วันอาทิตย์ที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

แอสตัน วิลล่า 1 - 0 ลิเวอร์พูล

ไม่เอา..ไม่ไปยูโรป้า...สมใจนึกกันเลยทีเดียว

--------------------------------------------------------

ลิเวอร์พูลเริ่มด้วย 4-5-1


------------------------ซัวเรส-------------------------
โคล------ลูคัส-----ไมราเลส-----สเปียริ่ง------เค้าท์
ออเรลิโอ----สเคอเทล----คาราเกอร์----ฟลานาแกน
-------------------------เรน่า--------------------------

นัดสุดท้ายของฤดูกาล ลิเวอร์พูลออกไปเยือนทีมที่ไม่ต้องลุ้นอะไรแล้วอย่างวิลล่า มีการปรับเปลี่ยนทีมแบบน่าแปลกใจเล็กน้อย ด้วยการส่งออเรลิโอ โจ โคล ลงเป็นตัวจริงแทนที่ของมักซี่และจอห์นสัน นอกจากนั้นม้านั่งสำรองยังมีแต่ดาวรุ่งล้วนๆ ด้วย

-------------------------------------------------------

เริ่มเกมทั้งสองฝ่ายต่างบุกเข้าใส่กันแบบถ้อยทีถ้อยอาศัย ไม่เร่งแต่ไม่อุดและไม่มีจังหวะหวาดเสียวอะไร เล่นไปเจ็บไป เกมไม่ค่อยต่อเนื่องทั้งสองฝั่ง แล้วความซวยก็เริ่มมาเยือนทีมเยือน นาที 12 สเปียริ่งเจ็บจนเล่นต่อไม่ไหว เชลวี่ย์ได้ลงสนามมาแทน ต่อด้วยนาที 23 คาราเกอร์มีแผลแตกจนเลือดอาบหน้า ต้องออกไปเย็บในห้องแต่่งตัวอยู่นานกว่าจะกลับลงมาเล่นต่อได้

เกมของลิเวอร์พูลดูย่ำแย่มาก ต่อบอลกันได้ไม่ต่อเนื่อง แถมแดนกลางยังไม่มีตัววิ่งไล่ตัดบอลจากวิลล่า ทำให้กลางวิลล่าเล่นค่อนข้างง่าย จนนาที 33 วิลล่าได้โอกาสครอสบอลจากฝั่งขวา บอลเลยไปเสาสองตกใส่ดาวนิ่ง เอาบอลลงแล้วยิงอัดเช็ดใต้คานเข้าไปให้เจ้าบ้านนำ 1-0

หลัง จากนั้น ลิเวอร์พูลพยายามแก้เกมด้วยการดันเค้าท์ไปข้างหน้าแล้วถ่างไมราเลสไปยืนทาง ขวา แต่ยังไม่เห็นการเปลี่ยนแปลง เพราะแดนกลางยังแย่งบอลมาไม่ค่อยจะได้ ก่อนจะจบครึ่งแรกด้วยสกอร์ 1-0

เข้าครึ่งหลัง ลิเวอร์พูลขยับหาที่ว่างกันมากขึ้น ทำให้จ่ายบอลกันได้ลื่นไหลมากกว่าในครึ่งแรกแต่ยังคงเข้าไปไม่ถึงเขตโทษ ส่วนทางวิลล่้าไม่ได้ทำอะไรมากแค่เล่นไปตามจังหวะ เมื่อได้โอกาสก็จะเน้นขึ้นบอลทางซ้าย เจาะที่ฟลานาแกนเป็นหลักและได้ผลพอสมควร

นาที 68 ดัลกลิชก็ทนดูฟอร์มอันน่าสะเืทือนใจของ โจ โคล ต่อไปไม่ไหว ส่งเอนกอกลงมาแทน ปรับไมราเลสกลับมายืนตรงกลางเป็นตัวทำเกม เอาเค้าท์ไปซ้าย เอาซัวเรสมาขวา แล้วใช้เอนกอกเป็นหน้าเป้า รูปเกมดีขึ้นทันตาเห็นด้วยการทำเกมของไมราเลสและการเปิดบอลครอสเข้าไปของซัว เรส แต่บอลจังหวะสุดท้ายยังไม่แม่นยำ

ลิเวอร์พูลบดได้อยู่ สักพักใหญ่ๆ ก็เริ่มหมดมุข ช่วง 5 นาทีสุดท้ายเกมกลับเป็นของวิลล่าบ้างแต่เจ้าบ้านไม่ได้เน้นสักเท่าไหร่และจบ เกมไปด้วยสกอร์ 1-0 สบายๆ
------------------------------------------

