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2558

ลิเวอร์พูล 2-0 นิวคาสเซิล (พรีเมียร์ลีค)


...แน่จริงอย่าวิ่งใส่ดิ โด่ววว~...
___________________________

ลิเวอร์พูลเริ่มเกมด้วย 4-3-2-1

-------------------------คูตินโย่------------------------
สเตอลิ่ง-------------------------------------------ไอบ์
------------อัลเลน--------------เฮนเดอร์สัน----------
---------------------------ลูคัส--------------------------
โมเรโน่--------ลอฟเรน---------ชาน--------จอห์นสัน
-------------------------มินโยเล่------------------------

_______ ลิเวอร์พูลเล่นในแอนฟิลด์ ปรับทีมเพียบครับ เมพสุดอยู่ที่การเลือกใช้แทคติค ฟอล์สนาย ดูปากนัชชานะคะ ฟอล์สนาย กองหน้าไม่มี เอาคูตินโย่ไปอยู่ข้างบน
-------------------------------------------------------

_______ เริ่มเกมมาลิเวอร์พูลครองบอลเยอะกว่านิดหน่อยแต่เปิดบอลเข้าทำไม่ได้ สลับกับนิวคาสเซิลที่เก็บบอลไม่ค่อยได้แต่ดันได้เปิดบอลเข้าทำเยอะกว่า

________ ลิเวอร์พูลมาแปลกด้วยการไม่เน้นเกมริมเส้นเหมือนที่ผ่านมา แต่ไปเน้นให้แดนกลางวิ่งเข้าบอลเร็วและดันขึ้นมาเก็บบอลสองในเกมรุก ทำได้ดีมากตัดจังหวะโต้ของนิวคาสเซิลได้และบุกเร็วกดดันได้ แค่นาที 9 ก็ขึ้นนำได้ จากใครสักคน(ตามตำแหน่งถ้าไม่ใช่ไอบ์ก็น่าจะเป็นจอห์นสัน) ไปเบียดกลางนิวคาสเซิลจังหวะพลิกบอล ลูคัสวิ่งตามขึ้นมาตัดบอลได้ จ่ายให้เฮนโด้ เฮนโอ้ตักข้ามไปเสาสอง สเตอลิ่งเอาบอลลงในเขตโทษ คูตี้ทำทางอยู่ตรงกลาง สเตอลิ่งเลยลากเข้ากลางไปยิงเอง 1-0

_______ พอขึ้นนำได้ นิวคาสเซิลที่รูปเกมไม่ค่อยดีอยู่แล้วยิ่งเล่นกันอนาถหนักกว่าเดิม ไม่เข้าบอลเอาแต่ถอยรับ โต้ก็ไม่ได้เก็บบอลก็ไม่ได้ ปล่อยให้กลางลิเวอร์พูลวิ่งไล่อัดเอาตึ้มๆๆ ตัดบอลเอาไปเปิดพลาด/ยิงพลาดเป็นระยะ

_______ เล่นกันมาดีๆ อยู่พักใหญ่ นาที 38 ลอฟเรนก็ปล่อยของ บอลไปถึงอุบลแล้วพวกพึ่งหวดที่สระบุรี แต่ลี เมสันตัดสินใจไม่ให้จุดโทษชนิด “ก็ไม่ให้อ่ะมีไรป่ะ” ลิเวอร์พูลโชคดีรอดไปได้ แต่หลังจากนั้นความมั่นใจก็ไปหมดแล้ว แนวรับเริ่มลนลานปั่นปั่วนวืดวาด ดีว่ามินโยเล่ไม่ป่วนไปด้วยช่วยเซฟลูกโหม่งในนาที 45 เอาไว้ได้เลยยังจบครึ่งแรกที่ 1-0

_______ เข้าครึ่งหลัง นิวคาสเซิลลงมาเป็นคนละทีมกับครึ่งแรก เร่งเกมเร็วเต็มสูบ บอลไปข้างหน้าเร็ว วิ่งไล่วิ่งไส่วิ่งอัดตลอดไม่มียืนดู ผลลัพธ์ไม่ต้องสืบ ลิเวอร์พูลนอกจากเกมรับจะดูปั่นป่วนต่อเนื่องจากท้ายครึ่งแรกแรกแล้ว กองกลางกับหน้า เอ๊ะ ไม่มีกองหน้านี่น่า ต่างก็ต้องถอยลงมาช่วยเกมรับให้วุ่นวาย ตัดบอลกลางสนามไม่ได้ และโต้ไม่ขึ้นเป็นที่เรียบร้อย

_______ นิวคาสเซิลบุกโม่สาละวนอยู่กับเขตโทษลิเวอร์พูลอยู่นานสองนาน แต่ว่าเล่นบอลจังหวะเข้าทำไม่ดีเลย และจังหวะที่ได้จบสกอร์ก็ทำกันได้ชนิดยิงแบบนี้พี่กลับไปกินยานอนเถอะ ลิเวอร์พูลกลัวน้อยหน้า นาที 56 เลยส่งสเตอลิ่งมาโชว์บ้างจากจังหวะโต้กลับที่เฮนเดอร์สันได้บอลทางมุมธงขวา เปิดเข้ากลางมากองหลังตัดพลาดแล้ว สเตอลิ่งได้โอกาสยิงโล่งๆ ใกล้ๆ จ่อ มีเพียงทิม ครูลที่ยืนขวางอยู่ เจ้าตัวแปบอลหลุดกรอบแม่ม~ แน้ว่าแปด้วยนะ ไม่ได้หวดเต็มหลังเท้า

_______ นาที 59 ร็อดเจอร์ทนดูรูปเกมของลิเวอร์พูลต่อไปไม่ไหวแล้ว ส่งบอรินี่ลงแทนไอบ์ สลับเฮนไปยืนขวาแทน การเอาบอลขึ้นหน้าดูดีขึ้นเล็กน้อย และเกมรุกเริ่มกดดันคู่ต่อได้บ้าง แต่เกมรับไม่ดีขึ้นเท่าไหร่ เกมรุกเร็วของนิวคาสเซิลยังไม่ตาย

_______ เล่นกันมาสูสีๆ อยู่ดีๆ นิวคาสเซิลก็ฆ่าตัวตายมันซะงั้น นาที 70 จากลูกเตะมุม กองหลังสกัดกันไม่ขาด สเตอลิ่งเก็บบอลได้น่าเขตโทษเกี่ยวให้ชาน ต่อให้อัลเลน กองหลังถึงบอลก่อนแต่สกัดไม่ออก กลายเป็นตั้งให้อัลเลนยิงในกรอบไม่พลาด 2-0

_______ พอ 2-0 ปุ๊บ ลิเวอร์พูลบุกต่อได้ดีอยู่พักนึงพอไม่ให้น่าเกลียดก่อนจะเริ่มเล่นช้าชะลอเกมลง ที่ดีคือดันแผงกลางขึ้นไปสูงเหมือนครึ่งแรก ทำให้นิวคาสเซิลเร่ิ่มโต้ไม่ค่อยถนัด เท่านั้นยังไม่พอ นาที 83 ซิสโซโก้ยังไม่ย่ำลูคัสโดนสองเหลืองเป็นแดงไล่ออกนอกสนามไป

