วันอาทิตย์ที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2560

ลิเวอร์พูล 2-1 เบิร์นลี่ย์ (พรีเมียร์ลีค)



คู่หูบัลลงดอร์!
___________________________

ลิเวอร์พูลเล่นด้วย 4-2-3-1

-------------------โอริกิ-------------------
คูตินโย่---------ลัลลาน่า----------มาเน่
--------ไวนัลดุม-----------ชาน-----------
มิลเนอร์----คลาวาน---มาติป-----ไคลน์
-----------------มินโยเล่------------------

_______ ลิเวอร์พูลเปิดบ้านรับโคตรทีมที่เคยไปแพ้มา 2-0 ตอนต้นฤดูกาลอย่างเบิร์นลี่ย์ นัดนี้ไอ้นั่นก็ลงไม่ได้ ไอ้นี่ก็เจ็บ ไอ้โน่นก็ไม่ฟิต สุดท้ายตัวจริงหน้าตาออกมาเป็นแบบนี้
-------------------------------------------------------

_______ ลิเวอร์พูลเริ่มเกมนี้แบบระวัง ไม่ได้วิ่งใส่วิ่งไล่มากนัก อาศัยวางยาวไปที่ว่างด้านหน้าบ่อยครั้ง เอาบอลถึงหน้าเขตโทษได้บ้างแต่ไม่ต่อเนื่อง ส่วนทางเบิร์นลี่ย์เล่นบอลยาววางให้กองหน้า แล้วก็ทำได้ดีด้วยเมื่อแนวรับลิเวอร์พูลมีปัญหากับลูกโด่ง รวมถึงการคุมพื้นที่แย่มากปล่อยให้เบิร์นลี่ย์ได้เปิดบอลจากด้านข้างง่าย

_______ นาที 7 ก็ได้เรื่อง จากลูกจ่ายเร็วตัดแนวรับ ลิเวอร์พูลกองกลางก็เข้าไปจี้ไม่ทัน กองหลังจะดักล้ำหน้าก็ไม่ใช่ จะไล่ปิดทางเปิดก็ไม่เชิง โดนบาร์นที่อยู่เสาสองสอยซะ 1-0

_______ หลังสกอร์ขยับ ลิเวอร์พูลประคองเกมก็ตัวเองจนได้บอลครองนานขึ้น บอลไปถึงข้างหน้าได้เยอะ แต่จังหวะสุดท้ายติดบล็อคตลอด กลับกันทางฝั่งเบิร์นลี่ย์ไม่ได้ถอยไปรับต่ำแต่ดันหลังสูง บีบกลางแคบ ตัดได้วางยาวให้กองหน้า เล่นแค่นี้แต่สร้างโอกาสกดดันแนวรับลิเวอร์พูลได้เรื่อยๆ

_______ ช่องระหว่างเซ็นเตอร์กับแบ็คทั้งสองฝั่งของลิเวอร์พูลมีปัญหามาก แต่ยังดีว่าไม่โดนเพิ่ม แถมยังมาโชคดีเล็กๆ เมื่อช่วงทดเจ็บโอริกิที่ขยับออกไปรับบอลทางซ้าย เปิดยัดเข้ากลางให้ไวนัลดุม ดุมดีดจังหวะแรกโดนไม่เต็มแต่บอลตกตั้งให้ในระดับ “ยิงชั้นสิจ๊ะ” ดุมซ้ำจ่อๆ ไม่พลาด 1-1 และจบครึ่งแรกที่สกอร์นี้

_______ ครึ่งหลัง เบิร์นลี่ย์กลับลงมารับต่ำมากขึ้น ลิเวอร์พูลเองก็ต่อบอลขึ้นหน้าง่ายขึ้นเช่นกัน เอาบอลไปป้วนเปี้ยนแถวหน้ากรอบเขตโทษได้บ่อยๆ แต่จะเปิดจะยิงก็ผลลัพธ์คล้ายเดิมคือติดบล็อค ลูกเตะมุมที่ได้แล้วได้อีกก็ได้ไปเถอะ ไม่มีประโยชน์