เห็นผู้เล่นตัวจริงและตัวสำรองแล้วหลังจบเกมคงต้องมีคำถามว่า "ไม่เอายูโรป้าเหรอ" กรณีของมักซี่นั้นแม้จะยิงติดๆ กันมาหลายนัดแต่ก่อนหน้านั้นของไม่ใช่ว่าจะเป็นตัวหลัก จะเปลี่ยนมาให้โอกาส โจ โคล บ้างก็พอจะกัดฟันเข้าใจได้ แต่กรณีของจอห์นสันที่ไม่มีชื่อในทีมเลยนี่ยังงงๆ อยู่ว่าเป็นไปได้อย่างไร คือถ้า "ไม่เอา" ก็เข้าใจได้ที่จัดตัวแบบนี้ แต่ถ้า "เอา" แล้วจัดฟลานาแกนมาผจญกรรมกับ ยัง ดาวนิ่ง อักบาลาฮอร์ นี่กล้าหาญเกินไปรึปล่าว


นอกจากนั้นก็เป็นเรื่องเดิม ลิเวอร์พูลยังคงมี 11 ตัวจริงที่น่ากลัว แต่หลังจากตัวที่ 11 แทบจะเรียกได้ว่าไม่กล้าดู นัดนี้ถ้าสเปียริ่งไม่เจ็บ เกมแดนกลางเชื่อได้ว่าจะ ทำกันได้ดีกว่านี้ เป็นเกมที่น่าผิดหวังมาก ไม่ได้ผิดหวังที่ไม่ได้ไปบอลยุโรป แต่ผิดหวังที่วิลล่าไม่ได้เล่นดีอะไรเลย ออกจะเนือยๆ ด้วยซ้ำ แต่ลิเวอร์พูลยังไม่มีปัญญาทำอะไรมันซะอย่างนั้น
-----------------------------------

ผลงานแต่ละคนทำได้ไม่ดีสักเท่าไหร่

เรน่า - ลูกที่โดนเข้าไปเป็นใครก็เซฟไม่ได้ นอกจากนั้นก็รักษาตำแหน่งได้ดี เปิดเกมพอใช้ได้


ฟลานาแกน - ไหม้เกรียมชนิด well done กันไป เจอแต่ปีกคล่องๆ ของวิลล่าสลับหน้ากันมาเผา เสียฟอร์มไม่น้อย


สเคอเทล - ได้เล่นในลีคครบทุกนัดทุกนาที ประกบเบนท์ได้ดีกว่าที่คิด


คาราเกอร์ - ค่อยซ้อนฟลานาแกนอย่างเดียวก็เหนื่อยแล้ว ทำได้ดีมากๆ


ออเรลิโอ - เกมรับทำได้ดีตลอด แต่เหมือนจะไม่ฟิตพอที่จะขึ้นมาเติมเกม อยู่แค่ครึ่งสนาม


ลูคัส - ครึ่งแรกเท้าตายไม่ค่อยวิ่ง คุมแต่พื้นที่หน้าเขตโทษจนวิลล่าเล่นกันสบาย เข้าครึ่งค่อยขยับตัวมากขึ้นหน่อยแต่ยังเล่นไม่ค่อยดุดันเท่าไหร่


เชลวี่ย์ - ไ่ม่ค่อยวิ่งไล่บอล แถมเล่นไม่ค่อยออกด้วย เป็นนัดที่ไม่ดีเอามากๆ สำหรับเจ้าตัว


โคล - สะเทือนใจ

ไมราเลส - ทำงานหนักที่สุดในทีม เกมรับก็ต้องวิ่งไล่ เกมรุกก็ต้องเป็นตัวเปิดบอล  มีพลาดจังหวะที่ควรจะยิงได้ไปครั้งนึง นอกนั้นก็เล่นได้ค่อนข้างดี


เค้าท์ - วิ่งน้อยกว่าทุกวัน(ซึ่งยังเยอะกว่าเชลวี่ย์หรือลูคัส) จับบอลครึ่งสนามและโยนบอลให้คนดูอีกแล้ว ฟอร์มออกทะเลสุดๆ


ซัวเรส - ครึ่งแรกไม่ได้บอลเลย ครึ่งหลังได้เล่นบ้าง ทำได้ดีทุกอย่างยกเว้นจังหวะยิงประตูที่ดูขาดๆ เกินๆ เก้ๆ กังๆ


สเปียริ่ง - เจ็บก่อนจะได้ทำอะไร


เอนกอก - เล่นเหมือนไม่เคยซ้อมกับเพื่อนร่วมทีม ดูไม่เข้าพวกยิ่งกว่าตอนคาโรลเล่นนัดก่อนอีก


----------------------------------------------------------------

วันอาทิตย์ที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

ลิเวอร์พูล 0 - 2 สเปอร์

ไก่ไม่มีปีก แต่เดือยยังคม

--------------------------------------------------------

ลิเวอร์พูลเล่น 4-4-2


-----------------ซัวเรส------คาโรล-------------------
มักซี่-----------ลูคัส----------สเปียริ่ง-----------เค้าท์
จอห์นสัน----สเคอเทล----คาราเกอร์----ฟลานาแกน
-------------------------เรน่า--------------------------