_______ จากฟรีคิกนี้ เฮนเดอร์สันโยนเข้าไปให้สเตอลิ่งหลุดเข้าไปยิง 7-8 หลา แต่บอลพุ่งไปชนเสาที่กูดิสันพาร์คอย่างน่าเสียดาย

_______ เวลาที่เหลืออยู่ นิวคาลเซิลเล่นสไตล์กูอยากกลับบ้าน ส่วนลิเวอร์พูลเล่นสไตล์ตัวเยอะนำห่างเก่งจังเลย ปิดเกมไปได้สบายๆ 2-0

_______ อ่อ นาที 88 น้าแลมเบิร์ตเค้าได้ลงแทนสเตอลิ่งนะครับ
-----------------------------------------

_______ วันนี้ขอเขียนเป็น Lite Version กันนิดนึงนะครัช สติใกล้หลุดแล้ว แต่ถ้าข้ามไปเขียนพรุ่งนี้มันไม่สด รายละเอียดอาจน้อยไปนิด และมีภาษาเถื่อนๆ หน่อยก็ทำเป็นมองไม่เห็นแล้วกัน

_______ 11 ตัวจริง ผมหลอนหน่อยๆ กับการใช้ชานเป็นเซ็นเตอร์ในแผงหลัง 4 คน รวมไปถึงแผนเมพๆ อย่างการไม่ใช้กองหน้าด้วย

_______ เรื่องชานผมหลอนก็จริงอยู่ แต่ดูจากฟอร์มก็พอเข้าใจได้ ยังคงเห็นด้วยกับร็อดเจอร์ แต่เรื่องคูตินโย่นี่ เขาเป็นตัวพลิกบอลและเปิดบอลเข้าทำที่ดีสุดของทีม ร็อดเจอร์เอาไปไว้หน้าทำไมหนอ

_______ จะบอกว่าฟอล์สนายอะไรก็เหอะ ถึงเวลามันต้องมีคนวิ่งไปเอาบอลข้างหน้า ซึ่งพอคูตินโย่ถอยลงมาเล่นตรงกลาง คนอื่นขึ้นไม่ทันน่ะ แล้วตัวคูตินโย่เองก็เก็บบอลรอเพื่อนไม่เป็นด้วย ก็ไม่ใช่กองหน้านี่หว่า

_______ แต่ถ้าพูดถึงเรื่องแทคติคอื่นๆ การเลือกวิ่งใส่ดักตัดจังหวะโต้นั่นเจ๋งมาก ครึ่งแรกรูปเกมชนะขาดเพราะแทคติคนี้เลย ได้ประตูนำและเกือบได้ประตูเพิ่มด้วย แต่พอครึ่งหลังโดนเกมเร็วของนิวคาสเซิลเท่านั้นแหล่ะ เน่าเลย

_______ การเอาบอรินี่ลงมาผมเห็นด้วยมากๆ ประเด็นคืออยากให้เอาลงตั้งแต่ต้นเกมมากกว่า ส่วนแลมเบิร์ตถ้าจะส่งลงกันแบบนี้ก็คงไม่อะไรจะพูด เอาเป็นว่าเอาตามที่พี่ร็อดฯสบายใจเลยจ้า

_______ ลิเวอร์พูลดูอ่อนแอและเปราะบางเหลือเกินครับเวลาโดนวิ่งไล่หรือโดนสถานการณ์กดดันใส่ คนที่จะเป็นหลักให้ทีมได้นี่ไม่มีเลย (ลองเทียบกับสมัยมีคาราเกอร์หรือเจอราร์ดสมัยฟิตเต็มถังอยู่ในสนาม) เฮนโด้ ณ ตอนนี้ยังทำไม่ได้ คนที่มีประสบการณ์หน่อยอย่างจอห์นสันหรือลอฟเรนก็ดันเป็นคนนำทัวร์ซะนี่

_______ นิวคาสเซิลมีปัญหามากและจริงๆ เกมนี้มันไม่ได้ยากอะไรมากนัก แต่ลอฟเรนกับจอห์นสันผนึกกำลังในเกมรับ และไอบ์กับสเตอลิ่งผนึกกำลังกันในเกมรุกเลยทำให้เกมได้ลุ้นอยู่ตั้งนานสองนาน

_______ แต่เอาเถ๊อะ ชนะแล้วแถมคลีนชีตอีกต่างหาก
-------------------------------

นัดนี้เล่นกันได้ดีในครึ่งแรก

มินโยเล่ - เซฟสำคัญช่วยทีมเอาไว้ได้สองหน ออกมาตัดบอลกลางอากาศลูกสำคัญได้ตลอดด้วย ฟอร์มส่วนตัวยังดีต่อเนื่อง

โมเรโน่ - ครึ่งแรกโดนเจาะบ่อย ปิดการโยนไม่ดีนักยืนห่างคู่ต่อสู้ไปมาก เข้าพรวดแถวกลางสนามก็บ่อย ยังดีที่มีสปีดและความขยันมาชดเชย เชื่อมเกมได้ตามเนื้อผ้าไม่ถึงกับดี

ลอฟเรน  - 38 นาทีเล่นได้เนียนตาไม่มีปัญหา พอหวดวืดเกือบเสียจุดโทษเท่านั้นแหล่ะ พุ่งออกมหาสมุทรด้วยเจทสกีที่บิดหมดมือทันที ท้ายๆ เกมที่ทีมนำห่างแล้วกลับมาเล่นเนียนอีกครั้ง

ชาน - เอ้อ ถ้าดูตลอด 90 นาทีฟอร์มดีกว่าลอฟเรนอีก ตัดบอลเด็ดขาด เบียดดีปะทะเด่น จะมีปัญหานิดหน่อยก็เรื่องอ่านเกมที่ดูจะอ่านพลาดอยู่เป็นระยะๆ เห็นมีบางจังหวะวิ่งขึ้นจะดักล้ำหน้าก็พลาด บางจังหวะควรเข้าบอลดันถอยหลังให้เพื่อนเข้าแทนจนมีช่องให้คู่ต่อสู้แทงบอลตามช่อง แล้วก็ขึ้นหน้าบ่อยไปนิดสำหรับการเล่นแผงหลัง 4 ตัว

จอห์นสัน - เกมรับไม่ค่อยดี อ่านทางน่ะไม่ได้แย่ แต่การวิ่งเบียดวิ่งปิดทางนี่นิ่มมาก โดนตัดโดนเบียดตลอด และไฮไลท์คือการเก็บบอลและเชิื่อมเกมที่วันนี้เรียกแย่ยังน้อยไป