_______ อย่างไรก็ตาม ยิ่งเล่นยิ่งเห็นความต่างจากครึ่งแรก แม้เบิร์นลี่ย์จะใช้บอลยาวโต้มาถึงเขตโทษได้เป็นระยะ แต่ยิ่งเล่นยิ่งโต้ได้น้อยลง แทบบอลสองเกมรุกที่เคยเก็บได้ดีมากในครึ่งแรกเริ่มเก็บไม่ค่อยได้

_______ นาที 60 คล็อปตัดสินใจส่งวู้ดเบิร์นลงมาแทนคูตินโย่ (อ่านไม่ผิดหรอก) และเพียงนาทีถัดมาทีมก็ทำได้...แต่ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับวู้ดเบิร์น โอริกิออกไปรับบอลตรงกลางก่อนแปะให้ชาน ชานลากไปยิงไกลหน้ากรอบ บอลไม่แรงแต่เรียดเสียบเสา 2-1

_______ พอพลิกกลับมานำได้เกมก็เปลี่ยน เบิร์นลี่ย์หันมาเล่นเกมรุกมากขึ้น บอบ์มหนักขึ้น เกมไม่ปะติดปะต่อแต่ได้ลุ้นกว่าที่ผ่านมา ส่วนลิเวอร์พูลแนวรับยังคงมีปัญหาต่อเนื่อง เบียดไหล่ต่อไหล่เสียเปรียบทำให้โหม่งบอลไม่ค่อยขาด ตัวเก็บบอลสองก็ไม่ค่อยจะมี คุมเกมไม่ได้ โต้ไม่น่ากลัว แต่ที่ดีคือจังหวะครองบอลได้แล้วไม่เสียเร็ว ไม่ถอยมารับต่ำเกินไป

_______ นาที 79 ลูคัสได้ลงมาแทนโอริกิ เวลาสิบนาทีท้ายที่เหลือ เบิร์นลี่ย์เปิดโหมดบอลพักเที่ยง บอบ์มยาวมาหน้า-ในเขตโทษแทบทุกจังหวะที่ทำได้ แนวรับลิเวอร์พูลโหม่งได้อยู่แต่ไม่ค่อยขาด ส่วนจังหวะโต้ทำได้ดีขึ้นเมื่อบอลไปถึงเขตโทษได้บ้าง แต่จบไม่เด็ดขาดสักที

_______ เบิร์นลี่ย์ทำได้ดีสุดๆ ในช่วงทดเจ็บนาทีสุดท้าย จังหวะทุ่มไกลแล้วแนวรับโหม่งไม่ขาด(เหมือนเดิม) บอลเด้งไปเสาสองเข้าทางลอว์ตันได้ซ้ำเผาขน โชคดีจังหวะบอลเด้งยิงยาก แถมลูคัส(หรือคลาวานไม่แน่ใจ)ก็บีบได้ดีด้วย บอลเลยโด่งข้ามคานไป ลิเวอร์พูลรอดตายเอาชนะโคตรทีมไปได้ 2-1

-----------------------------------------

_______ ฉายาโรบินฮู้ด ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย

_______ นักเตะลิเวอร์พูลโดยเฉพาะแนวรับ สมาธิไม่ค่อยดี รวมไปถึงการเล่นลูกโหม่งหรือต้องเล่นเกมที่ใช้พละกำลังเบียดปะทะกันหนักๆ ก็ทำไม่ดี นัดนี้เบิร์นลี่ย์เล่นง่ายมาก (หมายถึงวิธีการ) แต่ได้ผลลัพธ์ที่งดงามเกินคาด ถ้าบอลเป็นใจหน่อยน่าจะมีแต้มกลับบ้านไปแล้ว

_______ ทัศนคติของนักเตะเป็นเรื่องต้องปรับปรุง ในเกมใหญ่เราจะเห็นพวกเขาเล่นละเอียดกว่านี้ มาก น้ำหนักบอลจะเนียนกว่านี้ การเบียดปะทะจะเด็ดขาดหนักหน่วงกว่านี้ แต่พอเล่นกับทีมเล็กสิ่งเหล่านี้หายไปหมดเลย