เกมนัดตัดสินบอลยุโรปที่แอนฟิลด์ ไมราเลสไม่มีชื่อในทีมเพราะอาการบาดเจ็บ ทำให้คาโรลได้ลงเป็นตัวจริงคู่ซัวเรส แผงกองกลางยังเหมือนเดิม ในขณะที่กองหลัง ฟลานาแกนลงเป็นแบคขวาอีกครั้ง โยกจอห์นสันกลับไปเป็นแบคซ้ายเพื่อรับมือกับเลนน่อนโดยเฉพาะ

-------------------------------------------------------

เริ่มเกมมาเป็นสเปอร์ที่เปิดเกมรุกเข้าใส่ทันที โดยเฉพาะกองกลางที่ทำเกมกันได้ดีมากจนเอาชนะแดนกลางลิเวอร์พูลที่วันนี้มี แค่ 4 คนได้เด็ดขาด เป็นฝ่ายครองบอลบุกใส่เป็นระลอกๆ นาที 9 สเปอร์ได้ลูกเตะมุม สเคอเทลโหม่งไม่ขาด บอลมาตกหน้าเขตโทษเข้าทางฟาร์ทได้ยิงโค้งเสียบมุมให้สเปอร์ขึ้นนำเร็ว 1-0

เสียประตูไปแล้วแต่ลิเวอร์พูลก็ตอบโต้อะไรไม่ได้ บอลจากกลางไปไม่ถึงข้างหน้า แดนกลางเป็นรองสเปอร์อย่างเห็นได้ชัด นาที 20 ซัวเรสหงุดหงิดจนเอาเท้าไปเตะกองหลังสเปอร์ ถึงแม้จะเตะเบาๆ ไม่ได้ตั้งใจทำร้าย แต่ต้องนับว่าโชคดีมากที่จังหวะนี้โดนแค่ใบเหลือง

ผ่านครึ่งชั่วโมงแรกไปลิเวอร์พูลปรับแทคติคเล็กน้อย โดยถอยคาโรลลงต่ำแล้วดันซัวเรสไปเป็นหน้าเป้า ได้ผลเล็กน้อย โดยทำให้ลิเวอร์พูลครองเกมได้ดีขึ้นนิดหน่อยแต่บอลยังไปไม่ถึงเขตโทษอยู่ดี จนกระทั่งจบครึ่่งแรกด้วยสกอร์ 1-0

เข้าครึ่งหลังลิเวอร์ พูลยังทำได้ดีต่อเนื่องจากปลายครึ่งแรก โชคเหมือนจะเข้าข้างเมื่อฟาร์ทมีอาการบาดเจ็บจนถูกเปลี่ยนตัวออกโดยมีเดโฟลง มาแทน แต่ยังไม่ทันจะได้กดดันอะไรสเปอร์สักเท่าไหร่ กลายเป็นทางสเปอร์มาได้จุดโทษในนาที 55 จากจังหวะที่พีนาร์ลากบอลหลุดเข้าไปในเขตโทษ โดนฟลานาแกนเบียดจากด้านหลังล้มไป โมดริชยิงจุดโทษไม่พลาดสเปอร์หนีห่างเป็น 2-0

หลังจากนั้นสเปอร์เริ่มถอยต่ำไปตั้งรับ ส่วนลิเวอร์พูลพยายามจะเร่งเกมแต่ฝ่าด่านเกมรับสเปอร์เข้าไปไม่ได้ นาที 64 เชลวี่ย์ลงแทนสเปียริ่ง นาที 75 เอนกอกแทนมักซี่ แต่ยังไม่มีอะไรดีขึ้น สเปอร์เล่นกันได้ดีทั้งทีม โดยเฉพาะมิดฟิลด์ตัวรับอย่างซานโดรที่เล่นได้อย่างยอดเยี่ยม รวมไปถึงดอสันที่สกัดลูกกลางอากาศและลูกครอสจากริมเส้นของลิเวอร์พูลได้แทบ ทุกลูก นาที 88 โคลลงมาแทนคาโรลอีกคนแต่ก็ไม่มีปาฏิหารย์อะไร จบเกมสเปอร์บุกมาชนะลิเวอร์พูลได้ 2-0 คว้าโควต้ายูโรป้าไว้ในมือเรียบร้อยแล้ว โดยนัดสุดท้ายลิเวอร์พูลต้องลุ้นให้สเปอร์ไม่ชนะ ถึงจะมีโอกาสพลิกกลับมาแซงขึ้นที่ 5 ซึ่งดูแล้วโอกาสเป็นไปได้มีไม่มากนัก
------------------------------------------

เริ่มเกมที่เห็นว่าไม่มีไมราเลสอยู่ในทีัมก็รู้สึกเสียวสันหลัง แต่แรกแล้ว เนื่องจากช่วงหลังๆ มาที่ลิเวอร์พูลทำผลงานได้ดีต่อเนื่องเป็นผลมาจากแผงกลาง 5 คนที่ทำงานร่วมกันได้ดี พอวันนี้ไม่มีไมราเลส กลายเป็นขาดตัววิ่งไล่ตรงกลางสนามไป 1 คน ลูคัสกับสเปียริ่งยังถนัดเล่นแต่เกมรับทำให้ครองบอลและเปลี่ยนจังหวะเกมได้ ไม่ดีเท่าตอนมีไมราเลส ในขณะที่สเปอร์เองก็ลงมาเล่นได้ดีกันมากๆ ซะด้วย ทั้งยังมาได้ประตูขึ้นนำเร็วที่ทำให้เกมของลิเวอร์พูลยากขึ้นไปอีก