ลูคัส - ครึ่งแรกเล่นในฟอร์มมหาเทพ วิ่งเข้าใส่ ไล่อัดคู่ต่อสู้ร่วพล็อยๆ ตัดบอลได้ตลอด แถมมีลูกตักโด่งเข้าเขตโทษสวยๆ (ที่เคยได้เห็นก่อนที่จะโดนราฟาล้างสมองเมื่อ 7-8 ปีก่อน) หลายครั้ง พอครึ่งหลังเจอเกมเร็วก็เข้าไม่ถึงบอล กลางครึ่งหลังออกแนวหมดแรงวิ่งด้วย

อัลเลน - ยืนสูง ช่วยไล่ช่วยทำทางได้ดี ออกบอลเกมรุกและพลิกบอลเองได้ไม่มากเท่าที่ควร(จากตำแหน่งที่เล่น) มาทำได้ดีอีกครั้งในจังหวะทำประตู ลดความกดดันให้ลอฟเรน เอ้ย~ ให้ทีม

เฮนเดอร์สัน - เชื่อมเกมได้พอใช้ วิ่งไล่ได้น่ากลัวดี แต่มาทำได้ดีจริงๆ กับจังหวะครอสบอลเข้ากลางที่เปิดกดดันคู่ต่อสู้ได้ บอลถึงเพื่อน (ให้ชัดคือถึงสเตอลิ่ง) ชนิดน่าเป็นประตูถึง 3 ครั้ง

สเตอลิ่ง - แตะ พลิก กระชาก ไม่โดนสอยก็เปิดติด เล่นได้สไตล์เดียวจริงๆ ทำได้ดีมากกับประตูแรก แต่หลังจากนั้นนี่ยิงซะไม่เหลือแววนักเตะค่าเหนื่อย 100+ k/w เลย

ไอบ์ - แลมเบิร์ต บอรินี่ มาโควิช คงนั่งนึกอยู่ว่าทำไมตัวเองไม่ได้ลงตัวจริง

คูตินโย่ - ช่วงครึ่งแรกเก็บบอลได้น้อย ลงมาช่วยเชื่อมเกมได้ดี (จะว่าไปทั้งสองอย่างนี้ก็เป็นไปตามแทคติคที่วางไว้นั่นแหล่ะ) ครึ่งหลังได้บอลน้อยไปหน่อย ยังคงออกบอลเกมรุกได้ดีอยู่

ตัวสำรอง

บอรินี่ - ทำทางได้ดีกว่าคูตินโย่ แต่นอกนั้นก็ไม่มีอะไรเข้าท่าเลย จับบอลลั่น คิดนาน เปิดไม่ผ่าน

แลมเบิร์ต - T_T

แมน ออฟ เดอะ แมทช์ : ...ราฮีม สเตอลิ่ง...คูตินโย่ออกบอลเกมรุกดีแต่ไม่มีส่วนร่วมกับจังหวะสำคัญเท่าไหร่ เฮนโด้เด่นจริงๆ ก็แค่ลูกครอสเท่านั้น ลูคัสก็เทพแค่ครึ่งแรก ขอเลือกเป็นสเตอลิ่งที่ทั้งยิงประตู 1-0 ให้เราดีใจ และยิงพลาดไปอีกสองลูกให้เราได้ฮากัน

------------------------------------------------------------

ป.ล. เขียนไปเขียนมายาวเท่าเดิม ตั้งใจเขียนสั้นๆ T_T
เครดิตภาพจากเวปทางการ

Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.

วันพุธที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2558

แบล็คเบิร์น 0-1 ลิเวอร์พูล (เอฟเอคัพ)




...เลือดตาแทบกระเด็น...
___________________________

ลิเวอร์พูลกลับมาเล่น 4-3-2-1

------------------------สเตอริดจ์-----------------------
สเตอลิ่ง----------------------------------------คูตินโย่
------------อัลเลน---------------เฮนเดอร์สัน---------
---------------------------ลูคัส--------------------------
โมเรโน่------ซาโก้-----------ลอฟเรน------จอห์นสัน
-------------------------มินโยเล่------------------------

_______ ลิเวอร์พูลเล่นเกมเอฟเอคัพนัดรีเพลย์กับแบล็คเบิร์นที่อีวู๊ดพาร์ค จากรายชื่อผู้เล่นบาดเจ็บและติดโทษแบนที่ยาวเป็นหางว่าว ทำให้ร็อดเจอร์ปรับ 11 ตัวจริงหลายตำแหน่งตามที่เห็นในผังด้านบน รวมไปถึงเปลี่ยนแทคติคหันกลับมาเล่นหลัง 4 อีกด้วย
-------------------------------------------------------

_______ ลิเวอร์พูลเริ่มเกมกันแบบงัวเงียเหมือนพึ่งตื่นนอน เคาะต่อบอลกันช้าๆ ในแดนตัวเอง เน้นขึ้นเกมริมเส้นฝั่งขวา พอขึ้นได้แต่ช้าและไม่กดดันคู่ต่อสู้นัก ส่วนแบล็คเบิร์นวิ่งไล่ตั้งแต่วงกลมกลางสนาม ถ้าไล่ไม่จนก็ถอยกลับลงไปรับลึก ซึ่งพวกเขาถอยกลับไปได้เร็วกว่าการออกบอลขึ้นหน้าของลิเวอร์พูล ทำให้ช่วง 15 นาทีแรกเกมค่อนข้างอืด ทำอะไรกันไม่ค่อยได้อย่างที่แบล็คเบิร์นอยากให้เป็น

________ ผ่าน 15 นาทีแรกของเกมไป แบ็คสองฝั่งของลิเวอร์พูลโดยเฉพาะจอห์นสันเริ่มลอยสูงขึ้นมาช่วยต่อบอลมากขึ้นเรื่อยๆ คูตินโย่ได้หุบเข้าไปด้านในมากขึ้น เกมริมเส้นเริ่มหาโอกาสเปิดบอลเข้าไปในลุ้นในเขตโทษได้ แต่แทบทั้งหมดจะติดแนวรับก่อนที่ตัวรุกจะได้จบสกอร์

_______ นาที 28 ซาโก้มีอาการบาดเจ็บต้องเปลี่ยนตัวออก ตูเร่ได้ลงมาแทน เวลาที่เหลืออยู่แบล็คเบิร์นแทบไม่ได้บุก เกมริมเส้นดับสนิท ส่วนทางลิเวอร์พูลบุกได้ ได้เปิด แต่เอาชนะแนวรับไม่ค่อยได้และพื้นที่สุดท้ายเข้าไม่ถึงบอล ทำให้จบครึ่งแรกที่สกอร์ 0-0

_______ เข้าครึ่งหลัง ทั้งสองฝ่ายกลับลงมาเน้นเกมรุกมากขึ้น เป็นฝ่ายแบล็คเบิร์นที่กดดันได้ก่อนเกือบได้ประตู ทั้งจากลูกยิงไกลและเตะมุมที่ได้โหม่งถึงบอล แต่ทั้งสองจังหวะมินโยเล่เซฟไว้ได้หมด