_______ เรื่องนอกจากนี้ก็เรื่องเดิมๆ ตัวสำรอง, คู่หูบัลลงดอร์, ลูกกลางอากาศ, ความเด็ดขาดในเกมรุก  ไม่บ่นแล้ว 555+

-----------------------------------------

นัดนี้เก็บสามแต้มได้ก็บุญล้าวว

มินโยเล่ - เล่นได้ดี ช่วยตัดลูกกลางอากาศได้พอสมควร ไม่ค่อยกล้ารับติดมือแต่ชกได้ไกลกรอบก็โอเคน่า

มิลเนอร์ - มีปัญหากับการปิดทางเปิดบอลเข้ากลาง ครึ่งแรกปล่อยให้เขาเปิดง่ายเกิน ครึ่งหลังบีบได้ดีขึ้นแต่ก็ยังน่าจะทำได้ดีกว่านี้

คลาวาน - ทำได้ดีทุกครั้งกับการดักจังหวะสุดท้ายไม่ว่าจะบล็อคหรือสกัด แต่ทำได้ไม่ดีสักครั้งในจังหวะเบียดโหม่ง คือโหม่งอ่ะโหม่งได้ แต่แรงสู้ไม่ได้เลย เบียดไม่ได้เหลี่ยม โหม่งไม่ขาด

มาติป - ตัวสูงโหม่งถึงบอลจริง แต่โหม่งเหมือนไม่มีแรงพอกันกับคลาวาน

ไคลน์ - เปิดพื้นที่ตัวเองมากไปหน่อย แต่ทำได้ดีเรื่องขึ้นไปช่วยเกม

ไวนัลดุม - หายไป แล้วก็โผล่มายิง แล้วก็หายไป โผล่บ่อยหน่อยช่วงท้ายเกมที่เก็บบอลไว้กับทีมได้ดี

ชาน - เบียดโหม่งไม่เด็ดขาดเท่าไหร่ยังดีว่ายังถึงบอลเป็นส่วนใหญ่ จ่ายบอลน้ำหนักขาดๆ เกินๆ เก็บบอลก็ไม่ได้เป็นสัปปะรด แต่เกมนี้มีทีเด็ดช่วยยิงประตูชัยได้

คูตินโย่ - ทำอะไรไม่ค่อยได้ คือคู่ต่อสู้เข้ามาเบียดถึงตัวเมื่อไหร่จบ หนีไม่ออก แต่สำหรับการช่วยเชื่อมเกมก็ยังดีอยู่

มาเน่ -  กระชากผ่านไม่ได้ ทีเด็ดทีขาดไม่มี แต่หาพื้นที่ดีได้บอลบ่อย กดดันแนวรับและดึงกองหลังได้ดีทีเดียว

ลัลลาน่า -  กล้าปะทะและทำได้ดีกว่าตัวรุกคนอื่นในเรื่องนี้ คือโดนแซะบอลไม่ค่อยหลุด บีบบอลแย่งบอลก็ดี แต่จังหวะเข้าทำไม่เคยมีส่วนร่วมกับทีมเลย

โอริกิ -  หาพื้นที่ไม่ค่อยดี เก็บบอลไม่ค่อยอยู่ มีดีที่ขยันและสมาธิดี ไม่ค่อยฟาล์วไม่ค่อยโดนจับล้ำหน้า ไม่วิ่งทับตำแหน่ง แทบมีส่วนร่วมกับจังหวะได้ประตูทั้งสองครั้งซะอย่างนั้น

ตัวสำรอง

วู้ดเบิร์น - ทำทางไม่ดี แต่ความกล้าเล่นกับการตัดสินใจถือว่าดี

ลูคัส - ลงมาช่วยโหม่งได้ดี ถึงบอลแถมได้น้ำหนัก ท้ายเกมเกือบแอสซิสให้วู้ดเบิร์นยิงได้

แมน ออฟ เดอะ แมทช์ : ...เอ็มเร่ ชาน… วัดที่ฟอร์มล้วนๆ ผมชอบมาเน่หรือลัลลาน่ามากกว่า แต่ชานวันนี้ช่วยเกมรับได้ประมาณนึงโดยเฉพาะลูกโหม่งกับการปะทะ และมีทีเด็ดสำหรับประตูชัย ซึ่งทีเด็ดที่ว่านี่มันเป็นสิ่งที่ทีมขาดอยู่พอดี
------------------------------------------------------------

เครดิตภาพจากเวปทางการ

Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.