คงไม่ใช่ความผิดของดัลกลิชซะทีเดียว เพราะนักเตะก็มีให้ใช้อย่างจำกัด เมื่อไมราเลสลงไม่ได้ จะให้ส่งเชลวี่ย์ลงไปแทนก็ใช่ว่าจะรับประกันได้ว่าเล่นได้ดีเหมือนไมราเลส ในเมื่อต้องเสี่ยงเหมือนกันสู้เสี่ยงกับกองหน้าอย่างคาโรลดีกว่า แต่บังเอิญว่าเสี่ยงครั้งนี้เสียหมดหน้าตักเท่านั้นเอง นอกจากนั้น นักเตะสำรองที่จะลงมาเปลี่ยนเกมก็ไม่มีด้วย พอทีมตัวจริงในสนามทำผลงานไม่เข้าเป้าลิเวอร์พูลยังไม่สามารถแก้สถานการณ์ตรงนี้ได้เลย

ฤดูหน้า...ต้องหาเข้าทีมอีกหลายคน
-----------------------------------

ผลงานแต่ละคนทำได้ไม่ดีเท่าไหร่

เรน่า - โดนไป 2 ลูกแบบช่วยอะไรไม่ได้ ทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีแล้ว


ฟลานาแกน - เล่นใช้ได้ทีเดียว การเข้าสกัดหนักหน่วง เติมเกมได้ดีขึ้น ลูกโทษที่เสียไปเป็นเรื่องของประสบการณ์ล้วนๆ คงต้องใช้เวลาเรียนรู้อีกสักพัก


สเคอเทล - เล่นได้ดี ไม่มีข้อผิดพลาดให้เห็น เป็นฟอร์มที่น่าพอใจ


คาราเกอร์ - เล่นได้ดีเช่นกัน ไม่ค่อยสาดยาวมั่วซั่วเท่าไหร่


จอห์นสัน - กลับไปเล่นซ้าย จังหวะเติมเกมรุกยังดูขัดๆ เพราะเปิดเร็วไม่ได้ แต่ปิดเกมรุกริมเส้นของสเปอร์ได้ดี


ลูคัส - เคลื่อนที่น้อยไปสำหรับแทคติคกลาง 4 คน ช่วยเกมได้ไม่มากเ่ท่าที่ควร


สเปียริ่ง - ต้องทำเกือบทุกอย่างในแดนกลาง ทั้งวิ่งไล่ ทั้งเติมเกมรุก ทำได้ดีในระดับน่าประทับใจมากๆ สำหรับดาวรุ่ง แต่มันยังไม่พอสำหรับการเป็นตัวหลักของทีม


มักซี่ - พยายามแล้วแต่ถูกแผงกลางของสเปอร์วิ่งไล่จนเล่นไม่ออกเลย


เค้าท์ - เป็นกองกลางคนเดียวที่ยังพอเล่นได้อยู่ แต่จังหวะสุดท้ายไม่ว่าจะจ่ายหรือยิงทำเสียไปเองแทบทุกครั้ง


คาโรล - ดูยังไม่ค่อยฟิต ปรับตัวเข้ากับทีมยังไม่ได้ แล้วทีมเองก็ยังใช้ประโยชน์จากจุดเด่นของคาโรลไม่ได้เช่นกัน


ซัวเรส - เจอประกบติดจนทำอะไรไม่ได้ตลอดเกม ดูจะมีปัญหาในการควบคุมอารมณ์อยู่ไม่น้อย


เชลวี่ย์ - จ่ายบอลสั้น-ยาวได้ดี แต่ตอนที่ลงมาสเปอร์ลงไปรับแน่นจนไม่เหลือช่องให้วางบอลสวยๆ แล้ว


เอนกอก - หายไปนานจนสนิทเกาะไปเรียบร้อย

โคล - ได้่ลงสนามจริงๆ นะ (อีกครั้ง)

----------------------------------------------------------------

วันจันทร์ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

ฟูแล่ม 2 - 5 ลิเวอร์พูล

กระสุนเหลือเยอะจากต้นฤดูกาล

--------------------------------------------------------

ลิเวอร์พูลเล่น 4-5-1 (อาจจะ 4-4-2 นั่นแหล่ะ แต่บังเอิญว่ายิงได้เร็วเลยปรับเป็น 4-5-1)


------------------------ซัวเรส-------------------------
มักซี่------ลูคัส----ไมราเลส-----สเปียริ่ง------เค้าท์
ฟลานาแกน----สเคอเทล----คาราเกอร์----จอห์นสัน
-------------------------เรน่า--------------------------