_______ ลิเวอร์พูลในครึ่งหลังดันแบ็คเล่นเกมรุกเต็มตัว อัลเลนกับเฮนเดอร์สันก็ขึ้นไปต่อบอลหน้าเขตโทษมากขึ้นด้วย เกมเจาะตรงกลางยังทำอะไรเกมรับขอแบล็คเบิร์นไม่ได้แต่เกมริมเส้นโดยเฉพาะทางฝั่งซ้ายไปได้ถึงสุดเส้นหลังแทบจะทุกจังหวะ แต่เปิดเข้ากลางยังไม่แม่นยำเท่านั้นเอง

_______ ลิเวอร์พูลบุกโจมตีทางริมเส้นได้ต่อเนื่องกว่าในครึ่งแรกและบุกได้ทั้งสองฝั่งแต่จังหวะสุดท้ายทำได้ไม่ดีเลย เปิดเรียดติดบล็อค เปิดโด่งส่งธง ส่วนแบล็คเบิร์นโดนกดดันมากกว่าในครึ่งแรกแต่ในเกมรุกของพวกเขาเองก็ทำได้ดีขึ้น เกมริมเส้นเริ่มได้เปิดบอลเข้ากลางเป็นระยะแล้ว

_______ นาที 65 แบล็คเบิร์นส่งเกสเตดลงมา ปรับมาเล่นหน้าคู่ เน้นบอลไดเรกต์ให้เกสเตดโหม่งชงมากขึ้น เกมของแบล็คเบิร์นทำท่าว่าจะดีขึ้นเมื่อคู่เซ็นเตอร์ของลิเวอร์พูลประกบเกสเตดได้ไม่ดีนัก บอลเริ่มมาป้วนเปี้ยนหน้าเขตโทษ แต่กลับเป็นลิเวอร์พูลที่ได้ประตูขึ้นนำไปเสียก่อน

_______ นาที 70 จากจังหวะเตะมุมฝั่งขวา คูตินโย่รับหน้าที่เปิดไปติดแนวรับ บอลย้อนกลับมาเข้าทางคูตินโย่ คูตินโย่ทำชิ่งกับเฮนเดอร์สันจนได้หลุดเข้าไปในเขตโทษก่อนตัดสินใจยิงเรียดลอดขาตัวบล็อค บอลพุ่งเสียบโคนเสาสองไปได้อย่างไม่น่าเชื่อ (เพราะโดนบล็อคและมุมแคบ) 1-0

_______ หลังจากได้ประตูขึ้นนำ ลิเวอร์พูลดูจะเน้นครองบอลมากขึ้นแต่ไม่ได้ถอยลงไปรับ อาศัยเติมกันขึ้นมาต่อบอลในแดนคู่ต่อสู้เสียมากกว่า ส่วนแบล็คเบิร์นก็เริ่มเร่งจนออกอาการลนลานทำพลาดให้เห็นบ่อยครั้งขึ้นแล้ว

_______ ลิเวอร์พูลเล่นได้อย่างมั่นใจจนสักพักกลายเป็นย่ามใจ เติมกันขึ้นไปต่อบอลแดนหน้าเพลินจนเกือบโดนแบล็คเบิร์นโต้ไส้แตกอยู่ครั้งสองครั้ง ดีว่าแบล็คเบิร์นไม่มีตัวผู้เล่นที่สามารถพาบอลไปเองทำให้พอโดนเข้าไปเร่งก็จะเสียจังหวะทำอะไรไม่ถนัด สุดท้ายจบแค่ได้ลุ้นโยนเข้าไปสลับกับยิงไกลซึ่งยังทำได้ไม่ดีเลย

_______ นาที 85 แลมเบิร์ตได้ลงแทนสเตอริดจ์ ลิเวอร์พูลปรับมาเล่นแทคติคให้เหมาะสมกับกองหน้าที่ลงมาด้วยการถอยลงไปรับในแดนและให้กองหน้าความเร็วจัดจ้านอย่างแลบเบิร์ตคอยวิ่งทำทางในแดนหน้า (-”-)

_______ ทางแบล็คเบิร์นเร่งบอมบ์เข้ามาใส่หัวของเกสเตดอย่างต่อเนื่องและกดดันได้บ้าง โดยเฉพาะเมื่อคู่เซ็นเตอร์ของลิเวอร์พูลโดนผีคาราเกอร์(สมัยฟอร์มยังไม่พีค)เข้าสิง ตูเร่เห็นบอลมาทางไหนเตะกลับไปทางนั้นและลอฟเรนโหม่งให้ถึงบอลเข้าไว้แต่โหม่งไปไหนค่อยว่ากันอีกที ทำให้แบล็คเบิร์นเก็บบอลกลับมาโยนกลับเข้าไปใหม่ แม้โดยรวมแนวรับของลิเวอร์พูลจะรับมือได้ดี ไม่ได้โดนล่อเป้าจังๆ เลยสักหน แต่ก็ถือว่าเป็นลูปนรกที่ตอนดูดูแล้วอึดอัดพอควร

_______ ลิเวอร์พูลเก็บบอลสองได้ค่อนข้างดีทำให้ได้โต้อยู่เป็นระยะ แต่การประสานงานของตัวรุกในสนามขณะนั้นทำได้ไม่ดีและทำเสียโอกาสกันไปเองเยอะ ช่วงทดเจ็บมีหวาดเสียวเล็กน้อยเมื่อผู้รักษาประตูแบล็คเบิร์นที่เติมขึ้นมาช่วยเล่นลูกทุ่มไกลเป็นคนเก็บบอลได้ในเขตโทษและกลับตัวยิงอย่างได้น้ำหนัก โชคดีที่บอลพุ่งเรียดเข้าตรงตัวมินโยเล่รับเอาไว้ได้ จบเกมลิเวอร์พูลเลยเฉือนชนะไปได้อย่างหวุดหวิด 1-0 เข้ารอบไปตัดเชือกกับวิลล่าได้สำเร็จ
-----------------------------------------

_______ ราวๆ 15-20 นาทีแรก เกมอืดเล่นไม่ออก แต่หลังจากนั้นก็เล่นได้โอเค

_______ ตอนเห็นรายชื่อ 11 ตัวจริง ผมอยากให้ทีมเล่นหลัง 4 มากๆ แต่ก็ยังคิดว่าร็อดเจอร์น่าจะยึดรูปแบบหลัง 3 ไว้ละมั้ง ที่ไหนได้จัดหลัง 4 ให้ได้ดูจริงๆ ด้วย ถือเป็นเซอร์ไพรส์เล็กๆ เหมือนกันครับ

_______ 11 ตัวจริงชุดนี้ ถ้ายังจะเล่นหลัง 3 อยู่จะทำให้มีปัญหากับตำแหน่งวิงขวาทันทีเพราะไม่มีแบ็คธรรมชาติ จะถอยสเตอลิ่งลงไปก็ลดอาวุธในแดนหน้าเสียเปล่าๆ ในขณะที่เฮนโด้จะต้องปรับบทบาทตัวเองแน่นอน ไม่ว่าจะโดนถ่างไปเล่นวิงหรือถูกดันไปเล่นตัวรุก ตัวจริงชุดนี้เล่นหลัง 4 ผมเห็นด้วยเต็มที่ครับ