เป็นเกมเยืิอนที่ยากอีกหนึ่งนัดเมื่อต้องออกไปเล่นกับทีมที่เก่งในบ้านอย่างฟูแล่ม ตัวผู้เล่นยังคงใช้ชุดเดิมไม่เปลี่ยน แต่มีสลับตำแหน่งกันเล็กน้อย โดยจอห์นสันได้กลับไปเล่นทางขวาที่ถนัด แล้วฟลานาแกนถูกโยกไปอยู่ทางซ้ายแทน

-------------------------------------------------------

เิริ่มเกมกระพริบตาไปได้ไม่กี่ที แค่นาทีแรกของเกม สเปียริ่งจ่ายบอลทะลุให้ซัวเรสหลุดจากกลางสนามเข้าไปถึงเขตโทษก่อนจะแปกลับ เข้ามาแล้วกองหลังฟูแล่มสกัดกันไม่ขาด บอลไปเข้าทางมักซี่ยิงเรียดจากแถวๆ จุดโทษเข้าไปให้ลิเวอร์พูลนำอย่างรวดเร็ว 1-0

ฟูแล่มพยายามเร่งเกมจนลนลาน ยังตั้งเกมของตัวเองไม่ได้ ในขณะที่ลิเวอร์พูลยังวิ่งไล่ตัดบอลบุกเอาๆ จนนาที 7 เป็นจอห์นสันที่หลุดขึ้นไปจนสุดเส้นก่อนจะตักข้ามมาเสาสอง เป็นมักซี่ที่ยิงย้อนมุมแคบเข้าไปเป็น 2-0

ลิเวอร์พูลยังคงเล่นกันได้อย่างมั่นใจ เคลื่อนที่และต่อบอลสั้นกันได้ดี ส่วนฟูแล่มยังตั้งสติกันไม่ได้ นาที 16 เป็นเค้าท์ได้บอลแถวมุมเขตโทษก่อนจะพลิกตัวยิงเร็ว บอลเรียดและไม่แรงเท่าไหร่พุ่งเข้าเสาแรก แต่ชวาเซอร์เสียสมาธิในจังหวะล้มตัวรับบอลทำให้บอลพุ่งเข้าประตูไปเป็น 3-0 อย่างรวดเร็ว

ผ่าน 20 นาทีแรกของเกมไปแล้ว ฟูแล่มถึงเริ่มกลับมาครองบอลได้บ้าง แต่ยังไม่สามารถพาบอลไปถึงเขตโทษได้ ทางด้านลิเวอร์พูลเองยังมีจังหวะเปิดเกมรุกโต้บ้างแต่ยังทำอะไรกันไม่ได้ ทั้งคู่ ก่อนจะจบครึ่งแรกด้วยสกอร์ 3-0

เข้าครึ่งหลัง ฟูแล่มแก้เกมด้วยการส่งซาโมร่าลงมาช่วยในแดนหน้า รวมไปถึงนักเตะฟูแล่มที่วิ่งไล่กันมากขึ้น ทำให้รูปเกมของฟูแล่มดูดีกว่าในครึ่งแรกอย่างเห็นได้ชัด ในขณะที่ลิเวอร์พูลต้องเสีย ไมราเลส ที่มีอาการบาดเจ็บต้นขา ในนาที 46 แล้วส่้งเชลวี่ย์ลงมาแทน โดยให้เชลวี่ย์เล่นทางขวา ถอยเค้าท์มาตรงกลาง

ฟูแล่มวิ่งไล่กันจนทำให้แดนกลางของลิเวอร์พูลเก็บบอลเล่นไม่ได้ ซาโมร่าก็กดดันสเคอเทลได้ดีจนเริ่มออกอาการเป๋ให้เห็นบ้างแล้ว จนกระทั่งนาที 57 ลิเวอร์พูลที่ยืนรับกันต่ำมากไป โดนฟูแล่มจ่ายบอลกันเข้ามาจนถึงเขตโทษก่อนที่จะเป็นเดมเบเล่ที่มีเวลาค่า นข้างมากบรรจงแปเล่นทางเสียบเสาไกลเข้าไปให้ฟูแล่มไล่มาเป็น 3-1

หลังจากนั้นเกมยังเป็นของฟูแล่ม สามารถพับสนามบุกได้อยู่อีกพักใหญ่ แต่ยังยิงเพิ่มไม่ได้ ถึงนาที 70 จากจังหวะไม่น่าจะมีอะไร มักซี่ได้บอลแถวกลางหน้่าเขตโทษระยะค่อนข้างไกลแต่ยิงตูมเดียวเสียบสาม เหลี่ยมเข้าไปดื้อๆ ให้ลิเวอร์พูลทิ้งห่างไปอีก 4-1

เสียอีกประตูฟูแล่มก็เครื่องดับทันที นาที 75 ลิเวอร์พูลตัดบอลกลางสนามได้ เป็นเชลวี่ย์ที่ถูกหุบเข้าไปตรงกลางจ่ายทะลุเข้าเขตโทษให้ซัวเรสดึงหลบชวา เซอร์ยิงเข้าไปง่ายๆ 5-1

นาที 82 โคลได้ลงแทนมักซี่ นาที 86 ฟูแล่มได้ประตูปลอบใจอีกลูกเมื่อซิดเวลยิงไกลเสียบหน้าต่างเข้าไปอย่างสวย งาม ก่อนจบเกมด้วยสกอร์ 5-2
------------------------------------------

ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นเกมที่ยิงกันเยอะขนาดนี้ ต้องขอยกความดีความชอบให้กับแผงกองหลังฟูแล่มที่ยืนกันแบบ "กลุ่มกองหลัง" เพราะยืนกันเป็นกลุ่มๆ แทนที่จะยืนกันเป็นแผงเผื่อดักล้ำหน้า รวมไปถึงความกระหายในเกมของลิเวอร์พูลที่แม้จะนำห่างแล้วแต่ก็ไม่ได้เคาะ ผลาญเวลากันแต่ยังหาจังหวะทำประตูเพิ่ม

ในด้านแทคติค ดัลกลิชยังคงแสดงให้เห็นถึงการไม่คิดอะไรมากต่อไป ด้วยการใช้ผู้เล่นชุดเดิม การเอาจอห์นสันกลับไปเล่นทางขวาก็เป็นเรื่องธรรมดาไม่ได้ถือว่าผิดคาดอะไร แผนการเล่นก็ไม่ได้สลับซับซ้อน เชื่อว่าทุกคนไม่เว้นแม้แต่คู่แข่งก็รู้ว่าลิเวอร์พูลจะเล่นอย่างไร แต่กลายเป็นว่าทีมทำผลงานได้ดีวันดีคืนมันซะอย่างนั้น ไม่รู้ว่าดัลกลิชกล่อมนักเตะยังไงให้เปลี่ยนจากปลาทูแม่กลองที่หน้างอ คอหักตลอดเกมในช่วงครึ่งฤดูกาลแรก กลายเป็นทีมที่เล่นได้อย่างมั่นใจในตอนนี้
-----------------------------------

ผลงานแต่ละคนทำได้ดี

เรน่า - โดนไป 2 ลูกเพราะเพื่อนเสียสมาธิ แถมวันนี้เปิดเกมไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่อย่างอื่นไม่มีอะไรผิดพลาด


ฟลานาแกน - เล่นซ้ายได้ไม่เลว เริ่มมีความมั่นใจมากขึ้น ไม่ค่อยเงอะงะเหมือนนัดแรกๆ


สเคอเทล - ช่วยที่โดนไล่มา 3-1 มีออกอากรเหมือนกัน เป็นกองหลังอ่อนไหวรับความกดดันไม่ค่อยได้สักเท่าไหร่ แต่ตอนไม่กดดันนี่เล่นดีสุดๆ


คาราเกอร์ - ช่วยไว้ได้ในจังหวะสุดท้ายหลายครั้ง ไม่ค่อยสาดบอลทิ้งแล้วด้วย


จอห์นสัน - อยู่ทางขวาแล้วกลับมาเล่้นได้ดีอีกครั้ง วันนี้เห็นจอห์นสันอยู่ใกล้เขตโทษฟูแล่มมากกว่าเขตโทษลิเวอร์พูลซะอีก


ลูคัส - สมาธิไม่ได้อยู่กับเกมตลอดเวลา ปิดพื้นที่หน้าเขตโทษได้ไม่ดีเท่าที่ผ่านมา แต่การเข้าสกัดยังทำได้ดี วันนี้มีทีเด็ดตรงการเปิดบอลแนวลึกได้ดีด้วย


สเปียริ่ง - วิ่งเยอะกว่าปรกติ มีหลายครั้งที่พยายามจะเติมขึ้นเล่นเกมรุกด้วย รู้สึกเหมือนจะมีช่วงที่หมดแรงวิ่งให้เห็นเหมือนกัน


มักซี่ - โผล่มายิงแล้วก็หายไป แต่โผล่มา 3 ทีแบบนี้คงไม่มีใครว่าอะไร


ไมราเลส - เห็นได้ชัดว่าครึ่งแรกที่มีไมราเลสอยู่ แดนกลางของลิเวอร์พูลเอาชนะได้เด็ดขาด พอครึ่งหลังไม่มีไมราเลสแดนกลางดูจะลำบากลำบนอยู่ไม่น้อย


เค้าท์ - ยืนค่อนข้างต่ำและยังทำผลงานได้ดีอยู่ วันนี้จับอลและจ่ายบอลได้ดีกว่าปรกติ


ซัวเรส - ลิเวอร์พูลรอดจากช่วงเวลากดดันตอนต้นครึ่งหลังมาได้จากการเล่นของซัวเรสล้วนๆ มีประโยชน์กับทีมมากกว่าการยิงประตู