_______ ที่ไม่ค่อยเห็นด้วยเท่าไหร่ก็เห็นจะเป็นการใช้อัลเลนคู่ลูคัสในนัดแบบนี้ กับการใช้คูตินโย่เล่นอยู่ริมขวา

_______ นี่เป็นเกมนัดสำคัญก็จริงอยู่ แต่การเล่นเอาอัลเลันมาคู่ลูคัสแบบนี้ดูจะเน้นเกมรับมากเกินความจำเป็นไปสักนิด เกมรุกของทีมวันนี้มีปัญหากับเอาบอลขึ้นหน้า ครึ่งแรกแย่มากและครึ่งหลังก็แค่พอใช้เท่านั้นทั้งๆ ที่เก็บบอลสองได้เยอะ เป็นเพราะแผงกลางทั้งแผงมีคูตินโย่คนเดียวเท่านั้นเองที่กล้าให้บอลขึ้นหน้า กล้าพลิกบอล ที่เหลือทั้งหมดเคาะออกข้างกันตลอดเวลา

_______ พอไปรวมกับการขยับเอาคูตินโย่ไปอยู่ซะชิดเส้น แถมเป็นฝั่งขวาอีกต่างหากยิ่งทำให้เจ้าตัวได้บอลน้อย ทีมเอาบอลขึ้นหน้าในครึ่งแรกช้ามาก

_______ ช่วงที่เล่นหลัง 3 คูตินโย่จะอยู่ด้านในและมีคนเล่นอยู่ใกล้ๆ ตลอดเวลา พอเปลี่ยนมาเล่นหลัง 4 แบบนี้คูตินโย่(และสเตอลิ่ง)ค่อนข้างโดดเดี่ยว สำหรับสเตอลิ่งมันไม่มีปัญหาเพราะสไตล์เค้าคือกระชากบอลไปใช้พื้นที่ว่างอยู่แล้ว แต่กับคูตินโย่ที่น่ากลัวเวลามีคนประคองและทำทาง มันทำให้ลดประสิทธิภาพเจ้าตัวไปพอควร ถ้าคิดจะเล่นแผนนี้ต่อ อยากให้หาตรงกลางขึ้นมาช่วยคูตินโย่สักคน (ถ้านัดนี้ก็เป็นอัลเลนหรือเฮนโด้) ไม่ใช่ปล่อยให้คูตินโย่ต้องหันไปหาตัวเติม กวักมือเรียกจอห์นสันอยู่ตลอดแบบในนัดนี้

_______ ผมยังชอบการดันแบ็คสูงทั้งสองฝั่งที่เริ่มดันขึ้นมาตั้งแต่ประมาณนาที 20 โดยเฉพาะฝั่งขวาที่จอห์นสันลอยขึ้นมารับบอลตลอดจนทำให้คูตินโย่ได้ขยับเข้ามาเล่นตรงกลางมากขึ้น มีส่วนร่วมกับเกมมากขึ้น แต่ต้องไม่ลืมว่ามันโอเคสำหรับนัดที่เจอคู่ต่อสู้ที่ไม่ได้มีประสิทธิภาพเกมโต้ที่ดีอะไรนักแบบแบล็คเบิร์นเท่านั้น ถ้าไปเจออย่างซานเชสหรือวัลคอต จะไปดันแบ็คขึ้นเป็นว่าวติดลมบนแบบนัดนี้เป็นอะไรที่เชิญชวนให้ไส้แตกมากครับ ทางที่ดีหาคนดันขึ้นไปสูงช่วยเล่นเกมรุกน่าจะเป็นทางออกที่ดีกว่า

_______ ว่าแต่ร็อดเจอร์จะกลับมาเล่นหลัง 4 เป็นเรื่องเป็นราวรึยังล่ะนี่

-------------------------------

นัดนี้เล่นกันพอใช้ได้

มินโยเล่ - เซฟสำคัญช่วงต้นครึ่งหลังเอาได้ถึงสองครั้ง ทั้งเกมออกมาช่วยตัดลูกกลางอากาศได้ดีและออกมาเล่นนอกเส้นช่วยกองหลังไว้ได้หลายครั้ง

โมเรโน่ - เกมรับยังมีปัญหากับการบีบคู่ต่อสู้ให้เล่นยากให้เห็นอยู่บ้าง แต่ทำได้ดีกับการวิ่งไล่ การเข้าปะทะ ที่ทำได้เร็วและดุดันดี เชื่อมเกมใช้ได้และวิ่งหาที่ว่างรับบอลได้น่าพอใจ

ซาโก้ - เล่นได้ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ช่วงที่อยู่ในสนามก็เล่นหลุดๆ เหมือนจับจังหวะบอลไม่ค่อยได้ ไม่แน่ใจว่าเจ้าตัวมีอาการบาดเจ็บอะไรอยู่ก่อนแล้วหรือเปล่า

ลอฟเรน  - เอาจริงๆ เค้าไม่ได้ก่อความผิดพลาดอะไรเลย เพียงแต่เล่นไม่เนียนนัก จังหวะประกบกองหน้าค่อนข้างหลวม การเล่นลูกกลางอากาศไม่ค่อยเด็ดขาด หลายครั้งเห็นบอลมันแป๊กๆ ไม่ไปไหน แต่ก็ไม่ได้ปล่อยให้คู่ต่อสู้ส่องหรือเผาแต่อย่างใด

จอห์นสัน - เกมรับไม่ค่อยดีนัก โดนเผาเกรียมชนิดไม่ควรไปสองสามรอบ แต่ทำได้ดีมากๆ กับการเชื่อมเกม และการวิ่งทำทางรับบอล มีส่วนร่วมกับเกมรุกและการเชื่อมเกมจากกลางไปหน้าเยอะมาก เสียดายที่ยังคงรักษามาตรฐานการเปิดและยิงเอาไว้ได้เหนียวแน่น เปิดเรียดติดบล็อค เปิดโด่งออกหลัง

ลูคัส - รับบทเดียวกับเจอราร์ดในฤดูก่อนคือการยืนหน้าคู่เซ็นเตอร์ เกมรับปิดพื้นที่หน้าเขตโทษได้ดีและเก็บบอลจังหวะสองได้ตลอด  แต่ปัญหาคือลูคัสไม่มีบอลยาวไม่ว่าจะแนวลึกหรือมุมธงแบบที่เจอราร์ดทำ ทำให้เขาไม่มีประโยชน์อะไรทั้งเกมโต้กลับและการเชื่อมเกม

อัลเลน - วิ่งไล่และวิ่งทำทางในแดนกลางได้ดี ขยับหาที่ว่างมากกว่าลูคัส ช่วยเชื่อมเกมได้ดีกว่าในขณะที่การเก็บบอลสองก็ยังทำได้น่าพอใจ ปัญหาคืออัลเลนจ่ายบอลขึ้นหน้าได้น้อย และจังหวะที่เติมขึ้นไปช่วยเกมรุกก็ทำอะไรไม่ได้เป็นชิ้นเป็นอัน