เชลวี่ย์ - จ่ายบอลได้ลุ้นตลอด แต่คงต้องให้เวลาอีกสักพักกว่าจะทำผลงานได้สม่ำเสมอกว่านี้

โคล - ได้่ลงสนามจริงๆ นะ

แมน ออฟ เดอะ แมทช์ : มักซี่ โผล่มายิง...พอแล้ว

----------------------------------------------------------------

วันอาทิตย์ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

ลิเวอร์พูล 3 - 0 นิวคาสเซิล

เก่ง - ใน - บ้าน

--------------------------------------------------------

ลิเวอร์พูลเล่น 4-4-2


------------------ซัวเรส------เค้าท์-------------------
มักซี่---------ลูคัส---------สเปียริ่ง---------ไมราเลส
จอห์นสัน----สเคอเทล----คาราเกอร์----ฟลานาแกน
-------------------------เรน่า--------------------------

ลิเวอร์พูลได้เล่นในบ้านติดต่อกันอีก 1 นัด ใช้เค้าท์คู่ซัวเรสข้างหน้า ในขณะที่แผงกองกลางยังเป็นชุดเดิมที่ดูเหมือนลงตัวที่สุดแล้ว ส่วนกองหลัง จอห์นสันได้กลับมายืนในตำแหน่งแบคซ้าย นอกนั้นยังใช้ผู้เล่นชุดเดิม

-------------------------------------------------------

เริ่มเกมลิเวอร์พูลบุกเข้าใส่ทันที ทุกคนช่วยกันวิ่งไล่บอลตั้งแต่ในแดนนิวคาสเซิล จนได้ครองบอลอยู่เกือบตลอด นาที 10 ฟลานาแกนเติมขึ้นมาเปิดบอลเข้าไปในเขตโทษ กองหลังนิวคาสเซิลโหม่งไม่ขาด บอลมาเข้าทางมักซี่วอลเล่ย์ไปแฉลบกองหลังเปลี่ยนทางเข้าประตูไปให้ลิเวอร์พู ลนำเร็ว 1-0

ลิเวอร์พูลยังไม่เพลาเกมรุก แบค 2 ข้าง ทั้งจอห์นสันและฟลานาแกนเติมกันขึ้นมาตลอด ส่วนกองกลางสี่คนวิ่งไล่บอลทำลายเกมกลางสนามของนิวคาสเิซิลได้ตลอด แต่จังหวะสุดท้ายยังจ่ายบอลกันได้ไม่ดีพอ ยังหาโอกาสทำประตูเพิ่มไม่้ได้

พอผ่านครึ่งชั่วโมงของเกมไป นิวคาสเซิลเริ่มตั้งหลักได้ หันไปเน้นเกมทางฝั่งซ้ายของกูตีเรสและทำได้ดีต่อเนื่อง ฟลานาแกนดูมีปัญหาในการรับมือกูตีเรสอย่างเห็นได้ชัด ซ้ำยังโดนใบเหลืองไปด้วย นิวคาสเซิลได้ลุ้นจากลูกตั้งเตะ ทั้งฟรีคิกและเตะมุมอย่างต่อเนื่องแต่ยังโยนได้ไม่แม่นพอ ไม่มีโอกาสลุ้นประตูเลยจนกระทั่งจบครึ่งแรก

เข้าครึ่งหลัง ดัลกลิชปรับแทคติคเล็กน้อยด้วยการสลับฟลานาแกนไปยืนฝั่งซ้าย แล้วเอาจอห์นสันกลับมายืนทางขวา แล้วก็ได้ผลเป็นอย่างดี เกมของกูตีเรสดูแผ่วลงไปกว่าช่วงท้ายครึ่งแรก ยังสู้กันอยู่ตรงกลางสนามเป็นส่วนใหญ่ จนกระทั่งนาที 85 จากการเปิดบอลเร็วของเรน่าในจังหวะโต้กลับ บอลยาวไปจนถึงสุ้นเส้นหลังของนิวคาสเซิล แต่กองหลังนิวคาสเซิลบังบอลไม่ดี โดนซัวเรสวิ่งอ้อมตัดบอลกลับเข้ามาในสนามก่อนจะโดนเบียดจากด้านหลังเป็นจุด โทษ เค้าท์รับหน้าที่ยิงไม่พลาด 2-0

นิวคาสเซิลโหมเกมรุก เต็มที่ แต่ยังพาบอลเข้าไปในพื้นที่สุดท้ายไม่ได้ ถึงนาที 65 ซัวเรสได้บอลหน้าเขตโทษ เปิดแฉลบกองหลังไปเข้าทางเค้าท์ชิ่งเร็วกลับมาให้ซัวเรสแปโล่งๆ เข้าไปเป็น 3-0 พอสกอร์ขาดเกมของนิวคาสเซิลก็ชอตไปทันที