เฮนเดอร์สัน - เชื่อมเกมได้ไม่ต่างจากอัลเลนนัก ดูดีกว่าหน่อยที่มีบอลไปข้างหน้ามากกว่า แต่โดยรวมแล้วเป็นนัดที่เฮนเดอร์สันก็เล่นไม่ค่อยออก วิ่งทำทางก็ไม่ค่อยดี วิ่งไล่ก็ไม่ถึงบอลเท่าไหร่ เปิดบอลก็ไม่ได้กดดันคู่ต่อสู้

สเตอลิ่ง - โดนซ้อนตลอดไม่ได้มีพื้นที่ให้เล่นเท่าไหร่ ทำได้ดีในการเก็บบอลไว้กับตัวเสียบอลยาก หาที่ว่างรับบอลได้ค่อนข้างดีด้วย แต่กับจังหวะพาบอลไปเองตัดเข้าในไม่ได้ จังหวะเปิดบอลก็ระดับเดียวกับจอห์นสันเลย

คูตินโย่ - 20 นาทีแรกมีส่วนร่วมกับเกมน้อย แต่หลังจากนั้นก็ได้หุบเข้าในมากขึ้น ได้บอลมากขึ้น กล้าเล่น พลิกบอลขึ้นหน้าได้ดี สร้างสรรเกมรุกได้ดีกว่าเพื่อนร่วมทีมคนอื่น ทำประตูชัยได้ด้วย

สเตอริดจ์ - จังหวะการเล่นดูดีขึ้น ทำทางได้ดี ผ่านบอลก็ดูดีกว่าช่วงก่อนหน้า ที่ยังไม่ดีคือการจับบอลที่ลั่นบ่อยเหลือเกิน และจังหวะแต่งหาช่องยิงที่ยังไม่เฉียบคมเลย

ตัวสำรอง

ตูเร่ - เก็บบอลเล่นไม่ได้ เคลียร์ทิ้งไม่ค่อยมีหางเสือ ยังดีว่าอ่านเกมได้ดีและสกัดจังหวะสำคัญก่อนคู่ต่อสู้ได้ยิงได้ตลอด

แลมเบิร์ต - มีส่วนร่วมกับเกมน้อย ทีมถอยไปรับดันส่งแลมเบิร์ตลงมาก็น่าเห็นใจอยู่ คิดได้อย่างเดียวว่าจะเอามาช่วยโหม่งสกัดลูกบอมบ์ของคู่ต่อสู้ ...ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นก็ถือว่าคุณค่าในฐานะกองหน้าไม่เหลือแล้ว

แมน ออฟ เดอะ แมทช์ : ...ซิมง มินโยเล่...นับเฉพาะเกมรุก คูตินโย่ชนะเลิศทั้งจากผลงานโดยรวมและประตูชัย แต่ถ้าไม่ได้มินโยเล่ช่วยไว้ที่เห็นๆ ก็สองหน ยิ่งจังหวะเซฟลูกโหม่งนั่นสุดยอดมาก ลูกนี้ทั้งใกล้ ทั้งโดนบัง ทั้งทางบอลเสียบโคนเสา แต่มินโยเล่ปัดได้เฉยเลย

------------------------------------------------------------

เครดิตภาพจากเวปทางการ

Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.

วันเสาร์ที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2558

อาร์เซนอล 4-1 ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีค)


...อวสานหงส์แดง...
___________________________

ลิเวอร์พูลเล่น 3-4-2-1

------------------------สเตอลิ่ง------------------------
--------------คูตินโย่-------------มาโควิช-------------
โมเรโน่-------อัลเลน-------ลูคัส--------เฮนเดอร์สัน
--------ซาโก้-------------ตูเร่-------------ชาน---------
-------------------------มินโยเล่------------------------

_______ ลิเวอร์พูลเจอเกมหนักต่ออีกหนึ่งนัด คราวนี้ต้องไปเยือนอาร์เซนอลที่เอมิเรตสเตเดี้ยม จากผลพวงนัดแดงเดือดทำให้มีการปรับทีมหลายตำแหน่ง ทั้งตูเร่และลูคัสที่ได้กลับมาเป็นตัวจริงอีกครั้ง สเตอลิ่ง มาโควิช เฮนเดอร์สันก็โดนปรับตำแหน่งการเล่นอีกด้วย
-------------------------------------------------------

_______ เริ่มเกมมาเป็นอาร์เซนอลที่ทำได้ดีกว่าชัดเจน ดันขึ้นมาคุมพื้นที่กันในแดนลิเวอร์พูล เข้าไล่บอลเร็วและตัดบอลจังหวะสองได้หมดจด ลิเวอร์พูลเก็บบอลเล่นไม่ได้ ตั้งเกมไม่ได้ แถมจังหวะผ่านบอลขึ้นหน้ายังโดนแซะโดนตัดอยู่ตลอด อาร์เซนอลแซะบอลเอามาลุ้นยิงประตูได้ 2-3 ครั้งยังดีว่ามินโยเล่ช่วยเซฟไว้ได้หมด

________ ลิเวอร์พูลแบนแต๊ดแต๋คาเขตโทษตัวเองอยู่เกือบ 20 นาทีถึงจะเริ่มลืมตาอ้าปากได้ ผู้เล่นที่พึ่งกลับมาเป็นตัวจริงอย่างตูเร่กับลูคัสเริ่มจับจังหวะเกม จับจังหวะบอลได้ดีขึ้น รวมไปถึงคูตินโย่ที่ถอยลงมาช่วยรับบอลก็เริ่มหาพื้นที่เล่นได้บ้างแล้ว การออกบอลเร็วฉาบฉวยของทีมเริ่ม
สร้างโอกาสได้ ทั้งจากลูกหลุดเดี่ยวของมาโควิชที่ได้บอลในเขตโทษแล้วตัดสินใจไม่ยิงเอง แตะต่อให้สเตอลิ่งแต่ดันเข้าไม่ถึงบอล และจังหวะสเตอลิ่งตักบอลข้ามฝั่งให้เฮนเดอร์สันที่วิ่งตามเข้ามาแต่จังหวะไม่พอดีกัน ช่วงประมาณนาที 18-35 นี้เป็นช่วงที่ลิเวอร์พูลเล่นได้ดีที่สุดของเกม

_______ อย่างไรก็ตาม ปัญหาในแนวรับของลิเวอร์พูลยังไม่ได้หายไปไหน สุดท้ายก็เป็นฝ่ายพลาดก่อนในนาที 37 เบเยรินเติมขึ้นมารับบอลแถวมุมเขตโทษฝั่งขวาก่อนลากตัดเข้ากลาง กระชากหนีโมเรโน่ที่บังทางอยู่และเซ็นเตอร์เข้ามาซ้อนไม่ทัน เบเยรินได้ยิงปั่นไปเสียบเสาสอง อาร์เซนอลขึ้นนำ 1-0

_______ หลังจากเสียประตูแรก ลิเวอร์พูลยังพยายามจะเร่งรุกต่อ แต่กลายเป็นอาร์เซนอลที่ตัดบอลกลางสนามและทำเกมเร็วบุกขึ้นมาได้น่ากลัวกว่า แค่นาที 39 ก็มาหนีห่างได้จากจังหวะที่ซาโก้อัดชิรูด์ร่วงได้ฟรีคิก โอซิลรับหน้าที่ยิงปั่นไปเสาสอง(อีกแล้ว) เข้าไปได้อย่างสวยงาม 2-0

_______ พอได้สองประตูติดๆ กัน รูปเกมในช่วง 15 นาทีแรกของเกมก็กลับมา อาร์เซนอลต่อบอลได้ไหลลื่นและตัดเกมกลางสนามได้ดีอีกครั้ง ลิเวอร์พูลนอกจากจะรุกขึ้นไปไม่ขึ้นแล้วยังต้องมาพะวงเกมรับอีก เท่านั้นยังไม่พอ นาที 45 จากจังหวะที่อาร์เซนอลทำเกมเร็วขึ้นมา ซานเชสได้บอลทางมุมเขตโทษฝั่งซ้าย ตูเร่เข้าพรวดโดนแตะหลบก่อนที่ซานเชสจะหวดเต็มข้อผ่านมือมินโยเล่เข้าไปได้อีกเป็น 3-0  และจบครึ่งแรกที่สกอร์ดังกล่าว

_______ เข้าครึ่งหลัง ร็อดเจอร์ปรับทีมทันที เปลี่ยนสเตอริดจ์ลงมาแทนมาโควิช ปรับมาเล่น 4-3-3 ให้ชานยืนแบ็คขวา สเตอลิ่งไปทำเกมด้านซ้าย ส่วนอาร์เซนอลกลับลงมาเล่นแบบชิลๆ ผ่อนเกมไปพอสมควร เล่นไปตามจังหวะ ไม่ได้อุดอะไรมากนัก มีช่องให้โต้ก็โต้ ลิเวอร์พูลเอาบอลขึ้นหน้าได้เร็วขึ้น บอลไปถึงมุมธงบ่อยขึ้น แต่จังหวะเปิดเข้าไปยังหาดีไม่ได้

_______ อาร์เซนอลเปิดพื้นที่แดนกลางให้ลิเวอร์พูลเล่นง่ายพอสมควร สเตอริดจ์เก็บบอลใช้ได้และเกมรุกทางซ้ายของสเตอลิ่งทำได้วูบวาบ แต่เจาะพื้นที่สุดท้ายไม่ได้เลย หนักไปทางเปิดวัดดวง ยิงวัดใจ ซึ่งไปไหนไม่รู้หมด

_______ ผ่านหนึ่งชั่วโมงของเกมไป ลิเวอร์พูลยังพยายามเร่งเกมรุกต่อและเปิดพื้นที่ในแดนตัวเองไว้เยอะขึ้นๆ อาร์เซนอลเองก็โต้ได้ตามจังหวะทำให้เกมเปิดแลกกันเต็มที่ ลิเวอร์พูลมาไล่ตีตื้นได้สำเร็จในนาที 75 จากจังหวะที่เบเยรินไปเสียบสเตอลิ่งล้มในเขตโทษ เฮนเดอร์สันรับหน้าที่ิยิงจุดโทษไม่พลาด 3-1

_______ พอไล่ขึ้นมาได้ลูกนึง ลิเวอร์พูลขยับเร่งเกมรุกขึ้นมาได้ดีขึ้นเล็กน้อย บอลมาข้างหน้าเร็วขึ้น เก็บบอลสองดีขึ้น และอย่างน้อยที่สุดยังได้จบด้วยการเปิดบอลเข้าไปลุ้นถี่ขึ้น แต่ผลลัพธ์ยังเหมือนเดิมคือเจาะพื้นที่สุดท้ายไม่ได้ ลิเวอร์พูลไม่สามารถเข้าไปเล่นบอลในกรอบเขตโทษอาร์เซนอลได้เลย

_______ นาที 84 ความหวังทั้งมวลก็ดับสลาย เวลเบคเก็บบอลได้แล้วชานพยายามจะเข้าไปเร่ง แต่ดันพลาดลื่นกลายเป็นไปเข้าปะทะเวลเบคจากทางด้านหลัง โดนใบเหลืองที่สองเป็นใบแดงออกจากสนามไป

_______ เวลาที่เหลืออยู่ก็ไม่มีอะไรให้ต้องพื้นถึงอีกแล้ว นอกจากจังหวะปิดกล่องในนาที 91 ชิรูด์ได้บอลหน้าเขตโทษแตะหลบตูเร่(เจ้าเก่า)ที่เข้าพรวดก่อนยิงไกลเต็มข้อหนีมือมินโยเล่เข้าไปได้อีกเป็น 4-1 จบเกมด้วยสกอร์ท่วมท้น
-----------------------------------------

_______ ครึ่งแรกเล่นดีอยู่ 15 นาที แต่โดยรวมเป็นรองเยอะ ครึ่งหลังสกอร์ขาดก็เร่งไม่ขึ้นแล้ว

_______ 11 ตัวจริงวันนี้ร็อดเจอร์ปรับทีมเยอะมาก ถ้าดูจากอาการบาดเจ็บและโทษแบนของสเตอริดจ์กับสเคอเทลก็ต้องถือว่าร็อดเจอร์เจอโจทย์ยาก การใส่ลูคัสลงมาช่วยเกมแดนกลางผมก็ยังคิดว่าโอเค แต่ที่ไม่เห็นด้วยมากๆ เลยคือตำแหน่งของเฮนเดอร์สันครับ

_______ ทำไมร็อดเจอร์เอาเฮนเดอร์สันไปเล่นวิงขวา?

_______ จาก 11 ตัวจริงที่ออกมา โอเคล่ะว่าจะเน้นเกมรับ เอาลูคัสลงมาช่วย แต่พอขยับเฮนเดอร์สันออกมาด้านข้างกลายเป็นว่าเกมแดนกลางก็ไม่ได้มีเกมรับที่ดีขึ้น ทั้งยังทำให้การตั้งเกมขึ้นหน้าทำไม่ได้อีกต่างหาก

_______ จริงๆ แล้วร็อดเจอร์มีทางเลือกเยอะเลยทีเดียวที่จะให้เฮนเดอร์สันได้เล่นตรงกลางตามเดิมโดยที่ยังมีลูคัสกับอัลเลนอยู่ในสนามด้วย แต่ร็อดเจอร์ดันมาเลือกทางนี้ซะงั้น

_______ ส่วนเรื่องการเลือกตูเร่ก่อนลอฟเรน ผมไม่ค่อยแปลกใจเท่าไหร่ คือเท่าที่เห็นเล่นมาลอฟเรนช่วงหลังดีขึ้นก็จริง แต่ถ้าจะบอกว่าควรลงก่อนตูเร่แน่ๆ ก็ไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่ ฟอร์มต้นฤดูกาลยังหลอนไม่หายเลยครับ อันนี้ไม่รู้สึกว่าร็อดเจอร์เลือกผิด