หลังจากนั้น ก็เล่นกันไปตามจังหวะ ลิเวอร์พูลไม่ได้เน้นอะไร ส่วนทางนิวคาสเซิลก็ไม่ค่อยไล่บอลแล้ว นาที 70 คาโรลได้ลงแทนมักซี่ นาที 81 เชลวี่ย์แทนฟลานาแกน และ นาที 87 โคลแทนซัวเรส แต่ทั้งหมดไม่มีผลอะไรกับรูปเกม ก่อนจะจบเกมด้วยชัยชนะของลิเวอร์พูล 3-0
------------------------------------------

ยังคงเก่งในบ้านอยู่ต่อไป ลิเวอร์พูลทำผลงานได้ดีต่อเนื่องในเฉพาะเกมในบ้าน ช่วยกันวิ่งไล่บอลและขยับหาพื้นที่กันได้ดี โดยเฉพาะการเล่นของลูคัสกับสเปียริ่งที่ครองเกมกลางสนามได้ตลอด จนกองหลังแทบไม่ต้องเจอความกดดันอะไรเลย ในขณะที่ในเกมรุก ซัวเรสดูจะปรับจังหวะการเล่นให้เข้ากับเค้าท์และไมราเลสได้น่าพอใจแล้ว

ที่ยังดูน่ากลัวอยู่คือแบค ฟลานาแกนดีในระดับนึงแต่นัดนี้ชัดเจนว่ายังไม่ดีพอที่จะยืนเป็นตัวหลัก นอกจากนั้นคือเรื่องตัวสำรอง ลิเวอร์พูลชุดนี้ตัวจริง 11 คนนับว่าพอไว้ใจได้ แต่นักเตะที่จะเปลี่ยนลงมาเพื่อสร้างความแตกต่างหรือทดแทนผู้เล่นตัวจริงแทบ ไม่มี ยังคงต้องลุ้นให้ไม่มีใครเจ็บเพิ่มในช่วงไม่กี่นัดที่เหลืออยู่นี้ เพื่อคว้าโอกาสไปเล่นบอลยุโรปเอาไว้ไม่ให้หลุดมือไป
-----------------------------------

ผลงานแต่ละคนทำได้ดี

เรน่า - ไม่มีลูกยากให้เซฟ เตะเปิดเกมได้ดี มีส่วนสำคัญในการได้ประตูที่ 2 ด้วย


ฟลานาแกน - ครึ่งแรกเจอกูตีเรสเล่นเอาขาแทบพันกัน แต่ครึ่งหลังถูกโยกไปฝั่งซ้ายทำให้เล่นได้ง่าย นัดนี้เห็นความพยายามขึ้นมาเติมเกมมากขึ้น


สเคอเทล - ประกบกองหน้าได้ดี และมีจังหวะสกัดที่เด็ดขาด แต่จะว่าไปก็ไม่ได้เจอความกดดันอะไรเลยตลอดเกม


คาราเกอร์ - งานยากที่สุดในนัดนี้คือช่วยประคองฟลานาแกนและทำได้ดีทีเดียว


จอห์นสัน - เกมรุกที่เคยทำได้ดีเริ่มมีแนวโน้มว่าจะกลับมาอีกครั้งหลังจากเงียบไปนาน เกมรับแม้จะยังไม่เหนียวแน่นมากนักแต่นับว่าดีที่สุดเท่าที่ลิเวอร์พูลมี อยู่ตอนนี้แ้ล้ว


ลูคัส - นัดนี้สกัดบอลได้เยี่ยมมาก ชนะแทบทุกครั้งที่เข้าปะทะ


สเปียริ่ง - ยังคงวิ่งไล่ได้ตลอดเกม มีการเปิดบอลเชื่อมเกมที่ดูจะพัฒนามากขึ้น แต่ยังไม่เห็นจังหวะเปิดทะลุทะลวงหรือพาบอลขึ้นไปที่ควรจะทำได้บ้าง


มักซี่ - โผล่มายิงแล้วก็หายไป แทบไม่มีส่วนร่วมกับเกมเลย


ไมราเลส - สลับกันกับมักซี่ มีส่วนร่วมกับเกมมากทั้งรุกและรับ แต่ไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องอะไรเลยกับ 3 ประตูที่ได้มา


เค้าท์ - ช่วยเกมรับมากไปนิด ทำให้ซัวเรสค่อนข้างโดดเดี่ยวในแดนหน้า แต่จังหวะที่บอลอยู่กับเท้าวันนี้ทำไ้ด้ดี


ซัวเรส - ปรับตัวได้ดีขึ้น การวิ่งไปคนละทางกับบอลเริ่มมีให้เห็นน้อยลง มีส่วนร่วมกับเกมอยู่ตลอด ยิง 1 และเรียกได้อีก 1 จุดโทษ แต่การหาจังหวะยิงเองยังดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่


คาโรล / เชลวี่ย์ / โคล - ลงมายืดเส้นยืดสายอย่างเดียว


แมน ออฟ เดอะ แมทช์ : ซัวเรส มีส่วนร่วมกับ 2 ใน 3 ประตูของทีม

----------------------------------------------------------------