_______ นอกจาก 11 ตัวจริงและตำแหน่งการเล่น ผมไม่เห็นด้วยกับร็อดเจอร์ในเรื่องแทคติคเริ่มเกมที่ถอยกองกลางลงไปต่ำขนาดนั้น ลูคัสกับอัลเลนนี่ยืนชิดติดเซ็นเตอร์มากและมันไม่ช่วยให้เกมรับของทีมดีขึ้นเลย กองกลางคู่ต่อสู้เล่นง่าย ที่สำคัญคือเก็บบอลจังหวะสองได้ง่ายมาก ต่อให้ไม่มีความผิดพลาดของแนวรับให้เห็นเลย ทีมก็ต้องโดนอาร์เซนอลกดดันหนักไปยันจบเกมอยู่ดี

_______ ...ก็ไม่รู้ว่าจะให้ถอยทำไม

_______ ผมยังชอบการแก้เกมพักครึ่งที่เสี่ยงส่งสเตอริดจ์ลงมา และเอาสเตอลิ่งไปเล่นทางริมเส้น ซึ่งทำให้เกมทำเกมรุกพึ่งพาคูตินโย่น้อยลง แต่ก็นั่นแหล่ะ เกมขาดไปแล้วก็เลยไม่ได้ลุ้นอะไรมากนัก

_______ จุดสลบของทีมวันนี้อยู่ที่...ตูเร่ครับ มันไม่ใช่ว่าตูเร่พลาดคนเดียว แต่บังเอิ๊ญบังเอิญตูเร่ดันเป็นยอดบนสุดของภูเขาน้ำแข็งพอดี ทั้งเกมเขามีปัญหากับการประกบคู่ต่อสู้ ช้า พรวดพราด จ่ายบอลพาเพื่อนเครียดก็อีกหลายครั้ง เพื่อนร่วมทีมเองก็หางานให้เขาไม่ใช่ว่าจะน้อยแต่แทนที่ตูเร่จะช่วยให้มันเบาบางลง แกทำให้มันหนักขึ้นซะอย่างนั้น

_______ จบเกมนี้สเคอเทลดูหล่อขึ้นอีกหลายขีดเบยยย~

-------------------------------

นัดนี้เล่นกันได้ไม่ดีนัก

มินโยเล่ - ต้นเกมเซฟช่วยทีมเอาไว้ได้ แต่โดนส่องเอาๆ สุดท้ายก็ไม่ไหว โดนไป 4 ทั้งๆ ที่ฟอร์มส่วนตัวถือว่าดีเลย นอกจากลูกเซฟแล้วการเล่นบอลกับพื้นถือว่าเอาตัวรอดได้ดี

ซาโก้ - ช่วงครึ่งแรกมีปัญหาหนัก เอาบอลขึ้นหน้าไม่ดี จ่ายบอลกดดันเพื่อน ประกบก็ไม่เหนียวแน่น ครึ่งหลังพออาร์เซนอลไม่บุกมากนักก็เอาตัวรอดได้

ตูเร่ - เอ่อ...ตามนั้น

ชาน - รับมือซานเชสได้ค่อนข้างดี จังหวะพาบอลขึ้นหน้าเองทำได้ดีพอควร ขึ้นมาได้หลายครั้ง จังหวะเก็บบอลเล่นวันนี้ก็ทำได้ดีกว่าทั้งซาโก้และตูเร่ เกมรับไม่ได้ถึงขั้นสุดยอดแต่วันนี้เล่นดีกว่าตูเร่ ดวงซวยกับการโดนสองใบเหลือง

โมเรโน่ - ช่วงครึ่งแรกมีปัญหากับการช่วยเกมรับ คือวิ่งไล่ก็จริงอยู่แต่โดนสลัดหลุดง่ายไปและบังทางใครไม่ได้ค่อยได้ (นี่ไม่ได้พูดถึงแค่จังหวะของเบเยริน) แต่ครึ่งหลังที่ทีมดันขึ้นสูงทำผลงานได้ดีขึ้นมาก อ่านเกมดีละใช้ความเร็วช่วยตัดบอลก่อนถึงตัวทำทางได้หลายครั้ง

อัลเลน - ช่วงกลางๆ ครึ่งแรก พลิกบอลขึ้นหน้าได้ดีอยู่ ครึ่งหลังที่อาร์เซนอลผ่อนเกม อัลเลนก็เชื่อมเกมและรองบอลได้ดี แต่ช่วงต้นครึ่งแรกและท้ายครึ่งแรกที่อาร์เซนอลกดดันได้ดีและทำได้สามประตูนั้น อัลเลนช่วยอะไรทีมไม่ได้เลย เข้าไม่ถึงบอล เก็บบอลไม่อยู่

ลูคัส - ช้าไปมาก วิ่งไล่ได้น้อย จนไม่แน่ใจว่าอ่านเกมไม่ดีหรือสังขารมันไม่เอื้อ เป็นวันที่ช่วยทีมได้น้อยเหลือเกิน

เฮนเดอร์สัน - ฟอร์มส่วนตัวพอใช้ได้ ทำเกมริมเส้นด้วยการวิ่งทำทางและทำชิ่งได้พอประมาณ เปิดบอลไปที่ว่างด้านข้างได้ดี แต่เปิดบอลเข้าทำเอาชนะแนวรับไม่ได้เลย ครึ่งแรกช่วยเกมรับริมเส้นได้ดีกว่าโมเรโน่

คูตินโย่ - ฟอร์มส่วนตัวถือว่าดี ครึ่งแรกทีมเกือบได้ประตูก็มาจากการเปิดบอลเข้าทำของคูตินโย่ เก็บบอลดี หาพื้นที่และหาช่องจ่ายบอลได้น่ากลัว แต่ได้บอลค่อนข้างน้อย ยิ่งครึ่งหลังยิ่งได้น้อยเข้าไปอีกเพราะบอลไปขึ้นทางสเตอลิ่งหมด

มาโควิช - วิ่งทำทางได้ดี มีความเร็ว แต่เกมรับช่วยได้น้อยมากกกกก และจังหวะเปลี่ยนรับเป็นรุกเก็บบอลไม่อยู่

สเตอลิ่ง - ตอนเล่นหน้าเป้าผลงานไม่ดีนัก เรียกฟาล์วได้นิดหน่อยนอกนั้นก็แทบไม่ได้ทำอะไร หลายครั้งเก็บบอลไว้กับตัวนานไปด้วย แต่ครึ่งหลังที่ขยับไปเล่นริมเส้น กดดันคู่ต่อสู้ได้ดี ไปถึงสุดเส้น ได้เปิดบอลเข้าไปลุ้นก็บ่อยอยู่ เรียกจุดโทษได้ด้วย

ตัวสำรอง

สเตอริดจ์ - เก็บบอลได้ดีกว่าสเตอลิ่ง แต่วันนี้การวิ่งทำทางก็ไม่ดีนัก หาพื้นที่ในเขตโทษไม่ได้เลย สภาพไม่สมบูรณ์อย่างแรง
------------------------------------------------------------

เครดิตภาพจากเวปทางการ

Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.